...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
21 กันยายน 2554
 
All Blogs
 

พบเธอที่บ้านถ้ำธง ๖



ชายคนนี้เองคือพ่อของยานี กลางวันที่เธอหายไปเธอจึงน่าจะมาอยู่กับแกที่นี่ ขณะที่ธนามาดูที่เธอคงจะหลบอยู่ตรงไหนสักแห่งและแอบมองอยู่ ธนาคิดขณะขับรถกลับจากบ้านบนไร่

"เป็นยังไงครับที่เมื่อตะกี๊ คุณสนใจหรือเปล่า" กำนันเทิน ทุ่งมหา ถามขณะนั่งมาในรถของธนา
และเห็นธนาเงียบไป

"ครับ น่าสนใจ แล้วคุณคิดว่าจะขายเท่าไหร่” ธนาถามเล่น ๆ
"ถ้าซื้อตอนนี้ไม่แพงหรอกครับ เพราะถนนยังเป็นแค่โครงการ แต่ถ้าเมื่อใดที่ถนนดำตัดผ่านแล้วผมว่าราคาจะแพงขึ้นอีกหลายเท่า" กำนันเทินพูด

"ตกลงคุณจะขายเท่าไหร่" ธนาถามย้ำ
"ผมว่าซักสิบห้าล้านคงจะเหมาะ คิดไร่ละล้านถ้วน"

"ผมขอไปดูอีกที่” ธนาตอบให้พ้นๆ เพราะรู้ว่าต่อไปนี้เขาจำเป็นต้องเล่นละครกับพวกกำนันเทิน

"แปลงที่สองเนื้อที่ประมาณเจ็ดสิบไร่ คุณทำสวนมะพร้าว หรือปาล์มได้สบาย ที่แปลงนี้คุณได้เข้าไปพักอาศัยอยู่ในบ้านแล้ว แต่ผมยังไม่เชื่อว่าคุณยานีจะมาพักอยู่ที่บ้านหลังนี้กับคุณ เพราะถ้าเธอมาเธอจะต้องแจ้งให้ผมรู้ เพราะเธอมอบหน้าที่ในการติดต่อขายให้ผมจัดการ" กำนันเทินพูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์

ธนานึกยิ้มอยู่ในใจ นี่พวกกำนันเทินคงจะยังไม่ทราบว่า เขารู้เรื่องราวระหว่างครอบครัวของกำนันเทิน กับยานีหมดแล้ว พวกมันยังโง่หรืออาจทำเป็นโง่ ในข้อที่ว่ายานีจะต้องไปหาไปบอกพวกมันเมื่อเธอมาบ้าน ธนานึกๆ แล้วก็ชื่นชมความฉลาดของยานี ที่หาทางปลดแอกจากการกดขี่ของพวกกำนันเทิน โดยการทำผีหลอกจนผู้คนพากันกลัวตลอดย่าน
“แถวนี้ทำไม มีสวน มีไร่แต่บ้านไม่มีคนอยู่" ธนาแกล้งถามเพื่อจับพิรุธ

"ก็ เอ่อ…หลังจากเกิดพายุเกย์ มีคนต่างจังหวัดนำสิ่งของมาแจก คนแจกมักจะแจกแต่ในที่ๆ เขาขับรถเข้าไปถึง ที่ ๆ ไกลตลาดเขาไม่ค่อยเข้ามา พวกชาวบ้านอยากได้ของแจก จึงพากันไปปลูกเพิงรอรับของแจกอยู่ในตลาด” กำนันเทินออกความเห็นในเชิงเหยียดหยามชาวบ้านแล้วกล่าวต่อไปว่า

“อย่างคุณยานีที่บอกขายที่ผมว่าเธอคิดถูก เพราะถ้าอยู่ที่นี่การจะลงทุนทำสวนใหม่ อีกหลายปีจึงจะเป็นสวนขึ้นมา ผมว่าแก่ตายเสียก่อนพอดี สู้ขายเอาเงินหลาย ๆ ล้านไปใช้ลงทุนทำอย่างอื่นเสียยังดีกว่า ที่ดินมีไว้ตายก็เอาไปไม่ได้ รุ่นเราไม่ขาย รุ่นลูกรุ่นหลานมันก็ขาย”

ธนานึกด่าในใจ เหตุผลของกำนันเทินเป็นเหตุผลทำลายชาติบ้านเมือง อันต่ำช้าที่สุด และนึกยิ้มหัวให้กับคำว่า ‘ยานีอยู่กรุงเทพ’



เมื่อถึงทางเข้าบ้าน หรือ ที่ดินแปลงที่สอง ธนาจึงเลี้ยวซ้ายเข้าบ้านที่เขามาอาศัย อย่างที่ไม่ต้องซักถามหรือขอคำแนะนำอะไร และเมื่อกำนันเทินกับพวกมาเห็นบ้านอยู่ในสภาพที่ บริเวณบ้านเตียน ไม่มีหญ้ารกก็ประหลาดใจและตกใจ ในคำที่ว่ายานีได้มาหลบซ่อนอยู่ในบ้านกับเขา และเขาอยากเดาต่อไปว่า เมื่อคืนที่มันให้พวกลูกน้องมาจะจัดการกับธนาและยานี พวกลูกน้องของมันต่างกลับไปรายงานให้เจ้านายฟังแล้ว

แต่กำนันเทิน ทุ่งมหา กลับพูดขึ้นอย่างหน้าด้าน ๆ ว่า

"นี่ผมให้คนมาคอยมาดูแล คอยตกแต่งตัดหญ้าไว้บ้านเลยดูดีไม่รก บ้านที่เจ้าของไม่ได้มาอยู่ ถ้าไม่มีคนคอยมาดูแลเขาว่ามันโทรมและพังเร็ว นี่ถ้าคุณซื้อแล้วตกแต่งเสียอีกหน่อยต่อสายไฟฟ้าเข้าไป ผมว่ามันจะเป็นดุจสวรรค์วิมานทีเดียวนะครับ"

ธนาไม่ออกความเห็น ธนาจอดรถ ลงไปเปิดประตูรั้ว แล้วขับเข้าไปจอดในสนามหน้าบ้านอย่างคุ้นเคย กำนันเทินก้าวลงจากรถ และธนาดูออกว่ากำนันเทินไม่พอใจ ที่เขาถือโอกาสเข้ามาอาศัยก่อนจะมีการซื้อขาย แต่ก็ไม่สามารถที่จะเอาอำนาจใดมาห้ามไม่ให้เขาเข้ามาอาศัย ก็พอดีนายยอดขับรถกระบะของกำนันเทินมาจอดแต่ไม่เข้าในเขตรั้ว และในแค็บของรถกระบะมีสมุนบริวารของกำนันเทิน ที่ดักขึ้นในระหว่างทาง นั่งเพิ่มมาอีกสี่คน

“นี่ถ้าคุณไม่ใช่ผู้ที่จะซื้อบ้านหลังนี้ละก็ ผมในฐานะผู้ดูแลบ้านจะไม่ยอมให้คุณ เข้ามาอยู่ในบ้านเป็นเด็ดขาด” กำนันเทินพูดขรึมๆ

“แต่เจ้าของบ้านเป็นคนเปิดประตูต้อนรับผม เธออยู่คุยกับผมทุกคืน นอกจากนั้นเธอยังเล่าเรื่อง ที่ทำให้เธออยู่ในบ้านนี้ตอนกลางวันไม่ได้ให้ผมฟังด้วย” ธนาพูดเพื่อต้องการจะดูปฏิกิริยาของกำนันเทินและพวก

“เธอเล่าให้คุณฟังว่าอย่างไรบ้าง” กำนันเทินถามอย่างร้อนตัว

“หลายเรื่อง… เช่น ว่าเธอมีพี่น้องสองคน มีความเป็นมาตั้งแต่เด็กอย่างไร แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมเห็นใจเธอมากจนอยากช่วยเธอ” ธนาเริ่มแหย่

“เรื่องอะไรครับ”

“เธอถูกคนกลุ่มหนึ่งข่มเหงรังแก รังแกจนทำให้เธอกับพี่สาวต้องแยกกัน พี่สาวเธอต้องไปอยู่กรุงเทพ ส่วนเธอต้องหลบๆ ซ่อนๆ จะเข้ามาบ้านได้ก็เมื่อตอนกลางคืนแล้วเท่านั้น”

“แต่ผมว่าคนที่พูดกับคุณต้องไม่ใช่นังยานี” นายยอด ดอนยาง โพล่งออกมา ทว่ากำนันเทิน ทุ่งมหา
กลับสะกิดแล้วปรามด้วยสายตา นายยอดจึงหยุดพูด

“ถ้าไม่ใช่คุณยานีแล้วเป็นใคร” ธนาถามจ้องหน้ากำนันเทิน นายยอด และนายสง

“เราจะเชื่อว่าเป็นเธอก็ต่อเมื่อเราได้พบเธอ” กำนันเทิน พูดแทนลูกน้อง

"งั้น พวกคุณก็มาหาเธอตอนกลางคืนก็ได้นี่ แต่มาดี ๆ นะ อย่ามางัดแงะเดี๋ยวจะโดนเธอเล่นงานเข้าให้” ธนานึกถึงตอนที่ยานีเล่าว่าเธอทำผีหลอกมัน

"ผมไม่เชื่อว่าเรื่องที่คุณเล่าเป็นเรื่องจริง” กำนันเทินพูดแบบใจเย็น แต่ธนาเดาว่าภายในของเขากำลังรุ่มร้อน จนสามารถที่จะฆ่าเขาได้ถ้าโอกาสอำนวย และธนาเห็นเทินหันไปสบตากับนายยอด นายสง ด้วยแววตาเหมือนจะลุกเป็นไฟ

“คุณเทินเอาอะไรมาพิสูจน์ว่าไม่ใช่ แต่ถ้าคุณว่าไม่ใช่ เธอก็อาจจะเป็นน้องสาวของคุณยานี ที่ว่าหายไปนานแล้วก็ได้” ธนาพูดจากคำของชายชราที่บ้านบนไร่ ชายชราพูดว่ามีลูกสาว ๒ คน คนหนึ่งไปอยู่กรุงเทพฯ แต่อีกคนหายไปตั้งแต่ตอนเกิดพายุ แล้วกำนันเทินเป็นคนพูดว่านงเยาว์หนีตามครูไป

“แต่นงเยาว์ตายไปแล้ว” นายยอด ดอนยาง โพล่งออกมาอีกจนได้ “ผมว่าเรามาพูดความจริงกันดีกว่าพี่” นายยอดหันไปพูดกับกำนันเทิน กำนันเทินพยักหน้าหงึก ๆ และพูดว่า

“ใช่ตามที่พวกนี้พูด นงเยาว์ตายไปสองปีแล้ว จะมาพบกับคุณได้อย่างไร”
“คุณนงเยาว์ตายเพราะอะไร ไหนคุณเทินบอกว่าลูกสาวคนหนึ่งของตารอดหนีตามครูประถมไป” ธนาจ้องหน้ากำนันเทิน และเริ่มสงสัยว่าถ้านงเยาว์ตายจริง กำนันเทินและพวกจะต้องเป็นผู้ทำให้เธอตาย

“ผมว่าคุณเลิกสนใจเรื่องลูกสาวของตารอด แล้วมาคุยเรื่องธุรกิจซื้อขายกันดีกว่า ผมอยากถามคุณว่าคุณจะซื้อที่แปลงนี้หรือไม่ซื้อ ถ้าไม่ซื้อผมว่าคุณควรรีบกลับไป” กำนันเทินพูดเสียงกร้าว

"ผมจะซื้อเมื่อได้พบกับเจ้าของที่ตัวจริง พร้อมโฉนดหรือเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน” ธนาพยายามพูดแบบใจเย็น

“โฉนดอยู่ที่ผม แต่คุณยานีมอบหมายให้ผมดำเนินการแทนทุกอย่าง” กำนันเทินพูดและมีท่าทีอึดอัด

“งั้นเอาโฉนดมาให้ผมดูก่อน ผมจะเอาไปให้สำนักงานที่ดินตรวจสอบว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นของใคร จะซื้อขายกันได้ไหม ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย คุณยานีเจ้าของที่ดินตัวจริงมาปรากฏ และเอกสารสิทธิ์ในที่ดินถูกต้อง ผมจะจ่ายทันทีห้าสิบเปอร์เซ็นต์ และจะจ่ายที่เหลือในวันที่มีการโอนที่กันที่สำนักงานที่ดินอำเภอ"

ธนาแกล้งบอกไป เพราะรู้ว่ากำนันเทินไม่มีวันที่จะทำอย่างที่เขาขอได้

กำนันเทินอึ้งไปพักหนึ่งหลังจากฟังเงื่อนไขของธนา แต่แล้วก็พูดเพื่อรักษาหน้าของตัวเอง ว่า

“ผมจะพยายามติดต่อกับคุณยานี และพาคุณยานีมาพบคุณให้เร็วที่สุด”

พอพูดจบธนาเห็นเขาแอบส่งสัญญาณบางอย่างกับลูกน้อง


หลังจากกำนันเทิน ทุ่งมหา และสมุนบริวารพากันขับรถกลับไปแล้ว ผมก็ย้อนกลับไปที่บ้านบนไร่อีกครั้งด้วยจิตใจอันร้อนรน ที่จะสืบสาวราวเรื่องของยานีให้กระจ่าง จากปากคำของชายชราผู้เป็นพ่อของเธอ



ชายชรายังนั่งอยู่บนแคร่ใต้เพิงที่เดิม ขณะที่ธนาขับรถเข้าไปจอดตรงลานที่จอดเมื่อเช้า ธนายกมือไหว้ชายชราอีกเป็นครั้งที่สอง ชายชรารับไหว้แล้วพูดว่า

“คุณจะมาทำไมอีก บอกแล้วไงว่าฉันไม่ขาย ฉันจะขอตายอยู่ในที่ดินแปลงนี้ ตายในที่ดินที่ฉันอุตส่าห์บุกเบิกและสร้างมานี่แหละ จะไม่ยอมไปไหนทั้งสิ้น”

"ผมทราบครับ ลุงกรุณาฟังผมพูดให้จบก่อน ที่ผมมานี่ผมไม่ได้มาเพื่อจะซื้อที่ดิน แต่ผมรู้ว่าลุงมีปัญหา ผมตั้งใจจะมาสอบถามบางอย่างและช่วยเหลือลุง”

“อย่าเลยคุณ คุณมันพวกนายทุน พวกที่ชอบเอาเงินมาฟาดหัวคนจนๆ ถ้าคุณอยากจะซื้อที่ดินไล่ที่คนจนละก็ คุณไปที่อื่นเถอะอย่ามาคุยกับฉันเลย ฉันไม่มีวันที่จะยอมขายให้คุณ”

“ไม่ ๆ ผมไม่ใช่นายทุนนะลุง แล้วผมก็ยัง - ยังเป็นเพื่อนกับคุณยานีลูกสาวของลุงด้วย ผมมาพักอยู่ที่บ้านหลังโน้นของลุง” ธนาตัดสินใจกล่าวคำนี้ออกไป ซึ่งก็มีผลทำให้ชายชราหยุดชะงักทันที

“หา ว่าไงนะ?”

“ผมเป็นเพื่อนกับคุณยานีลูกสาวของลุง ผมมาพักอยู่ที่บ้านหลังโน้นของลุง ที่บ้านถ้ำธงตั้งสองคืนมาแล้ว”

“เรอะ แล้วคุณไม่ใช่พวกไอ้เทินหรอกหรือ?” ชายชรายังสงสัยและจ้องหน้าธนาเขม็ง

“เมื่อเช้าผมมากับพวกกำนันเทิน แต่ผมไม่ใช่พวกพ้องของเขา” ธนารีบแก้

“แล้วคุณไม่ได้มาซื้อที่ดินหรอกหรือ”

“เรื่องนั้นเอาไว้ค่อยพูดกัน แต่ที่ผมมาหนนี้เพราะอยากจะมาคุยกับลุง ผมรู้ว่าลุงมีปัญหา ลุงถูกพวกนักเลงมีอิทธิพลข่มขู่ใช่ไหม ผมอยากจะมาช่วยลุง”

“คุณเป็นตำรวจเรอะ” ชายชราเพ่งมองธนา

“เปล่า แต่ผมเป็นนักกฎหมาย เป็นทนายความผมสามารถช่วยลุงได้น่ะ”

นัยน์ตาของชายชรา มีแววแห่งความปีติยินดีเกิดขึ้นในทันใดที่ได้ยินคำกล่าวจากธนา แกจึงเชิญเขานั่ง โดยใช้ผ้าขาวม้าโบกปัดที่พื้นกระดานข้าง ๆ

“เขาข่มขู่ให้ลุงขายที่ดินใช่ไหม?” ธนาเริ่มประโยคแรกหลังจากนั่งลงข้างแก

“ใช่ แต่ลุงไม่ขาย”

"ลุงเล่ารายละเอียดให้ผมฟังหน่อยได้ไหม?”

“แล้วคุณมากับกำนันเทินได้ยังไง” ชายชรายังมีปัญหา

“ผมพบกำนันเทินตอนที่ ที่นี่ถูกพายุเกย์ได้ประมาณสามเดือน ผมมากับเพื่อนนักข่าวหนังสือพิมพ์ เพื่อนมาทำข่าวเรื่องกำนันผู้ใหญ่บ้านโกง และยักยอกเงินที่รัฐบาลจ่ายค่าบ้านหลังละสองหมื่นห้า แล้วเขาชวนผมมาด้วย”
“ลุงเองก็ไม่ได้นะค่าบ้าน” ชายชรารีบฟ้องขึ้นทันที

“ค่าบ้านเสียหายของลุงทั้งสองหลังไอ้กำนันเทินกับพวกเอาไปหมด มีคนว่ามันรับไปเป็นล้าน ๆ พวกลูกเรือมันมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านหมดทุกคน แต่มันรับเอาเอง มันสมคบกับผู้ใหญ่บ้านรวมหัวกันทำหลักฐานเท็จ ค่าเรือของมันที่เสียหายมันก็ได้เป็นล้าน”

“ดีแล้ว ที่ลุงบอก ตอนนี้คดีความยังไม่หมดอายุ ผมจะหาหลักฐานยื่นฟ้องร้องมันเอง เอามันอีกกระทงหนึ่งนอกจากข้อหากรรโชกทรัพย์ มันติดคุกหัวโตแน่”

แล้วธนาก็เล่าว่าพบและรู้จักกำนันเทินได้อย่างไร

“แล้วกับยายหนูล่ะ คุณไปพบและรู้จักยายหนูได้ยังไง” ชายชราถามอีก

“ผมนัดพบกับกำนันเทินที่โรงแรมแต่ผมมาผิดเวลา ผมจึงขับรถเรื่อยๆ ไปออกบ้านถ้ำธงก็พอดีไปพบลูกสาวของลุงเข้า เราเคยเป็นเพื่อนนักศึกษาห้องเดียวกันตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย… เธอเลยชวนผมไปพักที่บ้าน” ตรงนี้ธนาจำเป็นต้องโกหกอีกครั้ง

“แต่เมื่อเช้าคุณมากับพวกกำนันเทิน” ชายชรายังสงสัย

“มันไปดักพบผมที่โรงแรมมาบอำมฤต วันนี้มันเลยชวนผมมาดูที่ ผมไม่รู้ว่าที่ๆ จะมาดูเป็นที่ของลุง ลุงช่วยเล่ารายละเอียดที่มันทำกับลุงให้ผมทราบอีกทีได้ไหม ผมจะได้หาทางช่วย”

ชายชราจึงเล่าเรื่องให้ธนาฟังเหมือนอย่างที่ยานีเล่าให้ฟัง แล้วให้ความเห็นว่า
“ปัจจุบันคนชั่วเลวขนาดไหนถ้ามีเงิน ก็มีคนยกมือไหว้ ใครมีเงินก็จะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ จะสมัครผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ส.ส.,ส.จ.ก็มีคนเลือก มีคนมากมายที่มาจากต่างถิ่นแล้วมาโด่งดังกลายเป็นจ้าวพ่อ ส่วนคนที่ดีมีคุณธรรมถ้ายังจนก็ไม่มีใครยอมรับนับถือ จะสมัครผู้ใหญ่บ้าน กำนันก็ไม่มีคนเลือก ทั้งๆ ที่คนมีเงินหว่านเงินลงไปหนึ่ง เพื่อจะเอาคืนสิบ ชาวบ้านก็ยังเลือก”

“หมายความว่าพวกกำนันเทินเพิ่งจะมาสร้างอิทธิพลขึ้นทีหลัง”

“ใช่ เมื่อก่อนที่นี่เราอยู่กันอย่างผาสุก ตอนนั้นถนนมาบอำมฤตทุ่งมหายังเป็นทางดินลูกรัง ยังไม่ได้ลาดยาง แต่พอลาดยางก็มีคนจากที่อื่นอพยพกันเข้ามา พวกของกำนันเทินแรกๆ ก็มาจอดเรือประมงส่งปลาให้พวกพ่อค้าแม่ค้า ที่มารับซื้อไปขายต่อ ต่อมาก็พากันตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นี่”

“แล้วเขามาใช้อำนาจและอิทธิพลกับครอบครัวลุงตอนไหน?”

“ตอนมันได้รับเลือกเป็นกำนัน ลูกสาวของลุงหน้าตาสวย กำนันเทินจึงมาสู่ขอ เสนอสินสอดทองหมั้นหลายแสน แต่ลูกสาวของลุงไม่เอา กำนันเทินโกรธหาว่าดูถูกมันจึงส่งลูกน้องมาข่มขู่ ลูกสาวลุงมีครูสอนชั้นประถมคนหนึ่งมาชอบอยู่ กำนันเทินก็ให้ลูกน้องไปลอบยิงครู ครูนั่นนั่งซ้อนท้ายรถเครื่องที่พี่เพื่อนเป็นคนขับ เพื่อนเลยรับเคราะห์แทน ครูคลานหนีไปได้

ตำรวจรู้เบาะแสแต่ไม่กล้าจับ ครูนั่นต้องย้ายหนีไปอยู่จังหวัดทางใต้ พอครูคนนั้นย้ายพวกกำนันเทินบอกลุงว่าลูกสาวลุงหนีตามครูไป แต่ลุงไม่เชื่อส่วนลูกสาวของลุงอีกคนหนีไปอยู่กรุงเทพ นาน ๆ ก็แอบมาบ้านโดยคอยหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ให้พวกกำนันเทินรู้”

คำเล่าของชายชราทำให้ธนายิ่งเชื่อว่า หญิงสาวที่มาอยู่ในบ้านกับเขาเฉพาะกลางคืน อาจเป็นคนใดคนหนึ่งในจำนวนลูกสาวสองคนของชายชรา

“หมายความว่า ลุงไม่ขายที่ดินไม่ว่าแปลงไหน” ธนาถามเพื่อให้แน่ใจ

“ใช่ ลุงต้องการเก็บรักษามันไว้ ไม่ว่าแปลงไหนลุงไม่ขาย” ชายชรากล่าวยืนยันอย่างเด็ดเดี่ยว ธนารู้สึกชื่นชมในปณิธานของแก

“ผมขอให้คำมั่นสัญญา ว่าจะช่วยให้ลูกสาวของลุง ได้กลับเข้าไปอยู่ในบ้านโดยไม่ต้องคอยหลบๆซ่อนๆ อีกต่อไป”

ชายชรายกชายผ้าขาวม้าขึ้นเช็ดน้ำตา ด้วยความปลื้มใจที่ได้ยินคำพูดของธนา หน้าตาแกดูสดใสขึ้น แกพนมมือท่วมหัวเมื่อกล่าวว่า

“ขอให้ช่วยได้จริง ๆ เถอะเจ้าประคู้ณ ยายหนูจะได้หมดเคราะห์หมดกรรมเสียที"

“ผมมีเรื่องอยากถามลุงอีกอย่าง”

“อะไร”

“ผมอยากทราบว่า ลูกสาวของลุงทั้งสองคนหน้าตาเหมือนกันไหม”

“เหมือน แต่คนพี่ที่ไปอยู่กรุงเทพจะขาวกว่าและอ้วนกว่านิดหน่อย”

“ลูกสาวของลุง คนไหนที่มาที่นี่บ่อย”

“คนพี่ แต่คนน้องหายไปนานแล้วไม่มาเลย แต่ถ้ามามันก็จะมาที่นี่ทุกที”

“แต่มีคนหนึ่ง อยู่ที่บ้านโน้น เธอเป็นคนไปชวนผมที่ชายหาด ในคืนแรกที่ผมมาถึง แล้วให้ผมเข้าไปอยู่ในบ้านหลังโน้นของลุง”

“แปลก แล้วทำไมมันไม่มาหาลุง หรือว่าพวกกำนันเทินรู้ว่ามันมา และกำลังจ้องจะจับมันอยู่มันเลยต้องระวังไม่กล้าปรากฏตัวตอนกลางวัน” ชายชรารำพึงและทำท่าคิด

ธนาพลอยเห็นด้วยว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องคอยติดตามปกป้องเธอ







 

Create Date : 21 กันยายน 2554
14 comments
Last Update : 21 กันยายน 2554 20:06:20 น.
Counter : 1485 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะคุณลุงดีใจจังตอนใหม่มาซะที แต่ก็ยังต้องลุ้นอยู่ดี ว่ายานีเป็นผีหรือคน
ที่ชล2-3วันมานี้ไม่ค่อยมีแดดค่ะ แต่มีฝนตกปรอยๆช่วง4-5 โมงเย็นเท่านั้นค่ะ ไม่สร้างความรำคาญเลยค่ะ คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ

 

โดย: หญิงแก่น 21 กันยายน 2554 22:16:57 น.  

 

ภาพของกำนันเทิน เป็นภาพที่ชัดเจนมากครับ
การสั่งลูกน้อง หรือห้ามปรามไม่ให้พูดในบางเรื่อง
เหมือนนักเลงคนนี้มีตัวตนจริงๆ
ชีวิตและแนวความคิดของคนแบบนี้ ได้ฟังครั้งใดก็หมดหวัง
เกิดความท้อแท้ห่อเหี่ยวได้ง่ายๆครับ

ยินดีกับคุณลุงบูลย์ที่มีงานเข้ามามาก อย่างไรก็หาเวลาพักผ่อนบ้างนะครับ

 

โดย: Insignia_Museum 21 กันยายน 2554 22:31:45 น.  

 

ขอบคุณคุณเล็ก

ขอบคุณคุณอิม
ที่เข้ามาอ่านครับ ถ้าเป็นไปได้ผมจะพยายามอัพสัปดาห์ะตอน

 

โดย: pantamuang 22 กันยายน 2554 20:17:26 น.  

 

คุณเล็กครับ ขืนบอกก็ไม่สนุกนะซีครับ

 

โดย: pantamuang 22 กันยายน 2554 20:22:59 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณลุง นอนหลับฝันดีนะคะ

 

โดย: หญิงแก่น 26 กันยายน 2554 21:45:46 น.  

 

สบายดีนะคะ คุณลุง แวะมาชมตอนใหม่ค่ะ

 

โดย: หญิงแก่น 1 ตุลาคม 2554 21:09:17 น.  

 

ยังไม่ได้อ่านบทที่ 1เลยครับ เดี๋ยวจะแวบไปอ่านบทแรกเสียก่อน พักนี้พรรคพวกส่งหนังสือให้ไปเยอะ วางไว้เต็มโต๊ะเลย
เพิ่งอ่านหมดไปเล่มสองเล่ม เวลาน้อยจริง ๆ งานเลี้ยงปากท้องมันแย่งเวลาอ่านไปหมด

 

โดย: หลวงเส 7 ตุลาคม 2554 6:02:19 น.  

 

ตอนใหม่มายังคะคุณลุง

 

โดย: หญิงแก่น 8 ตุลาคม 2554 21:27:11 น.  

 

มาทักทายยามดึกครับคุณลุงบูลย์

ผมเข้าใจว่าช่วงนี้คุณลุงบูลย์คงวุ่นกับการทำงาน

หวังว่าคงสบายดัีนะครับ

 

โดย: Insignia_Museum 9 ตุลาคม 2554 23:34:17 น.  

 

ไม่ค่อยได้แวะเวียนมาบ่อยอย่างแต่ก่อน เพราะงานเต็มวันเหมือนกันครับลุงบูลย์ ว่างเสาร์-อาทิตย์นิดหน่อย เมื่อก่อนอัพบล็อกบ่อย ตอนนี้ห่างวันเข้าไปเรื่อยๆครับ แถมรูปภาพ ข้อมูล ต้นฉบับเรื่องสั้นมากมาย โดยไวรัสเขมือบไม่เหลือเลยครับลุง (ยังดีที่ยังเหลือเป็นหนังสือนั่นละ)

ลุงสบายดีนะ คงงานจะเยอะเหมือนผม

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 18 ตุลาคม 2554 20:50:45 น.  

 

ตะกี๊เข้ามาผ่านเวบอื่น เจอบล็อกว่ามีไวรัส

โอ้ ยังมีคนเข้ามารวม ๑๐๘ ครั้ง แต่ไม่มีใครโพสต์ เลยไม่ลงเรื่องต่อ ฮ่า ๆ ๆ

รอให้คุณขอมา อิ ๆ ๆ

 

โดย: pantamuang 20 ตุลาคม 2554 9:25:01 น.  

 

ขอมาตั้งหลายครั้งแล้วค่ะ แวะมาดูกี่ทีก็ไม่อัพอ่ะคุณลุึง

 

โดย: หญิงแก่น 24 ตุลาคม 2554 21:25:52 น.  

 

สวัสดีครับคุณลุง
ไม่ได้มานาน มาเยี่ยมครับ
คุณลุงสบายดีนะครับระยะนี้

 

โดย: panwat 25 ตุลาคม 2554 19:22:06 น.  

 

ตอนนี้ต้องอ่านใน MEB E-BOOK แล้วละครับ

 

โดย: pantamuang IP: 182.52.83.97 23 กันยายน 2559 11:10:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


pantamuang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย

ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ

ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..

ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.

เริ่ม 9 กันยายน 2550

Friends' blogs
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.