ความผิดพลาดในวันนั้น กับว่าที่ แอร์ JAL ในวันนี้
หลังจากผ่านการสัมภาษณ์รอบสอง เราก็ยังแอบไปสมัครอิมิเรต แต่ก็แห้วไปตามระเบียบเพราะแตะเส้นไม่ถึง ตอนนั้นไม่ได้เสียใจอะไร เพราะเราฝากความหวังไว้กับ Jal แล้ว
เรารอด้วยใจจดจ่อ รอจนถึงวันประกาศผล เราตื่นเต้นมากๆ และหวังไว้อย่างมากว่าต้องมีชื่อเราอย่างแน่นอน แต่ทุกอย่างมักไม่เป็นดังหวังเสมอ เมื่อผลออกมามันไม่มีชื่อเรา อาการตอนนั้นเหมือนคนอกหัก เหมือนเพิ่งถูกแฟนทิ้ง เหมือนพึ่งจับได้ว่าแฟนไปมีชู้ เหมือนสอบตกได้ F เสียใจมาก แต่ก็บอกตัวเองว่า ช่างมัน เราพยายามที่สุดแล้ว ตั้งใจทำงานที่ทำอยู่ละกัน เราคงไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ หาเส้นทางใหม่ที่เหมาะกับเราดีกว่า
หลังจากนั้นเราก็เปลี่ยนงาน มาเริ่มงานใหม่ ทำงานใหม่ หยุดคิดเรื่องแอร์ ตั้งใจทำงานตรงนี้ถึงที่สุด และในที่สุดเราก็เริ่มเบื่องาน เราไม่ชอบนั่งออฟิสเลยจริงๆ เราเลยเริ่มคิดเรื่องไปเรียนต่อโท ที่มาเลเซีย ปีนัง เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้แฟนเรา เพื่อที่จะได้หาสิ่งที่ชอบนอกเหนือจากแอร์ แล้วเราก็เริ่มหาที่เรียน เริ่มหาทุน ในเวลาเดียวกัน (ประมาณพฤศจิกายน 2006) Jal ก็ดันมาเปิดรับซะอีก ตอนแรกเรากะจัดตัดใจไม่สมัครแล้ว ยังอกหักไม่หาย แต่ด้วยแรงขับภายใน เราจึงลองเสี่ยงดูอีกครั้ง คราวนี้เราไม่หวังอะไรมากมาย ถือเป็นการสมัครครั้งสุดท้าย ทุกอย่างๆ ดำเนินไปตามกระบวนการเหมือนเดิมทุกอย่างตั้งแต่ สมัครออนไลน์ คราวนี้เราได้ หมายเลข 1006 จนมาถึงวันสัมภาษณ์รอบแรก
วันสัมภาษณ์รอบแรก เราก็เข้าไปในห้องกรรมการพร้อมกับเพื่อนๆที่ร่วมชะตากรรม อีก 4 คนรวมเราเป็น 5 เรานั่งเป็นคนที่ 4 ของกลุ่มได้พูดเป็นคนที่ 4 ในความรู้สึกเรา บรรยากาศครั้งนี้แตกต่างกับครั้งแรกมาก ดูทุกคนแข่งขันกันสูง พยายาม present ตัวเองอย่างเต็มที่ อย่างการแนะนำตัว บางคนก็แนะนำยาวมากๆ ยาวจริงๆ จนทุกๆคนในกลุ่มต้องส่งสายตาอ้อนวอนว่า มึงช่วยจบซะทีเดี๋ยวกรูจะไม่ได้พูด เราเองไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้วก็แนะนำตัวไปคร่าวๆ รู้สึกจะสั้นที่สุด แต่เราหาความแตกต่างจากคนอื่นตรงที่ เรายกมือไว้ กล่าว สวัสดีค่ะ ก่อนแล้วค่อยพูด Good morning เราคิดว่า เราเป็นคนไทยนะ เราไม่ควรลืม เพื่อนหลายๆคนลืม อาจเป็นเพราะตื่นเต้น และรู้สึกเคอะเขินที่ต้องทำ เพราะพูดภาษาไทย และก็มาพูดภาษาอังกฤษ แต่เราว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ควรทำ
หลังจากนั้นคำถามกลุ่มก็คือคำว่า Service Mind ดูเหมือนง่ายแต่ก็ทำเรา แล้วก็คนอื่นๆ อึ้งเหมือนกัน ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน คำถามมันกว้างมากๆ เราจำของคนอื่นไม่ได้แต่เราตอบไปว่า In my opinion, service mind is try to exceed customer expectaion. If a passenger ask coffee, I will give him a cup of hot coffee and fresh bread. Thank you โปรยยิ้ม แค่นั้น แล้วก็กลับบ้าน ไม่คิดว่าจะได้ วันที่เชคผลเราก็เชค แล้วก็ผ่าน ตอนนั้นบอกตามตรงว่าไม่อยากไปสมัครแล้ว แต่เราเป็นคนนิสัยเสีย คือ ทำแล้วต้องถึงที่สุด ก็เลยไปสัมภาษณ์รอบสอง คำถามยากกว่าคราวที่แล้ว เจาะลึกเรื่องงานที่เราทำอยู่ ถามเราว่า When you will be happy? โห ยากนะเนี่ย เราก็ตอบแบบไม่ได้คิดไรเลย I'm happy everytime because if I think, I'm happy, I will be happy and people around me will be happy. Although I feel down but when I try to make myself happy I will be happy. ตอบงง งง แต่ก็ตอบมาแล้ว ต่อจากนั้นเค้าก็ถามว่า Can you speak Japanese? ...... NO SIR นั้นคือ คำตอบของเรา เค้าถามย้ำอีกครั้งว่า Just a little ตอนนั้น คิดในใจ ก็กรูไม่รู้ จะให้กรูพูดได้ยังไง จะให้กรูพูด โตโยต้า ฮอนด้า ยามาฮ่า โตชิบ้า เหรอวะ แต่ก็แอบคิขุ และบอกว่า ได้ประโยคเดียวจริงคือ Watashiwa kawaii แปลว่า กรูน่ารัก อย่าคิดว่าจะจบด้วยคำชมนะค่ะ ฮากลิ้งค่ะ ไอ้กรรมการที่เก๊ะ ทั้งหลาย ฮาแตกเลย ก็ใครวะ โคตรบ้ามานั่งบอกคนอื่นว่ากรูน่ารักนะ เหอๆๆ ก็บอกแล้วว่าไม่รู้ ไม่รู้
ออกมากจากห้องนั้นด้วยความรู้สึกขำตัวเอง แต่คราวนี้สติยังไม่แตกเข้าไปคุยกับ CEO ซึ่งก็เป็นคนเดิมนั่นแหละ เค้าก็ถามว่าเคยทำงานกับคนญี่ปุ่นไม๊ และก็คำถามเกี่ยวกับงานเรา แค่นั้นจบกลับบ้าน
คราวนี้เราพยายามเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด เราไม่ทำ Self และไม่ทำร่าเริงจนเกินงามแบบครั้งแรก เราไม่หวังมาก เราเลยไม่เกร็งมาก และการลดความมั่นใจลงก็จะทำให้เรา ดูหัวอ่อนลงด้วย นี่คือสิ่งที่เราวิเคราะห์มา หลายคนถามเราว่าจะเตรียมตัวยังไงในการสมัครแอร์ เราเคยตอบว่า ต้องไปเรียน ต้องอ่านหนังสือ ต้องหาข้อมูล ตอนนี้เราก็จะตอบแบบนั้น แต่เราจะเพิ่มเข้าไปว่า หาข้อมูลเพิ่มเติม และเตรียมเป็นตัวของตัวเอง
เมื่อวันประกาศผลสัมภาษณ์เราผ่านรอบสอง ไปตรวจร่างกาย การตรวจร่างกายของที่นี่ก็ละเอียดซะจน เราคิดว่าคนอย่างเราจะไม่ผ่านแล้ว แต่มันก็ผ่านเข้ามาจนได้ ตอนนี้เรารอเทรนอยู่ เราโดนเรียกเป็นรุ่นที่ 91 ไปรายงานตัววันที่ 21 เมษายนนี้แล้ว
หน้านี้เขียนยาวมากๆ เพราะอยากจะอัพให้ถึงตอนปัจจุบันแล้ว ถ้าใครอยากได้ข้อมูลตรงไหน เพิ่มเติมก็ฝาก comment ไว้นะคะ แล้วหลินจะมาแชร์ให้ฟัง อย่างเช่น ขั้นตอนการตรวจร่างกายหรือ ตอนทำเอกสารต่างๆ แอบเอารูปวันสมัครสัมภาษณ์ครั้งที่สองมาลง ตอนนั้นถ่ายไว้เพราะคิดว่าคงไม่สมัครแล้ว อิอิ ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ
Create Date : 08 เมษายน 2550 |
|
41 comments |
Last Update : 17 เมษายน 2550 12:06:20 น. |
Counter : 18092 Pageviews. |
|
|
|
แต่แปลกจังไม่รู้ทำไมอ่านไปยิ้มไปโดยเฉพาะตอนที่คุณบอกว่าคุณน่ารักเป็นภาษาญี่ปุ่น