ร้านขายของ
GALLERY
TRAVEL
REVIEW
ABOUT ME

ชมพู่มะเหมี่ยว
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]












May Duangto

Create your badge


Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
21 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ชมพู่มะเหมี่ยว's blog to your web]
Links
 

 
The Secrets....สร้างสุขเรื่องเงินทอง



คีย์เวิร์ดสำคัญของการดำเนินชีวิตคือ "ความสุข" ไม่ว่าจะออม ลงทุน หากคุณยังรักษาคีย์เวิร์ดนี้ให้อยู่ได้ ก็ถือว่า คุณประสบความสำเร็จในการสร้างสุขในเรื่องการจัดการเงินทอง แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะหาความสุขจากเรื่องเงินๆ ทองๆ ได้

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : แกะรอยจากเว็บไซต์เอ็มเอ็มฮาบิทส์ ที่แนะนำเส้นทางความสุขมาสู่เรื่องการจัดการเงินทองได้อย่างง่ายๆ สบายๆ โดยมีผู้รู้ในแวดวงการเงินมาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นถึงองค์ประกอบในวิธีการสร้างสุขเหล่านั้น

O มีความต้องการให้น้อยลง

"เรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกวิทย์ เวลท์แพลนเนอร์ จำกัด ในฐานะเลขาธิการ สมาคมนักวางแผนการเงินไทย ให้ความเห็นว่า คนเราทุกวันนี้มักไม่มีความพอ โดยเฉพาะการอยู่ในสังคมที่เป็นเสรีนิยม ทุกบริษัททุกองค์กร มีแต่การตั้งเป้าหมายเพื่อให้เติบโตยิ่งขึ้น ไม่มีบริษัทไหนประกาศว่าปีหน้าเราจะหยุดโต หรือหยุดขยายธุรกิจ ผู้คนมีความต้องการซื้อหาข้าวของกันมากขึ้น อยากได้นั่นได้นี่

"ผมว่าแค่เราเรียนรู้ที่จะใช้ให้น้อยกว่าที่หาได้
คือบันไดก้าวแรกของการสร้างสุขในเรื่องเงินทองได้แล้ว"
ข้อแนะนำของเรืองวิทย์

"บุญชัย เกียรติธนาวิทย์" กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต มองว่าแต่ละคนก็มีพื้นฐาน การเงินไม่เหมือนกัน ความรู้ความสามารถไม่เหมือนกัน ฉะนั้น วิธีที่จะทำให้มีความมั่นคงและมั่งคั่งทางการเงิน วิธีทำให้รวย หรือทำให้มีความสุขทางการเงิน ของแต่ละคนก็คงไม่เหมือนกัน

เบื้องต้นเมื่อเรามีรายได้ เราควรแบ่งเป็น 3 ส่วนเสมอ
ส่วนแรก คือ เอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ส่วนที่สองไว้สำหรับยามฉุกเฉินจำเป็น ซึ่งอาจได้แก่ กรณีต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลใหญ่ กรณีต้องช่วยเหลือจุนเจือพ่อแม่ญาติพี่น้องจากเหตุจำเป็น หรือกรณีสุดวิสัยอื่นๆ ซึ่งมักไม่ได้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
สำหรับส่วนสุดท้าย ก็จะต้องเป็นเงินซึ่งในตอนนั้น เข้าใจว่า เก็บไว้ลงทุนเพื่อให้ดอกผลเพิ่มขึ้น เป็นหลัก

"ถ้าถามว่า แล้วเราควรเชื่อกับทฤษฎีนี้ไหม คำตอบก็คือ ผมคิดว่า ควรเชื่อ และควรต้องทำให้ได้อย่างยิ่ง ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ขอยก คำถามคำตอบของคุณธีระ ภู่ตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ บลจ.ฟินันซ่า มาอ้าง คำพูดนี้ สั้นและได้ความหมายมากที่สุด คำถามคือ “มีอะไรที่แย่ไปกว่าอายุ 40 และถังแตก” คำตอบก็คือ “อายุ 50 และถังแตก” หมายความว่า การไม่มีเงิน เป็นความทุกข์สำหรับคนที่มีอายุมาก ขึ้นเรื่อยๆ "

เพราะฉะนั้น Learn to want less เป็นวิธีพื้นฐานแรกที่เห็นว่า ถูกต้องและจำเป็นในการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้จะต้องเป็นอย่างนั้นทุกเดือนหรือทุกเวลา อย่างน้อย หลักพื้นฐานก็คือ พยายามแบ่งเงินเพื่อเก็บบ้าง

O จัดระเบียบการเงิน

การจัดระเบียบการเงิน เป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งจะช่วยสร้างสุขเรื่องเงินทองให้คุณได้ เรืองวิทย์แนะนำว่าการทำบัญชีรับจ่าย หรือทำไดอารี่การเงิน จะใช้วิธีบันทึกก็ได้หรือจะทำเอ็กเซลชีทในคอมพิวเตอร์ก็ได้ นั่นจะทำให้คุณมอนิเตอร์และรู้เท่าทันฐานะการเงินที่แท้จริงได้

"การจัดระเบียบเงินทองนั้น ต้องดูให้เหมาะสมและพอดี ทั้งเรื่องการออม การใช้จ่ายและการลงทุน ต้องจัดระเบียบให้ลงตัว สร้างแบบแผนการออมในระยะต่างๆ ให้ชัดเจน หรือสำรวจการออมในรูปแบบต่างๆ ของคุณว่าเหมาะสมแล้วหรือยัง จัดระเบียบการใช้จ่ายที่ดี

เช่น คุณต้องรู้ว่าเงินที่หายจากกระเป๋าสตางค์คุณนั้นไปอยู่ที่ไหนบ้าง
มีการทำประกันเพื่อปัองกันความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นไว้บ้างหรือไม่ บางคนทำประกันไว้ยังไม่เคยรู้เลยว่า ทำไปเท่าไร ต้องส่งปีละเท่าไร เรื่องพวกนี้เราต้องจัดระเบียบให้ดี" เรืองวิทย์แนะนำ

O ตั้งเป้าหมายในชีวิต

การมีเป้าหมายในชีวิต ก็เหมือนเดินทางอย่างมีเข็มทิศ ไม่เดินหลงทางหรือเดินอย่างสะเปะสะปะ เพราะฉะนั้นเพื่อสร้างสุขในเรื่องเงินทอง ทุกคนควรจะตั้งเป้าหมายในชีวิต

เรื่องนี้ เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ดีกันอยู่แล้ว เพราะการมีเป้าหมายในชีวิตและเป้าหมายทางการเงิน ทำให้ทุกคนรู้ว่าควรจะเก็บออมเพื่ออะไร เช่น บางคนมีเป้าหมายออมเงินระยะสั้นเพื่อเก็บไว้ดาวน์บ้าน หรือบางคนมีเป้าหมายออมเงินระยะยาว เพื่อสะสมไว้ใช้ยามบั้นปลายของชีวิต

บุญชัย บอกว่า ในช่วงที่เรียนจบและมีงานทำใหม่ๆ เขาไม่ใช่นักวางแผนการเงินที่ดี ไม่เคยทำ spreadsheet ว่า เงินเข้าเงินออก อย่างไร ใช้จ่ายอะไรไปบ้าง จะเหลือเงินเก็บเท่าไร รู้แต่เพียงว่า พอได้รับเงินเดือน ก็กันเงินส่วนหนึ่งไว้เก็บเสมอ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่สถานการณ์ แต่มาให้ความสนใจเรื่องนี้จริงๆ จังๆ หลังจากทำงานมาแล้ว เกือบ 5 ปี

แต่ก็เป็นเรื่องของหาโอกาสการลงทุนที่มากกว่าการฝากเงินเก็บไว้ที่ธนาคารเพียงอย่างเดียว เขาให้ความสนใจวางแผนการเงินของชีวิตอย่างจริงจังเมื่อมีครอบครัวและเข้าสู่ธุรกิจจัดการลงทุน

"ปัจจุบัน ผมมีแผนว่า จะต้องมีเงินเก็บเท่าไร ในแต่ละปี มี spreadsheet เล็กๆ ว่ารายได้รายจ่ายเป็นอย่างไร คำนวณไปแล้วหากเก็บเท่านี้ไปจนเกษียณ ผมจะมีเงินเท่าไร และพอเพียงไหม ถ้าไม่พอเพียงจะเก็บเพิ่มหรือจะลดรายจ่ายอย่างไร เป็นต้น ที่ต้องทำแบบนี้ เพราะถ้าไม่จัดการดีๆ เราก็จะไม่รู้ว่า สถานการณ์การเงินของเราอยู่ตรงไหน และเราสบายใจกับสถานการณ์ที่ว่านั้นหรือยัง"

O วางแผนการใช้จ่าย

เป็นไปตามสูตรของการจัดการเงินทอง ที่ทุกคนควรจะมีการวางแผนเรื่องการใช้จ่าย ซึ่งเมื่อมีการวางแผน และทำตามแผน จะทำให้คุณสามารถควบคุมการใช้จ่ายไม่ให้บานปลายหรือเกินงบประมาณได้

เช่น ในแต่ละเดือน คุณรู้อยู่แล้วว่า ต้องซื้อของใช้อะไรเข้าบ้านบ้าง เขียนรายการการซื้อของเวลาไปห้างสรรพสินค้า ซื้อตามรายการ ดีกว่าเดินไป ดูไป ช้อปไป เพราะแบบนั้นจะทำให้การซื้อของเป็นไปอย่างเพลิดเพลิน และมีโอกาสเกินโควตาและเกินงบประมาณอย่างที่ควรจะเป็น

เรืองวิทย์ บอกว่า ปัญหาของผู้คนในทุกวันนี้คือ นำเงินในอนาคตมาใช้ ซื้อของเพราะหวังว่าจะได้โบนัส หรือเพราะเงินเดือนขึ้น จนทำให้บางคนเกิดการใช้จ่ายที่เกินตัว และไม่ได้ใช้เงินอย่างเหมาะสม ฉะนั้น การวางแผนเรื่องใช้จ่าย ยังเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับคนที่ต้องการสร้างสุขในเรื่องเงินทอง

บุญชัย เล่าว่า บ่อยครั้งในการทำงานของเขาตลอด 25 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่ได้เสมอที่จะเก็บเงินได้ทุกครั้ง เพราะยังเป็นมนุษย์เดินดินที่มีความอยากได้อยู่บ้าง บางครั้งก็ต้องให้รางวัลกับชีวิตเหมือนกัน เช่น ไปเที่ยวพักผ่อนไกลๆ หรือซื้อของที่มีค่า เป็นต้น แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ในท้ายที่สุดแล้ว เราไม่ได้ใช้จ่ายเกินตัว หรือใช้จ่ายบ่อยๆ เช่นซื้อแล้วซื้ออีก หรือเที่ยวกันทุกเดือน

"จะใช้จะจ่าย จะอะไรก็ตาม ขอให้มีเงินเหลือเก็บบ้าง และถ้าเป็นไปได้ ก็ควรมีเป้าหมายในใจว่า เราควรเก็บเท่าไร หรือควรมีเงินเท่าไรดีในอนาคต และอย่าลืมที่จะทบทวนเป้าหมายนี้เป็นประจำนะครับ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้เสมอๆ"

O ลงทุนอย่างมีสติ

เมื่อไหร่ที่คุณลงทุนด้วยอารมณ์ ลงทุนตามกระแสแห่ตามข่าวลือ หรือเชื่อคำเชิญชวน โอกาสที่จะทำให้เกิดกำไรและขาดทุนเกิดขึ้นได้เท่าๆ กัน ถ้าโชคดีเจอตลาดและบรรยากาศเอื้ออำนวย ก็อาจจะรอดตัวไป แต่ถ้าเจอบรรยากาศไม่เป็นใจเช่นในเวลานี้ ลงทุนแบบผลีผลาม และอาจจะเจ็บตัวได้

เรืองวิทย์บอกว่าสร้างสุขเรื่องเงินทองง่ายๆ ด้วยการลงทุนอย่างมีสติ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน และติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด

บุญชัย พูดถึงเรื่องการบริหารเงินว่า ปรัชญาพื้นฐานของการลงทุน คือ อะไรที่ให้ผลตอบแทนสูง ก็มักจะมีความเสี่ยงที่สูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้น การบริหารจัดการเงินเก็บ ก็ต้องทำแบบระมัดระวังด้วยเช่นกัน เขาคิดว่า คนเราทุกคนมีสัญชาตญาณของความอยากได้และอยากมีอยู่เป็นระยะ เพียงแต่ว่าแต่ละคนจะอยากได้อยากมี โดยมีความยับยั้งชั่งใจ หรือประเมินผลลบไว้ก่อนล่วงหน้า มากน้อยต่างกัน หลายคนที่มองโลกในแง่ดี

หมายความว่า คิดว่า มีแต่กำไร กำไร และกำไร ก็จะกระโจนเข้าใส่การลงทุนที่เห็นว่า ได้กำไรงดงามอย่างที่ไม่เหลียวหน้าแลหลังว่า หากไม่เป็นอย่างนั้น อะไรจะเกิดขึ้น จะขาดทุนจนหมดเนื้อหมดตัวเลยหรือไม่ และตัวเองจะทนไหวไหม

"ผมเชื่อในหลักการกระจายความเสี่ยงระดับหนึ่ง เพราะบางครั้งผม อาจขาดทุนจากการลงทุนด้วยความอยากได้ อยากมี ที่ผมมี แต่เงินเก็บของผม ก็ไม่ได้หมดไปเสียทั้งก้อน อย่างน้อยก็ยังมีเงินบางส่วนที่ยังปลอดภัยอยู่บ้าง

ตอนที่ผมเริ่มทำงานใหม่ๆ เงินเก็บอันน้อยนิดของผม อยู่ที่เงินฝาก มีหุ้นบ้างนิดหน่อย พอทำงานมาได้ระยะหนึ่ง ก็มีการลงทุนในหุ้นมากขึ้น เพราะเห็นว่าในระยะยาว ราคาหุ้นน่าจะเพิ่มมากกว่าการฝากเงิน ปัจจุบัน ผมอยู่ในวัยกลางคนแล้ว เงินเก็บของผมอยู่ในเงินฝาก กองทุนตราสารหนี้ กองทุนพันธบัตรรัฐบาล เงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ ประมาณ 60-70% ที่เหลือเป็นการลงทุนในกองทุนหุ้น กองทุนต่างประเทศ และ อสังหาริมทรัพย์

โปรดอย่าลืมว่า การบริหารจัดการเงินเก็บหรือเงินออมของเรานั้น ต้องคำนึงถึงโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ควบคู่กับข้อคิดว่า หากไม่เป็นเช่นนั้น แย่ที่สุดคืออะไร และอย่าลืมกระจายเงินเก็บนั้นไปในหลายๆ รูปแบบการลงทุน เพื่อลดความเสียหาย หากสิ่งที่แย่ที่สุดนั้น ได้เกิดขึ้นจริง"

O ทำประกันความเสี่ยงให้ครอบคลุม

ทำประกันความเสี่ยงอย่างรอบด้าน และให้ครอบคลุม บางคนคิดว่า

เรืองวิทย์ การทำประกันนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ข้อสำคัญคือคุณต้องดูให้รอบด้านว่าชีวิตคุณมีความเสี่ยงตรงไหนบ้าง ไม่ใช่แค่ทำประกันชีวิตเท่านั้นพอแล้ว แต่ในชีวิตจริง การประกันสุขภาพ การประกันอัคคีภัย ประกันรถยนต์ล้วนสำคัญทั้งสิ้น

"เพื่อนผมคนหนึ่ง คิดว่าตัวเองรอบคอบด้วยการทำประกันอัคคีภัยไว้กับบ้านที่ซื้อไว้ ปรากฏว่ามีน้ำป่ามาท่วมบ้าน แย่เลยคราวนี้ เห็นมั้ยว่า บางทีความเสี่ยงก็มาในรบบที่เราไม่คาดคิด เพราะฉะนั้น สำรวจดูให้รอบด้านและทำประกันให้ครอบคลุมความเสี่ยง"

ฝ่ายบุญชัยบอกอีกว่า จะเป็นเรื่องแปลกหรือไม่ถ้าจะบอกว่า financial instruments อันแรกสุดที่เขาลงทุนคือ การซื้อประกันชีวิต ตั้งแต่เมื่อเริ่มทำงานใหม่ๆ เหตุผลก็คือ คนเราเกิดมาพร้อมความไม่แน่นอน ความไม่แน่นอนที่ใกล้ตัวเราที่สุด ก็คือความไม่แน่นอนในการมีชีวิตครบ 32 รวมทั้งโอกาสของการเจ็บป่วย การประสบอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิด ได้ตลอดเวลา

"ผมพูดถึงทั้งโอกาสในการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยกรณีเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้น หากเราประสบเหตุการณ์ไม่คาดคิดมาก่อน การซื้อประกัน เป็นการซื้อความคุ้มครอง หลายคนอาจจะรู้สึกว่า ซื้อไปไม่คุ้ม เพราะไม่ได้ใช้ แต่รายการนี้ ไม่ได้ใช้ ดีกว่า ต้องใช้ "

๐เริ่มต้นคุยเรื่องเงิน

เราควรพูดคุยเรื่องเงินทองกับคนในครอบครัวให้เป็นเรื่องชีวิตประจำวัน เรืองวิทย์ มองว่า เรื่องเงินทองเป็นเรื่องที่ควรจะหยิบมาพูดคุยกันภายในครอบครัวให้เป็นเรื่องปกติ อย่าปล่อยให้เป็นความลับ เช่น พ่อแม่ก็ควรจะคุยเรื่องออมเงินกับลูก เพื่อเป็นการบอกเล่าและสอนเขาให้รู้จักการออมเงิน และการใช้เงินที่ถูกวิธี หรือแม้กระทั่งการลงทุน สามีภรรยาก็ควรจะคุยกับคู่สมรส เพื่อให้รู้สถานการณ์ทางการเงิน

O เลือกงานให้เหมาะสม

หางานที่ใช่ ที่เหมาะสม เพื่อความสุขในการทำงาน แต่เรื่องนี้บุญชัยมองว่า สมมติเราเลือกทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน หมายถึงเป็นลูกจ้าง เราก็ต้องทำงานของเราให้เต็มที่ ดีที่สุดและด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพราะจะทำให้เราได้รับการเลื่อนชั้นหรือเพิ่มเงินเดือนเป็นประจำ และทำให้เรามีฐานะที่ดีขึ้น มีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น และเมื่อเราแบ่งเงินไว้เก็บอยู่แล้ว ในที่สุดเราก็สามารถมีเงินที่เพียงพอแก่การดำรงชีวิตในบั้นปลาย ก็จะมากขึ้นเช่นกัน

ในการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็อาจจะมีการขยับขยายหน้าที่การงาน หรือเปลี่ยนงาน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่พื้นฐานก็คือ ตั้งใจทำงานเพื่อความก้าวหน้าของชีวิต และจงรักงานที่ทำ

แต่สำหรับคนบางกลุ่มที่เป็นผู้ประกอบการ หรือวิชาชีพอิสระ ก็คงหมายถึง ทำงานที่ตนเองรัก ทุ่มเทให้กับงาน เพื่อที่เราจะได้รับรายได้ที่มากขึ้นนั่นเอง กรอบของ secret นี้น่าจะให้คำนิยามของการทำงานเพื่อความก้าวหน้าด้วยการมีความมุ่งมั่นและตั้งใจ เพื่อชีวิตและรายได้ที่ดีขึ้นในอนาคต นั่นเอง

O ของฟรีมีค่ากว่าของที่ต้องซื้อ

"ดร.สมจินต์ ศรไพศาล" กรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ บอกว่าเคล็ดลับในการสร้างสุขเรื่องเงินทองนั้น ต้องยึดหลัก Less is More เขามองว่า คนที่น่าสงสารที่สุด คือ คนที่คิดว่าความสุขต้องใช้เงินซื้อมาเท่านั้น

ที่จริงแล้วถ้าเราอยากได้โน่นนี่มากเกินไป ย่อมตกเป็นทาสของเงิน ต้องหาเงินมากมาย เพื่อจะซื้อความสุขบนชิ้นของเหล่านั้นอย่างเหน็ดเหนื่อย ที่สำคัญ เมื่อความสุขของเราผูกติดอยู่กับการได้ซื้อนั่นนี่มาเป็นของตัวเอง ย่อมเป็นการยากที่เราจะเหลือเงินออมได้ เพราะเราต้องต่อสู้ขัดขืนความอยากใช้จ่ายของตัวเองอยู่ตลอดเวลา

นอกจากจะมีเงินน้อยแล้ว จิตใจก็ไม่มีสันติสุข เพราะจะรู้สึกสลับไปมาระหว่าง การฝืนใจไม่ซื้อแต่ก็โหยหากับการตามใจซื้อ แต่ก็รู้สึกผิดที่ไม่ได้ออม

ถ้าอยากจะมีเงินอย่างมีสันติสุข ต้องเป็นอิสระจากเงิน เป็นนายของเงิน การจะเป็นไทจากเงินได้ เราต้องมีความสามารถในการมีความสุขแบบไม่ต้องใช้เงินซื้อให้ได้มากๆ

"การรู้ว่า มีความสุข ที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อด้วยนะ การตื่นเช้าขึ้นมาแล้วขอบคุณพระเจ้าที่เราได้มีวันใหม่เอี่ยมอีกวันหนึ่ง สูดลมหายใจลึกๆ ดื่มด่ำกับอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า เงยหน้ามองท้องฟ้า ที่สดใสเพราะแสงอาทิตย์ยังอ่อนอยู่ แล้วชื่นชมเหล่านกน้อยแสนสามัคคีที่พากันบินเป็นฝูง ออกหากิน

นกพวกนี้ไม่มีเงินกันสักบาท และไม่มีตู้เย็นในรังด้วย แล้วแบ่งปันความเบิกบานเหล่านี้กับคนใกล้ชิด ชี้ชวนกันให้ดูความงามในธรรมชาติ ที่มีให้เห็นในทุกวันแห่งชีวิต ต้นไม้ดอกไม้ริมทาง นกบนฟ้า ปลาในน้ำ เด็กน้อยที่วิ่งเล่นในบ้าน บางคนอาจชวนกันออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ เช่น วิ่ง เดิน ยืดเส้นสายแบบโยคะ แกว่งแขน หรือรำมวยแบบจีน

เหล่านี้เป็นตัวอย่างเล็กน้อยของการมีความสุขโดยไม่ต้องใช้เงินในรุ่งเช้าของแต่ละวัน ความสุขจากสิ่งสาธารณะเหล่านี้มีมากมาย ถ้าเราเปิดตาขึ้นมองด้วยความชื่นชมด้วยความขอบคุณ ลองหลับตานึกย้อนหลังดูสิครับว่า เวลาไหนของชีวิตที่ผ่านมาที่คุณมีความสุขมากที่สุด เป็นความสุขที่ต้องใช้เงินซื้อหรือที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อ"

O ของถูกอาจไม่ด้อยกว่าของแพง

ดร.สมจินต์ บอกอีกว่า แม้ว่าในของที่ต้องใช้เงินซื้อ ของแพงอาจไม่ได้มีค่ามากกว่าเสมอไป สำหรับคนทั่วๆ ไปถ้ามีคนเลี้ยงอาหารในภัตตาคาร ให้เลือกระหว่างไข่เจียวกับสเต๊ก คงเลือกสเต๊กกันมาก เพราะมีโอกาสทานน้อยกว่า แต่ถ้าคุณเดินทางไปยุโรป ทานอาหารฝรั่งมาสักสัปดาห์แล้ว ให้เลือกใหม่ จากประสบการณ์ของเขาพบว่า คนไทยทุกคนเลือกไข่เจียวกับข้าวสวยร้อนๆ เสมอ

"ผมเคยสอบถามผู้ฟังในงานสัมมนาว่า ถ้าให้เลือกระหว่างอาหารทั้งสองอย่างนี้อย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียวไปนานๆ จะเลือกอะไร ก็พบว่าไข่เจียวชนะขาดเสมออีก"

O ของน้อยอาจดีกว่าของมาก

ทำไมห้องในโรงแรมจึงสวยกว่าห้องที่บ้านของเราเสมอ ดร.สมจินต์ ตั้งคำถามขึ้น และเขามองว่า เหตุผลหลักก็คือ โรงแรมไม่มีของเกินจำเป็น มีแต่สิ่งที่จำเป็นจะต้องมี ไม่เหมือนที่บ้านของเรา ที่ขยันซื้อนั่นนี่มาจนดูรกไปหมด สูญเสียความโปร่งโล่งที่ควรจะมี

เมื่อเรารู้จักชื่นชมกับความสุขที่ไม่ต้องใช้เงิน หรือใช้แต่น้อย เราย่อมมีเหลือไว้ออมได้อย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องฝืน และนี่เองเป็นเคล็ดลับประการสำคัญว่า คุณจะมีอิสรภาพทางการเงินหรือมีสันติสุขในเรื่องเงินทองได้ ตั้งแต่เริ่มมีความสุขโดยไม่ต้องใช้เงิน ซึ่งอาจเขียนเป็นผังได้อย่างนี้

"ความสุขที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อ นำไปสู่ การมีเงินออมได้ง่ายขึ้น และนำไปสู่ การมีเงินมากขึ้น และนำไปสู่ การมีความสุขมากขึ้น ผมคิดว่าคนเราทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าต้องมีเงินแล้วจึงมีความสุข แต่จงมีความสุขเสียก่อน แล้วคุณก็จะมีเงินด้วยในเวลาไม่นาน" ความเห็นของ ดร.สมจินต์

ความลับในการสร้างสุขเรื่องเงินทองทั้งหมดข้างต้น หวังว่าหลายคนจะหยิบไปใช้ได้ เพื่อให้มีความสุขเรื่องเงินทองอย่างแท้จริง

21 ตุลาคม พ.ศ. 2551 00:00:00
bangkokbiznews


Create Date : 21 ตุลาคม 2551
Last Update : 27 กรกฎาคม 2552 17:32:29 น. 0 comments
Counter : 523 Pageviews.
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.