จดหมายฉบับสุดท้าย (part 8)
มันช่างเป็นจังหวะที่พอเหมาะอะไรขนาดนี้ พอมีรถฉันก็เริ่มมีน้องในแผนกที่ปั้นขึ้นมาที่ไว้ใจได้ แคทและเมย์เริ่มเป็นมือซ้ายขวาที่ไว้ใจได้และตัวฉันก็ได้รับบทบาทหัวหน้าแผนกที่ชัดเจนแม้จะยังไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเงินเดือนก็ขยับขึ้น ยิ่งในช่วงเดือนพฤษภาคมแม่ฉันก็พานนท์มาอยู่ด้วยอีก ทำให้ฉันยิ่งสปอยล์ตัวเองง่ายขึ้นพองานและเงินเริ่มลงตัว และยังมีรถมาให้ใช้อีก โปรแกรมเที่ยวพักผ่อนจึงเริ่มเกิด..งานบ้านประเภทล้างห้องน้ำถูพื้นบ้าน ล้างขวดนม ล้างชามที่ฉันเคยทำในช่วงเสาร์-อาทิตย์ก็ถูกเปลี่ยนมือเป็นแม่ทำแทน(งานบ้านที่ฉันทำทีไรก็ชักช้าใช้เวลาเนิ่นนานนั่นแหละ) ฉันเริ่มขี้เกียจและกลายเป็นคนขี้เกียจเพราะมีแม่ทำแทนและวางโปรแกรมเที่ยวตั้งแต่นั้นมา ฉันคิดอย่างไรน่ะหรือที่ชวนคุณเที่ยวขนาดนั้น..ฉันยอมรับกับคุณว่าฉันชอบการเดินทางมากเพราะมันเปิดโลกทัศน์ใหม่ ๆ ให้กับเรา และที่สำคัญคือ มันทำให้เราสามคนพ่อ แม่ลูกได้ใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันจริง ๆ เราเดินทางสู่โลกกว้าง เห็นต่างบ้านต่างเมือง เราเดินตลาดนัดตลาดเช้า เรากินกุ้งปูที่คุณแกะให้อย่างสวยงามน่ากินเสมอ คุณเสียสละเรื่องกินให้ลูกและฉันตลอดเวลาโดยแกะให้เราสองคนกินในชิ้นที่สวย ๆ บางครั้งก็ป้อนฉันด้วย ฉันซาบซึ้งมาก ๆ เลยนะที่นึกถึงสองคนแม่ลูกก่อนไม่ว่าจะทะเลาะกันขนาดไหน ไม่เข้าใจในบางเรื่องเพียงใด ก็ไม่สำคัญสำหรับฉันเลยเพราะฉันรู้ว่าอย่างไรเราก็ยังมีกัน คุณยังดูแลฉันกับลูก คุณสม่ำเสมอมาตลอดอะไรก็ไม่เท่าความรักความผูกพันที่เรามีให้กันมานาน คุณเป็นคนขับรถที่ฉันไว้ใจในฝีมือฉันเป็นเนวิเกเตอร์ที่กางแผนที่เล่ม ๆ ดูแล้วบอกทางคุณฉันดีใจนะที่คุณอุตส่าห์ไปโหลดกูเกิ้ลแมบมาให้ฉันใช้ดูในมือถือของคุณแต่ฉันกลับใช้มันไม่เก่งเลยไม่ค่อยได้ใช้ หลายครั้งที่คุณเปิดโทรศัพท์มีแผนที่กูเกิ้ลแล้ววางไว้บนตักตอนขับรถบางครั้งคุณก็ส่งมาให้ฉันดู แต่ฉันใช้มันไม่เป็น ไม่ถนัดฉันก็แอบอายเหมือนกันเลยส่งคืนคุณไปฉันกลัวคุณผิดหวังและเสียใจเหมือนกันแหละที่ฉันไม่ยอมใช้แผนที่ทางโทรศัพท์ของคุณแต่ฉันไม่เคยบอกคุณเลยไม่รู้ว่าคุณจะคิดอะไรไหมแต่ฉันคิดนะ เพราะรู้ว่าคุณอุตส่าห์หามาเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของเรานี่เป็นสิ่งที่คุณทำให้ฉันแอบประทับใจ แต่ไม่เคยบอกคุณเลย..บอกตอนนี้แม้จะสายไปแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้บอกใช่ไหม ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวเมื่อมองย้อนกลับไปถามว่าคุ้มไหมที่เที่ยวขนาดนั้นมันจะคุ้มถ้าเรามองว่าการเดินทางนั้นมีความหมายและสร้างความสุขให้เราเป็นความทรงจำที่ดีของเราสามคน ไม่ว่าฉันจะเป็นหนี้ขนาดไหนมันก็คุ้มแต่หากมันไม่มีความหมาย ไม่มีความสุข ไม่มีคุณค่า มันก็ไม่คุ้ม แต่ฉันยอมรับว่าฉันพาคุณกับลูกเดินทางมากเกินไป สิ่งที่ฉันสัมผัสได้คือลูกมีความสุขมาก ๆ ที่ได้เที่ยวห้องพัก ลูกมีความสุขฉันก็มีความสุขยิ่งเห็นคุณมีความสุขด้วยแล้วไม่ว่าฉันจะเหนื่อยและลำบากขนาดไหนฉันก็ยังหาวิธีให้เราได้เดินทางไปเรื่อย ๆโดยไม่ได้ดูภาระค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริง ในภาระหนี้สินส่วนหนึ่งของฉันยอมรับตามตรงว่ามาจากการท่องเที่ยวด้วยแน่ ๆเอาง่าย ๆ ว่า ถ้าปีนึง เราเดินทางเฉลี่ย 5 ครั้ง/ปี เอาแบบทริปไม่ต้องใหญ่มากแค่สามคนพ่อ แม่ ลูก ค่าใช้จ่ายรวมค่าน้ำมันรถ ที่พัก และอาหาร คิดแบบถูก ๆ ว่าทริปละ 3,000 บาท(แต่อย่าลืมว่าหลายครั้งค่าใช้จ่ายอาจเกินกว่านี้เพราะเป็นทริปใหญ่ หลายวันและเกินกว่า 3 คน) เราเดินทางกันตั้งแต่ปี49-53 คิดเป็นเวลา 5 ปี เดินทางเฉลี่ยปีละ5 ครั้ง คิดเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง/ปี (3,000*5)*5 =75,000 บาท ตลอด 5 ปีที่เราใช้รถ ดังนั้นถ้าให้ฉันประเมินคร่าว ๆฉันจะมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 100,000 บาทแน่ ๆเพราะเรามีทริปใหญ่อย่างน้อยก็ปีละครั้งและนั่นคือสิ่งที่ฉันยินดีจ่ายเพื่อสร้างความสุขให้ครอบครัว (ในเวลานั้น)ดังนั้นขอคุณอย่าลดทอนความหมายของการเดินทางเหล่านั้นลงเลยนะ แม้ฉันจะต้องติดลบก็ตาม คุณคงจำทริปเหล่านี้ได้ ช่วงสงกรานต์ปี50 หลายคืนที่บ้านย่า หัวหิน รีสอร์ทราคาคืนละ 500 บาทที่มีห้องนอนแยกเป็นสัดส่วนลูกเราเล่นกับลูกหมาที่นั่น และทำกระจกตู้วางโทรทัศน์แตกและเราสอนให้ลูกไปรับผิดกับคุณย่าเจ้าของรีสอร์ท คุณย่าก็ไม่ได้ว่าอะไรนั่นเป็นการฝึกให้ลูกรู้ว่า ทำผิดก็ยอมรับผิดแล้วผู้ใหญ่จะให้อภัยและสงกรานต์ที่นั่นเองที่ลูกไปเล่นฟองที่หน้า village market แล้วรองเท้าหายไป 1 ข้างจนคุณตาดีมองเห็นและไปหยิบมาให้ลูก..ฉันยังชมคุณว่าตาดีจริง ๆประมาณว่าใจที่ไม่เสียรองเท้าลูก 55++ ทริปทางไกลทริปแรกเดือนพ.ย.ปี 50 เราไปเขาค้อ-ภูหินร่องกล้ากันระยะทางพันกว่าโลที่เราได้มิตรภาพจากพี่สมบัติและพี่เอกที่สำคัญลูกออมอึแตกตอนเราถึงบ้านพี่สมบัติด้วย อ้อ..เรามีหลงป่ากันเล็กน้อยด้วย ทริปสงกรานต์ปี52 ที่เราไปสุพรรณและอุทัยธานีกันเดินขึ้นวัดเมื่อยขามาก ๆ คุณพาลูกปล่อยเต่าด้วย ทริปท่องทะเลกระบี่ที่เรานั่งสปีดโบทไปเล่นน้ำที่เกาะห้องทำให้เราได้เห็นทะเลสีเขียวมรกตที่สวยงามและลูกให้อาหารปลาที่ว่ายในทะเลกับมือ.. ทริปสงกรานต์ที่เชียงรายเป็นครั้งแรกที่เราขึ้นเขากันยาว ๆ เปิดโลกทัศน์ใหม่จริง ๆเห็นทั้งลำน้ำโขงและวิถีชีวิตคนบนเขา ถ้าไม่มีคุณ ฉันกับลูกก็คงไม่มีวันได้เห็น ทริปที่เรานั่งเครื่องบินกันครั้งแรกไปเชียงใหม่ดูหลินปิงกันฉันตื่นเต้นกับการนั่งเครื่องบินมาก ๆ...และเราก็ชอบแย่งกันนั่งริมหน้าต่างเพราะเราชอบดูวิว ดูเมฆ ดูน้ำ ดูฟ้า ดูผืนดินขณะที่ลูกไม่เคยแย่งเรานั่งริมหน้าต่างเลย.. คุณน่ารักมากยอมให้ฉันนั่งริมหน้าต่างตลอดหลายทริปที่คุณจุ๊บแก้มฉันบนเครื่องบิน..ทำให้ฉันรู้สึกดีมาก ๆ มีความสุขมาก ๆเพราะฉันรู้ว่าคุณเองก็มีความสุขเช่นกัน นั่นแค่เป็นตัวอย่างบางทริปก่อนที่จดหมายนี้จะหวานเลี่ยนจนเกินไปเรากลับมาสู่ความจริงกันต่อดีกว่าหากคุณได้ดูค่าใช้จ่ายที่ฉันทำเป็นงบประมาณส่ง mail ให้คุณก่อนหน้านี้ว่าฉันกับลูกจะต้องอยู่กันอย่างไรหลังจากไม่มีคุณหากคุณพอจำได้ คุณจะเห็นว่า แม้ฉันจะตั้งงบประมาณค่าอาหาร ค่าเรียนลูก ค่าเสื้อผ้าค่าสาธารณูปโภคไว้แบบจำกัดจำเขี่ยขนาดนั้นแล้วก็ตาม มันยังแทบไม่พอเลย เพราะฉะนั้นค่าเที่ยวค่าน้ำมัน ค่ากินอะไรที่พิเศษไม่ว่าจะเป็น MK พิซซ่าค่าเสื้อผ้าดี ๆ ของลูก ค่าเรียนภาษาอังกฤษลูก ค่าผ่อนอิเลคโทน ค่าซ่อมรถค่าเรียนศิลปะลูกเมื่อปีที่แล้ว..นั่นคือฉันเอาเงินของอนาคตมาใช้ทั้งนั้น..นั่นและเป็นที่มาของหนี้สินของทางฉันและของทางคุณด้วย เพราะหากเราทำงบประมาณแต่ละเรื่องกันจริงจังเราจะรู้เลยว่าเรามีกำลังในการใช้จ่าย/เดือนในแต่ละเรื่องมากน้อยขนาดไหนแต่ฉันไม่เคยทำเลย นี่แหละที่ฉันจะยอมรับกับคุณว่า ฉันเป็นแม่บ้านที่ไม่ได้เรื่องไม่ได้วางแผนด้านการเงินเลย แม้คุณจะช่วยมาอีกเดือนละ 6,000 บาท ก็ยังไม่พอเลยไหนเราจะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับแต่ละบัตรอีก
Create Date : 21 ธันวาคม 2556 |
Last Update : 21 ธันวาคม 2556 17:30:11 น. |
|
0 comments
|
Counter : 272 Pageviews. |
|
|