Bloggang.com : madame_vann : ดีเบต

ดีเบต

คำว่า “ดีเบต” ในภาษาไทยจะเรียกว่าอะไร จึงจะใกล้เคียงความหมายที่แท้จริง ในกระบวนการที่จะทำให้ประชาชนสามารถตัดสินใจ

คงไม่สามารถแปลว่า “โต้วาที” อย่างที่ทำกันในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย

และไม่ใช่การ “ทะเลาะกันกลางตลาดนัด” อย่างที่บางคนที่ไม่ต้องการเห็นการดีเบตเกิดขึ้นพยายามจะตีความให้เป็น
ย่อมไม่ใช่การ “แสดงโวหาร” หรือ “วิวาทะ” ของนักการเมือง เพียงเพื่อจะน้าวโน้มให้ชาวบ้านชอบตนเพราะสามารถ “ตีฝีปาก” ให้น่าฟังกว่าอีกคนหนึ่ง

หากจะแปลให้ใกล้เคียงความหมายของรูปแบบ การแลกเปลี่ยนความเห็นที่มีคนกลางเป็นคนป้อนคำถาม และให้ดำเนินตามกติกาการเมืองที่ถูกต้อง ก็ควรจะเรียกว่า “ประชันวิสัยทัศน์” ของผู้อาสามารับใช้ประชาชน

ถามว่า “ดีเบต” เป็นเรื่องที่ควรจะจัดให้มีขึ้นเมื่อมีคนอาสามาเป็นรัฐบาลหรือไม่?

ต้องตอบว่าสมควรจะมี และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้อาสามาเป็นผู้นำประเทศ จะต้องมาตอบคำถามในประเด็นที่ผู้คนสงสัย

ไม่ได้สงสัยเฉพาะว่าผู้อาสาจะตอบอย่างไรเท่านั้น หากแต่ยังต้องการจะให้มีการเปรียบเทียบกันด้วยว่า ต่อคำถามเดียวกัน ในสถานการณ์ที่จะต้องใช้ความรู้ความสามารถของตนโดยไม่มีใครมากระซิบที่ข้างหูนั้น จะตอบว่าอย่างไร และสามารถจะเปรียบเทียบแนวคิดของตนกับของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างไร

ไม่ใช่การ “วิวาท” หากแต่เป็นการอธิบายเหตุผลของแนวคิดของตนเอง ที่ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถนำไปประเมิน เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกใครหรือไม่เลือกใคร

ในกติกาแห่งการ “เสนอตัวให้ประชาชนเลือกไปทำงาน” นั้น ความสำนึกในการตอบคำถามทุกแง่ทุกมุมเป็นเรื่องสำคัญ

เพราะการ “แถลงนโยบาย” นั้นเป็นเพียงวิธีหนึ่งของการบอกกล่าววิธีคิดของตนเท่านั้น

การให้ “สัมภาษณ์” กับสื่อตัวต่อตัว หรือการเปิด “แถลงข่าว” หรือ press conference ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งของการสื่อกับผู้มีสิทธิออกเสียง

แต่การแถลงนโยบาย การให้สัมภาษณ์เดี่ยวหรือสัมภาษณ์หมู่ หรือการแจกข่าวให้กับสื่อ และแม้การพบปะประชาชนในลักษณะ town hall meeting ก็ไม่อาจจะทดแทนการนั่งลงคู่กับผู้ที่เสนอตัวแข่งขัน เพื่อตอบคำถามเดียวกันแบบสดๆ และไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะมีคำถามอะไรบ้าง

เพราะการ “ดีเบต” ที่มีกติกา และได้มาตรฐานนั้นเป็นการทดสอบ “กึ๋น” และไหวพริบปฏิภาณ รวมถึงความรอบรู้ในปัญหาบ้านเมืองที่พิสูจน์คุณสมบัติของผู้สมัครได้ดีกว่ารูปแบบใดๆ ที่เคยปรากฏ

แน่นอนว่าผู้อาสามาเป็นผู้นำบางคนอาจจะหลีกเลี่ยงการดีเบตเพราะเห็นว่าตนได้เปรียบอยู่แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องประชันวิสัยทัศน์แบบสดๆ กับคู่แข่ง

และคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีสิทธิเหมือนที่คุณทักษิณ ชินวัตร และคุณสมัคร สุนทรเวช ก่อนหน้านี้ที่ปฏิเสธการเข้าร่วมดีเบตกับหัวหน้าพรรคคู่แข่งในรายการต่างๆ ที่เคยมีการจัดมาในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งครั้งก่อนๆ

แต่การที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมร่วมดีเบตนั้นไม่ได้แปลว่าการดีเบตเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือเพราะดีเบตนั้นๆ จะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบหรือเสียเปรียบแต่อย่างไร

ไม่มีอะไรรับรองว่าหากคุณยิ่งลักษณ์ตกลงดีเบตกับคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้วคุณอภิสิทธิ์จะได้เปรียบ หรือเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนมากกว่าคุณยิ่งลักษณ์ เพราะนี่ไม่ใช่วิวาทะ ไม่มีการเล่นโวหาร หากแต่เป็นการแสดงจุดยืนและวิธีคิดของตนในหัวข้อต่างๆ ที่ประชาชนเห็นว่าสำคัญ

ไม่แน่ คุณยิ่งลักษณ์ อาจจะได้ประโยชน์และได้คะแนนมากกว่าคุณอภิสิทธิ์ในหลายๆ ประเด็น หากเธอสามารถอธิบายความเป็นตัวตนและวิธีคิดเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง

เพราะคนไทยฟังคุณอภิสิทธิ์มามากแล้ว เผลอๆ จะเบื่อที่จะฟังหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พูดแบบแผ่นเสียงตกร่อง แต่อยากฟังเสียงสดๆ ใหม่ๆ และแปลกหูแปลกตาจากคนที่ขอเสนอตัวเป็น “นายกฯ หญิงคนแรกของประเทศไทย” ก็ได้

จะมีวิธีใดที่จะยืนยันความเป็น “ตัวของตัวเอง” ของคุณยิ่งลักษณ์ได้ดีเท่ากับฟังจากเธอเอง ต่อหน้าคู่แข่งที่มีสมญาว่า “นายกฯ โพเดียม” เล่า?

แต่ไม่ว่าใครจะตัดสินใจร่วมดีเบต เพื่อตอบคำถามตรงสดของประชาชนหรือไม่ กรุณาอย่า “ใส่ร้าย” กระบวนการ “ดีเบต” ของการวัด “กึ๋น” ของผู้อาสามาเป็นผู้ปกครองเราเป็นอันขาด

Tags : ดีเบตกันเรื่อง‘ดีเบต’ Link : //bit.ly/kfoGPp

Create Date : 20 พฤษภาคม 2554

Last Update : 20 พฤษภาคม 2554 14:38:58 น.

72 comments

Counter : 4382 Pageviews.

ผมเรียนรู้มาตลอดว่า

"คนพูดมาก
มักทำงานน้อย"

และ คนที่ทำงานจริง
ผลงานของเขา
จะเป็นตัวบอกว่าเขาทำได้ดีเพียงใด
โดยไม่ต้องพูดคำใด
แม้เพียงสักคำครับ