ขงเบ้ง ถังกว๋อเฉียง VS ขงเบ้ง ลู่อี้









诸葛亮 / 老版唐國強 VS 新版陆毅


Photobucket



แตะที่วีดิโอ แล้วกดปุ่ม stop หากต้องการหยุดการเล่นเพลง auto


มีนักแสดงบท "ขงเบ้ง" อยู่หลายคนด้วยกัน หลาย version ด้วยกัน ทั้งละคร และ ภาพยนตร์

ซึ่งบทบาทตามวรรณกรรม ต้นฉบับของท่านหลอกวานจง 240 บท และการที่ถูกนำมาจัดแต่งใหม่ เหลือเพียง 120 บท ทำให้ "ขงเบ้ง"เป็นตัวละครหลักสำคัญคนหนึ่ง ที่มีชีวิตชีวา มีเสน่ห์ และ เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความท้าทาย และการก้าวเข้ามาสู่การต่อสู้เพื่อหวังจะช่วยฟื้นฟูราชวงศ์กับระบบการปกครองที่แตกสลาย

แต่ตัวเองกลับต้องมาสู่วิถีของการเป็นไปตามวัฏจักรที่เขาไม่สามารถฝืนไปได้ เพราะไม่ใช่เวลาของเขา และเผชิญกับเส้นทางวิบากแห่งการต่อสู้ ที่เหมือนเขาต้องกลับไปตั้งต้นใหม่ กับการต่อสู้เกือบจะทุกครั้ง โดยเขาเองก็รู้อยู่ในใจว่ากำลังต่อสู้กับชะตากรรมครั้งใหญ่

แต่บุรษผู้นี้ก็พยายามใช้ความสามารถและความรู้ของตัวเองอย่างเต็มกำลังทั้งชีวิตที่เหลือ เพื่อต่อสู้ แม้จะไปไม่ถึงฝั่งก็ตาม

MV นี้ มี Zhuge Liang 4 version
หลีฝ่าเฉิง เป็น Zhuge Liang version ละคร ปี 1986
ถังกว๋อเฉียง เป็น Zhuge Liang version ละครปี 1994
เทเคชิ เป็น Zhuge Liang version ภาพยนตร์ ปี 2007
ลู่อี้ เป็น Zhuge Liang vesrion ละคร remake ปี 2010

upload ใหม่ เต็ม 4.59 นาที



เราจะขอพูดถึง version ของ 2 คน นี้ :-

ขงเบ้ง เวอร์ชั่น 1994 แสดงโดย ถังกว๋อเฉียง
ขงเบ้ง เวอร์ชั่น 2010 แสดง โดย ลู่อี้


:Romance of Three Kingdoms - TV SERIE China1994 :


"ถังกว๋อเฉียง"

Photobucket


ถังกว๋อเฉียง เดิมทีจะ cast บทเป็นจิวยี่ แต่พอผู้กำกับ หวังฟู่หลิน เห็นท่าทางแล้ว ก็อยากให้รับบท ขงเบ้ง แทน ซึ่งในตอนนั้น มีคนมาcast บทขงเบ้งกันมากมาย แต่ก็ไม่ถูกใจผู้กำกับ

ในตอนนั้นเองไม่ใช่ว่า ถังกว๋อเฉียงจะได้เล่นบทขงเบ้งเลย เพราะตัวละครขงเบ้ง อายุห่างจากเล่าปี่ 20 กว่าปี แต่ถังกว๋อเฉียงก็ดูมีอายุแล้วตอนนั้นถังกว๋อเฉียงอายุ 38 ปี ซึ่งผู้กำกับจึงยังต้องตัดสินใจอยู่ และก็เลือกเฟ้นนักแสดงต่อ และก็ยังหาไม่ได้ จนมีที่มาของประโยค ที่ว่า
"ทั่วทั้งแผ่นดินจีน ไม่มีใครเล่นบท "ขงเบ้ง" ได้หรือ ?

และในที่สุดผู้กำกับหวังฟู่หลินก็ตัดสินใจเลือก ถังกว๋อเฉียง โดยให้ถ่ายทำในตอนกลาง ถึง ตอนท้าย
โดยตอน ช่วงตอนต้น ของ ขงเบ้ง อายุ 27 ปี จะหานักแสดงอีกคน
แต่เมื่อถึงเวลานั้น เมื่อ ถังกว๋อเฉียง ถ่ายบท ขงเบ้งในตอนกลาง และตอนท้ายจบแล้ว ผู้กำกับหวังฟู่หลิน ก็ยังหาคนที่มาแสดง ขงเบ้ง ตอนช่วงอายุ 27 ปีไม่ได้ เขาก็เลยตัดสินใจ ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว ถังกว่อเฉียง ก็แสดงได้ยอดเยี่ยมถูกใจผู้กำกับเหลือเกิน

จนคิดว่า บท ขงเบ้ง นี้ ถังกว๋อเฉียง คงอ่านจนทะลุปรุโปร่ง รู้อะไร เป็นอะไรแล้ว อย่ากระนั้นเลย ก็ให้ถังกว๋อเฉี่ยง นี่แหละ มาแสดง ขงเบ้ง ในตอนต้น ช่วงอายุ 27 ปี (ซึ่งคราวนี้ ทั้งผู้กำกับและนักแสดง ก็ โจ๊กกันไปใหญ๋ ยังฮากันในกองถ่าย ทั้งผู้กำกับกับถังกว๋อเฉียงเอง เพราะเฮียถัง ยิ่งดูมีอายุมากกว่าตอนแรก ที่ให้มารับบทขงเบ้งเสียอีก รู้งี้ผู้กำกับน่าจะให้ถ่ายตั้งแต่ต้นๆเลย ^_^ เพราะตอนกลาง ช่วงฮันต๋ง ถังกว๋อเฉียงยังดูหนุ่มๆอยู่เหมือนกัน)

ก็น่าเสียดาย แต่ถึงแม้ช่วงอายุ จะไม่สัมพันธ์และกลมกลืน แต่การแสดงของถังกว๋อเฉียง ก็สามารถตรึงใจให้รู้สึก พอจะมองเรื่องนี้ เป็นเรื่องรองไป

เขาเองก็ถูกผ่านการกดดันจากผู้ชมและสื่อในยุคนั้นว่า เขาสามารถมารับบท ขงเบ้ง ได้หรือ ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาและเขาห่างการแสดงมาหลายปี และมาตรฐานการเลือกนักแสดงหลักในยุคนั้น ก็เคี่ยวเข็ญนักแสดง ให้มีคุณสมบัติและทักษะ เหมาะกับ บทบาทของตัวละครหลักๆ จนกระทั่งผู้กำกับตัดสินใจเลือก ถังกว๋อเฉียง มารับบทขงเบ้ง ในที่สุด ซึ่งเป็น ละคร ซีรีย์ของจีน ด้วยความยาวเป็น 84 ตอน

Photobucket


โดยเขาได้เข้าเรียนโรงเรียนสอนการแสดงเพื่อแสดงบทขงเบ้งโดยเฉพาะ เฮียถังบอกว่า ขงเบ้งเป็นตัวละครที่เขาชอบที่สุด เขาก็เลยเป็นนักแสดงคนหนึ่งที่ทุ่มเท ทั้งกาย ทั้งใจ เพื่อสื่อออกมาถึงจิตวิญญาณของตัวละคร ขงเบ้ง นี้ ทั้งการฝึกทักษะ และการเดินทางไปตามที่ต่างๆที่ขงเบ้งเคยไปทำศึก เพื่อการเรียนรู้

Photobucket


Photobucket


ซึ่งถังกว๋อเฉียง ในบทขงเบ้ง ถึงแม้ใน ช่วงวัย 27 ปี ตอนพบเล่าปี่นั้น จะดูมีอายุที่มากกว่า แต่บทบาทการแสดงนั้น ก็นำเสนอให้เห็นเป็นประจักษ์ถึง บทบาทของ ขงเบ้ง ในแบบฉบับวรรณกรรม ได้อย่าง ถ่องแท้ และลึกซึ้งไปกับอารมณ์ของตัวละคร ความรู้สึก และแสดงออก ถึงความกังวลในใจ การอยู่ระหว่างความก่ำกึ่งต่อความผิดชอบชั่วดี และความมุ่งมั่น จิตใจที่เข้มแข้ง พร้อมต่อสู้ และเป็นนักแสดงที่ perfect มากในช่วงที่มีอายุ

Photobucket


Photobucket

และจะสามารถสังเกตเห็นบุคคลิกภาพที่เวอร์ชั่น 1994 ตั้งใจนำเสนอภาพด้านหลังของขงเบ้ง ในหลายๆฉาก เวลายืนแล้วเป็นคนที่มีลำตัวตรง เหมือนดั่งต้นสน (ซึ่งเป็นสิ่งที่มักเปรียบให้เห็นเป็นลักษณะของปราญช์ในโบราณยุค)


Photobucket


เฮียถังแสดงตั้งแต่หนุ่ม ไปจนถึง แก่ ซึ่งเขาได้ให้น้ำหนักกับตัวละครนี้ จนทำให้เราอินไปกับการแสดงของเขา

เพราะ ขงเบ้ง เปรียบตน เหมือน 管仲ขวันต๋ง (ก่วนจ้ง) และ 乐毅งักเย่ (เล่ออี้)
ก่วนจ้ง คืออัครเสนาบดีแห่งแคว้นฉี ผู้ช่วยหนุนฉีหวนกง เป็นเจ้าแคว้นใหญ่ ส่วน เล่ออี้ คือ แม่ทัพของแคว้นเยี่ยนในช่วงต่อมา

ชีซีบอกหากเล่าปี่ได้ขงเบ้งมาช่วยก็เปรียบเหมือน 周得吕望 汉得张良(ซึ่งก็หมายถึงเจียงจื่อหยากับเตียวเหลียง)
แถมอาจารย์สุมาเต็กโช ยังกล่าวอีกเช่นกัน เป็นการการันตีอีกครั้ง "ขงเบ้งเป็นได้มากกว่า(ขวันต๋งและงักเย่) นี้อีก ถึงขั้นเทียบ เจียงจื่อหยาผู้วางรากฐานให้ราชวงศ์โจว กับ เตียวเหลียง ผู้วางรากฐานให้ราชวงศ์ฮั่นได้เลย" ฉะนั้น เขาถึงมีคุณลักษณะของผู้เป็นที่ปรึกษา การราชการ แผ่นดิน และ สามารถผลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน

และทุ่มเทแรงกายแรงใจ ภายใต้ สโลแกนของ ขงเบ้ง " 鞠躬尽瘁,死而后已"ทำงานด้วยความสุขุมคัมภีร์ภาพ แลสุดจิตสุดใจ จนกว่าชีวิตจะหาไม่"

ซึ่งสำหรับเราแล้วถือว่าขงเบ้งโดยถังกว๋อเฉียงเป็น version ที่สื่อถึงอารมณ์ของตัวละครตามวรรณกรรมได้ใกล้เคียงที่สุดและยอดเยี่ยมในความรู้สึกของบทละคร Drama ในเชิงลึก ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ กับศิลปะการแสดงที่นักแสดงทุ่มเทและสื่อออกมาได้อย่างนี้


Photobucket


โดยส่วนตัวเราถือว่าเป็น version ที่ classic ที่สุด ด้วยภาพและบรรยากาศ ที่ดูโบราณ จริงๆ กับอารมณ์การแสดงของนักแสดงที่จะออกแนวอุปรากรจีน ผสมอยู่ ตามวรรณกรรม เพลงประกอบละคร และ costume ที่บ้างครั้งเรียบๆ แต่ดูดี มีเสน่ห์ และเข้ากับตัวละคร ทั้ง ทรงผม และหนวด งามๆ ของแต่ละตัวละคร ที่เราประทับใจเป็นพิเศษ

:Romance of Three Kingdoms - TV SERIE Remake - China version 2010 :



"ลู่อี้ (Lu Yi)"

ขงเบ้ง โดย ลู่อี้ กับ ฉบับ สามก๊ก vesrion Remake ของจีน ที่จะนำเสนอเป็นละคร ซีรีย์ ยาว 95 ตอน

ลู่อี้ มีบุคคลิกภาพบุ๋นที่ใช้ได้ดีทีเดียว
และลู่อี้มีช่วงอายุ ที่ดูเหมาะสม ในช่วงต้น แต่ช่วงท้าย ตอนมีอายุ นั้นยังกลับดูไม่กลมกลืนเท่าที่ควร แต่ก็สามารถมองเป็นเรื่องรองไป เพราะลู่อี้เองก็มีความตั้งใจในการแสดง

ในส่วนของการแสดงในบท DRAMAก็เข้ากับบทบาทที่ผู้กำกับวางไว้ เพียงแต่ Drama ในบ้างบท นั้นทำให้ขงเบ้ง ของลู่อี้ กลับดูอ่อนแอ และไม่สามารถคุมสถานการณ์ ในบ้างบท ทำให้ความเชื่อมโยงในตัวละครนั้น ขาดความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยง ถึงตัวละครเอง

หากจะบอกว่า ขงเบ้งของลู่อี้ ต้องการนำเสนอ ความเป็นมนุษย์ธรรมดามากขึ้น กว่าการเป็นขงเบ้ง ที่เก่งกาจ ดังเทพ ก็คงจะไม่ใช่ เพราะ "ขงเบ้ง" ในเวอร์ชั่น 2010 นั้นก็ยังมีทั้งฉาก ยืมเกาทัณฑ์ ฉากเรียกลม ดังนั้น จึงปฎิเสธไม่ได้ว่า ยังยืนอยู่บนพื้นฐานนี้อยู่ เพราะขงเบ้งเปรียบตน เหมือน ขวันต๋ง และ งักเย่

เพียงแต่การให้จังหวะ และบทละครนั้น ไม่สอดคล้องกับ ทัศนคติของตัวละคร เอง เหมือนถูก contrast ด้วยทัศนคติของผู้กำกับ

ซึ่งการที่ลู่อี้ให้ส่วนที่เป็น tragic figure ของขงเบ้งที่มากเกินไป จนทำให้แรงผลักดันในตัวละครดูลดน้อย ถอยพลังลงไป

แต่ส่วนที่ลู่อี้ ยังคงสามารถ สื่อ "鞠躬尽瘁,死而后已" ทำงานด้วยความสุขุมคัมภีร์ภาพแลสุดจิตสุดใจ จนกว่าชีวิตจะหาไม่"

ของขงเบ้ง ออกมาได้ดีเช่นกัน เพียงแต่กระบวนการนี้ ยังดูขาดพลังในการผลักดัน และยังไม่ลึกซึ้งเท่ากับ ถังกว๋อเฉียง



Photobucket


Photobucket


Photobucket



Photobucket



Photobucket


ข้อเปรียบเทียบ :
หากมีคำถามว่าขงเบ้ง ที่แสดงโดยลู่อี้ นั้นดีกว่า ขงเบ้ง ถังกว๋อเฉียงหรือไม่

ก็คงต้องทำความเข้าใจ กับ "ขงเบ้ง" ในทัศนคติ อุดมการณ์ ความคิดของขงเบ้ง และจากการเขียนตำรา ชมรมขุนพล , ฎีกาออกศึก ,และบทความในประวัติศาสตร์สามก๊ก บทชีวประวัติขงเบ้ง ก็สามารถที่จะสะท้อนให้เราได้เข้าใจถึง ความนึกคิดของขงเบ้ง จากงานเขียนหรือผลงานของเขา

หากว่า ทั้งวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ ที่ข้อที่เหมือนกันคือความเป็นนักปกครอง นักคิด ประดิษฐ์ พัฒนา และนักการทหารที่เข้มแข็งและเข้มงวด ส่วนความคิดนั้น ก็ไม่ได้ยึดติดว่าต้องเป็นเต๋า หรือหยู แต่สามารถดัดแปลงใช้ตามสถานการณ์


ขออนุญาติ ลงบทความของคุณ eagle1000 (pantip) เกี่ยวกับข้อมูล
เพิ่มเติม ในส่วนของตำราของขงเบ้ง

จึงขอเอามาเขียนเป็นบทความวิเคราะห์สั้นซะหน่อย เพื่อช่วยให้แนวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดูเป็นกลางมากขึ้น
...................................

ในจ๊กก๊กหลังจากขงเบ้งขึ้นเป็นมหาอุปราชนั้น ด้านจัดการกองทัพ เขายึดวิธีการฝึกฝนทหารโดยการใช้ค่ายกลที่ตนคิดค้นและปรับปรุงดัดแปลงจากค่ายกลแบบโบราณมาเข้าช่วย ดังนั้นกองทหารของจ๊กก๊กในช่วงที่ขงเบ้งเป็นผู้ฝึกฝนนี้จึงมีความเจนจัดในการศึกและสามารถที่จะสู้กับทหารของวุยที่มีจำนวนมากกว่าได้ ขงเบ้งเองยังได้แต่งและรวบรวมพิชัยสงครามขึ้นมาเพื่อใช้ในการศึกโดยเฉพาะ รวมได้ทั้งหมด 24 บท ซึ่งภายหลังได้ส่งมอบให้เกียงอุยรับไป

เกี่ยวกับพิชัยยุทธ์ขงเบ้งนี้ เคยมีการวิเคราะห์และวิจารณ์ว่าอาจจะไม่ใช่ผลงานโดยตรงของขงเบ้ง แต่เป็นสิ่งที่คนรุ่นหลังหรือผู้นิยมในขงเบ้งเป็นผู้เรียบเรียงและยกย่องให้ขงเบ้งเป็นผู้แต่ง ตรงจุดนี้ผู้เขียนเคยลองศึกษาค้นคว้าดูในระดับหนึ่ง พบว่าพิชัยยุทธ์ของขงเบ้งโดยเฉพาะในส่วนของค่ายกลและหลักการฝึกทหารนั้นน่าจะเป็นของจริง อาจจะไม่ถึงกับทั้งหมด เพราะมีการนำเอาพิชัยยุทธ์โบราณมาปรับปรุงดัดแปลงเพิ่มเติม แต่ก็นับว่าเป็นผลงานชื่อดังของขงเบ้งเช่นกัน

เกี่ยวกับข้อมูลและอ้างอิงในส่วนนี้ที่พอจะใช้ได้ก็มาจากคำกล่าวและข้อความในบันทึกพิชัยสงครามหลี่จิ้ง อันเป็นพิชัยสงครามชื่อดังฉบับหนึ่งในสมัยถัง อันเกิดหลังสามก๊กไปหลายร้อยปี หลี่จิ้งนั้นเป็นแม่ทัพในสมัยถังที่ได้รับการยกย่องว่าไร้พ่าย โดยพิชัยยุทธ์เล่มนี้เกิดจากการบันทึกเอาบทสนทนาโต้ตอบระหว่างเขาและหลี่ซื่อหมินหรือฮ่องเต้ถังไท่จงนั่นเอง ตัวถังไท่จงนั้นก็เป็นฮ่องเต้ที่ปรีชาในด้านการศึกอย่างมาก รบชนะศึกมานับไม่ถ้วน โดยในพิชัยยุทธ์ฉบับนี้แบ่งเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือบันทึกกการสนทนาการศึกหลังจากที่ถังไท่จงรวมประเทศได้ใหม่ๆ ส่วนที่สองคือช่วงหลังจากที่หลี่จิ้งเป็นแม่ทัพใหญ่และนำกองทัพถังบุกไปเอาชนะชนเผ่าถูเจี๋ยที่นอกด่านได้ อันเป็นแม่ทัพเพียงไม่กี่คนของจีนที่ทำได้แบบนั้นในประวัติศาสตร์

ในพิชัยสงครามหลี่จิ้งซึ่งเป็นการถาม-ตอบระหว่างตัวเขาและถังไท่จงฮ่องเต้นั้น ถังไท่จงมักเป็นผู้ถามถึงหลักการพิชิตศึกและการปฏิบัติของขุนพลและการใช้ทหารเป็นส่วนมาก รวมถึงข้อซักถามถึงการใช้กลยุทธ์ในการศึกต่างๆ และมักจะอ้างถึงเรื่องราวในสามก๊กมาใช้ โดยในคำอธิบายของหลี่จิ้งต่อถังไท่จงนั้น หลายครั้งจะพูดถึงหลักการฝึกทหารและค่ายกลแปดทิศอันเป็นสิ่งที่เขาได้ศึกษามาจากพิชัยสงครามขงเบ้ง ซึ่งเขาได้นำมาปรับปรุงและดัดแปลงให้เข้ากับสภาวะในตอนนั้นอีกที นอกจากนี้ยังมีการตีแผ่ถึงเนื้อความและแนวคิดในตำราเมิ่งเต๋อเซินซูของโจโฉอีกด้วย อันเป็นการแสดงว่าตำราพิชัยสงครามของโจโฉที่ว่ากันว่าถูกเผาไปหมดนั้น แท้จริงยังมีฉบับคัดลอกตกทอดมาอยู่

ในความเห็นของหลี่จิ้งแม่ทัพไร้พ่ายนั้น พิชัยยุทธ์ของขงเบ้งเน้นที่การฝึกฝน วินัยทหารและการใช้ค่ายกลเป็นหลักใหญ่ หากว่าพิชัยยุทธ์ขงเบ้งเป็นของจริง แสดงว่าตัวขงเบ้งเป็นคนที่ยึดถือในเรื่องระเบียบวินัยสูงมาก และในเรื่องการฝึกทหารนั้น หลี่จิ้งยังเคยกล่าวไว้ในตำรานี้ว่า เขายึดหลักการฝึกทหารและค่ายกลมาจากตำราขงเบ้งเป็นส่วนมาก ส่วนตำราของโจโฉนั้น เมื่อศึกษาอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วพบว่ามีจุดบอดหลายจุด แต่นั่นไม่ใช่เพราะว่าตัวตำราหรือโจโฉผู้เขียนนั้นสู้ขงเบ้งไม่ได้ แต่เพราะในตำราของโจโฉซึ่งเน้นการตีความพิชัยยุทธ์ซุนหวู่นั้นมีลักษณะการเขียนในแนวทางที่หลอกคนอ่านซะมาก เรียกว่าถ้าศึกษาพิชัยยุทธ์โจโฉแบบผิวเผินละก็ เตรียมตัวแพ้ในสงครามได้เลย

จากการวิเคราะห์ ในเมื่อหลี่จิ้ง ขุนพลรุ่นหลังของราชวงศ์ถังที่เก่งกาจไร้พ่าย ยังใช้พิชัยยุทธ์ขงเบ้งเป็นแบบแผนหลักในการฝึกฝนทหารและสามารถใช้อธิบายหลักการศึกให้ถังไท่จงฟังจนยอมรับได้แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงพอพูดได้ว่าพิชัยยุทธ์ของขงเบ้งเป็นของจริง

บทความนี้เป็นของeagle1000


พอจะได้ข้อสรุป ว่า ขงเบ้งน่าจะเป็นคนที่มีความคิด พัฒนาการมาก และไม่หยุดนิ่ง เป็นคนขยัน ทำงานตลอด เรียกว่า active เป็นนักปกครองชั้นยอด ความคิดและจัดสรรด้านบุคคลกรทางการทหาร นั้นไม่ได้ด้อยเลย และจัดว่าเขาเป็นคนที่มีความเคร่งครัด ในระเบียบวินัย และบุคคลิกภาพ ของเขาควรจะเป็นอย่างไร

บทละครใน เวอร์ชั่น 1994 กับ 2010 นั้น ต่างกัน ในการนำเสนอ ทัศนคติของขงเบ้ง เพราะในเวอร์ชั่น 1994 นั้นนำเสนอทัศนคติ อุปนิสัย อุดมการณ์ ของขงเบ้งจากวรรณกรรม

แต่ในเวอร์ชั่น 2010 นั้น มีทัศนคติของผู้กำกับ กับบทดัดแปลงผสมอยุ่ด้วย ดังนั้นจึงทำให้ มีความแตกต่างที่ไม่เหมือนกัน ในการสื่อและการแสดง ซึ่งต้องถือว่าลู่อี้มีบุคคิลลภาพบุ่นที่ดีมาก หน้าตาหล่อเหลา ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบที่ดี การแสดงของลู่อี้ก็ถือว่าแสดงได้ดีเข้ากับบทบาท ของผู้กำกับ

บทบาท "ขงเบ้ง" ของถังกว๋อเฉียง
สามารถสะท้อน บุคคลิกภาพ ความเป็นบัณฑิตชาวนา และความรู้ ของบัณฑิตที่จบจากสำนัก สุมาเต็กโช ด้วยความที่มีบุคคลิก อิสระ และหยิ่งในค่าของตัวเอง เป็นเต๋าแบบอิสระ ผสานกับแนวอื่นๆทั้งหยู ฝ่า ในความคิด ตอนเป็นชาวนาก็เป็นเพียงคนธรรมดา หากแต่ไปกังตั๋งเพื่อพบซุนกวน ทั้งการแต่งกายในฉากสงครามลิ้น สามารถสะท้อนขงเบ้ง ในอีกแบบหนึ่งได้ ซึ่งส่วนนี้มีส่วนความเชื่อมโยง ของการคิด พลิกแพลง ของ ขงเบ้ง ได้เป็นอย่างดี

ขงเบ้ง ได้เรียนรู้ ศาสตร์ต่างๆ รวมถึงการดูดวงดาวด้วยนั้น ก็เหมือนกับที่เขาได้พูดเรื่อง มรรควิธีแห่งแม่ทัพ
การเปรียบเปรย ว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถ ผลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินได้นั้น อย่างที่อาจารย์สุมาเต็กโชได้กล่าวไว้ ทำให้การสื่อถึงความสามารถและแรงผลักดันมากมายในตัวขงเบ้ง ถูกสื่อออกมา ด้วยความสอดคล้องทางบุคคลิกภาพ การแสดง ความคิดของ ขงเบ้ง ฉบับ ถังกว๋อเฉียง ได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งไม่ใช่การสื่อออกเพียงแค่ว่าเก่งกาจ ดังเทพ หากแต่สิ่งเหล่านั้นถูกหล่อหลอมด้วยการเรียนรู้ จนเข้าถึงบุคคลิกภาพ และมีการแสดงที่มีความธรรมชาติในตัว ในการให้จังหวะ กับความรู้สึก

บทบาท "ขงเบ้ง" ของ ลู่อี้
สะท้อน ใน บุคคลิกภาพ ของบัณฑิตมหาลัยมากกว่า และดูขาดบุคคลิกภาพแบบเต๋า ที่มีความอิสระ ของ สำนัก สุมาเต็กโช ซึ่งส่วนนี้ก็ยังคงถือว่า เป็นรูปแบบของนำเสนอ ที่สามารถทำได้

หากแต่ความไม่สอดคล้องในบุคคลิกภาพ ของตัวละคร ขงเบ้ง ที่ลู่อี้ สื่อออกมา ในบ้างบท นั้นคือความขัดแย้งในทัศนคติและความสามารถ ที่ควรจะเป็น ของตัวละครเอง ซึ่งถือเป็นคนละส่วนที่ว่า ต้องการสื่อออกถึงความเป็นธรรมชาติ หรือว่าเป็นคนธรรมดามีเลือดมีเนื้อ เช่นการร้องไห้ หรือมีสีหน้าเศร้าและดูทุกข์ จนดูเหมือนเป็นเรื่องหลัก แลทำให้ดูท้อนั้น จนเหมือนบ้างฉากจะคุมสถานการ์ณไม่ได้นั้น ทำให้พลังการต่อสู้ในตัวละคร นั้น ลดน้อยไปอย่างสิ้นเชิง

ทำให้คิดว่า เวอร์ชั่น 1994 หน้าที่ร้องไห้ เป็นของเล่าปี่
แต่เวอร์ชั่น 2010 หน้าที่ร้องไห้ เป็นของ ขงเบ้ง แทน

ส่วนสำคัญของตัวละคร หรือ Main Target
หน้าที่ของขงเบ้ง การก้าวเข้ามาสู่ การต่อสู้ทางการเมือง วงราชการนั้นเต็มไปด้วยเสือ สิงห์ กระทิง ดุจแดนพยัคฆ์ หากขงเบ้งมีแรงผลักดันไม่เพียงพอ ไม่เข้มแข็ง ไร้กลยุทธ และไร้แผนการ จะรับมือ ได้อย่างไร ก่อนเล่าปี่จะได้มาพบกับขงเบ้ง ฝ่ายอื่นๆ ทั้งโจโฉ อ้วนเสี้ยว ต่างก็มีกุนซือให้คำแนะนำ แล้วความคิดของกุนซือเหล่านั้น โดยเฉพาะทางฝั่งโจโฉ แต่ละคนก็เก่งๆ และร้ายกาจ ทั้งนั้น

บุคคลิกของขงเบ้ง ที่ต้องออกมาช่วยเล่าปี่รับมือนั้น ก็ต้องแสดงให้สมกับที่เล่าปี่ ตามไปเฝ้าถึง 3 ฤดู กว่าจะได้ตัวขงเบ้งมา และยิ่งมาพบ สุมาอี้คู่ปรับที่มีความสามารถแล้ว ต้องคุมสถานการ์ณได้อยู่ และต้องมีความ match กันทางเชิงการต่อสู้ด้วย และด้านความคิด ซึ่งเป็นการผลัดกันรุก ผลัดกันรับ

เพียงแต่ ควมแตกต่างนี้ ทำให้ขงเบ้งของลู่อี้ มีพลังของตัวละคร ที่น้อยกว่า และสื่อได้ไม่ถึงส่วนลึกของตัวละคร เท่ากับ ถังกว๋อเฉียง ด้วยข้อแตกต่าง
1. การถ่ายทำที่ ใช้เวลาต่างกัน
2. บทละครต่างกัน
3. ความเข้าใจในตัวละครที่ต่างกัน

อธิบาย เพิ่ม:
1. การถ่ายทำที่ใช้เวลาต่างกัน
เวอร์ชั่น 1994 ใช้เวลาถ่ายทำ 4 ปี บท"ขงเบ้ง" ใช้เวลาถ่ายทำ 2 1/2ปี ซึ่งถ่ายทำตอนกลาง ถึงท้าย แล้วย้อนมาถ่ายทำ ตอนต้น

เวอร์ชั่น 2010 ใช้เวลาถ่ายทำ ไม่ถึง 1 ปี

2. บทละครต่างกัน และ 3 ความเข้าใจในตัวละครที่ต่างกัน
2 ข้อนี้ ขึ้นอยุ่กับ บทละคร และผู้กำกับ

หากเปรียบเทียบ คงเปรียบในบทส่วนที่ต่างไม่ได้ แต่หากได้เปรียบเทียบในฉากที่ใกล้เคียงกันแล้ว เหตุผลหลักคือ ทัศนคติ อุปนิสัย อุดมการณ์ การเป็นนักคิด และนักการทหาร บุคคลิกภาพของเขา ต้อง สง่างาม เป็นคนที่เข้มแข็ง และเข้มงวดในการทำงาน ไม่อ่อนแอ เขาเป็นคนเก็บความรู้สึก และมักไม่ค่อยแสดงออก

ซึ่งหากว่า คนที่ได้ดูเวอร์ชั่น 1994 หลายครั้ง จะสัมผัสถึงการแสดงในส่วนลึกของถังกว๋อเฉียง ได้ ฉากเปรียบเทียบต่างๆ ตั้งแต่
ฉากเปิดตัว เช่น ยุทธศาสตร์สามก๊ก , สงครามลิ้น ,ขงเบ้งเรียกลม ,ไว้อาลัยจิวยี่ ,มอบเมืองเกงจิ๋วให้กวนอู , ปราบวุยก๊ก , ฎีกาออกศึก, เสียเกเต๋ง ,กลเมืองร้างดีดฉินลวงสุมาอี้ , ประหารม้าเจ็ก , ด่าอองลอง ฯลฯ
พลังของตัวละคร ในความเข้มแข็ง เป็นนักต่อสู้ การสั่งการ ด้านการทหาร การสื่อความคิด การพลิกแพลง และการสื่ออารมณ์ของตัวละคร
ทั้งบุคคลิกภาพและการแสดง บทขงเบ้ง ถังกว๋อเฉียง สื่อออกมาได้เข้าถึงความเป็น "ขงเบ้ง" มากกว่า และอาจเรียกได้ว่า ดีที่สุด

ข้อเพิ่มเติม ถึงข้อแตกต่างในเวอร์ชั่น 1994 กับ 2010 เรื่องทัศนคติ นั้นมาจากผู้กำกับ กับบทละคร ในเวอร์ชั่น 1994 นั้นมีการadept จาก วรรณกรรม 120 บท เป็นละคร 84 ตอน และผู้กำกับนั้นมีถึง 5 คนที่ผ่านการสร้างละครคุณภาพให้กับทีวีจีนสมัยนั้น อย่าง ไซอิ๋ว ความรักใน...หอแดง นักแสดงส่วนหนึ่งมาจากละครไซอิ๋วและความรักในหอแดง

กลิ่นไอของทัศนคติของผู้กำกับในยุค ปี 80-90 นั้นจึงยังคงมีกลิ่นไอโบราณยุค ผสมผสานกับกลิ่นไอศิลปอุปรากรจีน ซึ่งเป็นสิ่งที่หล่อหลอมธรรมเนียม วัฒนธรรม ในยุคนั้นชนิดที่ว่าเล่าเรื่องราวได้ถึงแก่นแท้ของวรรณกรรม

ส่วนเวอร์ชั่น 2010 นั้นมีการadept บทละคร จากทัศนคติของผู้กำกับด้วย ด้วยการปรับทัศนคติที่มีต่อตัวละคร นำเสนอในด้านของความรู้สึกออกไป ซึ่งต่างจาก ตัวละครในเวอร์ชั่น 1994 ซึ่งถ่ายทอด ทัศนคติตัวละครจากบทในวรรณกรรม

อีกข้อของความแตกต่าง คือการสื่อออกที่แตกต่างกัน ถึง ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และทักษะ ตัวละคร

เมื่อเปรียบเทียบธรรมเนียม การประสานมือ การทำการคารวะ นั้น เวอร์ชั่น 1994 ให้ความสำคัญการรายละเอียดในส่วนนี้ผ่านการสื่อ......ของตัวละครต่างๆ ซึ่งในเวอร์ชั่น 2010 เองก็มีการแสดงถึงส่วนนี้ แต่ยังให้ความรู้สึก ด้อยกว่าในหลายๆ ฉาก

เมื่อเปรียบเทียบวัฒนธรรม เวอร์ชั่น 1994 ให้ความสำคัญเครื่องแต่งกาย(อาจมีผสมแนวจากญี่ปุ่นในบ้างชุด เพราะได้ร่วมถ่ายทำกับบริษัทของญี่ปุ่น)และการมัดทรงผมและผ้าครอบผม ที่คลุมผมทั้ง บุรุษและสตรี ตามสมัยฮั่นอย่างเคร่งครัด ไม่มีการปล่อยผมเผ้าสลายเหมือนหนังจีนกำลังภายใน แต่จะปล่อยผมในกรณ๊พิเศษเฉพาะเรื่องราวเท่านั้น หรือพวกที่ชนเผ่าจึงปล่อยสยาย

ซึ่งเวอร์ชั่น 2010 นั้น เป็นมีการประยุกต์ให้เข้ากับรูปแบบ ร่วมสมัย ซึ่งก็ถือว่า เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ หากแต่รูปแบบเหล่านี้ ไม่อาจถ่ายทอดความเป็นเอกลักษณ์ ที่ชัดเจน ของยุคฮั่นได้







การแสดงและการสื่ออารมณ์และการรับส่งบทสนทนา
ขอพูดหลักๆ ถึงฉากเทียบของขงเบ้ง

ฉากนี้เป็นอีกหนึ่งฉากที่ฉบับเวอร์ชั่น 1994 นำเสนอได้อย่างประทับใจ กับฉากขงเบ้งยกตราเมืองเกงจิ๋วให้กวนอูดูแลแทน การให้จังหวะอารมณ์ของฉากนี้ดูแล้วซาบซึ้งกินใจ

ขงเบ้งพอจะรู้ชะตาของกวนอูอยู่ การให้คำแนะนำ 8 คำของขงเบ้งกับกวนอู จึงเป็นเหมือนการให้คำแนะนำ ที่มีความห่วงใย และเต็มไปด้วยความหวังดี ต่อกวนอู ให้ความรู้สึกถึงการเป็นกุนซือของขงเบ้ง ที่สมบูรณ์

ซึ่งฉากนี้ในเวอร์ชั่นใหม่ รวบรัดและ ขาดการนำเสนออย่างมาก การมีฉากเพิ่มขงเบ้งดูดาวบนท้องฟ้า อันนี้ถือว่าดี แต่การขาดการนำเสนอถึงความเชื่อมโยง และบทสนทนาสั้นๆ ที่ดูเย็นชา ที่ให้ความรู้สึกเหมือนขงเบ้ง สั่งการกับกวนอู มากกว่าการให้คำแนะนำ ฉากนี้จึงทำให้ความรู้สึกทั้งหมดไร้ซึ่งความหมาย

Credit : LordMaChao176


บทพากษ์ภาษาไทยสุดยอด


ฉากขงเบ้งปะทะอองลอง ในเวอร์ชั่น 1994 ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ในการรับส่งบทสนทนา และอารมณ์ของฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะบุคคลิกภาพของขงเบ้งกับท่าโบกพัดและท่วงท่าการเจราจา และฝ่ายอองลอง ที่รับส่งบทสนทนาได้อย่างดี ทำให้ฉากนี้ได้อารมณ์ที่สมบูรณ์

ซึ่งในเวอร์ชั่นใหม่ บุคคลิกภาพของขงเบ้งดูเฉี่อย การรับส่งบทสนทนา ทั้งสองฝ่ายอารมณ์ไม่สัมพันธ์กัน ซึ่งทำให้ฉากนี้นำเสนอไม่ได้ถึงอารมณ์
credit : titan9999


บทพากษ์ไทยสุดยอด


ฉาก ขงเบ้งเจออองออง เวอร์ชั่นใหม่


ฉาก สงครามลิ้น
version 1994









version 2010



ฉาก ขงเบ้งถวายฏีกา


ฉากอุบายเมืองร้าง
ในเวอร์ชั่นเก่า ปี 94 นำเสนอฉากนี้ได้อย่างมีัจังหวะ และมีเสน่ห์
สีหน้าของขงเบ้ง สัมพันธ์กับการเล่นฉินมาก มีอารมณ์ตามการบรรเลง
สุมาอี้ก็มีบทพูดที่ยอดเยี่ยม และน้ำเสียงสุขุม ลึก
ทำให้ฉากนี้ ออกมายอดเยี่ยม และลงตัว

ส่วนเวอร์ชั่น แม้การให้สีภาพจะดูชัดเจน แต่องค์ประกอบกลับไม่เพียงพอ
ทั้งฉาก และ การแสดง สีหน้าของลู่อี้ในฉากนี้ เหมือนขงเบ้งทุกข์หนัก อย่างเดียว มันจึงไม่สัมพันธ์กับบทเพลงที่เขาเล่นอยู่ ส่วนบทพูดสุมาอี้ ก็ไม่ได้เข้ากับจังหวะของฉากนี้ มันเลยทำให้ฉากนี้ออกมา ดูแล้วไร้เสน่ห์โดยสิ้นเิชิง

สามก๊กเวอร์ชั่นใหม่ ฉาก อุบายเมืองร้าง


สามก๊กเวอร์ชั่น 1994 ฉากอุบายเมืองร้าง


ฉาก กิสานตอนเผาสุมาอี้
ซึ่งจะพูดในคราวต่อไป





 

Create Date : 24 มิถุนายน 2555
10 comments
Last Update : 26 สิงหาคม 2556 20:56:31 น.
Counter : 20141 Pageviews.

 

ผมชอบขงเบ้งชุดเดิมคับ หน้าตาบ่งบอกว่าจบสำนักคันฉ่องวารี จิงๆ ตีบทแตกสุดยอดเข้าถึงทุกรูขุมขน ดูขลังที่สุดแล้วคับ

 

โดย: TON IP: 58.9.36.246 28 มิถุนายน 2555 8:39:31 น.  

 

รักขงเบ้งเฮียถังที่สุดค่ะ(ลำเอียงสุดๆ)

 

โดย: sebastian michaelis (mewkodpakleiwahei) IP: 101.51.210.89 7 กรกฎาคม 2555 21:17:46 น.  

 

ผมชอบแบบเก่านะ ทุกตัวละครทำออกมาดีมาก ภาค2010มีดีแค่ลีโป้เท่านั่นแหละ
ขงเบ้งตอนทีทำพิธีเรียกลม
ปล่อยผมเหมือน จอนนี่ เดป มากๆ

 

โดย: ฮิๆ IP: 183.89.89.21 6 กันยายน 2555 21:49:54 น.  

 

ต่างกันลิบลับเลยระหว่างขงเบ้ง เฮีย ถัง กับ ขงเบ้ง ลู่อี้ ขงเบ้งเฮียถังส่วมบทบาทได้ดีกว่า
ลู่อี้ดูอกจะเเข็งๆไป(ไม่)หน่อย ครับ ^[-----]^

 

โดย: น้องเหลียง (จูเก๋อเหลียง) IP: 125.27.187.177 15 กุมภาพันธ์ 2556 20:59:07 น.  

 

น้องเหลียงสงสัยว่า"ทำไมสามก๊กเวอร์ชั่นนี้ไม่ตรงกับ สามก๊กที่หล่อกว้านต๋งแต่งไว้อ่ะครับ เมืองก็ไม่เปิดประตูทั้งสี่ด้านด้วยอ่ะ"

 

โดย: น้องเหลียง(จูเก๋อเหลียง) IP: 180.180.198.156 8 เมษายน 2556 22:57:12 น.  

 

ขอโทษที แวะมาตอบน้องเหลียงช้าไปสักหน่อย สำหรับบุคคลิกภาพบุ๋น ต้องยอมรับว่าลู่อี้มีบุคคลิกภาพทีดีใช้ได้ทีเดียว ซึ่งสมัยปัจจุบันหาดูที่เป็นแนวบุคคลิกนี้ไม่ค่อยเห็นแล้ว การแสดงเขาก็ตั้งใจนะ เพียงแต่บทและความอินเข้ากับตัวละครของลู่อี้ ยังดูไม่ซึมซาบเท่ากับขงเบ้งของเฮียถัง อย่างที่อธิบายไป เฮียถังมีบุคคลิกภาพของความเป็เต๋าอิสระที่สอดคล้องกับบุคคลิกภาพตัวละคร เช่นเป็นคนที่ชอบศึกษา ชอบท่องเที่ยว สังสรรค์พูดคุยกับเพื่อนปราชญ์ในกลุ่ม ดังนั้นจึงมีบุคคลิกภาพที่แฝงด้วยอารมณ์ขันและความเต็มไปด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นส่วนให้ตัวละครมีพลังและมีแรงผลักดันออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งในด้านความมีวินัยในการปฎิบัติตน หรือทำความเคารพ คารวะ สภาวะของผู้ที่อยุ่ตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบต่อภาระของบ้านเมืองและอุดมการณ์ฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่นนั้น ขงเบ้งเฮียถังนั้นถือว่าสื่อได้สมบูรณ์ และมีความสอดคล้องกับตัวละครมาก

พี่เองก็เคยแสดงละครสั้นบนเวทีสมัยเรียน เข้าใจว่าการสื่อการแสดงนั้นมันต้องสามารถถ่ายทอดความรู้สึกให้คนดูรู้สึกตามได้ คือผู้แสดงต้องอินกับบทบาทของตัวละคร เหมือนเข้าใจถึงความนึกคิดการกระทำของตัวละครนั้น

 

โดย: แม่นางเตียว 30 เมษายน 2556 22:36:30 น.  

 

ส่วนคำถามของน้องเหลียงที่ว่า ทำไมสามก๊กเวอร์ชั่น 2010 ถึงสร้างไม่ตรงกับฉบับวรรณกรรม สามก๊ก

ซึ่งส่วนนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ผู้กำกับสามารถทำได้และก็คงเป็นความตั้งใจของผู้กำกับ เกาซีซีที่ต้องการให้มีจุดแตกต่างจาก สามก๊กเวอร์ชั่น 1994 โดยแทรก ทัศนคติ ความคิดของผู้กำกับกับตัวละคร เข้าไปด้วย

ซึ่งบ้างบทก็มีบทเพิ่มดี แต่หลายส่วนขาดหายไป ภาพรวมจึงดูขาดความสอดคล้องกับเรื่องราวรวม เหมือนเป็นบทเสริม

ส่วนเรื่องประตูเมือง 4 ด้านในตอนอุบายเมืองร้าง ทั้ง สองเวอร์ชั่น ก็ได้เห็นแค่เปิดประตูเมืองด้านเดียว เพียงแต่สิ่งปลูกสร้างในส่วนของกำแพงเมืองในเวอร์ชั่น 1994 นั้นเหมือนจริงและสอดคล้องมากกว่าซึ่งเมื่อเทียบกับกำแพงเมืองในส่วนที่เราเห็นในบทความ ไป่หม่าก่วน แฮบังก๋วน ยังเบ่งก๋วน ลักษณะด่านกำแพงก็จะเป็นแบบนั้น และเมื่อได้ดูภาพนิ่งจะของเวอร์ชั่น 1994 นั้นในฉากอุบายเมืองร้างนั้น จะเสมือนดั่งออกมาจากภาพวาดเลยทีเดียว

 

โดย: แม่นางเตียว 30 เมษายน 2556 22:45:40 น.  

 

เปรียบแค่ตอนสงครามลิ้น 1994 ก็ชนะขาดทุกเวอร์ชั่นแล้ว ไม่ต้องดูฉากอื่นๆก็ได้

 

โดย: ศิษย์ปลายแถวของอาจารย์ขงเบ้ง IP: 110.164.144.124 24 มีนาคม 2557 1:20:49 น.  

 

ถังขงเบ่ง เคยถึงฝันด้วย ว่าเป็นขงเบ้งตัวจริง

 

โดย: อร่อย IP: 171.96.172.236 20 มีนาคม 2558 15:37:46 น.  

 

อยากรู้ว่าหนวดของขงเบ้ง เป็นแบบนี้จริงหรือเปล่า ที่เรียกว่า หนวดเคราทั้งห้า

 

โดย: ข๋งขง IP: 27.55.27.120 24 มีนาคม 2558 22:17:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เก้าเกสร
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




เวลาว่างๆ เราก็มักจะ ทำอะไรเรื่อยเปื่อย ที่ชอบก็คือฟังเพลง ดูหนัง ส่วนหนังสือนานๆ จะจับสักครั้ง ต้องอ่านเป็นเรื่องสั้น หรือ บทความ ตอนๆ
ถ้าอ่านยาวๆ เลย ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่คะ
นิสัยก็ติงต๋อง บ้าๆ บอๆ ^^


Group Blog
 
 
มิถุนายน 2555
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
24 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เก้าเกสร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.