Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 

“สมัคร” ไม่ตำหนิตำรวจ เชื่อทำตามขั้นตอน

หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้ชี้แจงสมาชิกพรรคเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นำหมายจับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ออกประกาศไปทั่วประเทศ เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนนั้น



“สมัคร” เป็นประธานประชุม กตร.-กตช.

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(กตร.) และคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.) โดยมีข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง อาทิ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท. จงรักษ์ จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ กตร. โดยการประชุมทั้ง 2 คณะเสร็จสิ้นในเวลา 12.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมนายสมัครได้กล่าวชี้แจงที่ประชุม ถึงกรณีที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร สตช. ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ที่สมาชิกพรรคพลังประชาชนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า ได้อธิบายเรื่องดังกล่าวในที่ประชุมพรรคแล้วว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ต้องไปตำหนิอะไร

อ้างนายกฯว่าหมายจับตำรวจทำถูกต้อง

พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษก สตช. กล่าวว่า ก่อนการประชุมนายกฯได้มีการพูดคุยถึงกรณีหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณและภริยา ที่สมาชิกพรรคพลังประชาชนแสดงความข้องใจ แต่นายกฯไม่ได้พูดอะไรมาก พูดสั้นๆนิดเดียว ไม่มีการตำหนิอะไร เพียงแต่บอกว่าได้ชี้แจงกับสมาชิกพรรคว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำไปตามขั้นตอน เมื่อถามว่านายกฯได้ฝากอะไรเป็นพิเศษต่อการทำงานของตำรวจหรือไม่ พล.ต.ท.วัชรพลตอบว่า นายกฯได้กำชับเรื่องการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร โดยอยากให้ตั้งในถนนที่มีความกว้าง ไม่เป็นอุปสรรคต่อการจราจร ทำให้ประชาชนเดือดร้อน และต้องมีตำรวจชั้นสัญญาบัตรคอยดูแลอยู่ด้วย หากมีการร้องเรียนเข้ามาว่าไม่มีตำรวจชั้นสัญญาบัตรประจำอยู่ ก็จะต้องมีการพิจารณาตรวจสอบ นอกจากนี้ นายกฯยังพูดถึงเรื่องการแบ่งเงินค่าปรับมาเป็นรางวัล ที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิท้วงติงมาว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แบ่งเงินค่าปรับอาจไม่ถูกต้อง เพราะมีส่วนได้ส่วนเสีย นายกฯจึงเห็นว่าจะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาให้เป็นรูปธรรมในภาพรวมทั้งหมด ไม่ใช่ แค่เฉพาะหน่วยงานของตำรวจ

แต่งตั้ง “จุมพล” เป็นที่ปรึกษา สบ 10

พล.ต.ท.วัชรพลกล่าวด้วยว่า ที่ประชุม กตร.มีเรื่องพิจารณา 2 วาระคือ การพิจารณากรรมการ กตช.ผู้ทรงคุณวุฒิ 4 ด้าน ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 3 ส.ค. จึงได้มีการพิจารณาเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามาใหม่ ดังนี้ ด้านกฎหมายยังเป็นนายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม ด้านงบประมาณเป็นนายปิยะพันธ์ นิมมานเหมินทร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง นายนพดล อินนา และ พล.ต.อ.สุเทพ ธรรมรักษ์ ส่วนวาระที่ 2 กตช.เห็นชอบการพิจารณากำหนดตำแหน่งให้ที่ปรึกษา สบ 10 ด้านความมั่นคง ของ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ที่เดิมเป็นตำแหน่งเฉพาะตัวให้เป็นตำแหน่งถาวร ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ. นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ กตร. เสนอให้ตำแหน่งดังกล่าวเป็นตำแหน่งรอง ผบ.ตร.นั้น เป็นเรื่องที่ กตร.จะต้องไปพิจารณาอีกครั้งในภาพรวม

คดี “จักรภพ” ยืดเยื้อเพราะละเอียดอ่อน

พล.ต.ท.วัชรพลกล่าวถึงความคืบหน้าในการสอบ สวนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ขณะนี้ถูกวิจารณ์จากบางฝ่ายว่าล่าช้า ว่าเท่าที่ทราบทาง บช.น.ได้มีการประชุมคณะกรรมการไปแล้ว เมื่อ บช.น.พิจารณาเสร็จสิ้นก็จะเสนอคณะกรรมการของ ตร.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพราะคดีนี้ทาง ตร.เป็นผู้สั่งคดี เมื่อถามว่าขั้นตอนใดทำให้ล่าช้า พล.ต.ท.วัชรพลตอบว่า เท่าที่ทราบจากนครบาลพบว่าการรวบรวมพยานหลักฐานประเด็นต่างๆ หากมีการโต้แย้งเข้ามาจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูล ตรงนี้ต้องทำให้รอบคอบและรัดกุม เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นที่สนใจของประชาชน เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้นายกฯเอง ก็ต้องการเร่งให้คดีนี้กระจ่างโดยเร็ว พล.ต.ท.วัชรพลตอบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอน เรื่องนี้สำคัญ ต้องรอบคอบ เรามีกรรมการดูแลทั้งกองบัญชาการและ ตร. เมื่อถามว่าเรื่องจะไม่หายไปเฉยๆใช่หรือไม่ โฆษก สตช.ตอบว่า ไม่เงียบ แต่จะเสร็จสิ้นเมื่อใดนั้นไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นขั้นตอนของหน่วยงานต่างๆ ถ้าเขาพร้อมแล้วก็จะส่งข้อมูลมาที่ ตร. เรื่องของคดีบางครั้งก็บอกไม่ได้

“เลี้ยบ” ชี้ “สมัคร” ชี้แจงแล้วจะดีขึ้น

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ว่า ที่ผ่านมาสถานการณ์ ภายในพรรคก็ไม่ได้มีปัญหา แต่อาจมีประเด็นข้อสงสัยและไม่มีเวลาที่จะพูดคุยกันมากนัก ระหว่างสมาชิกพรรคกับหัวหน้าพรรค เพราะเป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภาก็อาจ ทำให้ขลุกขลักบ้าง แต่เมื่อนายสมัครได้ชี้แจงก็ไม่มีปัญหา และสมาชิกทุกคนก็เข้าใจดี เมื่อถามว่า บรรยากาศค่อนข้าง รุนแรง นายสมัครระบุว่า หากมีการกดดันท่านอีก อาจจะพิจารณาตัวเอง นพ.สุรพงษ์ตอบว่า โดยธรรมดาหัวหน้าพรรคเป็นนักพูด ที่พูดในห้องประชุมด้วยเสียงดังกังวานเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้เป็นลักษณะการพูดจาที่ผิดปกติ เรื่อง การออกหมายจับ ทุกคนอาจจะยังไม่เข้าใจกระบวนการขั้นตอนการดำเนินการ จึงคิดว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ แต่ เมื่อทำความเข้าใจ จึงได้ความกระจ่างว่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติ

ปัดไม่ได้มีการขู่ยุบสภาฯ หรือลาออก

เมื่อถามย้ำว่า ที่นายสมัครบอกว่า หากยังไม่หยุดก็จะยุติ จะตีความได้ว่า ด้วยการลาออก หรือยุบสภาได้ หรือไม่ นพ.สุรพงษ์ตอบว่า ไม่ได้พูดในลักษณะที่ชัดเจนว่า จะยุบสภา หรือลาออกใดๆทั้งสิ้น ในฐานะเป็นผู้บริหารพรรคเมื่อมีสมาชิกได้ถามว่า ข้อมูลเป็นอย่างไร ท่านก็ ชี้แจง หากชี้แจงแล้วยังมีประเด็นที่ไม่เข้าใจ ท่านคิดว่า ควรจะมีการทบทวนว่า หน้าที่ของผู้บริหารพรรคจะทำหน้าที่ ต่อไปได้อย่างไร คงไม่เกี่ยวข้องกับการยุบสภา หรือลาออก ใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้ แกนนำในพรรคได้คุยกันถึงการต้องพูดจา ทำความเข้าใจกับสมาชิกให้มากขึ้น โดยนายสมัครระบุว่า หลังจากสภาเปิดแล้ว ก็จะเดินทางเข้าร่วมประชุมพรรค ทุกครั้ง แต่หาก ส.ส.มีประเด็นที่ติดใจสงสัยก็สามารถปรึกษาหารือกับกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆได้อยู่แล้ว เพื่อกระชับความสัมพันธ์ภายในพรรคให้เป็นระบบมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในการเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งต่างๆที่ก่อนหน้านี้อาจจะมีคนไม่พอใจ ผู้ใหญ่ในพรรคก็ต้องอธิบายเหตุผล ความเหมาะสม หากเป็นการแต่งตั้งรัฐมนตรี ในสังกัดของพรรคพลังประชาชนก็คงต้องให้เป็นอำนาจของนายกฯ แต่หากเป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการประสาน งาน ทั้งประธานวิปรัฐบาล และรองประธานสภาคนที่หนึ่ง ก็ต้องมีการประชุมในกรรมการบริหารพรรค ประเด็นทั้งหมด ก็ต้องชี้แจงเพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน

อัดพวกเล่นการเมืองแบบเก่าจ้องป่วน

เมื่อถามว่า หลังทำความเข้าใจกันแล้วจะไม่มีใคร ถูกกล่าวหาว่า หักหลัง พ.ต.ท.ทักษิณอีกใช่หรือไม่ นพ. สุร พงษ์ตอบว่า เรื่องการกล่าวหาถือเป็นเรื่องปกติ แสดงให้เห็นถึงการทำการเมืองแบบเก่า ดังนั้น ทุกคนที่อยากให้การเมืองมีความสร้างสรรค์ก็ต้องมีความหนักแน่น สู้ การเมืองแบบเก่าให้ได้ และให้ประชาชนตรวจสอบการ ทำงานของรัฐบาล และนักการเมือง ว่าทำงานเพื่อประชาชน หรือไม่ ต่อข้อถามที่ว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดการกล่าวหากัน ภายในพรรค เกิดจากการต่อสู้หรือขัดแย้งกันด้วยเรื่องใด

นพ.สุรพงษ์ตอบว่า การเมืองแบบเก่า เราไม่ได้มองข้าม แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจการทำการเมืองแบบเก่า เพราะหากมัวแต่ มาใส่ร้ายป้ายสีก็จะเสียเวลา อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า การเล่นการเมืองแบบเก่านั้นมีอยู่ทุกที่ แต่ในส่วนของพรรค บางเรื่องเกิดจากความไม่เข้าใจกัน และในทุกวันนี้เรื่องของการกล่าวหามีอยู่มาก ซึ่งทางที่ดีที่สุดคือการพิสูจน์ ดูจากผลงาน มั่นใจสู้คดี

เชื่อพรรคพลังประชาชนจะไม่ถูกยุบ

เมื่อถามถึงการที่นายสมัครได้พูดถึงคดียุบพรรคว่า พรรคคงถูกยุบแต่กรรมการบริหารพรรคอาจไม่โดน นพ.สุรพงษ์ตอบว่า นายสมัครไม่ได้มีข้อมูลอะไรเป็นพิเศษ ไม่มีข้อมูลเชิงลึกอะไร เป็นเพียงแค่การคาดการณ์เป็นความเห็นออกมาจากบางส่วน มั่นใจในหลักฐานที่ส่งไปให้อนุกรรมการของ กกต.พิจารณา เพราะพรรคได้กำหนดไว้ชัดเจนเกี่ยวกับข้อบังคับทั้ง 45 ข้อ ที่ห้ามกรรมการบริหารพรรค สมาชิก ส.ส.ไปกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง นี่แสดงเจตนาว่าพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ หากใครทำผิดพรรคก็ต้องลงโทษ ส่วนที่มีสมาชิกบางคนของพรรคลาออกเพื่อไปอยู่พรรคใหม่ก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้หมายความว่า ส.ส. จะต้องอยู่พรรคใดพรรคหนึ่งไปตลอดชีวิต แต่ในส่วนของผู้บริหารพรรคไม่เคยคิดว่าจะย้ายไปอยู่พรรคอื่นหรือไปตั้งพรรคใหม่ไว้สำรอง เพราะเชื่อมั่นว่าได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และจะขอสู้อยู่ที่พรรคพลังประชาชน เมื่อถามว่าการที่ กกต.ยืดเวลาการลงมติคดียุบพรรคไปเป็นวันที่ 2 ก.ย. ถือเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ตอบว่า ไม่ได้ประเมิน อะไรทั้งสิ้น รู้เพียงว่าสาเหตุที่เลื่อนเพราะ กกต.ชุดใหญ่ ยังได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน คงไม่ได้เป็นสัญญาณที่เป็นบวกหรือเป็นลบ

“สมชาย” ปัดเมียดอดเคลียร์ “สมัคร”

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯและ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่านางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยา อดีตรองหัวหน้า พรรคไทยรักไทย ไปเข้าร่วมประชุมพรรคพลังประชาชน เพื่อเคลียร์ปัญหาความขัดแย้งในพรรค เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ด้วยว่า คิดว่าไม่มีเพราะในการประชุมพรรคก็นั่งอยู่ด้วย เมื่อถามว่า มีรายงานว่านางเยาวภาได้เข้าพูดคุยเคลียร์กับ แกนนำก่อนที่จะประชุม ส.ส. นายสมชายตอบเลี่ยงว่า บังเอิญภริยาตนไปไหนมาไหนก็ไม่ค่อยได้บอกกัน แต่เขาจะไปไหนก็เป็นปกติ เพราะที่ทำการพรรคพลังประชาชนพรรคมีพระพุทธรูปเชียงแสน สิงห์สาม ที่คุณพ่อของคุณเยาวภามอบให้อดีตนายกฯมาไว้ที่พรรค เคยเห็นเขามา กราบไหว้พระองค์นี้บ่อยมาก คุณเยาวภาอาจจะไปไหว้ พระก็ได้ ส่วนที่มีข่าวว่านางเยาวภาได้ทำความเข้าใจกับนายสมัครนั้น ไม่มีการเคลียร์อะไรทั้งนั้น ส่วนการพูดคุย ก็ทำได้ปกติ เขารู้จักกันก็คุยถามสารทุกข์สุกดิบ ไม่ใช่ วิธีการดำเนินการทางการเมือง ในพรรคพลังประชาชนนางเยาวภาก็รู้จักหลายคน ถ้าจะพูดคุยกันก็ไม่แปลก แต่ เขาไม่ได้เข้ามาเป็นแกนนำอะไรทางการเมือง เพราะเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ส่วนการไปเจอพรรคพวกเพื่อนฝูงกันเป็นธรรมดา อย่าไปกีดกัน นางเยาวภาไม่ได้ยุ่งกับการเมืองแล้ว

ยัน “เจ๊แดง” ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองแล้ว

นายสมชายกล่าวว่า ส่วนที่มีข่าวว่าเคลียร์เรื่อง ส.ส.เหนือ อีสาน กลาง และ กทม.บางส่วน ลงชื่อไม่พอใจการประจานหมายจับอดีตนายกฯ ความเป็นข่าวก็คือข่าวที่บริโภคข่าวกันไป แต่ยืนยันว่านางเยาวภาไม่ได้อยู่ เบื้องหลังให้ ส.ส.มาลงชื่อกดดันอะไร เพราะไปทำธุรกิจแล้ว ไม่ต้องห่วงไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเมืองแล้ว ตอนนี้ไม่ได้ ทำงานการเมืองแล้ว เพราะส่งตนมาทำแล้ว ทำเป็นบ้าง ไม่เป็นบ้างก็ทำกันไป ทั้งนี้ ภายหลังที่นายสมัครชี้แจงต่อลูกพรรคทุกอย่างก็จบกันแล้ว ทุกอย่างพูดคุยกันเข้าใจท่านก็ชี้แจงแล้วว่า ไม่มีอะไรตามที่ทุกคนสงสัย นายกฯพูดจบทุกคนก็ปรบมือให้ทั้งห้องเลย เป็นบรรยากาศที่ดีมาก เชื่อว่า ส.ส.ทุกคนเชื่อในสิ่งที่นายกฯชี้แจง ตนเป็นคนหนึ่งที่ไม่ติดใจ เท่าที่ดูท่าที ส.ส.ปรบมือยินดีที่ท่านพูด ก็เชื่อมั่นว่าต้องเชื่อท่าน กระแสข่าวว่า ส.ส. ปรบมือไล่ไม่เป็นความจริง เพราะปรบมือไล่กับปรบมือยินดีมันคนละอย่างกัน เมื่อถามว่า ปัญหาในพรรคจบแบบถาวรหรือรอวันที่จะมีระเบิดลูกใหม่ นายสมชายตอบว่า ยังมองไม่เห็นระเบิด คิดว่าไม่มี จบก็คือจบ แต่เรื่องอื่นไม่รู้ แต่ถ้าเกิดปัญหาเรื่องอื่นขึ้นอีกก็แก้กันอีก การแก้ปัญหาเป็นเรื่องปกติมีปัญหาก็ต้องแก้

“เหมือนคนไทยที่ทะเลาะกัน อย่าทะเลาะกันเลยเพราะมีพระเจ้าอยู่หัวองค์เดียวกัน เราก็รัก แต่วิธีทางเดินคนละทาง ควรจะประนีประนอมกันอย่างไรก็จบ ถ้าหันหน้าเข้าหากันก็โอเค” นายสมชายกล่าว

โว “ทักษิณ” ต่อสายเคลียร์ “เนวิน”

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯและหัวหน้าพรรค ชี้แจงต่อที่ประชุมพรรคถึงเรื่องที่ สตช.ออกมาจับอดีตนายกฯว่า ก่อนที่นายสมัครจะเข้าประชุมพรรค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โทรศัพท์ถึงนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย โดย พ.ต.ท.ทักษิณคุยกับนายเนวินก่อน จากนั้นได้คุยกับนายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด โดย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ขอให้ทุกคนสมานฉันท์กันไว้ เข้าใจว่าทุกคนรักท่าน แต่อยากให้ช่วยหัวหน้าพรรคทำงาน อย่าไปตำหนิหัวหน้าพรรค ท่านทำดีที่สุดแล้ว ขอให้ช่วยกันประคองพรรคให้ไปต่อได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้โทรศัพท์หาแกนนำ ส.ส.ในภาคอื่นๆด้วย เพื่อให้การประชุมพรรคในวันที่ 19 ส.ค. เป็นไปได้ด้วยดี แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของคนในพรรค

อีสานพัฒนาดึง “พายัพ” คุมเพื่อไทย

วันเดียวกัน ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา พรรคพลังประชาชน นำโดย นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม หัวหน้ากลุ่มอีสานพัฒนา และนายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด ได้เดินทางไปหารือสถานการณ์การเมือง และร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายพายัพ ชินวัตร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ชั้น 9 อาคารชินวัตรไหมไทย ย่านถนนพระราม ภายหลังการหารือ นายศักดากล่าวว่า ได้พูดคุยกันถึงเรื่องพรรคเพื่อไทยว่า มีความพร้อมอะไร อย่างไร นายพายัพในฐานะเป็นน้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่ในสิ่งที่ทำได้ โดยพร้อมรับเป็นเซ็นเตอร์ทำงานให้พรรคเพื่อไทย และกลุ่มต่างๆภายในพรรคพลังประชาชนได้ทำงานร่วมกันได้ เมื่อถามว่า ได้หารือถึงกรอบการคัดสรรบุคคลเข้าพรรคด้วย โดยจะไม่รับคนที่เนรคุณ พ.ต.ท.ทักษิณและแก๊งออฟโฟร์ นายศักดาตอบว่า การก่อตั้งพรรคเพื่อไทยต้องมีผู้ใหญ่มาก่อตั้ง การคัดคนเข้าพรรคจะต้องเป็นคนที่ดีที่สุด ทั้งนี้ การเมืองเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เท่าที่ฟังพรรคพลังประชาชนหนีการยุบพรรคไม่พ้น รอเพียงคำตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญ

จับพิรุธ “เด็กเนวิน” เรื่อง “ทักษิณ”

นายศักดากล่าวว่า ส่วนกรณีที่กลุ่มอีสานพัฒนาจะยื่นหลักฐานการได้เงินมาโดยมิชอบ ของคนใกล้ชิดนายกฯให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบนั้น ตอนนี้ข้อมูลหลักฐานรวบรวมครบถ้วน 100% แล้ว รอจังหวะที่เหมาะสมถึงจะยื่นให้ ป.ป.ช. เมื่อถามว่า กลุ่มเพื่อนเนวินระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โทรศัพท์ถึงนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ก่อนถึงเวลาที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯและหัวหน้าพรรค จะชี้แจงปม สตช.ออกหมายจับอดีตนายกฯต่อที่ประชุมพรรค นายศักดาตอบว่า เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ขอวิจารณ์ และไม่รู้ แต่ที่บอกว่าได้คุยกับอดีตนายกฯ ในเวลา 12.00 น. ของประเทศไทย เวลาประเทศอังกฤษน่าจะเป็นช่วง 05.00 น. คิดดูคนจะลุกขึ้นมาพูดโทรศัพท์ได้อย่างไร และมีการบอกว่าคุยกัน 5 นาที จะรู้เรื่องได้อย่างไร

ไม่ทราบ “เฉลิม” ตั้งกระทู้ถามนายกฯ

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ในฐานะที่ริเริ่มล่ารายชื่อ ส.ส.เพื่อให้หัวหน้าพรรคมาชี้แจง กล่าวว่า หลังจากนายสมัครมาชี้แจงต่อที่ประชุมพรรคว่าเรื่องนี้ถือว่าจบแล้ว ไม่มีอะไร สมาชิกทุกคนส่วนใหญ่เข้าใจกันดี ส่วนที่ประชุมไม่เปิดโอกาสให้สอบถามนั้น เนื่องจากนายสมัครมีเวลาไม่มาก และได้ชี้แจงในที่ประชุมชัดเจนแล้ว เท่าที่ทราบสมาชิกส่วนใหญ่จะถามในเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับหมายจับ ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ในพรรคบางคนที่ติดใจนายสมัครชี้แจง จะยื่นกระทู้สดถามนายกฯในที่ประชุมสภาฯ นายสงครามตอบว่า เรื่องนี้จบแล้ว เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน เตรียมยื่นกระทู้สอบถามนายกฯด้วยตัวเอง นายสงครามตอบว่า ไม่ทราบ

“สุรพงษ์” ลั่น พปช.สายเหนือจับมือแน่น

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนล่าชื่อให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชนและประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ มาชี้แจงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติประกาศหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ว่า ในการประชุมพรรควันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา นายสมัครได้ชี้แจงในพรรคเป็นที่เข้าใจ ซึ่งชี้แจงได้ดี เป็นโอกาสที่ทำให้ ส.ส.ในพรรคได้พบกัน ที่ผ่านมาเจอหัวหน้าพรรคน้อย เนื่องจากท่านติดภารกิจ สมาชิกพรรคได้มีการพูดคุยและเห็นพ้องกันว่า ยังสนับสนุนรัฐบาลทำงานต่อไป และยังสนับสนุนให้นายสมัครเป็นนายกฯ ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองต่อไป ส.ส.ในพรรคได้มีการพูดคุยกันแล้วว่า ณ วันนี้จะต้องมีความสามัคคี ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เพราะที่ผ่านมาสังคมมีความแตกแยกมากแล้ว ในส่วนของ ส.ส.ภาคเหนือก็มีความสามัคคี ไปไหนไปด้วยกัน ถึงจะมีการยุบพรรคก็จะไปด้วยกัน เชื่อว่าหลังจากนี้ พรรคจะมีความเป็นปึกแผ่นเพราะทุกคนเข้าใจกันและสามัคคีกันมากกว่าเก่าทั้งอีสาน กลาง และกลุ่มอื่นๆ

บินไปให้กำลังใจ “ทักษิณ” กลาง ก.ย.

เมื่อถามว่า ขณะนี้ ส.ส.ในพรรคพลังประชาชนมีความแตกร้าวกันหรือไม่ นายสุรพงษ์ตอบว่า ไม่ถึงกับแตกร้าวจนอยู่ร่วมกันไม่ได้ ทุกเรื่องสามารถคุยกันได้ ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกศาลออกหมายจับ เห็นว่าไม่เป็นธรรม ดังนั้น ในวันที่ 21 ส.ค.นี้ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อชี้แจงว่ากฎหมาย ป.ป.ช.ฉบับปัจจุบัน เขียนในสมัยคณะปฏิรูปการปกครอง (คปค.) ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ กฎหมายแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตย ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณที่ประเทศอังกฤษนั้น ขอรอให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณผ่านที่ประชุมสภาฯก่อน คาดว่าน่าจะเสร็จสิ้นช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้ ส่วนจะไปเมื่อไรจะบอก เพราะจะไปกันเฉพาะ ส.ส.ในกลุ่มของตนประมาณ 7-8 คน เพื่อจะได้นั่งคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณได้ง่าย เพราะถ้าไปเยอะมักจะไม่ค่อยได้คุย ส่วนที่จะมีการมองว่าไปเพื่อเจรจาต่อรองพื้นที่ภายในพรรคนั้น ไม่ได้กังวลต่อเรื่องนี้ และคิดว่าเราไปเพราะเห็นท่านเป็นที่เคารพ ไปเพื่อให้กำลังใจท่าน เอาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไปพูดให้ท่านฟัง ยืนยันว่าเราไม่ใช่อีแอบและจะไปโดยเปิดเผย



ไทยรัฐ




 

Create Date : 21 สิงหาคม 2551
1 comments
Last Update : 21 สิงหาคม 2551 8:48:40 น.
Counter : 484 Pageviews.

 

รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย

 

โดย: Liege 29 สิงหาคม 2551 15:47:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


I love Thailand
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add I love Thailand's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.