Bloggang.com : I love Thailand : สมัคร เมินลาออก เหตุเขาพระวิหาร โวย รธน. บกพร่อง

สมัคร เมินลาออก เหตุเขาพระวิหาร โวย รธน. บกพร่อง

คณะรัฐมนตรี(ครม.) นายสมัคร สุนทรเวช ยืนยันไม่ต้องรับผิดชอบหรือลาออก หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชากรณีปราสาทพระวิหาร เป็นสนธิสัญญาตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ.1969 จึงเป็นหนังสือสัญญาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา190 จะต้องได้รับความเห็นขอบจากรัฐสภาตามมาตรา 190 วรรคสอง ยืนยันมีการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว มิได้เป็นการจงใจใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แต่เป็นความบกพร่องของรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้แหล่งข่าวในคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ประชุมได้รับทราบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ทำให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแจ้งต่อที่ประชุมว่า "ศาลรัฐธรรมนูญท่านได้ตัดสินออกมาแล้ว ว่าแถลงการณ์ร่วมฯอั นนั้น เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 จะต้องไปทั้งคณะไหมเนี่ย!"

ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถามที่ประชุมว่า ถ้าฝ่ายค้านยื่นถอดถอนครม.ทั้งคณะ แล้วถ้า ครม.ทั้งคณะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แล้วใครจะทำหน้าที่ดูแลบ้านเมือง ทำให้นายสมัครถึงกับอุทานออกมา ว่า "จะให้ออกทั้งคณะได้ไงวะ! มันไม่มีเหตุมีผล"

จากนั้นมีรัฐมนตรีคนหนึ่งพูดติดตลกขึ้นมาว่า ถ้าอย่างนั้นคงต้องให้ปลัดกระทรวงมาทำหน้าที่แทน ครม. แล้ว

"เรื่องที่ทำผิดนั้นเขียนไว้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ไม่คิดว่าจะรวมทั้งคณะ และถ้าครม.ชุดนี้ถูกพักงาน แล้วจะเอาใครมาเป็นรัฐมนตรี ถ้าประเทศไม่มีรัฐบาล ผมก็อยากรู้ว่า จะทำอย่างไร จะแก้ปัญหาโดยเอาคนนอกมาเป็นนายกฯก็ไม่ได้ เพราะนายกฯต้องเป็น ส.ส. และมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น ถ้ามันเกิดข้อติดขัดตรงนี้ แล้วจะแก้กันอย่างไร ขณะนี้บ้านเมืองมีปัญหาหลายอย่าง และหนึ่งในปัญหาหลายๆ เรื่อง ก็คือการตีความกฎหมาย ก็เป็นเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างว่ากันไป แต่ผมจะรวบปัญหาทั้งหมดไปพูดในรายการวันอาทิตย์ (รายการสนทนาประสาสมัคร)" แหล่งข่าวอ้างถึงคำพูดของนายสมัคร

ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า เลขานุการส่วนตัวของนายนพดลเริ่มเก็บของที่ห้องทำงานแล้ว ขณะที่ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ผลกระทบทางการเมือง ต่อตัว นายนพดล และกระทรวงการต่างประเทศหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย

ด้าน นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่อาจมีการยื่นถอดถอน ครม. หลังศาลรัฐธรรมนูญมีวินิจฉัยว่า มติ ครม. ที่เห็นชอบแถลงการณ์ร่วมฯ ดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ว่า ตามมาตรา 271 สมาชิกรัฐสภาจำนวน 1 ใน 4 สามารถเข้าชื่อเสนอเรื่องประธานรัฐสภาเพื่อขอให้ส่งเรื่องมายัง ป.ป.ช.ดำเนินการถอดถอนรัฐมนตรีได้ หากพิจารณาข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้วพบว่ามีมูล ก็จะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวน และหากอนุกรรมการไต่สวนชี้มูลว่ารัฐมนตรีคนใดมีความผิด ตามมาตรา 270 ก็จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่า ป.ป.ช.จะยกคำร้องหรือคดีจะถึงที่สุด

กระปุกดอทคอม

คณะอนุ กกต.สอบทุจริตเลือกตั้งเชียงรายมีมติให้ใบแดง"นายยงยุทธ ติยะไพรัช" หลังพยานยืนยันทำผิดจริง นอกจากนี้กกต.มีมติ ให้เสนอเรื่องให้ศาลฎีกาสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขต 2 จ.เพชรบูรณ์

กกต.มีมติ ให้เสนอเรื่องให้ศาลฎีกาสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขต 2 จ.เพชรบูรณ์ ทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายเอี่ยม ทองใจสด นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ และนายสุรศักดิ์ อนรรฆพันธุ์ ซึ่งทั้งหมดสังกัดพรรคพลังประชาชน

นายสุวิทย์ ธีรพงศ์ ประธานคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน คดีทุจริตจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า คณะกรรมการได้มีความเห็นสรุปความเห็นเสนอต่อ กกต.แล้วในกรณีที่มีการกล่าวหาว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.ระบบสัดส่วนกลุ่มที่1 พรรคพลังประชาชน กระทำผิดกม. เลือกตั้ง โดยดูจากการสอบพยานไม่ได้ให้การผิดไปจากที่เคยให้การไว้กับชุดสืบสวนสอบสวนของสันติบาล ดังนั้นจึงได้เสนอข้อเท็จจริงพร้อมความเห็นประกอบข้อกฎหมายเลือกตั้ง ม. 53 (2) และมาตรา 57 ให้ กกต.แล้ว จึงถือว่าหน้าที่ของคณะกรรมการยุติแล้ว

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ไปแล้ว หาก กกต.มีความเห็นยืนว่ายงยุทธมีความผิดจริง ตามที่กรรมการชุดนายสุวิทย์ มีความเห็นก็ต้องเสนอต่อศาลฎีกา ให้พิจารณา โดยเมื่อศาลฏีการมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาแล้วนายยงยุทธ ติยะไพรัช จะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ในทันทีจนกว่าศาลจะมี่คำสั่งยกคำร้อง แต่ทั้งนี้หากศาลมีคำพิพากษาสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายยงยุทธ ติยะไพรัช

นายยงยุทธ ซึ่งมีตำแหน่งรอง หน.พรรคพลังประชาชนในขณะที่มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น กกต.ก็จะมาพิจารณาในเรื่องของการเสนอยุบพรรคพลังประชาชน

ทั้งนี้นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนสำนวนร้องคัดค้านการทุจริตนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ภายหลังที่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพยานจำนวน 6 คน ซึ่งเป็นพยานทั้งฝ่ายผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ จากการที่ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อสืบสวนและสอบสวนข้อมูลเพิ่มเติม พบว่ากำนันและผู้ใหญ่บ้านบางคน จากจำนวน 10 คน ยังคงยืนยันตามการให้ปากคำกับคณะอนุกรรมการสอบสวนของตำรวจสันติบาลไปก่อนหน้านี่

ดังนั้น ตรงจุดนี้ คณะอนุกรรมการฯ จึงไม่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว ทั้งนี้ ขบวนการสอบสวนสำนวนทั้งหมด คณะอนุกรรมการฯ ได้นำสำนวนเดิมของกกต.มาใช้เป็นฐานข้อมูลในการสืบสวนและสอบสวน

นายสุวิทย์ กล่าวว่า วันที่ 14 ก.พ.นี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้นำเสนอสำนวนดังกล่าวให้กกต.รับทราบ โดยเป็นการสรุปรายละเอียดทั้งหมด ประกอบกับข้อกฎหมาย มาตรา 53 และ 57 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ทั้งนี้ กระบวนการเสนอสำนวนคงยังอยู่ระหว่างกระบวนการทางธุรกาตของกกต. โดยคาดว่าวันที่ 18 หรือ 19 ก.พ.นี้ เจ้าหน้าที่กกต.จะส่งสำนวนถึงมือกกต. เพื่อให้นำไปพิจารณาต่อไป

ขณะที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า อนุกรรมการสืบสวนสอบสวนกรณีทุจริตเลือกตั้ง จ.เชียงราย มีมติให้ใบแดงกับตนในเรื่องดังกล่าว ว่ายังไม่ทราบในเรื่องนั้น และไม่ขอตอบคำถามของสื่อมวลชน โดยจะรอฟังข้อมูลที่ชัดเจนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ก่อน และจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ โดยยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง ทั้งนี้ย้ำว่ามีการจัดฉากในเรื่องดังกล่าวเพื่อกลั่นแกล้งตนและไม่อยากให้สื่อคาดคั้นเอาคำตอบในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม นายยงยุทธ ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป และไม่อยากจะพูดอะไรเกินเลยเพราะเกรงจะเป็นการกดดันคนที่ทำงาน

สนุกดอทคอม

Create Date : 09 กรกฎาคม 2551

Last Update : 9 กรกฎาคม 2551 9:07:38 น.

1 comments

Counter : 438 Pageviews.

โดย: arijinjan

วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:31:06 น.