Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2549
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
26 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 

Sacher Cake

เมื่อหลายวันก่อนได้เห็นกระทู้ของคุณแอร์ you've got my attention ที่พาไปเที่ยวเวียนนาและพาไปชิม sacher cake ถึงโรงแรมชื่อดังต้นแบบเจ้าเค้กชนิดนี้ เลยเกิดอาการคันไม้คันมือ คันปาก อยากทำ อยากกินขึ้นมาตะหงิดๆ

ในตู้ยังมีช็อคโกแล็ตที่ฝากเพื่อนหิ้วมาจากสิงคโปร์อยู่ซะด้วยสิ อิอิ ว่าแล้วก็รีบติดต่อเพื่อนรัก Mr.Google ทันที search หาสูตร Sacher Cake ได้มาแยะเชียวค่ะ เห็นแล้วก็งงๆ เพราะมีทั้งเนื้อแบบเนยฉ่ำๆ แล้วก็เนื้อแบบชิฟฟอน แม้แต่สปันจ์ก็ยังมี เอาล่ะสิ ทำไงดี

แต่จากที่เคยทานที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เป็นแบบเนื้อฉ่ำๆ mudๆ มากกว่าก็เลยเลือกมา 1 สูตรที่ดูแล้วจะทำง่ายค่ะ :)



มาดูที่ส่วนผสมกันค่ะ Mr.Google ให้มาดังนี้

Ingredients
- 8 oz (225 g) dark semisweet chocolate (40-50% cocoa)
- 2/3 cup (140 g) butter
- 1 cup (210 g) sugar
- 4 eggs
- 1/4 cup all-purpose flour
- 4 tablespoons unsweetened cocoa powder
- 1 teaspoon baking soda
- 1 teaspoon vanilla extract
- 1/4 cup sour cream
- raspberry appricot jam for filling

มี่อ่านพลาดค่ะ เค้าให้ใช้ semisweet chocolate ที่สีเข้ม แต่ดันอ่านเป็น dark chocolate หุหุ

ซาวร์ครีมไม่มีค่ะ ใช้ plain yoghurt แทน

raspberry appricot jam มะมี เอา appricot แยมไปแทนละกันนะ อิอิ

ในสูตรไม่มี cream of tartar แต่มี่ตีไข่ขาวไม่ใส่ tartar ไม่เป็นค่ะ เติมไปซะ

เริ่มสูตรก็มั่วเค้าแล้ว ต่อไปมาดูขั้นตอนการทำแบบมั่วๆ กันค่ะ ^o^

1. ละลายเนยกับช็อคโกแล็ตเข้าด้วยกัน โดยวิธี double boiler พักไว้ก่อน

ดำปี๋เลย ออกขมนิดๆ แต่มี่ชอบค่ะ มี่ว่าถ้าคนที่เป็น chocoholic อย่างมี่น่าจะชอบนา >.>



2. เตรียมพิมพ์กลมขนาด 9 นิ้ว สูง 3 นิ้ว ทาเนยขาวหรือสเปรย์น้ำมันให้ทั่วพิมพ์ เคาะแป้งสาลีให้ทั่วๆ แล้วตัดกระดาษรองก้นพิมพ์ วอร์มเตาที่อุณหภูมิ 180 องศาซี (มี่ใช้แค่ 160 ค่ะ)

3. ร่อนแป้ง น้ำตาลป่น เบกกิ้งโซดา เข้าด้วยกัน เทไว้ในอ่างผสม



4. เทไข่แดง ซาวร์ครีม วนิลา ลงในส่วนผสมแป้ง ตะล่อมให้เข้ากัน



ตะล่อมให้เข้ากัน ไม่ให้เห็นเม็ดแป้ง อย่างนี้ค่ะ



5. เทช็อคโกแลตที่ละลายไว้ลงในส่วนผสมแป้งและไข่แดง



คนให้ส่วนผสมเข้ากัน พักไว้ก่อน



6. ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟู

แอบใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงไป 1/4 ช้อนชาค่ะ :P



แล้วนำมาตะล่อมเข้ากับส่วนผสมแป้งและช็อคโกแลต

เหมือนทำชิฟฟอนค่ะ มี่แบ่ง 3 ส่วน ตะล่อมไปทีละส่วน



ตะล่อมให้เข้ากันดีจนครบทั้ง 3 ส่วน อยากจะจิ้มดูดแต่มะกล้า หุหุ



เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำเข้าอบเลยค่ะ ใช้เวลาในการอบ ประมาณ 50 นาที



ผ่านไป 50 นาที มี่กลัวไม่สุกค่ะ ปล่อยไว้อีก 5 นาที ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าทำเป็นอย่างยิ่ง T__T เค้กแห้งเลยค่ะ



พักเค้กไว้ในพิมพ์ประมาณ 5 นาทีค่ะ แล้วแซะออกคว่ำลงบนตะแกรง



จับหงายกลับมาค่ะ หน้าแตกแถมดำอีกตะหาก ทำพระจันทร์เสี้ยวไว้หน่อยดีมะ จะเหมือนท่านเปาเลยน๊า



สไลซ์เค้กเป็น 2 ชั้น



แล้วปาดแยมแอพพริค็อตค่ะ

มี่ซื้อแยมแอพพริค็อตจากร้านมาค่ะ กะประมาณ 2 ถ้วยแล้วผสมน้ำอุ่นลงไป 1 ช้อนโต๊ะค่ะ คนๆ หน่อยแล้วก็กรองด้วยกระชอนค่ะ แยมจะได้ละเอียดๆ และปาดง่ายค่ะ



เอาเค้กชั้นที่ 2 ประกบลงไปค่ะ แล้วก็ย้ายลงบนฟอลย์ค่ะ ย้ายทำไมน๊าาาาา อิอิ



คราวนี้ก็ปาดแยมให้ทั่วๆ เค้กค่ะ เอาให้ชุ่มๆ เลย จะได้อร่อยค่ะ



เสร็จแล้วก็ห่อค่ะ ห่อฟอยล์ให้มิดค่ะ แล้วนำเข้าตู้เย็น ไม่ต้องแช่ฟรีซนะคะ มี่แช่ไว้ช่องใต้ฟรีซอ่ะค่ะ เค้าให้แช่เย็นไว้ 1-3 วันก่อนที่จะมาทำ frosting ค่ะ

มี่ทำเค้กนี้เมื่อวันอาทิตย์ตอนบ่ายค่ะ แล้วมาทำ chocolate frosting วันอังคารตอนเย็น เพราะวันพุธเป็นวันเกิดพี่คนหนึ่งที่ออฟฟิศค่ะ อิอิ



เมื่อวันก่อนมี่ตั้งกระทู้นี้ จำกันได้ไม๊คะ อิอิ ก็เพราะจะมาทำ frosting เค้กก้อนนี้ล่ะค่ะ
//www.pantip.com/cafe/food/topic/D4800887/D4800887.html

มาดูส่วนผสม frosting กันค่ะ Mr.Google ให้มาเหมือนกันค่ะ
- dark chocolate 200 กรัม
- เนยจืด 55 กรัม
- ไอซิ่ง 100 กรัม
- น้ำ 100 มิลลิลิตร

มาดูความมั่วของมี่กันค่ะ

ซื้อช็อคโกแลตมาผิดเป็น milk chocolate แทน เลยเพิ่มผงโกโก้ลงไปในสูตรด้วย 2 ช้อนโต๊ะค่ะ :P

น้ำ 100 มิลลิลิตร ไม่รู้ว่าแค่ไหน ก็กะเอาว่าน่าจะเท่ากับ 100 กรัม เลยใส่ไป 1/2 ถ้วยค่ะ (มั่วซะ)



วิธีทำ frosting นั้น ท่านพี่ Mr.Google บอกว่า
1. ให้ละลายน้ำตาลไอซิ่งกับน้ำเปล่า แล้วนำไปตั้งบนเตาให้เดือด (มี่ใส่ผงโกโก้ลงไปละลายในน้ำเปล่าแล้วค่ะ อิอิ)

2. ใส่ช็อคโกแลตลงไป คนๆ ให้ละลาย ตอนนี้จะเริ่มข้นขึ้นแล้วค่ะ ก็ยกลงจากเตา ใช้ตะกร้อมือตีให้เนียน

3. นำไปตั้งไฟต่อให้เดือดค่ะ แล้วยกลงทันที

4. นำมาตีด้วยตะกร้อมือแรงๆ ให้ข้นเหนียว แล้วตั้งไว้ให้เย็น

5. ค่อยๆ ใช้ช้อนตักราดบนเค้ก วนๆ เป็นรอบๆ จากตรงกลางเค้กไปขอบเค้ก frosting จะค่อยๆ เซ็ตตัวเอง อาจใช้ spatula ปาดให้ทั่วๆ ด้านข้างอีกที

6. เก็บ frosting ไว้หน่อยนึงค่ะ ใส่ถุงแล้วตัดปลาย บีบเขียนตัวหนังสือคำว่า "Sacher" ลงไปบนหน้าเค้ก

มี่ได้ส่วนผสม frosting สำเร็จออกมาแล้วค่ะ ก็ดูว่าเหนียวนา



ก็ไปนำเค้กออกจากตู้เย็นค่ะ แกะออกมาตกกะใจนิดโหน่ยค่ะ เค้กมันแบนลงแถมหนักแน่นมากๆ ด้วย หม่าม๊าส่ายหน้าบอกว่าเสียแน่ๆ แต่มี่ดมดูหอมค่ะ แอบสะกิดขอบๆ มาชิมดูนิดนุง อู้หูวว์ รสชาติเหมือนที่เคยไปกินที่โรงแรมแห่งนั้นในกรุงเทพฯ เลยอ่ะค่ะ ^________________^



นำเค้กมาวางบนแท่นเลยค่ะ เตรียมแต่งตัวได้



เริ่มราดช็อคลงไปค่ะ ทำตามที่สูตรจาก Mr.Google บอกเลยน๊า ราดวนๆ จากตรงกลาง แต่ไหงมันไหลเยิ้มๆ อย่างนี้ล่ะเนี่ย



ฮือ ฮือ Mr.Google หลอกเรา มันไม่ยอมเซ็ตตัวซักกะที ผ่านไป 10 นาทีได้ ก็ยังต้องนั่งปาด นั่งตักช็อคที่ไหลเยิ้มออก



แล้วในที่สุดมี่ก็จับยัดเข้าตู้เย็นช่องฟรีซไปเลยค่ะ พออยู่ตัวหน่อยก็นำออกมา พยายามจะย้ายลงกล่อง ก็ทุลักทุเลอีกแล้วค่ะ

ใช้ทั้ง spatula ทั้งมีดหั่นขนมปังช่วยกันเสียบด้านล่างซ้าย-ขวา ถ้าเป็นเค้กอื่นพอยกปุ๊บก็จะลอยขึ้นมาปั๊บ แต่นี่ มันหนืดดดดดดค่ะ frosting ก็เกาะกับแท่น ตัวเค้กก็อีก มีดเลยเฉือนเอาเนื้อเค้กด้านล่างติดออกมาด้วยเลย T____T"



ยังค่ะ ยังไม่พอ มี่ก็เอา frosting ที่งุบงิบไว้มาพยายามเขียนตัวหนังสือ จิ้นไปว่าจะออกมาสวยงาม แต่มันได้อย่างที่เห็น อยากจะร้องกรี๊ดๆๆๆ >.<



ตอนส่งรูปให้เพื่อนดู เพื่อนบอกว่า "เฮ้ยยย ยูเขียนว่าไงนั่น sucker เหรอ" มานคิดได้ไงคะ ฮือๆๆ มานั่งดูดีๆ เหมือนจะอ่านงั้นจริงๆ ด้วยอ่ะ T__T"

แต่พระเจ้ายังเมตตาค่ะ คงสงสารเจ้าของวันเกิดที่จะเป็นผู้รับกรรม ลายเส้นที่เขียนไว้ก็ละลายหายไปกับหน้าเค้ก หุหุ



ดูเอาเถอะค่ะ เจ้า frosting ยังคงไหนเจิ่งนองอยู่ ตื่นเช้ามาก็ยังเป็นอยู่ กลุ้มจริงๆ รู้อย่างนี้เมื่อคืนจับไปนอนในตู้เย็นคงดี อิอิ

พอถึงเวลาจะทำการ surprise เจ้าของวันเกิด มี่ก็เอาพลาสติกพันเค้กออก แปะแผ่นน้ำตาลลงไปบนเค้ก แล้วใช้มีดปาดๆ ช็อคด้านข้างนิดโหน่ยค่ะ ออกมาดูได้ ^o^



เสร็จแล้วก็ปักเทียนและจุดซะ ให้น้องอีกคนเตรียมปิดไฟแล้วมี่ย่องไปหลังโต๊ะพี่เจ้าของวันเกิด พอไปถึงปุ๊บน้องเค้าก็ปิดไฟ พี่เค้าก็ตกใจค่ะ "ไฟดับ!"

แล้วพวกเราก็ร้องเพลง Happy Birthday ขึ้นมาพร้อมๆ กัน ฮี่ฮี่ พี่เค้าเขินใหญ่เลยค่ะ ^____________^



เค้กก้อนเดียวตัดแบ่งเป็น 12 ชิ้นแน่ะ แบ่งแม่บ้านทานด้วยค่ะ ในออฟฟิศมี่นั่งกันอยู่ 7 ชีวิตค่ะ (ไม่รวมผู้บริหารอีก 4) แล้วก็แบ่งให้เลขาฯ ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ออฟฟิศด้วย อร่อยกันถ้วนหน้าค่ะ

จานนี้สำหรับ Office Director ค่ะ จานสวยเชียว :)



จานนี้ของมี่เองค่ะ พนักงานอย่างเราทานบนจานกระดาษ อิอิ



เนื้อเค้กนุ่ม ชุ่มๆ ดีค่ะ กลิ่นแอพพริค็อตแยมทำให้หอมมากขึ้นด้วยค่ะ



อาจจะดูไม่สวยเหมือนคนอื่นเค้าทำ แต่ก็อร่อยน๊า




 

Create Date : 26 ตุลาคม 2549
11 comments
Last Update : 26 ตุลาคม 2549 19:02:04 น.
Counter : 4236 Pageviews.

 

chocolate เยอะมากๆ

อยากทานนนนนน

 

โดย: fairy_tells 26 ตุลาคม 2549 20:57:58 น.  

 

น่าทานมากๆค่ะ

 

โดย: ~*Annie*~ 26 ตุลาคม 2549 23:40:17 น.  

 

น่ากินจังเลย)
( น้ำ 100 ml เท่ากับ 94 กรัมจ๊ะ

 

โดย: marabout 27 ตุลาคม 2549 3:12:00 น.  

 

แวะมาขอชิมที่บล๊อกอีกทีค่ะพี่มี่

 

โดย: A Little Catz (A Little Catz ) 27 ตุลาคม 2549 8:32:14 น.  

 

พี่มี่ ขร๋า

มันน่ากินมากเลย

น้ำลานนู๋ย้อยแล้วย้อยอีก

 

โดย: Kie IP: 202.226.91.228 27 ตุลาคม 2549 11:40:32 น.  

 

หน้าตาเค็กไม่สำคัญค่า แต่ความตั้งใจสำคัญกว่า ..... เค็กน่าทานมากเลยจ้าา

 

โดย: tannnnn IP: 200.72.70.23 6 พฤศจิกายน 2549 1:31:16 น.  

 

ชอกโกแลต...

ชอกโกแลต...

และชอกโกแลต...

yum yum

 

โดย: Mocha Macchiato 10 พฤศจิกายน 2549 9:08:12 น.  

 

หน้าตาชวนฝันมากๆ

 

โดย: sushiboy69 IP: 124.120.130.212 27 กุมภาพันธ์ 2550 0:35:57 น.  

 

โห ไม่เจอกันนาน มี่เก่งจังๆๆ ขอเค้ามั่งดิๆๆ น๊า นะ นะ

 

โดย: ลี่จ้า IP: 124.120.175.78 25 เมษายน 2550 11:44:15 น.  

 

อยากกินค้าบบบบบบบบ พี่มี่ น้องสาวคนนี้กำลังนั่งทำตาปริบๆ ร่ำร้องในใจว่า อยากกินเค้กฝีมือพี่มี่ค้าบบบบบบบบบ

 

โดย: Tour IP: 125.27.31.6 26 กันยายน 2550 11:01:47 น.  

 

Sacher Cake ทานเพลินเลยค่า

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 3445422 28 เมษายน 2563 12:40:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


luvammie
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ช่างฝัน ฝันเพ้อเจ้อไปเรื่อย ไม่รู้จักโต ชอบอ่านหนังสือจินตนิยาย เอาแต่ใจตัวเอง คลั่งไคล้สีชมพู สีม่วง สีฟ้า และเฮลโลคิตตี้เป็นที่สุด ชอบฟังเพลงร็อค พังค์ โดดๆ ในคอนเสิร์ต รักการทำขนมและเดินทางท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ตอนนี้ได้โลโก้และชื่อแบรนด์เป็นของตัวเองแล้ว อิอิ "The Baker Witch" แม่มดคนนี้ทำขนมไม่เก่ง แต่รักที่จะทำ ยังไงก็ฝากตัวด้วยนาคะ


Friends' blogs
[Add luvammie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.