1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30 31
สามขาพาทัวร์.....ศรีลังกา 13...Mirissa beach, fisherman village
วันที่ 13 Mirissa beach, Fisherman Village เช้าวันนี้แม่บุญตื่นเช้าเพราะแสงอาทิตย์มันแยงตา ไม่ได้เปิดผ้าม่านหรอกแต่แสงมันลอดเข้ามาเลยรีบลุกไปดู แหม่..คุ้มค่าที่ตื่นมาดูเพราะช่างสวยเสียจริงๆ แสงสีส้มตัดกับขอบฟ้าสีหม่นๆ ยามเช้า แล้วก็ค่อยๆ ร้อนแรงเป็นสีส้มงามจับตา ไม่ลืมที่จะถ่ายภาพไว้เช่นเคย ลุกแล้วลุกเลยๆ มาอาบน้ำเตรียมตัวก่อน มิเชลตื่นทีหลังก็มาจัดการทำธุระส่วนตัวก่อนจะพากันลงไปที่ห้องอาหาร พวกเรานั่งกินอาหารเช้ากันข้างนอกตรงสนามหญ้า เบื้องหน้าคือท้องทะเลสีคราม มีต้นมะพร้าวสองสามต้นโอนเอนลู่ลมไปทางทะเล อดนึกถึงแหลมพรมเทพไม่ได้เพราะคล้ายกันไม่มีผิด ไถ่ถามกันช่วงกินอาหารว่าใครมีโปรแกรมทำอะไรกันมั่ง เพราะวันนี้เป็นวันฟรีเดย์ ใครใคร่เล่นน้ำทะเลเดินเล่นริมหาดก็สามารถทำได้ทั้งวัน สรุปว่าเพื่อนๆ จะพากันลงเล่นน้ำทะเล ส่วนเราสองคน แม่บุญไม่ชอบเล่นน้ำ เพราะว่ายน้ำไม่เป็นและไม่อยากตัวดำเหมือนอีกา ฝรั่งนอนตากแดดแล้วตัวแดงเหมือนกุ้งต้ม แต่ไทยผิวเหลืองอย่างแม่บุญขืนตากแดดแบบนั้น ฮ่าฮ่า...ไม่แดงเลยสักนิดแต่มันจะดำเป็นเมี่ยง แล้วก็จะลอกเหมือนงู ส่วนมิเชลแกก็ไม่ชอบทะเลมากนัก ตกลงเราสองคนขอแยกไปตามประสาเราก็แล้วกัน หลังอาหารพวกเราแยกย้ายกัน เราสองคนเดินลงจากโรงแรมไปตามถนนแคบๆ เดินหลบรถที่สวนไปมาอย่างหวาดเสียวก้น กลัวมันจะเกยมาทับเสียจริงๆ เดินมาได้สักใหญ่ๆ พอให้เหงื่อเริ่มไหลก็มาโผล่ที่ถนนใหญ่ ตรงนี้เองที่รถราวิ่งกันขวักไขว่เพราะเป็นช่วงเวลาทำงานผู้คนจึงมากมาย เราสองคนเดินผ่านป้ายรถเมล์แล้วข้ามถนนไปอีกฝั่งเดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยๆ จนมาเจอร้านขายยา แม่บุญเดินเข้าไปถามหายาที่ใช้นวดขา เขามีขายแต่กล่องเล็ก เลยตกลง จากนั้นก็ถามเจ้าของร้านว่า แถวนี้มีอะไรดูมั่ง? เขาตอบอย่างรวดเร็วว่า ไม่มีหรอก ถ้าอยากจะดูอะไรมากกว่านี้ต้องนั่งรถเมล์ไปอีกหาดไกลออกไปสักสองกิโลเมตร จากนั้นเขาก็เขียนชื่อสถานที่ให้เราเพื่อให้กระเป๋ารถเมล์ดู แต่เพราะยังเช้าอยู่มากมิเชล บอกว่าให้เดินไปให้สุดทางตรงนี้ก่อน จากนั้นค่อยนั่งรถเมล์ไปกัน เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย เราสองคนเลยเดินต่อไปเรื่อยๆ จนไปเจอซอยเล็กๆ พากันเดินทะลุไปถึงชายทะเล ที่นั่นมีเรือหาปลา มีชาวประมงกำลังลากอวนขึ้นฝั่ง แม่บุญเดินถ่ายรูป ส่วนมิเชลเดินไปเจอผู้หญิงคนหนึ่ง เขาเห็นเป็นฝรั่งเลยถามว่าจะพักที่นี่ไหม? ราคาไม่แพง ติดหาดทรายเลยนะ แกบอกว่ามีที่พักแล้วเอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน ส่วนแม่บุญเดินมาสมทบถามว่า แถวไหนมีร้านขายอาหารทะเลสดๆ มั่ง เธอรีบบอกว่า ให้นั่งรถเมล์ไปอีกหาดที่นั่นมีเยอะ ชื่อหาดเดียวกันกับที่ร้านขายยาบอกมา ตกลงเราเลยเดินกลับไปขึ้นรถเมล์เพื่อไปตามที่บอก รอกันไม่นานนักรถเมล์ก็วิ่งมาจอดเทียบเชิญให้ขึ้น ค่ารถเมล์คนละไม่กี่รูปี เราแยกกันนั่งเพื่อจะดูวิวกันให้สะใจ บนรถไม่มีคนมากนักเลยนั่งสลับกันสนุกสนาน รถวิ่งไปไม่ถึงสามป้ายรถเมล์ก็มาถึงอีกหาดที่เขาบอก ที่นี่มีชุมทางรถเมล์ รถราวิ่งมากกว่า มีร้านค้ามากกว่า เดินไปเจอธนาคารรับแลกเงินให้ราคาดีเลยพากันไปแลกเผื่อไว้พรุ่งนี้อีกวัน จากนั้นก็พากันเดินเล่นไปเรื่อยๆ ข้ามถนนตรงหน้าชายหาด มีชาวประมงมาขายปลาสดๆ สองสามเจ้า เดินดูกันไปจนเกือบเจ้าสุดท้ายถามราคาว่าปลา กับกุ้งกิโลละเท่าไหร่? คนขายบอกราคามาไม่แพงและจะทำอาหารให้ด้วย เออ ไม่เลวเลย ตกลงเราเลยพากันนั่งที่ร้านรอให้เขาทำอาหารให้ ระหว่างนั้นแม่บุญก็เดินไปถ่ายรูปต่อ ที่นี่เขามีชื่อเรื่องการหาปลาแบบพิเศษ ภาพที่คนตกปลานั่งบนกิ่งไม้ขนาดย่อมกลางทะเล เป็นภาพที่แปลกตา สวยงาม เหมือนกับที่พม่า ที่ทะเลสาบอินเล ที่เขาใช้เท้าพายเรือแทนมือ แล้วก็ใช้สุ่มลงครอบแล้วจับปลาด้วยมือเป็นภาพที่สวยงามมากๆ ของพม่า แต่ที่นี่ก็คือภาพคนนั่งตกปลาบนกิ่งไม้ใหญ่ เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาชม มาถ่ายรูป จะบอกว่า...ชายทะเลตื้นๆ แบบนี้ เขาเอาไม้มาปักไว้แล้วทำท่าขึ้นไปตกปลาให้ถ่ายภาพ...ต้องจ่ายเงินนะจ๊ะ ไม่มีอะไรฟรีหรอกในโลกนี้... แม่บุญคิดว่าคงไม่มีโอกาสเห็นภาพแบบนั้นแน่ๆ เลยตกลงยอมจ่ายเงินเพื่อให้สองพ่อลูกชาวประมงเป็นนายแบบให้ งานนี้ไม่บอกมิเชลเพราะกลัวถูกเชือด...เหมือนกับที่ยอมจ่ายเงินเพื่อจ่ายให้สองหญิงวัยกลางคนเก็บใบชานั่นแหละ ..งานนี้ลงทุนน่าดูเลย..ถ้าอยากได้ภาพของจริงๆ ต้องตื่นก่อนไก่ขัน แล้วเรียกรถพาไปแถบที่เขาหาปลา แต่อย่ากระโตกกระตากให้ไก่ตื่น แอบย่องๆ หามุมถ่ายไกลๆ เอาเลนส์ซูมดีๆ ไปแอบถ่าย อันนั้นย่อมได้อารมณ์อันสุนทรีและไม่เสียตังค์ นอกจากเสียค่าตุ๊กตุ๊กจ้า บอกไว้เผื่อใครอยากจะมาเที่ยว อย่าลืมนะ... หลังจากจ่ายค่านายแบบไปแล้วก็ยิ้มแห้งๆ เพราะกลัวมิเชลจับได้ เผอิญแกสนใจอย่างอื่นมากกว่าเลยรอดตัวไป จากนั้นปลาและกุ้งที่ซื้อไว้ก็ถูกทำเป็นอาหารแล้วนำมาวางตรงหน้า แม่บุญแอบเสียดายที่ไม่ได้ไปบอกเขาว่าขอให้ย่างเฉยๆ เพราะที่เห็นเขาราดซอสมะเขือเทศมาเสียแดงเทือก แม่บุญไม่ชอบกินแบบนี้ แต่ก็หยวนๆ ทำมาแล้วนี่ เขี่ยๆ ซอสออกก็ใช้ได้ ตกลงเราสองคนก็ฟาดปลากับกุ้งเรีบแปล้อิ่มพุงกันไป สะใจที่ได้กินปลาแบบไม่แข็งอีกแล้ว จากนั้นก็เดินกลับทางเดิม คราวนี้มาเจอของดีอีกแล้ว มีร้านขายผลไม้และไอศครีมตั้งอยู่ในมุมที่มองแทบไม่ออกว่าเป็นร้านขายไอศครีม พอเข้าไปข้างในเห็นคนเดินเข้าออกมากมาย เหลือบดูข้างในมีพนักงาน มีนักท่องเที่ยว ชาวบ้านนั่งกินผลไม้ ข้าวผัด ไอศรีมกันอย่างเอร็ดอร่อย มาเจอของดีให้แล้วสิ จากนั้นก็เล็งหาที่นั่งแล้วก็ก็เลือกสั่ง ไม่นานเขาก็มาเสริม พ่อคุณเอ่ย....มันช่างอร่อยสดชื่นจริงๆ ผลไม้มากมายที่ใส่มาให้แบบไม่มีหวง กินกันไปก็คุยกันว่าจะต้องไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟังให้อิจฉากันแน่ๆ อิ่มหนำสำราญแล้วก็ไปรอรถเมล์กลับที่พักเพราะบ่ายจัดแล้ว จากนั้นก็นั่งรถเมล์กลับไปที่เดิม พากันเดินขึ้นไปจนถึงโรงแรม ก่อนมื้อค่ำพวกเราลงไปเดินเล่นดูพระอาทิตย์ตกน้ำ แล้วก็เล่าเรื่องราวให้เพื่อนๆ ฟัง เล่นเอาพากันตาโตอยากจะไปมั่ง เป็นอันว่าพรุ่งนี้จะพาไป...
Create Date : 18 สิงหาคม 2560
Last Update : 18 สิงหาคม 2560 12:51:08 น.
26 comments
Counter : 3144 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณSweet_pills , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณเนินน้ำ , คุณภาวิดา คนบ้านป่า , คุณสาวไกด์ใจซื่อ , คุณไวน์กับสายน้ำ , คุณmambymam , คุณtuk-tuk@korat , คุณกะว่าก๋า , คุณmoresaw , คุณSai Eeuu , คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน , คุณสองแผ่นดิน , คุณKavanich96 , คุณRinsa Yoyolive , คุณchon CH
โดย: Sweet_pills วันที่: 18 สิงหาคม 2560 เวลา:0:33:57 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 18 สิงหาคม 2560 เวลา:9:09:40 น.
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 18 สิงหาคม 2560 เวลา:9:22:57 น.
โดย: mambymam วันที่: 18 สิงหาคม 2560 เวลา:10:11:40 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 สิงหาคม 2560 เวลา:13:51:32 น.
โดย: moresaw วันที่: 18 สิงหาคม 2560 เวลา:14:28:48 น.
โดย: mambymam วันที่: 18 สิงหาคม 2560 เวลา:17:25:02 น.
โดย: Sai Eeuu วันที่: 18 สิงหาคม 2560 เวลา:19:26:26 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 18 สิงหาคม 2560 เวลา:19:49:17 น.
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 18 สิงหาคม 2560 เวลา:23:07:08 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 สิงหาคม 2560 เวลา:6:39:39 น.
โดย: ชมพร วันที่: 19 สิงหาคม 2560 เวลา:11:05:49 น.
โดย: Kavanich96 วันที่: 20 สิงหาคม 2560 เวลา:1:09:26 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 สิงหาคม 2560 เวลา:20:24:17 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 21 สิงหาคม 2560 เวลา:0:22:08 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 สิงหาคม 2560 เวลา:6:33:12 น.
โดย: chon CH วันที่: 21 สิงหาคม 2560 เวลา:20:32:38 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 สิงหาคม 2560 เวลา:19:34:41 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 สิงหาคม 2560 เวลา:6:29:43 น.
Location :
กรุงเทพฯ Belgium
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [? ]
แม่บุญ..เป็นหญิงไทยอายุเลยวัยรุ่นไปไกล จับพลัดจับพลูได้สามีเป็นฝรั่งแล้วก็หอบผ้าตามกันไปอยู่เมืองนอกเมืองนา พอได้เวลาหยุดงานก็กระเตงกันไปเที่ยวตามประสาตายาย ไม่มีลูกกวนตัวกวนใจ แม่บุญนั้นชอบเขียน ชอบเล่า ชอบถ่ายรูป เป็นที่สุด จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เอามาแบ่งบันกันให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้อ่าน ได้ดูกันดีกว่า ส่วนฝีมือด้านอื่น ๆ นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ทำอาหาร ก็เอามาแบ่งปันกันอีกนั่นแหละ ค่อย ๆ รู้จักกันไป รู้จักกันแล้วก็อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะ ปล....รูปภาพต่าง ๆ หากต้องการนำไปใช้ช่วยบอกที่มาที่ไปด้วยนะคะ เป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสังคมไทยเราค่อนข้างมองข้ามในเรื่องนี้ค่ะ
ซื้อกุ้งและปลาแล้วทำให้เสร็จสรรพ ทั้งสดและได้บรรยากาศนะคะ
วิธีหาปลาก็แปลกมาก
ถ้าต๋ามีโอกาสไปจะตื่นก่อนไก่ขันแล้วใช้เลนส์ซูมตามที่แม่บุญแนะนำค่ะ
Maeboon Travel Blog
ขอบคุณแม่บุญที่พาเที่ยวนะคะ