นิราศหาดทรายน้อย
นิราศหาดทรายน้อย หัวหิน
ฟ้ายัง ไม่แจ้ง แสงอ่อน ชาวเรือ เข้าฝั่ง คงง่วงนอน หาปลา เหนื่อยอ่อน อยากหย่อนกาย
ฉันเหยียบ ย่ำไป ชายหาด ชื่นชม ธรรมชาติ กระหาย เหินห่าง ร้างลา ไปไกล วันนี้ พากาย มายล
หาดนี้ เมื่อหลาย ปีก่อน ฉันมา นั่งนอน หลายหน เคยผุด เคยว่าย เสียจน หน้ามน หน้าดำ คล้ำมัน
วันนี้ กลับมา อีกครั้ง แต่ต่าง จากหลาย ปีนั้น เมื่อก่อน สอนเด็ก ไปวัน ฝันฝัน ลมลม ลอยลอย
เดี๋ยวนี้ อย่าพูด ดีกว่า ปัญหา ต่างต่าง มันคล้อย เคลื่อนย้าย ถ่ายเท ทยอย มาเยี่ยม อยู่บ่อย เวลา
บางเรื่อง ก็สู้ ไม่ไหว หอบใจ กายหนี ปัญหา อยู่ห่าง คงมี ปัญญา เห็นทาง รบรา กับมัน
นั่งลง บนทราย ชื้นชื้น มัวยืน นานนาน น่าขัน เหนื่อยนัก พักหน่อย ไม่ว่ากัน ใครว่า ช่างมัน ชีวิตเรา
เหม่อมอง ไปยัง ท้องน้ำ ดูงาม ในแบบ เหงาเหงา ราบเรียบ ลมอ่อน พัดเบา คลื่นเย้า เย้ยชล คนชม
เจ้าเคย นึกแปลก บ้างไหม เหตุใด เมื่อคน สุขสม รวมทั้ง คนใจ ระทม นิยม ชมเจ้า เท่ากัน
หรือเจ้า ไม่มี หัวใจ เลยไม่ เคยคิด เหหัน ลำเอียง เพียงใคร ผูกพัน ความงาม แบ่งปัน ทุกคน
คงดี ถ้าไม่ มีใจ ไม่มี ก็ไม่ สับสน ไม่ทำ ให้ต้อง ทุกข์ทน ไม่ต้อง เสือกสน มาทะเล
หมาวิ่ง ไล่กัน สนุก ไม่ทุกข์ ไม่ร้อน สรวญเส ไล่งับ ไล่เห่า พร้าวเล ที่ลอย เซเซ ลูกเดียว
ท้องฟ้า ระบาย สีอ่อน ยากถอน สายตา ยามเหลียว นาที ที่งาม ยามเดียว พลาดจะ เสียเที่ยว ที่มา
ตะวัน ดวงกลม ชมพูเข้ม ดวงเต็ม โผล่พ้น หมอกหนา ช่างสวย จับจิต ติดตา วาจา บรรยาย ไม่ครบความ
งามอยู่ ครู่เดียว เท่านั้น ไม่นาน แสงจ้า อย่าหยาม ริอาจ จ้องชิด ติดตาม ตางาม อาจมัว นะเออ
ความสุข นั้นสั้น นานไม่ ทุกข์ได้ เข้าแทรก เสมอ ถี่บ้าง ห่างบ้าง เจ้าเกลอ ใกล้ฉัน กว่าเธอ ....เพื่อนเอย
ท้องน้ำ ระยิบ วิบวับ ลำดับ สีทา เจ้าเอ๋ย ชมพู แดงส้ม เงินเชย ไม่เคย หยุดที่ สีใด
แดดแรง ลมเริ่ม พัดลิ่ว หอบหิ้ว คลื่นซัด หวาดไหว ทุกข์ร้อน กร่อนลง ปลงไป แม้ไม่ ทั้งหมด ยังดี
คว้า จักรยาน อานสูง เดินจูง มองทะเล สักขี เจ้ารู้ ความทุกข์ ฉันมี แม้ไม่ หายดี จะกลับมา
โขดหิน คงจำ ฉันได้ กระซิบ อาลัย ภูผา น้ำตา เป็นเครื่อง สักการ์ บูชา เทพเจ้า เศร้าระทม
ผืนทราย ที่ได้ รองบาท ปูลาด รับยาม ขื่นขม ขอได้ รับคำ ชื่นชม เคยเฝ้า ประโลม กันมา
หันหลัง ขึ้นคร่อม พร้อมถีบ ไม่เร่ง ไม่รีบ หรอกหนา ยังเหลียว บอกคำ อำลา ท้องฟ้า หิน....ทราย ดวงตะวัน
จักยาน อานสูง เคลื่อนช้า ฉันขี่ เจ้าพา น่าขัน โยงโย่ ไม่สม ดุลกัน แต่นั่น ก็ดี กว่าเดิน
ธรรมชาติ ข้างทาง ช่างสวย เห็นด้วย ใจไม่ ผิวเผิน ง่ายง่าย ไม่มาก ไม่เกิน ก็พอ ให้เพลิน เจริญใจ
บึงใหญ่ ข้างทาง ว้างเวิ้ง น้ำเนิง นองเนือง ดูใส กกน้ำ ธูปฤาษี เกลื่อนไป ผักตบ สันตะวา ในวารี
ปทุม ชูดอก ริมบึง ภู่ผึ้ง ภมร สุขศรี เคล้าคลอ เคลียเจ้า เศร้าฤดี หวนคิด ทุกที หม่นใจ
บัวงาม เจ้าเอ๋ย ฉันรัก นึกน้อย ใจนัก รู้ไหม พอแสง แดดจ้า เกินไป เจ้าหุบ กลีบไว้ ไม่ให้ชม
นึกคราว อึมครึม ทึมทับ เจ้ากลับ บานกลีบ สวยสม ให้ได้ ตามติด ชิดชม นิยม รักเจ้า เนานาน
ความรัก ฉันดั่ง แดดสาย ทำร้าย กลีบบาง เผาผลาญ เจ้าหุบ เพราะรู้ เท่าทัน หากปล่อย ไว้นาน บรรลัย
เคยเห็น เคยชื่น ชมเจ้า แต่เยาว์ ครั้งยัง สดใส จนย่าง เข้ามัช ฉิมวัย เสียดาย คงไม่ เหมือนเดิม
ไม่อาจ สู้หน้า บัวเอ๋ย ไหนเลย จะกล้า ฮึกเหิม ท่าที เจ้าเปลี่ยน จากเดิม เหมือนเพิ่ม ทุกข์เจ้า เข้าใจ
ฉันอยู่ อย่างนี้ มีทุกข์ แต่ถ้า เจ้าสุข ฉันไหว อยู่ห่าง ให้เจ้า ปลอดภัย ได้เผย กลีบใบ เช่นเคย
ตื่นจาก ภวังค์ เรื่องเศร้า นี่เพิ่ง จะเช้า อกเอ๋ย หนีร้อน มาไกล ไหนเลย ยังเกย เกาะตาม หามมา
ชีวิต คนก็ แค่นี้ ทุกคน ย่อมมี ปัญหา สุขทุกข์ ต่างต่าง นานา ไม่เว้น ไม่ว่า หน้าใด
ฉันทุกข์ ก็รู้ ว่าทุกข์ ยามสุข ก็รู้ สุขไหม หมดสุข ฉันก็ เตรียมใจ ต่อไป คราวทุกข์ ถัดมา
หมดทุกข์ คราวนี้ ทีสุข ฉันจะ สนุก ให้หรูหรา เก็บกัก เติมบ่อ น้ำตา เผื่อไว้ คราวหน้า ห้าตัน
ถนน ยังยาว ไกลนัก ขลุกขลัก ฉันจึง ผ่อนผัน ไม่เคร่ง เครียดไป กับมัน ถึงทาง เรียบปั่น สบาย
เท้าถีบ จักรยาน อานสูง มาดมุ่ง ไปสู่ จุดหมาย ถึงแล้ว จะนอน เอนกาย หลับฝัน ว่าใกล้ บัวเอย
01 / 04 / 2006 (หัวหิน)
แต่งขึ้นเมื่อตอนเศร้าสุดหัวใจ ไปบอกรักคนที่แอบรักมาเนิ่นนาน แต่เขาไม่เล่นด้วย ซ้ำแรกๆยังหนีหน้า ไม่ยอมพูดยอมจาด้วย เลยหอบดวงใจอันบอบช้ำ ไปพักอยู่หัวหิน ฟังดูคุ้นๆเหมือนหนังเพื่อนสนิทเลยนะครับ แต่ชีวิตจริงมันโหดร้ายกว่านั้น เพราะไม่ได้ไปเจอนางพยาบาลที่หัวหิน ไม่ได้อ่านเจ้าชายน้อย (อ่านแต่มติชนสุดสัปดาห์) กลับมากรุงเทพฯ อาการดังกล่าวยังตกค้างอยู่อีกหลายเดือน
Create Date : 14 กันยายน 2549 |
|
11 comments |
Last Update : 16 กันยายน 2549 17:50:48 น. |
Counter : 1684 Pageviews. |
|
|
|
เขาว่ากันว่าคนชอบใส่หมวกเพราะอากาศหรือเปล่าคะ