คิดไปเขียนไปตามสไตส์...แม่บุญ.....
Welcome to my little world .....
Group Blog
 
<<
กันยายน 2560
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
1 กันยายน 2560
 
All Blogs
 

สามขาพาทัวร์......ศรีลังกา 14 From Mirissa to Galle










วันที่ 14 from Mirissa beach to Visit Galle








เช้าวันนี้แม่บุญตื่นเช้าตามเคย มายืนมองดูพระอาทิตย์ยามเช้าสีสดใส มิเชลเองก็ตื่นเช้าเช่นกัน เราสองคนรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินไปทางห้องอาหารที่ติดกับทะเล เช้าวันนี้อากาศดีมากเลยพากันนั่งกินข้าวที่สนามหญ้าด้านหน้า แม้จะมีแสงแดดสาดส่องแต่ก็ยังพอมีร่มไม้ให้ร่มเงาพอให้ไม่ร้อนมากนัก










หลังอาหารเช้าพวกเราก็เตรียมตัวไปขึ้นรถ แม่บุญต้องขอโทษที่จำผิดเรื่องไกด์หนุ่มชามูร์ จริงๆ แล้วเขายังจะเดินทางกับเราอีกจนถึงพรุ่งนี้เช้าจึงจะขึ้นรถไฟกลับ คนแก่เริ่มหลงๆ ลืมๆ คงไม่ว่ากันนะ พอเดินมาถึงลานจอดรถ ชามูร์ก็เดินยิ้มแฉ่งมารอรับต้อนขึ้นรถ แม่บุญยเล่าเรื่องที่ไปเที่ยวกันเองกับมิเชลและได้กินปลาอร่อย ชามูร์ยิ้มอย่างงงๆ เพราะเราอธิบายไม่ถูกว่ามันอยู่ที่ไหน ?










ชามูร์บอกว่า วันนี้จะพาไปเที่ยวชมเมือง Galle ซึ่งเป็นเมืองหลวงทางภาคใต้ของศรีลังกา ห่างจากโคลัมโบ ๑๑๙ กิโลเมตร สามารถเดินทางได้ทั้งทางรถยนต์ และรถไฟๆ นี่ดีหน่อยเพราะวิ่งเลียบชายฝั่งทะเลจะได้เห็นวิวสวยๆ พร้อมกับลมทะเลพัดเย็นๆ เมืองหลวงแห่งนี้สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ ๑๗ และยังมีป้อมปราการใหญ่โตที่สร้างโดยชาว Dutch หรือฮอลันดา เพราะเคยตกเป็นเมืองขึ้นของหลายชาติทั้งออลันดา โปรตุเกส และอังกฤษ เมืองนี้จึงมีสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านเรือนที่สวยงามไม่เหมือนที่อื่นๆ แถมยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย ข้อมูลนี้ทำเอาแม่บุญตื่นเต้นอยากไปดูเมืองเก่า เหมือนเมื่อครั้งไปเวียดนาม ที่เมืองเว้ บ้านเรือนที่นั่นสวยงามมากเพราะเคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส โปรตุเกส หากใครเคยไปคงจะเห็นภาพที่แม่บุญบอก










ใครที่สนใจประวัติศาสตร์ไปเปิดอ่านเองนะคะ ส่วนแม่บุญจะพาลุยต่อค่ะ พอขึ้นรถกันแล้วโชเฟอร์หน้าเสมอต้นเสมอปลายก็พาออกรถเดินทางกันทันที ระหว่างทางมันผ่านตำบลที่เรานั่งรถเมล์มากินปลากันเมื่อวาน เลยบอกชามูร์ว่า ที่นี่แหละที่เรามากินปลากัน รถวิ่งไปได้ประมาณ ๔๐ นาทีก็เข้าเขตเมือง กัลล์ หรือ กาเลย์ รถรามากมายวิ่งสวนไปมาบนท้องถนน ดูคึกคักมากๆ ผิดกับเมืองที่เราไปนอนลิบลับ ป้อมปราการเก่าแก่ตั้งตระหง่านท้าแดดท้าลมทะเลจนสึกหรอไปเป็นบางส่วน










font color="#990066">เมื่อรถจอดพวกเราก็เดินผ่าแดดร้อนระอุเดินไปชมบนป้อมกัน รถทัวร์คันใหญ่พาเด็กๆ นักเรียนตัวเล็กๆ มาทัศนศึกษากันหลากหลายโรงเรียน เดินจูงมือกันน่ารักมากๆ งานนี้อดไม่ได้ต้องถ่ายภาพกัน ระหว่างนั้นชามูร์ก็พาเดินชมรอบๆ พร้อมกับอธิบายประวัติต่างๆ แต่แม่บุญอ่านมาก่อนคร่าวๆ แล้วเลยเอาเวลาไปหาถ่ายภาพอย่างที่ชอบ อีกอย่างผู้สูงวัยทั้งหลายเดินช้ามาก ถ้าจะรอเดินพร้อมกันแม่บุญท่าจะไม่ไหว อยากทำเวลาหามุมสวยๆ ถ่ายภาพมาฝากกันค่ะ



















ป้อมปราการสูงลิบ มองลงไปด้านล่างจะเห็นแบ่งเป็นช่องๆ เขาเอาไว้คุมขังนักโทษ พวกเขาคงจะได้ยินเสียงน้ำทะเลที่สาดกระทบกำแพง แต่จะให้เห็นทะเลนั้นจะตะกายขึ้นไปยังไง ? นักโทษก็คือนักโทษจะให้อยู่สุขสบายเขาก็คงไม่ถูกจับเป็นนักโทษแน่ๆ แต่ก็น่าสงสาร สงครามล่าอาณานิคม ...ใครแข็งแรงกว่า ใหญ่โตกว่าก็มักจะได้รับชัยชนะไปในที่สุด















พวกเราเดินชมวิวกันไปเรื่อยๆ เดินตามกลุ่มนักเรียนหลากหลายไปพร้อมๆ กัน จากนั้นก็พากันเดินเลี้ยวกลับเข้าตามตรอกซอยต่างๆ ที่นี่เอง ที่มีร้านค้าน่ารักๆ ขายของหลากหลายละลานตา ร้านแรกที่เข้าไปชมถูกเพื่อนสาวสามคนจับจองซื้อช้างตัวน้อยที่แกะสลักจากไม้และลงสีเป็นที่ระลึกกันมากมายเอาไปฝากญาติๆ ส่วนแม่บุญมีกำลังซื้อไม่มาก ซื้อมาตัวเดียว...จากนั้นก็เดินเลาะเรียบไปตามร้านเล็กร้านน้อยไปเรื่อยๆ เป็นที่เพลิดเพลินยิ่งนัก เพราะได้หลบแดดร้อนๆ ไปในตัว แม่บุญใช้เวลาที่รอเพื่อนๆ ซื้อของรีบเดินเร็วๆ ไปดูร้านอื่นๆ สำรวจไปด้วย



































หลังจากนั้นก็ยกขบวนพากันไปชมพิพิธภัณฑ์ที่แม่บุญเดินไปเจอโดยบังเอิญ และมาบอกเพื่อนๆ ให้ไปชมกัน อีกอย่างเขาไม่เก็บตังค์ค่าเข้าชมทั้งๆ ที่พอเดินดูจนทั่วแล้วคิดว่าน่าจะเก็บเพราะเป็นของเก่าแก่โบราณหายากมาก เจ้าหน้าที่บอกว่ามีกล่องตั้งไว้แล้วแต่ใครอยากจะทำบุญ ...แม่บุญมาเห็นตอนขาอกลับออกมาเลยสมทบไปด้วย มีชายแก่ที่นั่งอยู่หลายคน มานั่งรอรับจ้างเป็นไกด์อธิบายเรื่องราวต่างๆ พอให้ได้ค่ากาแฟ หากใครไปอย่าลืมอุดหนุนนะคะ เป็นการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ บางครั้งปากกาสักด้ามที่เราใช้กันอยู่ เป็นของกำนัลพวกเขาก็ดีใจแล้วค่ะ





























บ่ายโมงแล้ว...ชามูร์เดินมาบอกว่า จะพาไปกินข้าว จากนั้นพวกเราก็ขึ้นรถ ไม่นานรถก็วิ่งมาจอดใกล้ๆ กับป้อมเก่าที่เราพึ่งเดินชมกันเสร็จ มองตามชามูร์ไปจึงเห็นว่ามีร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยวตั้งอยู่ เจ้าของนร้านกับพนักงานรีบวิ่งจะออกมาต้อนรับ แต่มิเชลกับแม่บุญ ร้องบอกชามูร์ว่า มื้อนี้เราจะไม่กินอาหารบุฟเฟย์ที่ร้าน แต่เราอยากจะไปกินปลาที่ร้านเมื่อวาน ชามูร์กับคนขับส่งภาษาให้เจ้าของร้านรับรู้ เห็นสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก เพราะจะขาดรายได้ ส่วนชามูรืกับคนขับก็คงขาดรายได้และอาหารกลางวันฟรีเช่นกัน ทำไงได้ พวกเราเบื่ออาหารศรีลังกากันจนไม่อยากเดินเข้าร้านอาหาร




จากนั้นรถก็วิ่งกลับทางเดิม ระหว่างทางเห็นมีร้านอาหารริมทางมีคนมากมาย เพื่อนในกลุ่มบอกให้จอดรถลงไปดูกันว่าเขามีอะไรกิน ? คนขับจอดตามที่บอก ชามูร์บอกว่ารู้จักเจ้าของร้าน จากนั้นก็เดินลงไปถามว่ามีอะไรกิน ? ตามเคย เป็นบุฟเฟย์อาหารศรีลังการาคาไม่แพงคนเลยเยอะ ได้ฟังดังนั้นพวกเราก็บอกว่า ไปตายเอาดาบหน้าเถอะ



รถวิ่งผ่านจุดที่มองเห็นสะพานเล็กๆ ไปในทะเล มีชาวประมงนั่งล้อมวงกันกินข้าว เครื่องไม้เครื่องมือตกปลาวางอยู่ไม่ไกลนัก มองดูแล้วเป็นภาพที่คล้ายกับในโปสการ์ด คิดในใจว่าเสียดายจัง นี่ถ้าพักแถวนี้จะตื่นก่อนไก่มาแอบถ่ายภาพชาวประมงตกปลาแน่ๆ แต่คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว เพราะพรุ่งนี้เย็น พวกเราก็จะกลับบ้านกันแล้ว












รถวิ่งมาถึงตำบลที่เรากินปลากัน คราวนี้จอดริมถนนให้เดินกันสบายๆ ยังมีชาวประมงที่ขายปลาอยู่ แม่บุญเดินนำไปร้านเดิม เจ้าของร้านจำได้เลยยิ้มกว้างเป็นการต้อนรับ ชามูรืเดินตามมาสมทบ จากนั้นก็เลือกปลา กุ้ง แล้วบอกเขาว่าวันนี้จะขอทำอาหารด้วย เจ้าของร้านยิ้มแฉ่งรีบหาเครื่องไม้เครื่องมือมาให้ ในขณะเดียวกันเพื่อนๆ ก็พากันนั่งล้อมวงสั่งเบียร์เย็นๆ มาดื่มรอ















font color="#990066">แม่บุญกับชาวประมงเจ้าของร้านลงมือทำอาหารกันสองคน ชามูร์กับคนขับรถพากันถ่ายภาพไว้ เกิดเผื่อใครท้องเสียแกจะได้มีหลักฐานกระมัง กระทะใบใหญ่นำมาตั้งบนเตาแก๊สพร้อมกับน้ำที่ต้มจนเดือดพล่าน พ่อครัวคือเจ้าของร้านเอาปลาตัวยาวใส่ลงไปต้มอย่างรวดเร็ว นี่เป็นการทำให้สุกที่ค่อนข้างเร็วเพราะปลาตัวโต เนื้อหนาถ้าจะย่างเฉยๆ ต้องไฟปานกลางกว่าจะสุกทุกด้านก็คงหายหิว แกเลยเอามาต้มก่อน จากนั้นก็เอาไปย่างอีกที เห็นภาพที่ลงให้ดูแล้วหน้าตาไม่เลว แถมอร่อยมาก หวานจากเนื้อปลาที่สดมากๆ อีกด้วย











ส่วนกุ้ง แม่บุญเอามาผัดในกระทะ น้ำมันนิดหน่อยพอไม่ให้ไหม้ พอเริ่มเปลี่ยนสีก็ใส่เกลือ พริกไทย และใบพริกลงไป ปิดไฟ ใส่ต้นหอมซอย โรยหน้า แค่นี้ก็อร่อยแล้วเพราะเนื้อกุ้งสด หวานมาก เท่านี้พวกเราก็ได้กินอาหารทะเลสดๆ แบบที่พวกเราชอบ ไม่แข็งเป็นไม้เหมือนที่ผ่านมาหลายวัน









ส่วนชามูรืกับคนขับรถเดินไปหาข้าวแบบพื้นเมืองกินตามเคย หลังจากนั้นก็ปล่อยให้พวกเราพักผ่อน ก่อนที่จะย้ายทัพพาไปกินไอศกรีมกันเพื่อปิดท้ายรายการ ในร้านไอศรีมค่อนข้างแคบ แขกเยอะ การที่จะหาโต๊ะให้ได้นั่งกันทั้ง ๗ คนเป็นเรื่องยากมาก จึงจำเป็นต้องแยกย้ายกันนั่ง เพื่อนสาวของเราคนเดิมเกิดอาการไม่พอใจ เพราะต้องแยกไปนั่งลำพังกับสามี เธอไม่พอใจเลยไม่กินไอศกรีมแต่เดินออกนอกร้านไปช้อปปิ้งแทน เพื่อนๆ พากันงง ว่าทำไมถึงต้องไม่พอใจในเมื่อสถานการณ์มันบังคับ ...










ขากลับพวกเรานั่งคุยกันสนุกสนาน และคุยกันว่า เสียดายมากที่เรามีเวลาเที่ยวเมืองนี้เพียงวันเดียว เพราะยังมีอะไรมากมายให้ดูอีก น่าจะนอนที่นี่มากกว่านอนที่โน่น...คงเป็นด้วยเหตุนี้เองที่เพื่อนสาวนั่งร้องไห้เงียบๆ หลังรถ เผอิญภรรยาเก่ามิเชลเหลือบไปเห็น ก็ไม่ได้ถามว่าเพราะอะไร แต่พอจะรู้จักนิสัยใจคอกันเลยพอจะเดาออก เพื่อนคนนี้เองที่เป็นคนจัดการติดต่อบริษัททัวร์ที่นี่ และไม่พอใจเมื่อชามูร์ให้ของที่ระลึกกับแม่บุญ ทั้งๆ ที่เธอควรจะได้ก่อน..






แรกเริ่มตอนที่บริษัททัวร์ถามว่าจะเลือกที่ไหนระหว่าง Mirissa หรือ Galle แม่บุญบอกว่าอยากเลือกเมืองมรดกโลกเพราะถ้ามันไม่มีอะไรดีจริงเขาคงไม่ยกตำแหน่งให้ง่ายๆ หรอก แต่เพื่อนสาวกับสามีบอกว่า ลูกสาวเคยมาเที่ยวและบอกว่าที่แรกสวยกว่า แม่บุญแอบผิดหวังอยู่คนเดียว มิเชลปลอบใจว่าเรานั่งรถไปเที่ยวกันเองก่อนก็ได้เพราะไม่ไกล แต่ในที่สุดเมืองมรดกโลกที่มีอะไรให้ดูมากมายกลับกลายเป็นชะโงกทัวร์เที่ยววันเดียวจบ ...










ความแตกต่างระหว่างวัยของลูกสาวกับคนแก่ มันคนละความคิดกัน สาวๆ เขาอยากเล่นน้ำทะเล เดินเล่นชายหาด นอนอาบแดด แต่คนแก่อย่างเราอยากเดินชมเมืองมรดกโลก ทีให้ความน่าสนใจมากกว่านอนดากแดดเป็นไหนๆ ฉะนั้นการที่จะนำการตัดสินใจของลูกมาเป็นข้อเลือกนั้น มันเป็นการผิดพลาดที่น่าเสียดายมาก ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ที่ไม่เคยอ่านประวัติ อ่านข้อมูลก่อนออกเดินทาง มักจะบอกว่า ยังไงก็ได้ ตามใจเธอ แต่เมื่อมาเห็นกับตาก็เกิดอาการเสียดายและพากันพูดออกมา ซึ่งก็สายไปแล้ว










เวลาไปไหนกับคนกลุ่มใหญ่ อาจจะมีคนชอบที่มีคนไม่ขัด อะไรๆ ก็ตามใจเธอ ส่วนตัวของแม่บุญนั้นไม่ชอบเลย เพราะเราไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร ? น่าจะบอกความต้องการของตนเองให้แจ้งชัด จากนั้นก็มาพบกันครึ่งทาง อันนั้นน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ส่วนการตัดสินใจจากคำพูดของคนอื่นโดยไม่ได้ศึกษารายละเอียดมาก่อนก็น่าเสียดายเช่นกัน











คราวหน้าไม่ไปไหนกับกลุ่มเพื่อนๆ แล้ว แม่บุญบอกมิเชล พวกขาช้อปปล่อยพวกเขาไปเที่ยว ไปซื้อของเถอะ ฉันชอบเดินดูตึกรามบ้านช่องเก่าๆ ชอบถ่ายรูป ชอบดูวิถีชีวิตผู้คน มันมีอะไรในนั้นให้เรียนรู้มากมาย เมื่อชอบไม่เหมือนกันก็ต้องเดินกันคนละทางแล้ว...แบบนี้












เย็นนี้พวกเราลงมากินอาหารที่ห้องอาหาร ตามเคยคืออาหารแบบเดิมๆ เผอิญมื้อเที่ยงกินกันมาเยอะ มื้อเย็นเลยไม่ค่อยมีคนกินอะไรมากนัก นอกจากจะคุยกันมากกว่า จากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ช่วงบ่ายของพรุ่งนี้พวกเราก็จะเดินทางกลับกันแล้ว....


พบกันพรุ่งนี้ค่ะ















 

Create Date : 01 กันยายน 2560
17 comments
Last Update : 1 กันยายน 2560 1:05:02 น.
Counter : 2559 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnewyorknurse, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSweet_pills, คุณกะว่าก๋า, คุณเนินน้ำ, คุณtuk-tuk@korat, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณmambymam, คุณmoresaw, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณชมพร, คุณKavanich96, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสองแผ่นดิน

 


มาเที่ยวด้วยค่ะ

Maeboon Travel Blog ดู Blog

 

โดย: newyorknurse 1 กันยายน 2560 3:03:36 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ ดีจังเลยค่ะ ได้เห็นวิถีชีวิตผู้คน และได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆมากมายเลยค่ะ

 

โดย: มุล (Rauhalinen ) 1 กันยายน 2560 5:20:17 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับพี่ไก่

ผมว่าทะเลเค้าสวยและมีเสน่ห์มากๆเลยนะครับ
รวมถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมด้วย

โหวตครับพี่




 

โดย: กะว่าก๋า 1 กันยายน 2560 6:43:56 น.  

 

Maeboon Travel Blog ดู Blog

ทะเลยามเช้าสวยมากค่ะแม่บุญ

ป้อมปราการตั้งอยู่ติดทะเลนับว่าทำเลดีมากนะคะ
แต่ผู้ถูกคุมขังคงได้แต่ฟังเสียงคลื่น
ร้านรวงเล็กๆที่จำหน่ายของที่ระลึกน่ารัก น่าเดินชมมากค่ะ

การเที่ยวเป็นกลุ่ม เห็นด้วยกับแนวคิดแม่บุญเรื่องแชร์ความคิดเพื่อพบกันครึ่งทางค่ะ
สิ่งนี้น่าจะเป็นการเพิ่มความเข้าใจและความราบรื่นระหว่างทริป
ทำให้เมื่อจบทริปแล้วจะได้มีแต่ความทรงจำดีๆให้นึกถึงนะคะ

ขอบคุณแม่บุญที่พาเที่ยวค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 1 กันยายน 2560 7:27:22 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ
เที่ยวด้วยกัน ถ้าความชอบไม่ตรงกัน
หมดสนุกไปเยอะค่ะ

 

โดย: เนินน้ำ 1 กันยายน 2560 9:33:33 น.  

 

ชอบค่ะ อยากไปมั่ง

 

โดย: tuk-tuk@korat 1 กันยายน 2560 9:37:27 น.  

 

มาเที่ยวศรีลังกาต่อค่ะ

ปลาน่ากินมาก แต่ไม่เห็นมีรูปกุ้งเลยค่ะแม่บุญ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
Sai Eeuu Food Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 1 กันยายน 2560 10:03:12 น.  

 

ทะเลบ้านเค้าสวยมีมนต์ขลังมากๆค่ะ
การเทั่ยวแบบกลุ่ม บางครั้งก็อึดอัดใจเหมือนกันค่ะ
ด้วยความคิดความชอบต่างกัน

 

โดย: mambymam 1 กันยายน 2560 10:21:21 น.  

 

ภาพชุดนี้ผมถ่ายด้วยไอโฟน 5s ครับพี่
ยังใช้มือถือเดิมอยู่
เพียงแต่ใช้แอพ Snapseed ช่วยแต่งภาพครับพี่

 

โดย: กะว่าก๋า 1 กันยายน 2560 11:44:38 น.  

 

ตามมาเที่ยวต่อครับ

 

โดย: moresaw 1 กันยายน 2560 17:04:43 น.  

 

Maeboon Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ภาพแต่ละภาพ สวย...มากครับแม่บุญ..

เจอเพื่อนขี้อิจฉาแบบนี้เซ็ง... คงต้องห่าง ๆ
ไว้ไม่กล้าไปเที่ยวด้วย..

ผมนาน ๆ เจอ..ก็พอทนได้.. ตอนหลังก็ทาง
ใครทางมันครับ 555

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 1 กันยายน 2560 17:53:52 น.  

 

ขอบคุณค่ะแม่บุญ

 

โดย: mambymam 1 กันยายน 2560 19:41:19 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับพี่ไก่


 

โดย: กะว่าก๋า 2 กันยายน 2560 6:29:37 น.  

 

ขอบคุณแม่บุญมากนะคะสำหรับกำลังใจ
สุขสันต์วันหยุดค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 2 กันยายน 2560 6:52:21 น.  

 

ตามมาเที่ยวต่อค่า

 

โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน 2 กันยายน 2560 22:46:58 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Maeboon Travel Blog ดู Blog

 

โดย: ชมพร 4 กันยายน 2560 0:03:37 น.  

 

ตามมาเที่ยวต่อครับ แม่บุญ
เห็นทะเล แล้วคิดถึง อยากไปอยู่เรื่อยๆครับ

 

โดย: สองแผ่นดิน 5 กันยายน 2560 23:42:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Maeboon
Location :
กรุงเทพฯ Belgium

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [?]




แม่บุญ..เป็นหญิงไทยอายุเลยวัยรุ่นไปไกล จับพลัดจับพลูได้สามีเป็นฝรั่งแล้วก็หอบผ้าตามกันไปอยู่เมืองนอกเมืองนา พอได้เวลาหยุดงานก็กระเตงกันไปเที่ยวตามประสาตายาย ไม่มีลูกกวนตัวกวนใจ แม่บุญนั้นชอบเขียน ชอบเล่า ชอบถ่ายรูป เป็นที่สุด จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เอามาแบ่งบันกันให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้อ่าน ได้ดูกันดีกว่า ส่วนฝีมือด้านอื่น ๆ นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ทำอาหาร ก็เอามาแบ่งปันกันอีกนั่นแหละ ค่อย ๆ รู้จักกันไป รู้จักกันแล้วก็อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะ


ปล....รูปภาพต่าง ๆ หากต้องการนำไปใช้ช่วยบอกที่มาที่ไปด้วยนะคะ เป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสังคมไทยเราค่อนข้างมองข้ามในเรื่องนี้ค่ะ

free counters
New Comments
Friends' blogs
[Add Maeboon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.