จดหมายฉบับสุดท้าย (part 5)
จนถึงวันคลอดก่อนกำหนดคือ 26 พ.ย.46 ที่ฉันจะยังไปทำงานอยู่เลยเพราะยังไม่ถึงวันลาล่วงหน้า รายละเอียดในวันนั้นตั้งแต่ปวดท้องน้ำเดิน จนน้าตุ่มพาเดินทางไปโรงพยาบาลศิริราชโดยรถแท็กซี่ ระหว่างรอคลอด และคลอดเสร็จยังกระจ่างในความทรงจำเป็นความรู้สึกที่ดีที่น่าตื่นเต้นทั้งสิ้นตัดมาตอนที่คุณมาหาตอนเย็นหลังเลิกงานเลยดีกว่า คำพูดประโยคที่ว่า ขอบคุณคุณมากนะที่คลอดลูกสาวที่น่ารักให้กับผมฉันเคยบอกคุณหรือยัง มันทำให้ฉันปลาบปลื้มและมีความสุขที่สุดความเหนื่อยเพลียจากการคลอดแทบหายไปสิ้น จำได้ว่าฉันถามคุณกลับไปว่า
คุณไปดูลูกมาแล้วหรือ คุณตอบว่า ไปดูมาแล้ว น่ารักมาก ๆหน้าตาดีกว่าเด็กคนอื่น แล้วเรายังคุยกันว่า เหมือนคุณมาก ๆ ความประทับใจอีกอย่างที่ดีไม่มีวันลืม คือการที่เราสองคนช่วยกันบีบน้ำนมจากอกฉันมาไว้ป้อนลูกเพราะหัวนมฉันบอดและลูกดูดนมไม่เก่งจนคุณพยาบาลสงสารมาช่วยปิดม่านและสอนวิธีบีบที่ถูกต้องให้ และเราสองคนก็ขำ ๆในความไม่รู้จักอายที่บีบนมกันแบบไม่ปิดม่าน และยังบีบไม่เป็นกันอีกสุดท้ายฉันก็เป็นคุณแม่มือโปรที่บีบนมครั้งใดก็พุ่งกระฉูด ให้หนูออมได้ดื่มอิ่มอ้วนสบายท้อง ก่อนที่มันจะมีแต่เรื่องดีๆ จนทำให้เราไม่ได้เห็นปัญหา ฉันขอพูดถึงมุมมองและความคิดหลังจากที่รู้ว่าจะได้ลูก เพราะมันส่งผลสำคัญต่อชีวิตเราหลังจากนั้นมาก ว่าที่คุณแม่และคุณพ่อมือใหม่ที่อาจเรียกได้ว่าตกกระไดพลอยโจนได้เตรียมความพร้อมด้วยความหวังและความสุขคนเป็นแม่เริ่มมองหา บ้านของเรา ที่จะเป็นสัดส่วนตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้อง เพื่อให้ลูกน้อยที่กำลังจะเกิดมาได้อยู่ในสภาพแวดล้อมและอากาศที่ดีโปร่งโล่งสบาย เราสองคนจึงตัดสินใจออกหาดูบ้าน แม้เงินเดือนจะยังน้อยนิดแต่เงินเก็บที่พอมี ก็ทำให้สามารถทำสัญญาและช่วยกันผ่อนดาวน์บ้านราคา 1 ล้านได้ ใช้เงินเก็บ 50,000 กว่าบาทที่มี เริ่มจากการที่ฉันตัดสินใจย้ายตำแหน่งงานมาสู่แผนกคัดสรรสิ่งพิมพ์ซึ่งประจำออฟฟิศมากกว่าตำแหน่งเจ้าหน้าที่กิจกรรมพิเศษ เวลาหลังจากนี้ทั้งสองคนดูมีความสุขกันมากโดยเฉพาะคนเป็นแม่ที่เห็นได้ชัดว่าคนเป็นพ่อรักลูกสาวตัวน้อยมากเหลือเกินจากการที่เค้าเอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดเป็นอย่างดีคุณแม่มือใหม่มีความสุขกับครอบครัวที่สุด ในขณะนั้นหน้าที่การงานก็เติบโตขึ้นเป็นลำดับความรับผิดชอบมีมากขึ้นตามรายได้ที่ได้รับมากขึ้น พร้อม ๆกับความเครียดและเวลาที่เคยล้างขวดนม ถูบ้าน ทำงานบ้านล้างห้องน้ำก็เริ่มหายไป ฮีโร่ของเราก็ยังอยู่ตามเคยที่จะคอยช่วยดูแลทุกเรื่องที่กล่าวมา..แต่เธอนั่นเองที่เห็นแต่ไม่เคยกล่าวขอบคุณหรือชื่นชมไม่เคยปรนนิบัติอย่างที่ภรรยาที่ดีควรเป็น..เมล็ดพันธุ์แห่งความดีในตัวเค้าถูกหว่านให้เห็นเมล็ดแล้วเมล็ดเล่าตั้งแต่ลูกเล็กจนโตไม่ว่าจะเป็น การรับ-ส่งเธออย่างสม่ำเสมอ การช่วยดูแลลูกอย่างใกล้ชิดการดูแลบ้านช่องทำความสะอาดและจัดตกแต่งให้น่าอยู่ การหาซื้อของกินมาเผื่อการขับรถพาไปทุกที่ที่เธอต้องการไปการแพ็คเสื้อกันหนาว+สบู่ของรีสอร์ทกลับมาให่ทุกครั้งการยื่นมือมาช่วยถือของโดยที่ไม่ต้องขอร้องเลยสักครั้ง การตัดเล็บ บีบสิวปลุกลูกไปโรงเรียน จ่ายค่าขนมลูกทุกวัน สอนลูกเรื่องการออม ฯลฯ ไม่ว่าเรื่องเล็กน้อยหรือใหญ่ทุกอย่างที่เค้าทำให้เธอเธอรับรู้และรู้สึกดีแต่เพียงในใจทุกครั้งแต่เธอไม่เคยบอก ขอบคุณ โอบกอดจากทางด้านหลัง หรือชื่นชมออดอ้อนออเซาะให้เค้าสุขใจเลย ถ้าหากเธอทำ..เมล็ดพันธุ์แห่งความดีเหล่านั้นก็คงยิ่งเติบใหญ่และเธอกับลูกก็จะเป็นผู้ได้รับร่มเงาจากเมล็ดพันธุ์แห่ง ความรัก ที่เติบใหญ่นั้น ขณะที่ชายหนุ่มดูแลเธอและลูกอย่างที่เล่าไปแล้วแล้วเธอมองเค้าอย่างไร เธอมองเค้าว่าทั้งสองคนเป็นแรงหนุนเป็นกำลังใจอยู่เบื้องหลังเธอ เธอจะออกไปรบกับลูกค้าเธอจะทำทุกอย่างให้ลูกค้าพอใจเพื่อการงานที่เติบโต เมื่อเธอเหลียวหลังมาก็จะเห็นสองพ่อลูกยิ้มรออยู่หรือขับมอเตอร์ไซค์มารับให้เราสามคนได้อยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าเร็วที่สุดแต่เธอไม่เคยแสดงความซาบซึ้งหรือพูดบอก..มีเพียงชายหนุ่มซะอีกที่เอื้อมมือมากุมเวลาขับมอเตอร์ไซค์และคว้ามือเธอไปจุมพิตเวลาที่เค้ามารับเธอเพียงลำพังเธอสัมผัสได้ว่า วันนั้นเป็นวันที่เค้ามีความสุขใจและเธอก็สุขใจแต่เธอก็ไม่รดน้ำให้กับความรู้สึกดี ๆ ของเค้าเลยแต่เค้าจะรู้ไหมว่า..ความรู้สึกในสัมผัสนั้นเธอยังอุ่นและจำได้ดีมาจนถึงบัดนี้หรือแม้แต่กระทั่งการจุมพิตแก้มบนเครื่องบินที่เราดูฟ้า ดูเมฆ ดูพื้นดินพื้นน้ำด้วยกัน.. เธอรู้เสมอว่าเค้ากับลูกจะอยู่ตรงนั้นรอเธอเสมอ และพร้อมจะเข้าใจเธอ แม้จะไม่ทุกเรื่องก็ตาม เพราะสามคน รักกัน ไม่ว่าเธอจะไปเจอลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงานแบบไหนกำลังใจสำคัญอยู่ที่สองคนที่บ้านที่คอยมารับ...แม้คนเป็นพ่อจะหน้าหงิกบ้างที่ถูกทิ้งให้รอรับท่ามกลางความมืดริมถนนแต่เค้าก็ยังมารับ..มาด้วยความเป็นห่วงและน้ำใจ...ฉันขอบคุณป๊ามากนะคะ และขอโทษจริง ๆ ที่ต้องให้รอ..ฉันน่าจะนึกถึงความรู้สึกของคุณได้เร็วกว่านี้ ไม่ใช่ทุกครั้งที่สองคนจะอยู่เบื้องหลังหลายครั้งที่สองคนขยับมาอยู่เบื้องหน้า อยู่ในเฟรมของภาพที่เธอมองผ่านเลนส์และบันทึกภาพความสุขไว้อย่างอบอุ่นใจหลายครั้งที่สองคนเบื่อหน่ายกับความอ้อยอิ่งของผู้เป็นแม่ และรีบเดินหนีจากไปทิ้งให้ผู้เป็นแม่ต้องวิ่งตาม..สองคนขี่หลัง ขี่คอ เดินจูงกันบ้าง กรุยทางข้างหน้ารอแม่เธอมักคิดเสมอว่า ออกเดินไปก่อนเถอะ แต่อย่างไรเราก็จะต้องเจอกันที่สุดทาง..เพราะพวกเขาจะรอเธออยู่ที่นั่น จะริมทะเล บนยอดเขาบนเตียงนอนในห้องพักเวลาที่เราไปเที่ยวกัน หรือที่สุดแล้วก็..ที่บ้านของเรา ห้องของเรา
Create Date : 21 ธันวาคม 2556 |
Last Update : 22 ธันวาคม 2556 0:29:09 น. |
|
0 comments
|
Counter : 265 Pageviews. |
|
|