คิดไปเขียนไปตามสไตส์...แม่บุญ.....
Welcome to my little world .....
Group Blog
 
 
มกราคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
24 มกราคม 2558
 
All Blogs
 
ลูกรถไฟ ๒ ...สถานีรถไฟอุดรธานีเมื่อ ๔๐ กว่าปีก่อน





สถานีรถไฟอุดรฯ ในสมัยก่อนโน้น ไม่ได้มีศูนย์การค้า ตลาดโต้รุ่ง หรือ ๗ ๑๑ ขายตลอด ๒๔ ชม. เหมือนตอนนี้ สถานีที่เราจำความได้ คือสถานีรถไฟที่ยังคงมีลักษณะ คล้ายตอนนี้ แต่ด้านหน้าที่เป็นวงเวียนนั้น เขาทำใหม่เพราะแต่ก่อนเขาจำลองลักษณะเหมือนวงเวียนอนุสาวรีย์ที่สี่แยกคอกวัวของกรุงเทพฯ เพียงแต่เล็กลงมา จำได้ว่าตรงกลางมีต้นไม้ที่ลักษณะเหมือนต้นบอนไซของญี่ปุ่น เขาตัดจนมันไม่โต ข้างในกลวงๆ เป็นรู สามารถลอดเข้าไปนั่งเล่นได้ พวกเราชาวเด็กรถไฟชอบไปเล่นซ่อนหากัน




สถานีรถไฟอยู่ตรงข้ามบ้านของเรา แต่ห่างไปไกลมากและมีรางรถไฟขั้นไปเป็นระยะๆ ถ้ามองจากหน้าสถานี ตรงกลางจะเป็นห้องควบคุมการสับเปลี่ยนรางรถไฟเวลามีรถหลายขบวนเข้ามาพร้อมกัน อีกห้องใกล้กันด้านซ้ายจะเป็นห้องที่มีเครื่องโทรสารไว้ติดต่อกับสถานีอื่น สื่อสารกันโดยใช้เทเล็กซ์ ที่เป็นการพิมพ์ข้อความแล้วจะมีกระดาษไหลออกมาจากเครื่อง ที่กระดาษยาวๆ นี้จะมีจุดกลม ๆ เป็นระยะ ๆ แล้วแต่ข้อความ ต้องเอาเข้าเครื่องอ่าน ออกมาอีกที เราเองเมื่อตอนเรียนมหาวิทยาลัยเคยไปอบรมการใช้เครื่องนี้ แต่ต่อมาเมื่อเริ่มใช้ แฟกช์ ใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งรวดเร็วทันสมัยกว่าต่อมาเขาเลยเปลี่ยน ยกเลิกการใช้เครื่องเทเล็กซ์




ห้องด้านหลังห้องนี้จะเป็นห้องทำงานของนายสถานี มีโต๊ะทำงานเป็นไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง อีกมุมเป็นโต๊ะรับแขก เราเคยเข้าไปแอบดูตอนนายสถานีไม่อยู่เพราะกลัวโดนดุ แอบเข้าไปตอนไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ นั่นเอง ข้างๆ จะเป็นบันไดเวียนขึ้นไปที่ชั้นสอง




ห่างออกไปทางขวามือจากห้องควบคุมการสับเปลี่ยนราง จะมีร้านขายของชื่อ ร้านบาร์ ตั้งมานานตั้งแต่เรายังไม่เกิด ไม่รู้เหมือนกันทำไมเรียกชื่อเหมือนฝรั่ง อาจเป็นเพราะที่นี่ขายชา กาแฟ ขนมปัง เหล้า เบียร์ และของกินเล่นต่างๆ นอกจากนั้น ยังขายอาหารตามสั่ง และหนังสือพิมพ์ อีกด้วย อาม่าและอากงที่เป็นเจ้าของพูดภาษาไทยไม่ชัดแต่ก็คอยบริการลูกค้าเป็นอย่างดี อาหารที่พวกเขาทำไม่อร่อยเลย แต่เพราะมีอยู่ร้านเดียว คนเลยจำใจต้องซื้อที่นี่ เพราะมีเพียงเจ้าเดียวที่เปิดขาย จำได้ว่าบางครั้งแม่ใช้ให้ไปซื้อไข่พะโล้ เราจะได้ไข่ที่แข็งเหมือนหิน แถมสีดำคล้ำเพราะเอามาอุ่นหลายครั้งนั่นเอง




ต่อมามีการประมูลขายของ เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสารต่างๆ เลยมีการตั้งเป็นแผงขายอยู่หน้าร้านบาร์ กลายเป็นคู่แข่งกันไป สมัยนั้นหนังสือพิมพ์ฉบับละ ๑ บาท ๕๐ สตางค์ เท่านั้น เราเดินมาซื้อบ่อยๆ เหมือนกัน เพราะพ่อชอบอ่านหนังสือพิมพ์ และดื่มกาแฟตอนเช้า กาแฟที่ว่าคือกาแฟที่ชงจากถุงผ้า แล้วก็เทใส่กระป๋องนมข้นที่นมหมดแล้ว จากนั้นก็ใช้เชือกไนลอนสอดไปตามรูที่อยู่ตรงกลาง หิ้วได้พอดีไม่ร้อนมือ ส่วนปาท่องโก๋ อากงกับอาม่ารับมาขายอีกที จำได้ว่าขายคู่ละ ๕๐ สตางค์เท่านั้น
ห้องถัดจากร้านบาร์ เป็นห้องของ " หมอรถไฟ " ที่เราอยากพูดถึง




การรถไฟมีสวัสดิการสำหรับพนักงานและครอบครัวให้ตรวจรักษาฟรี สำหรับอาการป่วยที่ไม่ถึงกับต้องผ่าตัด จะมีคุณหมอมาอยู่ประจำตามสถานีใหญ่ๆ เท่านั้น บางทีก็ได้รักษาผู้โดยสารที่ไม่สบายกะทันหันอีกด้วย ที่ห้องนี้คุณหมอกับพยาบาลเคยวิ่งตามเรารอบโต๊ะจนเหนื่อยเพื่อจะจับเราฉีดวัคซีน แต่เรากลัวเข็มมากกว่า เลยไม่ยอมง่ายๆ วิ่งลอดใต้โต๊ะจนคุณหมออ่อนใจ ไม่ฉีดให้เราเพราะเหนื่อยเสียก่อน เราเลยไม่มีแผลเป็นปูดขึ้นมาที่ต้นแขนเหมือนคนอื่นๆ แต่ผลที่ตามมาคือ เราจะป่วยบ่อยมากๆ เพราะไม่มีภูมิต้านทานพอ คุณหมอรักครอบครัวเรามาก เพราะสงสารแม่ที่มีลูกมากด้วย บางครั้งคุณหมอไปต่างจังหวัดก็จะให้พี่สาวคนที่ ๔ กับเราไปนอนที่บ้านเป็นเพื่อนภรรยาที่อยู่คนเดียวหลายครั้งด้วยความไว้วางใจ ถึงตอนนี้เราอยากกลับไปฉีดยากับคุณหมอแต่คงสายเกินไปแล้ว




ตรงข้ามร้านบาร์เป็นห้องเล็กๆ สำหรับขายตั๋ว แต่ก่อนตั๋วจะเป็นกระดาษแข็งกว้างประมาณ ๑ นิ้ว ยาวสัก นิ้วครึ่ง เวลาขายจะดึงออกมาจากตู้แล้วใส่ในเครื่องที่มีเครื่องหนีบเสียงดังกึกๆ ๑-๒ ครั้ง บนตั๋วจะเขียนสถานีต้นทางและปลายทางเป็นอักษรย่อเท่านั้น ไม่ได้พิมพ์ออกมาจากคอมพิวเตอร์เหมือนตอนนี้ สำหรับพนักงานเขาให้สวัสดิการเดินทางได้ฟรีทุกเส้นทางโดยตั๋วที่เรียกว่า “ ใบเบิกทาง “ แต่มีการกำหนดระดับเอาไว้ ถ้าเป็นนายสถานีได้เดินทางโดยรถนอน แล้วลดหลั่นกันไปตามตำแหน่ง พ่อเราได้แค่ที่นั่งชั้น ๓ พวกเราลูกๆ จะได้ตั๋วที่เรียกว่า “ ผู้ติดตาม " เป็นอันว่าพวกเราได้เดินทางฟรีทั่วประเทศที่มีรถไฟผ่าน แต่ไม่เคยได้ไปไหนไกลเกินกว่ากรุงเทพฯ เนื่องจากไปเยี่ยมพี่ชาย และไปอาศัยอยู่กับญาติในกาลต่อมาเท่านั้น แม้แต่หนองคายซึ่งไม่ไกลจากอุดรฯ พวกเราก็ไม่เคยได้ไปเยือนเพราะพ่อกับแม่ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องไปทำให้เสียเงินสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์




ที่ชั้นสองของสถานีจะมีห้องพักให้พนักงานที่เดินทางมาตรวจงานได้พัก ซึ่งส่วนมากจะเป็นเจ้านายระดับสูงซึ่งเขาจะมีห้องพิเศษให้ ส่วนพนักงานธรรมดาที่เดินทางมากับรถไฟและต้องค้างคืนเขาก็มีห้องพักแบบธรรมดาให้เช่นกัน แต่ก่อนคงจะมีโรงแรมเหมือนกัน แต่การรถไฟเขาจัดห้องพักให้คล้ายโรงแรม มีคนมาคอยดูแลทำความสะอาด เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ตลอด เราเองเคยแอบขึ้นไปดูกับเพื่อนชี้ แต่เงียบมากเรากลัวผีเลยไม่ชอบเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เขายุบไปหรือยัง ถ้ามีโอกาสกลับไปบ้านเราว่าจะลองไปดูอีกสักครั้ง



ด้านหลังสถานีรถไฟหลังบริเวณที่จอดรถจะมีตึกไม้ ๒ ชั้น ๆ บนเป็นห้องนอน ส่วนชั้นล่างเป็นที่ทำการของตำรวจรถไฟที่ต้องเดินทางประจำกับขบวนรถโดยสาร เพื่อดูแลความปลอดภัยบนรถ ยกเว้นรถสินค้า ที่นี่เรามาบ่อยเพราะแม่เรารับทำ " อาหารใส่ปิ่นโต " ส่งให้ตำรวจบางคนที่เป็นโสดไม่มีใครทำอาหารให้กิน ตอนเริ่มเป็นสาวเราจะอายมากไม่ค่อยกล้ามาคนเดียว หากมาแล้วก็จะรีบเผ่นกลับบ้าน มิน่าต่อมาถึงได้มาแต่งงานเอาตอนเกือบจะแก่ เรียกว่ารถไฟขบวนสุดท้ายเลยก็ว่าได้ คิดถึงตอนนั้นแล้วก็อดขำตัวเองไม่ได้



ที่สถานีรถไฟ เวลามีรถจักรไอน้ำมาเติมฟืนและเติมน้ำ จะเปิดวูดเสียงดังมากๆ เวลารถเริ่มออกตัวเสียงจะดัง ฉึกฉักๆ ๆ บางทีพวกเราก็เลียนเสียง ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง เป็นที่สนุกสนานกันไป รถจะจอดเติมฟืนที่นี่ถึงแม้บางครั้งต้องวิ่งไปส่งผู้โดยสารที่จังหวัดหนองคาย แต่ที่นั่นเป็นสถานีเล็กกว่าที่อุดร ฯ เราโชคดีที่ยังมีโอกาสได้เห็น เพราะต่อมาอีกไม่นานเขาก็ไม่ใช้ฟืนและเปลี่ยนมาเป็นหัวรถจักรที่ใช้เติมน้ำมันเหมือนในปัจจุบันแทน




บางครั้งก็มีเหตุการณ์สลดใจ เช่น ตำรวจรถไฟ ถูกรถไฟทับขาดสองท่อนเสียชีวิตด้วยความทรมาน ตอนเราเป็นเด็กรู้สึกจะเกิด ๓-๔ ครั้ง ทุกครั้งเราไม่เคยไปดูเพราะแม่ไม่ให้ไป เราเองก็กลัวด้วย มีเพื่อนพ่อที่ทำงานด้วยกันก็เคยตกจากบันไดรถไฟเพราะลื่น เกือบไปแล้วเหมือนกัน แต่เขาสติดีนอนหมอบราบไปกับทางระบายน้ำข้างๆ รอจนรถวิ่งผ่านหมดถึงได้ลุกขึ้น มีคนบอกว่าหน้าเปลี่ยนเป็นสีขาวเหมือนกระดาษเพราะความกลัว เล่นเอาขวัญเสียทำงานไม่ได้อยู่หลายวัน โชคดีที่พ่อเราไม่เคยเจออุบัติเหตุแบบนี้ทั้งๆ ที่วิ่งตามขบวนรถทุกวัน อันตรายมากกว่าคนอื่นๆ ด้วยซ้ำไป คุณพระคุ้มครองจริง ๆ บางคนว่าเป็นดวง หรือ กรรม ของแต่ละคน




ลืมเล่าไปว่า แต่ก่อนนอกจากจะมีรถโดยสารแล้ว ยังมีรถลำเลียงน้ำมัน ซึ่งเรียกว่า " รถน้ำมัน " รถลำเลียงแร่ เรียก " รถแร่ “ แล้วยังมี " รถแม่ค้า " ที่มีข้าวของมากมายหลายอย่าง เช่น ข้าวสาร ของกิน ของใช้ต่างๆ อาหารแห้ง ขนม รวมถึงแม่ค้าที่นั่งโดยสารมากับของที่จะเอาไปขาย เลยเรียกเป็นรถแม่ค้าไป ส่วนเก้าอี้นั่งไม่ได้เป็นเบาะ หุ้มหนังเหมือนตอนนี้ แต่เป็นไม้ที่ต่อกันเป็นแผ่น ๆ เหลาจนมนไม่มีเหลี่ยม เวลานั่งนาน ๆ ก็ต้องลุกเดินบ้างเพราะเจ็บก้นกบเหมือนกัน แม่ของเราก็เป็นแม่ค้าขนของไปขายที่โคราช ไปอยู่ทีละหลายๆ วัน ขายของหมดแล้วถึงจะกลับบ้าน




ตอนที่แม่ตั้งท้องเรา แม่ก็ไปขายของแล้วก็ไปคลอดที่นั่น ที่โรงพยาบาลโคราช แต่แม่กลับบ้านก่อน ต้องทิ้งเราไว้ที่โรงพยาบาลเพราะเราคลอดก่อนกำหนด ต้องอยู่ในตู้อบเป็นเดือน แม่กับพ่อถึงไปรับกลับบ้าน จะเป็นเพราะสาเหตุนี้หรือเปล่านะ เราถึงได้ชอบเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ เพราะเดินทางกับแม่ตั้งแต่อยู่ในท้องแล้ว




ที่แม่ต้องค้าขายเพราะลำพังเงินเดือนของพ่อไม่พอยาไส้คนในครอบครัวแน่ๆ แม่เองก็ไม่รู้จะทำอะไร ทางออกก็คือค้าขาย อาศัยว่าได้เดินทางฟรีไม่ต้องเสียค่ารถไฟ เอาของจากอุดรฯไปขายที่โคราชมั่ง ขอนแก่นมั่ง แล้วก็เอาของที่นั่นมาขายที่อุดรฯเช่นกัน เรื่องค้าขายของแม่เป็นเรื่องที่เล่าได้ไม่เบื่อเอาไว้จะค่อยๆ เล่าไปทีละนิดก็แล้วกัน.....


อ่านตอตอนหน้าค่ะ






Create Date : 24 มกราคม 2558
Last Update : 30 กันยายน 2563 12:28:51 น. 12 comments
Counter : 1650 Pageviews.

 





คุณแม่น่ารักจังนะคะ ..

ท่านทำงานหนักเพื่อครอบครัว .. น่าชื่นชมค่ะ



ส่วนคุณพ่อ ที่ไม่เคยเกิดอันตรายขึ้นกับท่านเลย..

เป็นเพราะ .. พระคุ้มครองคนดีค่ะ ..














mad








โดย: foreverlovemom วันที่: 24 มกราคม 2558 เวลา:10:56:03 น.  

 
ถ้ามีภาพประกอบเรื่องจะเริ่ดมากค่ะแม่บุญ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 24 มกราคม 2558 เวลา:22:57:04 น.  

 






สวัสดีค่ะ แม่บุญ











โดย: foreverlovemom วันที่: 25 มกราคม 2558 เวลา:8:25:30 น.  

 
วันนี้เข้ามาอ่านสองตอนรวดค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 25 มกราคม 2558 เวลา:15:03:06 น.  

 

Like ให้เป็นคนที่ 1
อ่านไปชื่นชมไปพระคุณแม่ค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 25 มกราคม 2558 เวลา:22:05:20 น.  

 
สวัสดีค่า แม่บุญ ^^

มาอ่านเรื่องราวลูกรถไฟก่อนนอนค่ะ
เกือบไม่ทันอ่านเพราะไม่ค่อยได้เข้าบล็อคทุกวันค่ะ

อ่านแล้วเห็นภาพในอดีตของผู้คน และชีวิตสมัยนั้นเลยค่ะ
เป็นเรื่องราวที่น่าจดจำ

ขอบคณแม่บุญมากๆนะคะ
ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกแล้ว



โดย: lovereason วันที่: 26 มกราคม 2558 เวลา:2:18:28 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณแม่บุญ
หายไปหลายวัน วันนี้มีโอกาสแวะมาเยี่ยมค่ะ




โดย: pantawan วันที่: 27 มกราคม 2558 เวลา:22:42:09 น.  

 
ขำพี่ไก่ว่า ขี้อาย ชอบวิ่งหนีหนุ่ม ถึงได้คู่มาตอนแก่ ฮ่าๆๆ
ถ้าไม่วิ่งหนีหนุ่ม คงได้คู่ตุนาหงัน ไวกว่านี้ใช่ไหมคะ

ตอนเด็กตุ๊กอยากให้แม่ค้าขาย ส อ จะได้เฝ้าร้าน
แทนการไปเฝ้าเถียงนาน้อย ร้อนก็ร้อน ฝันอยากเป็นคุณหนู อิอิ


โดย: ตุ๊ก IP: 94.23.252.21 วันที่: 29 มกราคม 2558 เวลา:2:38:06 น.  

 
การรถไฟตอนนั้นคงบูมกว่ายุคนี้นะคะ
(ตอนนี้เหมือนเส้นทาง ทางเลือกยังไงไม่รู้สิ)

พอถึงอุบัติเหตุที่เจ้าหน้าที่โดนรถไฟทับ กลัวเลยล่ะค่ะ

ได้อ่านผ่านเรื่องราวของแม่บุญแล้วเพลินดีค่ะ
เหมือนได้ขลุกวงในย้อนเวลาไปในช่วงเวลานั้นด้วย

จะมาตามต่อตอนหน้านะคะ

(กว่าฟ้าจะได้นั่งรถไฟก็โตแล้ว เลยไม่ได้เห็นรายละเอียดที่เป็นแบบความรู้สึกผูกพันธ์ที่ชัดเจนแบบนี้เท่าไหร่ค่ะ
)


โดย: กาบริเอล วันที่: 29 มกราคม 2558 เวลา:9:17:36 น.  

 
ขอบคุณค่ะแม่บุญ
ตอนนี้เน็ทเสียค่ะใช้การไม่ได้
มาสั้น ๆ นะคะ ขอให้มิเชลและแม่บุญสุขภาพแข็งแรงค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 30 มกราคม 2558 เวลา:9:14:37 น.  

 
เข้ามาเยี่ยมยามดึกครับ..
เพิ่งไปชมทะเลบัวแดงที่อุดรมาอาทิตย์ที่แล้ว...

ขอบคุณเรื่องภาษานะครับ


โดย: wicsir วันที่: 30 มกราคม 2558 เวลา:22:05:51 น.  

 
แวะมาทักทายจ้าาา sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite ร้อยไหม IPL Medisyst adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow Haijai.com สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรเพื่อสุขภาพ น้ำมันมะพร้าว ขิง ประโยชน์ของขิง ผู้หญิง สุขภาพผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการ ตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อคนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4713825 วันที่: 16 สิงหาคม 2561 เวลา:13:52:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Maeboon
Location :
กรุงเทพฯ Belgium

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [?]




แม่บุญ..เป็นหญิงไทยอายุเลยวัยรุ่นไปไกล จับพลัดจับพลูได้สามีเป็นฝรั่งแล้วก็หอบผ้าตามกันไปอยู่เมืองนอกเมืองนา พอได้เวลาหยุดงานก็กระเตงกันไปเที่ยวตามประสาตายาย ไม่มีลูกกวนตัวกวนใจ แม่บุญนั้นชอบเขียน ชอบเล่า ชอบถ่ายรูป เป็นที่สุด จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เอามาแบ่งบันกันให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้อ่าน ได้ดูกันดีกว่า ส่วนฝีมือด้านอื่น ๆ นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ทำอาหาร ก็เอามาแบ่งปันกันอีกนั่นแหละ ค่อย ๆ รู้จักกันไป รู้จักกันแล้วก็อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะ


ปล....รูปภาพต่าง ๆ หากต้องการนำไปใช้ช่วยบอกที่มาที่ไปด้วยนะคะ เป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสังคมไทยเราค่อนข้างมองข้ามในเรื่องนี้ค่ะ

free counters
New Comments
Friends' blogs
[Add Maeboon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.