Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
10 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
เนวินยกก้นมาร์ค ท่านนายก 4 พรรคผนึกหนุน

การจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อ 4 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมได้แก่พรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาและพรรคมัชฌิมาธิปไตย ออกมาแถลงยืนยันว่า จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะที่พรรคเพื่อไทยยังมั่นใจว่า จะชนะในการโหวตเลือกนายกฯ ในสภาฯ

“อภิสิทธิ์” ขึ้นศาลคดีไทยรักไทย

ที่ศาลอาญา เวลา 09.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. ศาลนัดสืบพยานจำเลย ในคดีหมายเลขดำ ที่ อ.908/2549 ที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เป็นโจทก์ฟ้องพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 49 นายสุเทพและนายองอาจร่วมกันแถลงข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ ทำนองว่า นพ.พรหมินทร์และกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยรวม 4 คน เกี่ยวข้องกับการจ้างพรรคเล็กลงรับเลือกตั้ง ในวันที่ 2 เม.ย. 49 ทำให้โจทก์เสียหาย นายอภิสิทธิ์ขึ้นเบิกความในฐานะพยานจำเลยว่า ในวันดังกล่าวไม่ได้ ร่วมแถลงข่าวกับจำเลยที่ 3-4 และไม่ได้อยู่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่เคยสั่งการให้จำเลยที่ 3 แถลงข่าว รวมถึงไม่ทราบเรื่องการเผยแพร่ข่าวที่จำเลยที่ 3-4 แถลงผ่านเว็บไซต์ของพรรคประชาธิปัตย์

ยันไม่ได้หักหลังพรรคประชาราช

ภายหลังขึ้นเบิกความในฐานะพยานจำเลย นายอภิสิทธิ์เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการรวบรวมเสียง ส.ส.เพื่อจัด ตั้งรัฐบาลว่า เรื่องการประสานงานกับกลุ่มพรรคการเมืองต่างๆนั้น มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ดำเนินการ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีปัญหาอะไร โดยพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงเดินหน้าพบพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่างๆ เชื่อมั่นว่าทุกพรรคเปิดโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาบริหารประเทศ ทางพรรคมีความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ต่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ว่า หักหลังที่จะให้จัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ขอยืนยันว่าไม่มีการหักหลัง แต่น่าจะเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด ทำให้มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลจะสามารถเดินทางลงพื้นที่ ทั้งภาคเหนือและภาคอีสานได้ เพราะไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร

“สุเทพ” ยอมรับตัวเลขยังไม่นิ่ง

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความชัดเจนในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้ตัวเลขยังไม่นิ่ง ต้องยอมรับความเป็นจริง ว่าทางโน้นทั้งดูดทั้งดึงพลังมหาศาล ราคาก็ขึ้นเรื่อย ส่วนข้างตนก็อยู่ด้วยใจด้วยอุดมการณ์ แต่ก็ยังยืนอยู่ด้วยขาสั่นๆ นิดหน่อย แต่ไม่เป็นปัญหาอะไร เมื่อถามว่า มีข่าวถึงขั้นว่าอีกฝ่ายเสนอตำแหน่งให้ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เป็น รมว.กลาโหม และเสนอให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นนายกรัฐมนตรี จะทำให้เกิดการเปลี่ยนขั้วหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า ยังไม่คิดอย่างนั้น ยังเชื่อในอุดมการณ์ของเพื่อน ส.ส.จากพรรคต่างๆกลุ่มต่างๆ ทุกคนตระหนักดีว่าบ้านเมืองมีปัญหา เราจึงต้องหาทางออกให้บ้านเมืองโดยระบอบรัฐสภา เพราะฉะนั้นก็มาคิดจัดตั้งรัฐบาลเปลี่ยนขั้วกันใหม่ ซึ่งคิดกันมานานแล้ว

หากมีคนเปลี่ยนใจก็คงไม่ว่ากัน

“แต่ถ้าเจอสิ่งยั่วยวน สิ่งเร้าใจอย่างที่เขาเสนอมา แล้วเปลี่ยนใจ ก็คงไม่ว่าอะไรเขา แต่เชื่อว่าพี่ๆน้องๆนักการเมืองเหล่านั้นก็ต้องคิดมาก ผมดูตัวเลขที่เขาคุยๆ กันแม้ว่าจะทำให้บางส่วนกลับไปได้ เขาก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ผมดูตัวเลขแล้วเขารวมได้อย่างเก่ง สมมติว่าเขาทั้งซื้อ ทั้งดูดอะไรไปได้หมด เขาคงมากกว่าผมสัก 6-7 เสียง ผมว่าถ้าเขาทำได้อย่างมากที่สุด เขาก็คงทำได้ประมาณสัก 225-226 เสียง มันก็จะเกินครึ่งไป 5-6 คน แล้วเขาจะเอาเวลาไหนไปบริหารบ้านเมือง เดินเข้าห้องน้ำก็ไม่ได้” นายสุเทพกล่าว

ต่อข้อถามว่าแสดงว่ายังมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่คิดว่าเขาทำได้ เพราะว่า 1. ความรู้สึกของประชาชนไม่รับ นักการเมืองทั้งประเทศก็ต้องเข้าใจดี 2. วิธีการที่เขาใช้ดำเนินการไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง นัก การเมืองเหล่านั้นที่เขากวาดต้อนไปติดหนี้บุญคุณถูกกดดันสารพัดไม่มีความสุข แล้วยังต้องตอบคำถามประชาชนอีก จึงไม่ค่อยหนักใจ ผู้สื่อข่าวถามว่า หากทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้จะทำอย่างไร นายสุเทพ ตอบว่า ถึงนาทีนี้ยังมั่นใจว่าเราตั้งได้ เพราะเชื่อมั่นในความมีเหตุมีผลของพี่น้องนักการเมือง ที่ต้องคิดถึงทางรอดของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

อ้าง “เสนาะ” เข้าใจผิด ปชป.หนุน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เรียกร้องพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์มาตั้งรัฐบาลด้วยกันทั้งหมด และให้คนใน 5 พรรคเล็กมาเป็นนายกฯ เพื่อแก้ปัญหา นายสุเทพตอบว่า ไม่เป็นไรขอฟังเฉยๆก่อน เพราะนั่นเป็นความคิดของนายเสนาะ ส่วนพวกตนก็เดินในแนวทางเดิมที่ได้เดินมาแล้ว ต่อข้อถามว่านายเสนาะอ้างว่าสิ่งที่พูดออกมานั้น เคยพูดกับนายสุเทพแล้ว นายสุเทพตอบว่า วันนั้นคิดว่าเราพูดกันทางโทรศัพท์ จริงๆแล้วเชิญนายเสนาะมาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ด้วยความที่เป็นเด็ก ก็พูดจาใช้คำที่สุภาพเรียบร้อยไปหน่อย บังเอิญอาจจะทำให้นายเสนาะเข้าใจผิด และตอนที่โทรศัพท์นั้นก็มีเพื่อนๆต่างพรรคนั่งกันอยู่หลายคน เพื่อนๆก็เตือนแล้วว่าพูดอย่างนี้นายเสนาะอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ คิดว่าไปสนับสนุนให้นายเสนาะเป็นนายกฯเลยทิ้งไว้ก่อน แต่วันหลังก็โทร.ไปหานายเสนาะ ซึ่งนายเสนาะก็เข้าใจ แล้วบอกว่าขออยู่เฉยๆก่อน ซึ่งคำพูดที่ว่าอยู่เฉยๆ ก็เข้าใจว่าท่านคงตั้งหลักว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ แต่อยู่เฉยๆ ของท่านอาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้

เพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้ก็บริหารยาก

เมื่อถามว่า มองหรือไม่ว่านายเสนาะเป็นผู้เดินเกมให้พรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล นายสุเทพตอบว่า ยังไม่คิดอย่างนั้น ซึ่งก็ไม่เป็นไรถ้านายเสนาะจะเป็นคนเดินเกม ต่อข้อถามว่าขณะนี้คิดว่ามีกี่เปอร์เซ็นต์ที่พรรคประชาธิปัตย์สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นายสุเทพตอบว่า ไม่ต้องเอาเป็นเปอร์เซ็นต์ แต่มั่นใจเลยว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ และที่มั่นใจไม่ใช่ว่ามั่นใจในขีดความสามารถของพรรคประชาธิปัตย์ หรือตัวตน แต่มั่นใจเพราะเชื่อใจเพื่อนนักการเมืองจากพรรคต่างๆกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนนักการเมืองที่ออกมาจากพรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน กลุ่มคุณสรอรรถ กลิ่นประทุม ที่ยอมเสียสละ ถ้าไม่มีพวกเขาก็ไม่มีวันที่จะคิดฝันเปลี่ยนขั้วได้เลย ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคเพื่อไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นในบ้านเมือง นายสุเทพตอบว่า เราก็ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลเหมือนเดิม นายอภิสิทธิ์ก็เป็นผู้นำฝ่ายค้านต่อไป ตนก็เป็น รมว.เงามหาดไทย ตรวจสอบรัฐมนตรีของรัฐบาลต่อไป ส่วนอายุของรัฐบาลหากพรรคเพื่อไทยตั้งได้นั้น ก็อย่าไปปรามาสว่าเขาจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ แต่เสียงที่เขาเกินไป 5-6 เสียง คิดว่าเขาบริหารบ้านเมืองยาก

มั่นใจกลุ่มเพื่อนเนวินไม่หักหลัง

ต่อข้อถามว่า ปัญหาอยู่ที่ว่าพรรคอื่นอาจจะเทไปรวมกับพรรคเพื่อไทยแล้ว เหลือพรรคประชาธิปัตย์ ให้เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว นายสุเทพตอบว่า อย่างน้อยก็มั่นใจว่ากลุ่มเพื่อนเนวินจะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากเคยทำงานการเมืองกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน และต่อสู้กันมาก็มาก ต้องเรียกว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ค่อนข้างจะรุนแรง รู้ว่าชีวิตจิตใจความคิดเขาเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น เวลามาทำงานร่วมกัน เข้าใจและก็เชื่อใจนายเนวินด้วย ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าจะมีการชิงยุบสภาก่อนจัดตั้งรัฐบาลได้ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ตอบว่า เลยเรื่องยุบสภาไปแล้ว อย่าไปกังวลใจเลย วันนี้เอาว่าใครตั้งรัฐบาลได้กันดีกว่า และโดยธรรมเนียมแล้ว นายกฯรักษาการไม่มีใครเขายุบสภา และยังไม่เคยมีในประวัติศาสตร์เลย ดังนั้น จึงไม่เชื่อว่านายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกฯจะทำ เพราะท่านเป็นคนมีเหตุผล และเชื่อว่าคนในวันนี้ต้องทำทุกอย่างด้วยเหตุผล การเมืองก็ต้องโปร่งใสต้องให้ประชาชนเข้าใจได้ การเมืองไม่ใช่เรื่องของนักการเมือง และของพรรค การเมืองอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเรื่องของคนทั้งประเทศทุกภาคส่วน

ปชป.เจอดีทั้งโดนด่าและให้ของลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.20 น. ขณะที่นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพรวมทั้งแกนนำและ ส.ส.ของพรรค นั่งหารือกันอยู่ที่ร้านกาแฟ หน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อรอเวลาเดินทางไปแสดงความขอบคุณนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่บ้านริมถนนราชวิถี ระหว่างนั้นได้มีรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน ซาลูน สีดำ ติดฟิล์มทึบ ขับผ่านหน้าที่ทำการพรรคอย่างช้าๆ และบีบแตรเป็นจังหวะมาแต่ไกล เมื่อมาถึงด้านหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชายคนขับรถก็ลดกระจกด้านข้าง พร้อมกับชูมือขวาขึ้นมาเหนือหลังคารถ พร้อมยกนิ้วกลาง แล้วบีบแตรดังถี่ จากนั้นก็เร่งเครื่องขับออกไป ทำให้ ส.ส.ที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับอึ้ง บางคนตั้งสติได้ก็โห่ไล่จนรถยนต์ลึกลับพ้นสายตา นอกจากนั้นยังมีผู้หญิงวัยกลางคนสวมเสื้อแดง มายืนตะโกนด่าเสียงดังลั่นอย่างโกรธแค้นว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เป็นประชาธิปไตย อยากเป็นรัฐบาล ไปแย่งเสียงเขามา หน้าไม่อาย แถมหัวหน้าพรรคยังไม่ยอมเกณฑ์ทหาร ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องมาเชิญตัวออกไป

4 พรรคประชุมกำหนดท่าทีอีกรอบ

เมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน ที่โรงแรมโฟร์ซีซัน ถนนราชดำริ แกนนำอดีตพรรคร่วมรัฐบาล 4 พรรค ได้แก่ พรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาและพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้นัดหารือเพื่อแถลงจุดยืนทางการเมืองร่วมกัน โดยมี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รองหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี แกนนำกลุ่มโคราช พรรคเพื่อแผ่นดิน นางพรทิวา นาคาศัย อดีตเลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตย เข้า หารือและรับประทานอาหารร่วมกัน โดยก่อนการหารือ พล.อ.เชษฐากล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะคุยเรื่องอะไร เพียงแต่ได้รับการประสานมา แต่พร้อมที่จะอยู่ตรงกลางยึดหลักความปรองดองอยู่แล้ว หากฝั่งไหนดีก็พร้อมจะร่วมงานด้วย

ในขณะที่นางพรทิวากล่าวว่า ส.ส.ทั้ง 10 คนของพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้ย้ายไปรวมกันที่พรรคภูมิใจไทยทั้งหมดยังคงเหนียวแน่น ไปไหนไปด้วยกัน

ยืนยันสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์

ต่อมาเมื่อเวลา 13.20 น. แกนนำของอดีตพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดย พล.ต.สนั่นกล่าวว่า อดีตพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 4 พรรค ที่เคยร่วมกันแถลงจุดยืนที่โรงแรมสุโขทัยไปแล้ว แต่หลังจากนั้นข่าวสารก็เสนอไปในทิศทางต่างๆ จนทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ทั้งหมดจึงได้ประชุมและมีความเห็นร่วมกันว่าจะทำงานการเมืองร่วมกัน มีอะไรจะปรึกษาหารือกัน ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆ ทั้ง 4 พรรคจะไม่ดึง ส.ส.ของกันและกัน เพื่อเข้าพรรคของตัวเอง เพื่อเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทั้ง 4 พรรคจะไม่ส่งผู้สมัครลงในพื้นที่เดิมที่แต่ละพรรคเป็นเจ้าของพื้นที่ วันนี้ประชาชนมีความสับสนมาก จึงต้องรวมตัวกันประกาศให้ประชาชนได้รับทราบจุดยืนอีกครั้ง เนื่องจากเร็วๆนี้รัฐบาลใหม่ก็จะเกิดขึ้น ทั้ง 4 พรรคจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อถามย้ำว่า ยังสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเช่นเดิมหรือไม่ พล.ต.สนั่นตอบว่า พวกตนได้แถลงไปแล้วเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่โรงแรมสุโขทัย นั่นคือคำตอบแล้ว ยังยืนยันที่จะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์อยู่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ จะแจ้งข้อตกลงในวันนี้ให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับทราบด้วย เพราะตามมารยาทพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ควรส่งผู้สมัครลงในเขตเดิมของพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน

ทุกฝ่ายรู้หน้าที่ของตัวเองดีอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า พร้อมจะสนับสนุนคนที่ไม่ได้เกณฑ์ทหารเป็นนายกฯใช่หรือไม่ พล.ต.สนั่นตอบว่า กองทัพมีหลักเกณฑ์อยู่แล้ว ถ้าผิดจริงนายอภิสิทธิ์คงไม่ได้เป็นอาจารย์ของนักเรียนนายร้อย จึงขอให้ไปถามกองทัพเองว่ามีหลักเกณฑ์อย่างไร เมื่อถามว่า หากนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯก็จะมีม็อบเสื้อแดงต่อต้าน ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร จะเสนอชื่อคนของตัวเองเป็นนายกฯ เพื่อลดกระแสขัดแย้งหรือไม่ พล.ต.สนั่นตอบว่า โดยมารยาทต้องให้พรรคที่มีเสียงข้างมากคัดสรรคนก่อน ส่วนพรรคอื่นจะเสนอได้ต่อเมื่อพรรคที่มีเสียงข้างมากหาตัวนายกฯไม่ได้เท่านั้น เมื่อถามอีกว่า มั่นใจได้อย่างไรว่าถึงวันเลือกนายกฯพรรคประชาธิปัตย์จะจัดตั้งรัฐบาลได้ พล.ต.สนั่นตอบว่า 4 พรรคร่วมรัฐบาลกับอีกหนึ่งกลุ่มของนายเนวินยังยืนยันว่ามีเสียงข้างมาก เมื่อวันก่อนก็เห็นตัวเลขแล้วอยู่ที่ 240 กว่าๆ ตอนนี้ทุกฝ่ายรู้หน้าที่ของตัวเองดีอยู่แล้ว ยอมรับว่าข่าวที่ออกมาขณะนี้เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง ที่จะต้องมีการปล่อยข่าวบลั๊ฟกันเพื่อแย่งชิงเสียงสนับสนุน เมื่อถามว่าคิดว่าเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งไม่มาก จะบริหารงานได้อย่างราบรื่นหรือไม่ พล.ต.สนั่นตอบว่า ต้องเดินไปข้างหน้าก่อน ถ้าไม่เดินก็ไม่รู้

“เชษฐา” ปัดแนวคิดรัฐบาลเพื่อชาติ

พล.อ.เชษฐากล่าวถึงข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย ที่จะให้ตัวเองนั่งเก้าอี้นายกฯว่า ไม่มีข้อเสนอนี้ และนาย เสนาะ เทียนทอง ก็ไม่ได้เสนอชื่อตน เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับแนวคิดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ พล.อ.เชษฐาตอบว่า เป็นเพียงแนวคิดหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่จะทำได้หรือไม่ ไม่ทราบ เมื่อถามว่า ท่านเต็มใจร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ พล.อ.เชษฐาปฏิเสธที่จะตอบคำถามโดยระบุเพียงว่า พล.ต.สนั่นได้พูดไปหมดแล้ว

ร.ต.หญิงระนองรักษ์กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ให้มาแถลงจุดยืนในนามพรรค มั่นใจว่าเสียงทั้งหมดของพรรคที่มีอยู่ 25 เสียง จะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์และเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเสนอให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นนายกฯ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ตอบว่า พรรคเพื่อแผ่นดินสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.ประชาเรียบร้อยแล้ว

นางพรทิวากล่าวว่า ที่ประชุมได้ย้ำถึงจุดยืนเดิมในการร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง พล.อ.เชษฐาก็เห็น ด้วย และไม่ได้มีความเห็นขัดแย้งใดๆ กลับเห็นดีเห็นงามด้วย โดยขณะนี้การจัดตั้งรัฐบาลก็คืบหน้าไปมากแล้ว

ปชป.ส่งเทียบเชิญ “สุวัจน์” ถึงบ้าน

เมื่อเวลา 12.30 น. นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ พร้อมแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้าพบนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา โดยนายอภิสิทธิ์ได้มอบแจกันดอกกุหลาบสีแดง จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ให้กับนายสุวัจน์ และ พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ อดีต รมว.พลังงาน ภรรยานายสุวัจน์ โดยนายอภิสิทธิ์ได้กล่าวทักทายว่า มาขอคำแนะนำ เพราะต้องการระดมความคิดเห็นว่า ทำอย่างไรให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งนายสุวัจน์ได้กล่าวตอบว่า ลูกชายก็เรียนอยู่ที่อีตัน ประเทศอังกฤษ ก็ได้รับคำแนะนำจากนายอภิสิทธิ์ ส่วนลูกสาวที่เรียนที่ออกซ์ฟอร์ด ก็เชียร์นายอภิสิทธิ์ เพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องมหาวิทยาลัยเดียวกัน เมื่อถูกถามว่า แล้วจะฝากไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายสุวัจน์ตอบว่า ก็แล้วแต่ว่าหัวหน้าฯจะรับหรือไม่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์กล่าวยิ้มๆ ต้องถามว่าเขาสนใจการเมืองหรือเปล่า แต่เท่าที่รู้จักเห็นว่าเขาสนใจทางการเมือง

ยอ “อภิสิทธิ์” นายกฯคนรุ่นใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลหรือไม่ นายสุวัจน์ตอบว่า ไม่อยู่ในฐานะที่จะให้คำตอบได้ แต่ตนและนายอภิสิทธิ์เป็นนักการเมืองรุ่นใกล้เคียงกัน ถ้ามีโอกาสได้เข้ามาบริหารประเทศ จะมีภาพของคนรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่น โดย เฉพาะในด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายของรัฐบาลใหม่ที่จะสร้างความเชื่อให้กับประเทศได้ เพราะเรื่องนโยบายเศรษฐกิจและการบังคับใช้กฎหมาย เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ ประชาชนยอมรับให้ได้มากที่สุด แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผลโหวตในสภา เมื่อถามว่า ท่าทีของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาเป็นอย่างไร นายสุวัจน์ตอบว่า ให้ไปถามหัวหน้าพรรค เมื่อถามย้ำว่า มีการยื่นข้อเสนอให้ พล.อ. เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรค เป็น รมว.กลาโหม หากไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย นายสุวัจน์ตอบว่า ไม่ทราบ เมื่อถามย้ำว่า สัจจะของนักการเมืองยังมีอยู่หรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวพร้อมกับยิ้มว่า วันนี้ต้องคำนึงถึงสถานการณ์ ทางการเมือง ที่ดีที่สุดนักการเมืองต้องเสียสละ เพื่อให้ปัญหาของชาติยุติ ทุกคนต้องเสียสละ

เลี้ยงอาหารกลางวันด้วยเมนูมีเส้น

นายสุวัจน์กล่าวอีกว่า เท่าที่อยู่ในแวดวงการเมืองมานาน เชื่อว่าสุดท้ายแล้วนักการเมืองต้องตัดสินใจเพื่อบ้านเมือง เมื่อถามว่า วันนี้ถึงสุดท้ายหรือยัง หากเป็นนายสุวัจน์จะตัดสินใจอย่างไร นายสุวัจน์ตอบว่า สุดท้ายก็ต้องเอาบ้านเมืองไว้ก่อน ต้องขอบคุณนายอภิสิทธิ์ที่มาเยี่ยม เพราะไม่ได้เจอกันมานานตั้งแต่ถูกยุบพรรคไทยรักไทย

จากนั้นคณะพรรคประชาธิปัตย์ได้ร่วมทานข้าวกลางวัน กับนายสุวัจน์ พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ พร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ น้องชายนายสุวัจน์ โดยนายสุวัจน์ ได้เลี้ยงอาหารกลางวันเป็นเมนู ข้าวหมูแดง บะหมี่เส้น ส่วนขนมหวานเป็นขนมกล้วย โดยแม่บ้านระบุว่า เสิร์ฟบะหมี่ก่อนเมนูอื่น เพราะเป็นอาหารมีเส้น ส่วนขนมกล้วยจะทำให้ความรู้สึกเหนียวแน่น ระหว่างรับประทานอาหาร เจ้าชุชูสุนัขตัวโปรดของนายสุวัจน์ได้วิ่งไปรอบบ้าน ซึ่ง พล.ท.หญิงพูนภิรมย์กล่าวว่า วันนี้ชุชูคึกคักเป็นพิเศษ

ปชป.ยกขบวนจูบปาก “เนวิน”

ต่อมาเวลา 13.45 น. ที่โรงแรมสยามซิตี้ ถนนศรีอยุธยา นายอภิสิทธิ์และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้ เดินทางเข้าพบนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน โดยทันทีที่นายอภิสิทธิ์เจอหน้านายเนวินได้ยกมือไหว้ นายเนวินจึงเข้ามาสวมกอด โดยนายอภิสิทธิ์ได้มอบแจกันดอกกุหลาบสีแดงจากเนเธอร์แลนด์ให้นายเนวิน พร้อมกับกล่าวว่า ตนและคณะ ส.ส.ที่มีใจอยากทำเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่ได้คิดอะไรต้องการทำให้เรื่องนี้สำเร็จโดยเร็ว ต้องขอบคุณกลุ่มเพื่อนเนวินที่ให้ความร่วมมือ และอยากให้มั่นใจว่าจะไม่ทิ้งประชาชนภาคต่างๆ โดยเฉพาะ ภาคอีสาน เพราะต้องการผนึกให้ทุกภาคของประเทศไทยเป็นแผ่นดินเดียวกัน จากนั้นนายอภิสิทธิ์และแกนนำได้นั่งพูดคุยกับนายเนวิน โดยระหว่างนั้น ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินได้เรียกนายอนุทิน ชาญวีรกูล บุตรชายนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกฯ เข้ามาร่วมวงพูดคุยด้วย พร้อมกับระบุว่า นายอนุทินเป็นแกนนำตัวจริง พ่อเป็นรักษาการนายกฯ ลูกมาอยู่ที่นี้ ทำให้นายอนุทินออกอาการเขิน แต่ก็ขยับเข้ามานั่งในวงสนทนา

ยื่นเงื่อนไข 4 ข้อเพื่อความสงบ

โดยนายเนวินได้กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจร่วมจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ ในการตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ด้วยเหตุผล 1. อยากให้ว่าที่นายกฯรักษาสถาบันหลักของชาติ เอาไว้ เรื่องการปกป้องสถาบันเป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดใหม่ จะต้องช่วยกัน 2. ทุกวันนี้ประชาชนในต่างจังหวัดซึ่งเป็นพวกรากหญ้า มีความเดือดร้อนมาก ซึ่งนโยบายเดิมของรัฐบาลที่ผ่านมาได้ช่วยแก้ปัญหาของคนเหล่านี้ ไม่ว่าจะเรียกว่าประชานิยมหรือไม่ก็ตาม อยากขอให้ รัฐบาลใหม่ช่วยสานต่อ และขอให้รัฐบาลผลักดันภาคประชานิยมเป็นนโยบาย 3. อยากเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยโดยแท้จริง ที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ และ 4. การจะสร้างความปรองดองในชาติได้ คือการบังคับใช้ กฎหมายโดยเสมอภาคกัน กฎหมายต้องเป็นธรรม ต้องมีมาตรฐานเดียวในการบังคับใช้กับคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร สีอะไรก็ตาม

อย่าให้การทรยศนายเสียเปล่า

“สิ่งเหล่านี้คือความหวังของพวกเรา อยากบอกให้ พรรคประชาธิปัตย์สบายใจได้ว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากวันนี้ไปจนถึงวันโหวตเลือกนายกฯ นี่คือสัญญาของลูกผู้ชาย และให้สบายใจได้ว่าแม้จะมีพรรคการเมืองอื่นไปร่วมรัฐบาล แล้วเหลือพรรคประชาธิปัตย์ ผมก็จะอยู่ กับพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้หมดเวลาแล้วเพื่อทำให้ความอึมครึมหมดไป หลายคนบอกว่ากลุ่มพวกผมต่อรอง แต่บอกได้เลยว่าไม่มีอะไร วันนี้บ้านเมืองสำคัญกว่า และอยากบอกคุณอภิสิทธิ์ว่าอย่าให้ความสูญเสียและความเจ็บปวดของพวกผมนั้นสูญเปล่า ซึ่งเป็นความหวังและเป็นความตั้งใจของผม ที่ยอมเสียเพื่อน เสียพรรค เสียนาย มาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์” นายเนวินกล่าว

ยอมรับข้อเสนอแก้รัฐธรรมนูญ

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พร้อมรับข้อเสนอของนาย เนวินทุกเงื่อนไข เพราะที่พูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งใจอยู่แล้ว เราต้องการเห็นรัฐบาลเข้มแข็ง ส่วนเรื่องประชานิยมนั้นพร้อมจะดูแลทุกภาคอย่างเท่า เทียมกัน ดำเนินนโยบายโดยไม่มีการเลือกกลุ่มหรือจังหวัด ไม่เลือกว่าเป็นกลุ่มไหน ต้องดูแลทุกคนทั้งประเทศ ไม่มีการแบ่งภาคเหนือ ภาคใต้ หรือภาคไหน จะดูแลทุกภาค อย่างเท่าเทียมกัน ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญที่หลายคนบอกว่าจะต้องแก้นั้นเห็นว่ามีบางมาตราที่มีปัญหา สุดท้ายจะต้องแก้ในส่วนที่เป็นปัญหา แต่ที่ผ่านมาไปมุ่งแก้เฉพาะบางมาตรา เพื่อบางกลุ่มบางคน ไปเกี่ยวพันกับเรื่องผลประโยชน์ จนลืมระบบของประเทศ ดังนั้นเราต้องหากระบวนการให้เกิดการยอมรับว่าอะไรต้องแก้ไข เพราะตนเป็นคนแรกที่เสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษา เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง

ยอมรับทุกข้อเสนอไม่มีเงื่อนไข

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องสุดท้ายคือความสงบสุขและความขัดแย้งของบ้านเมือง ที่เราต้องสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น แต่ใครก็พูดได้ในเรื่องของการสร้างความสมานฉันท์ ความปรองดอง คำถามอยู่ที่จะทำอย่างไร ตนเชื่อว่าความสามัคคีจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีความยุติธรรม วันนี้รู้สึกสบายใจมากที่ได้ยินข้อเรียกร้องนี้ ไม่มีอะไรที่ขัดต่อความคิดของพวกเราอยู่แล้ว แต่การจะทำทุกเรื่องให้สำเร็จได้ต้องฟันฝ่าอุปสรรคอีกหลายขั้น เริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงอาทิตย์หน้าก็เห็นใจ และทราบว่าต้องเจอกับแรงกดดันสารพัดอย่าง แต่มายืนยันว่าขอให้มั่นใจในความตั้งใจ ที่พูดถึงเรื่องสถาบันหลักของชาติ การช่วยเหลือประชาชน สร้างความเป็นธรรมในสังคม เรื่องรัฐธรรมนูญอย่างนี้มั่นใจได้

“เนวิน” ยันไม่มีใครเปลี่ยนใจได้

นายเนวินกล่าวเสริมว่า ขอให้สบายใจได้จากวันนี้ ไปจนถึงวันโหวต เป็นเรื่องที่พวกตนจะต้องเผชิญและฟันฝ่าไปให้ได้จริงๆ ถามว่าเป็นแรงกดดันจากพี่น้องประชาชนในสังคมจริงหรือไม่ คิดว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่พวกตนรู้อยู่แก่ใจว่า พวกเรานักการเมืองด้วยกันเองสร้างสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง การเลือกนายกฯไม่ใช่การเลือกนายก อบจ. หรือประธานสภาจังหวัด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนย้อนกลับไปสัก 10 ปีที่แล้ว ในการเลือกประธานสภาจังหวัด มีการซื้อตัว มีการข่มขู่ มีการอุ้ม ถือเป็นรอยด่าง แต่เชื่อว่าไม่สามารถเปลี่ยนใจพี่น้องของตน ที่มีสิทธิ์เลือกนายกฯได้ เพราะบ้านเมืองบอบช้ำมากแล้ว ท่านไปกังวลกับพรรคอื่น คนอื่น อย่ากังวลกับพวกตน

ยก “ทักษิณ” ยังเป็นนายในหัวใจ

นายเนวินให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า การตัดสินใจครั้งนี้แลกด้วยความเจ็บปวดส่วนตัว แต่ถือเป็นความจำเป็น เพราะวันนี้บ้านเมืองต้องมีทางออก ถ้าเราเลือก รักษาตัวเราเองแล้วปล่อยให้บ้านเมืองเสียหาย ตนว่าไม่ควรเป็นคนไทย ดังนั้นวันนี้ขอให้มั่นใจและสบายใจว่า ตนตัดสินใจเดินมาในเส้นทางนี้แล้วจะเดินต่อไป ให้สมกับความหวังความตั้งใจของประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เมื่อถามว่ารู้สึกหวั่นใจกับข่าวที่ว่า ผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ข่มขู่จะทำร้ายร่างกายหรือไม่ นายเนวินตอบว่า เรื่องความรู้สึกต้องยอมรับว่ามี แต่ไม่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจของตนได้ เมื่อถามย้ำว่าความรู้สึกที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายเนวินตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นนาย ยังเป็นคนที่ตนเคารพรักอยู่เสมอ แต่ต้องแยกความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะนายและผู้มีบุญคุณ กับปัญหาของบ้านเมือง

ยอมรับรู้สึกกดดันที่สุดในชีวิต

เมื่อถามว่าเป็นการตัดขาดกันไปหรือต้องทำความ เข้าใจกับ พ.ต.ท.ทักษิณอีกหรือไม่ นายเนวินตอบว่า “ไม่หรอกครับ ยังไงผมก็เป็นลูกน้องอยู่ ท่านก็ยังเป็นนายอยู่ ผมกับท่านคุยกันหลายรอบแล้ว แต่ไม่ขอพูดตรงนี้ ขอเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างผมกับท่าน” เมื่อถามต่อว่าภาพของรัฐบาลจะถูกมองว่าเป็นการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ในเรื่องคดีความต่างๆหรือไม่ นายเนวินตอบว่า การตัดสินใจมาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ มีเงื่อนไขเดียวคือต้องการให้บ้านเมืองมีทางออก แต่ไม่มีเรื่องการช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อถามว่ามีแรงกดดันต่อกลุ่มเพื่อนเนวินมากน้อยแค่ไหน นายเนวินตอบว่า ในประวัติศาสตร์การเลือกนายกฯ ไม่มีการกดดันครั้งใด ที่ ส.ส.จะได้รับมากเท่าครั้งนี้ เพราะมีการเอาประชาชนจัดตั้งไปล้อมบ้าน ขณะที่บางคนโดนขว้างระเบิดข่มขู่ เราเจอครบทุกรูปแบบ ทั้งบ้าน ส.ส.และบ้านญาติ ส.ส. คิดว่าครั้งนี้ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ แต่มั่นใจตัวเลขสมาชิกของกลุ่มที่มีอยู่ 30 กว่าคน จะมาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์




Create Date : 10 ธันวาคม 2551
Last Update : 10 ธันวาคม 2551 21:10:04 น. 4 comments
Counter : 520 Pageviews.

 
เง้อ.อ.อ.... การเมืองอ่านแล้วมึน..น..น.น.น..ส์
มาสวัสดีปีใหม่ค่ะ
ขอให้คุณ I love Thailand สุขภาพแข็งแรงนะคะ



โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:18:04:29 น.  

 
การเมืองวุ่นวาย ขอคนไทย อย่าขาดแคลนน้ำใจเป็นพอ


โดย: maemagic วันที่: 14 มกราคม 2552 เวลา:23:02:29 น.  

 


โดย: มดโตะ วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:15:46:24 น.  

 
ขอบคุณที่มอบกำลังใจให้ในบล๊อคที่แล้วค่ะ

^ _ ^


โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:12:01:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I love Thailand
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add I love Thailand's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.