...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
4 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 

เธอมาเพื่อช่วยพ่อ

ตอนที่ ๑





เทียบชายวัยใกล้สี่สิบ นั่งมองร่างผอมซูบ ผิวเหี่ยวเหลืองซีดของบุตรสาว ที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงพยาบาล ในโรงพยาบาลทหารเสนารักษ์ อย่างสิ้นหวังและทอดอาลัย

เกือบ 5 วันมาแล้วที่ เด็กหญิงนงเยาว์ จิโนเวทย์ บุตรสาววัย 13 ปีของเขาไม่ลุกขึ้นมากินข้าวกินน้ำ คงนอนอยู่บนเตียงในลักษณะคล้าย ๆ หลับ มีเพียงหน้าอกเท่านั้นที่สะท้อนขึ้นลง อันแสดงว่าเธอยังหายใจอยู่

เทียบเงยหน้าขึ้นมองขวดน้ำเกลือขวดที่ 4 ที่ห้อยอยู่กับขาเหล็กข้างเตียง หมอบอกว่าจำเป็นต้องให้น้ำเกลือไว้ตลอดเวลาเพราะคนไข้ไม่ยอมลืมตาขึ้นมากินอาหาร หมอจำเป็นต้องให้อาหารในรูปของแร่ธาตุ และวิตามินทางสายน้ำเกลือ เพราะเป็นทางเดียวที่จะช่วยยึดชีวิตของคนไข้ให้ยืดยาวออกไป

เทียบเคยถามหมอว่า “ แล้วเมื่อไหร่จึงจะหยุดให้น้ำเกลือ ? ” เขาสงสารลูก ที่ต้องทนอยู่กับสภาพที่ถูกพันธนาการ จะพลิกตัวหรือตะแคงตัวไปทางไหนก็ลำบาก ยามเคลื่อนไหวแขนหรือขยับเพียงนิดเดียว บริเวณที่ปักเข็มไว้ก็จะโป่งพอง น้ำเกลือหยุดไหล และจะมีเลือดสีแดงไหลกลับ ย้อนเข้าไปในเข็มที่ต่อไว้กับสายน้ำเกลือ ที่มีปลายเข็มแทงเข้าไปในเส้นเลือดที่หลังมือทุกครั้งไป

หมอตอบว่า “ ก็คงต้องให้อย่างนี้เรื่อยไปจนกว่าคนไข้จะ...” หมอรีบเปลี่ยนข้อความบางอย่างที่เกือบจะพลั้งปากพูดออกมา “จนกว่าคนไข้จะได้สติและมีอาการดีขึ้น”

เพราะในในของหมอ หมอบอกตนเองว่า เห็นทีคนไข้รายนี้จะรอดยาก มาลาเรียขึ้นสมอง เซลล์ประสาทสมองถูกทำลายหมดแล้วอย่างนี้ จะรอดไปได้อย่างไรกัน

แต่เอาเถอะ...สมมุติว่ารอดไปได้ เด็กคนนี้ต่อไปก็จะมีอาการเลอะเลือน เหมือนคนไม่เต็มเต็ง คงต้องเป็นภาระในการเลี้ยงดู สำหรับผู้เป็นพ่อและแม่ไม่ใช่น้อย และเรื่องที่จะศึกษาเล่าเรียนให้เก่งอย่างเด็กที่ปกติ ๆ ต่อไปนั้นคงยาก

หมอตำหนิเทียบว่า “ทำไมพาลูกมาโรงพยาบาลช้าเกินไปน่าจะพามาให้เร็วกว่านี้”
เทียบตอบว่า “ ไม่คิดว่าลูกจะเป็นไข้ร้ายแรง เพราะเห็นไปโรงเรียนอยู่ทุกวัน เพิ่งจะมาหยุดเรียนก็ต่อเมื่อคุณครูพัฒนา ครูประจำชั้นพาตัวซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่บ้าน ”

แต่ทว่าที่บ้านของเขาไม่มีใครอยู่ เขากับเมียไปทำนา ลูกสาวคนโตที่ปกติให้อยู่ดูแลบ้าน วันนั้นก็ไปธุระที่บ้านปู่บ้านย่า กว่าจะกลับเข้าบ้านก็ใกล้ ๆ ค่ำ ไล่ ๆ กับเวลาที่เขากับเมียกลับจากนา

เทียบมาถึงบ้านเห็นลูกสาวนอนซม เข้าไปลูบคลำศีรษะเนื้อตัวดูก็เห็นว่าร้อนรุม ๆ จึงเอายาแก้ไข้แก้ปวดชนิดซอง ที่ขายอยู่ตามร้านค้าในหมู่บ้านให้กิน คิดว่าอาการคงไม่หนักหนาอะไร เพราะลูกสาวก็เคยบ่นปวดศีรษะมาอย่างนี้บ่อย ๆ ให้กินยาแล้วก็เห็นหายทุกที

วันรุ่งขึ้นอีกวัน ตนเองกับภรรยาก็ไปนาอีก ก่อนจะไปเห็นลูกสาวยังนอนซมอยู่ ก็สั่งกำชับให้ลูกสาวคนหัวปีคอยเอายาให้น้องกินด้วย แต่มารู้ว่าลูกสาวอาการหนักถึงชักกระตุก ก็ตอนที่ลูกสาวคนโตวิ่งไปตาม บอกว่าอาการของน้องสาวทำท่าไม่ดี เทียบจึงได้ไปว่าจ้างรถสองแถวเล็กของคนใกล้บ้าน พาลูกมาโรงพยาบาล

จากวันนั้นมาถึงวันนี้ คืนนี้เป็นคืนที่ 5 แล้ว นงเยาว์ยังไม่ได้สติเลย มีแต่ทำท่ากระสับกระส่ายพลิกตัว และคล้ายจะรู้สึกตัวในบางครั้ง แต่พอเรียกชื่อพร้อมเขย่าร่าง นงเยาว์ก็ไม่แสดงอาการโต้ตอบรับรู้ใด ๆ เทียบจึงคอยช่วยจับประคองพลิกร่างให้ลูกได้นอนในท่าที่สบาย แต่ทว่าที่สายน้ำเกลือ เลือดสีแดงได้ไหลกลับเข้าไปในหลอด ที่ต่อกับเข็มและสายน้ำเกลืออีกแล้ว แสดงว่าน้ำเกลือไม่เดิน


จากการขยับพลิกตัวของคนไข้ ทำให้เข็มที่ปักแทงเข้าเส้นเลือดแทงพลาดจากเส้น ซึ่งหมอสั่งให้เรียกพยาบาล เพื่อให้พยาบาลมาเปลี่ยนที่ปักเข็มให้ใหม่

เทียบรีบลุกพรวดไปเรียกพยาบาลยังห้องทำงาน อันอยู่สุดเรือนคนไข้หลังนั้นทันที

“ หมอครับ ๆ ๆ น้ำเกลือไม่ไหลอีกแล้ว เลือดพุ่งเข้าในหลอดเต็มเลย ”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของการที่เทียบต้องวิ่งเรียกพยาบาลว่า “หมอ” ให้มาช่วยแทงเข็มสายน้ำเกลือให้ใหม่ แต่นับเป็นสิบ ๆ ครั้งแล้วที่เทียบต้องเดินเรียกพยาบาลอยู่เช่นนี้ จนตัวเองก็นึกเบื่อระอา นี่หากตนมีความสามารถทำเสียเองได้ เทียบก็ไม่อยากจะรบกวนหมอหรือพยาบาล

พยาบาลแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัด ในทุก ๆ ครั้งที่เทียบมาบอกว่า

“ น้ำเกลือไม่เดิน เลือดไหลเข้าหลอดน้ำเกลือ ”

คนไข้ในห้องรวมหรือห้องสามัญ ไม่ได้มีเพียงคนเดียว แต่มีเป็นสามสิบคน แต่ละคนก็ต่างมากด้วยปัญหาร้อยแปด บางคนนอนร้องครวญครางเรียกหาแต่จะให้หมอช่วย พอหมอเข้าใกล้พูดจาไต่ถาม หมอหรือพยาบาลคนใดพูดไพเราะเอาอกเอาใจหน่อย คนไข้หนักก็ดูราวกับว่าจะหายเจ็บหายปวด

บางคนบอกปวดตรงนั้นตรงนี้ หมอบอกว่าจะฉีดยาแก้ปวดให้แล้วแกล้งฉีดน้ำกลั่นบริสุทธิ์ให้หลอก ๆ 1-2 ซีซี พร้อมเอื้อนวาจา “ทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็หายปวดแล้ว” น่าประหลาดที่คนไข้ที่เคยบ่นปวด ๆ นั้นกลับหายปวดได้ ทั้ง ๆ ที่พยาบาลมิได้ฉีดยาแก้ปวดใด ๆ ให้เลย เพราะหมอมิได้สั่งไว้ นอกจากในรายที่จำเป็นต้องฉีดให้ตามที่หมอสั่ง จึงเป็นที่รู้ ๆ กันว่า คนไข้ส่วนใหญ่มักจะ “อ้อนหมอ” เช่นเดียวกับลูกอ้อนแม่

“คุณลุงต้องคอยระวังเวลาลูกพลิกตัวหน่อยนะ คอยจับมือลูกไว้อย่าให้ขยับแขน เข็มแทงเส้นเลือดแตกบ่อย ๆ อีกหน่อยจะไม่มีที่ปักเข็มน้ำเกลือ”

พยาบาลเตือนเหมือนหลาย ๆ ครั้งที่เคยเตือน

พยาบาลเดินเข้ามาข้างเตียงของเด็กหญิงนงเยาว์ ก้มตัวลงจะปลดแถบกาวที่ติดหลังมือเด็กหญิง เพื่อดึงสายน้ำเกลือออกหาที่ปักเข็มใหม่ เพราะที่บริเวณหลังมือขวาของเด็กหญิง มีรอยเข็มทั่วไปหมดแล้ว แต่แล้วพยาบาลก็ทำท่าตกใจ เมื่อเห็นอาการของเด็กหญิงเปลี่ยนไป

เด็กหญิงนงเยาว์นอนตัวแข็ง เหยียดแขนขา หน้าแหงน หน้าอกมีอาการกระตุกถี่ ๆ พยาบาลที่มาถอดสายน้ำเกลือจะปักใหม่ตกใจ รีบวิ่งไปที่ห้องพยาบาลเวรเรียกหมอ แล้วเธอเองก็วิ่งกลับมาพร้อมกับเครื่องปั๊มหัวใจ

พยาบาลจากห้องวิ่งมาอีก 3 คน ต่างช่วยเหลือกันจ้าละหวั่นเครื่องปั๊มหัวใจ เครื่องช่วยหายใจถูกครอบเข้าที่จมูก หน้าอกของคนไข้ถูกพยาบาลช่วยกันกดบีบ นวด ชุลมุน...

หมอวิ่งมาในเวลาห่างกันไม่กี่นาที รีบเข้าช่วยเด็กหญิงร่วมกับพยาบาล ครู่ใหญ่ ๆ ผ่านไป หมอก็ส่ายหน้าวางมือ
“ เราเสียใจกับคุณด้วย เราพยายามช่วยลูกสาวของคุณอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ช่วยได้แค่นี้ ”

หมอกล่าวแล้วเดินออกมา ปล่อยให้พยาบาลสองคนช่วยกันถอดนั่นถอดนี่ออกจากร่างเด็กหญิงคนไข้

เทียบยืนซึมพูดอะไรไม่ออก แต่นางลำยองเมียเทียบร้องไห้โฮ
หมอบอกให้พยาบาลปิดม่าน และสั่งให้พยาบาลคนหนึ่งไปตามบุรุษพยาบาล นำเตียงเล็กมาถ่ายเตียง

พยาบาลคนที่หนึ่งเดินไปจะทำตามคำสั่งหมอ อีกสองคนปิดม่านจะถอดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คนไข้ที่ถึงแก่กรรม แต่ทว่ายังไม่ทันจะได้ลงมือ พยาบาลหนึ่งในสองก็เปิดม่านที่เพิ่งรูดเข้าออก แล้ววิ่งไปเรียกหมออีกครั้ง

“หมอคะ! อย่าเพิ่งไป หมอมาดูอะไรนี่!”
หมอหนุ่มทำท่าสงสัย แต่ก็รีบแหวกม่านเข้าไปที่ร่างของเด็กหญิงผู้ถึงแก่กรรม….


000000

(มีตอนต่อไป)





 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2554
31 comments
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2554 7:59:00 น.
Counter : 1506 Pageviews.

 




แง๊ว...ว ว วันนี้ครูใจร้ายจัง กำลังไล่อ่านด้วยความสนุกเล๊ยคร้า...

มาจบให้ตกใจด้วย.......เอ๊ะต่อไปไงเนี่ย.....


ปล.รูปแบบใหม่ปรับโฉมเล่นเอา ศิษย์ต๊กกะจาย นึกว่าเข้าบล๊อกผิด อิ อิ...เดี๊ยวมาใหม่คร้าครู...อยากรู้เค้าเรียกให้หมอมาดูอะไร...

 

โดย: แนวเนี๊ยะ 4 กุมภาพันธ์ 2554 20:29:50 น.  

 

อีกอย่างค่ะครู...ทำไมชีวิตนงเยาว์ เคาะห์ซ้ำกรรมซัดอย่างนี้...เนี่ยชีวิตบ้านนอกของแท้ๆ ไม่มีความรู้เรื่องเจ็บไข้ คงเห็นว่าไข้ธรรมดา....(พูดไปนั่น ยังกับตัวเองมีความรู้ มาจากบ้านนอกเหมือนกัลและตั๋ว....ต้าหมายถึงว่า เดี๊ยวนี้เป็นอะไรกันหน่อยก็วิ่งหาหมอกันแว้ว..วว ไม่มีตังค์ก็ติดหนี้สินก่อนได้น่ะคร้า..)

 

โดย: แนวเนี๊ยะ 4 กุมภาพันธ์ 2554 20:36:20 น.  

 


มาดึกหน่อยนะคะ ได้มาแล้วคะ

 

โดย: หนูแอน (seton ) 5 กุมภาพันธ์ 2554 0:49:16 น.  

 

Glitter Graphic for Hi5 MySpace Orkut & Friendster click Here!!

วันหยุด...ครูนั่งทำงานอยู่แน่ๆ...
ส่วนคุณแอนป่านนี้กำลังอ่านหนังสืออยู่ เชิบ เชิบ
ต้า...รองานครูอยู่เดี๊ยวจะโฟโต้มาถ่ายแข่งกับคุณแอน อิ อิ 5 5 5


 

โดย: แนวเนี๊ยะ 5 กุมภาพันธ์ 2554 9:23:42 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาทักทายคุณลุง แอบต๊กใจนึกว่าเข้ามาผิดบล็อก คุณลุงมาอัพใหม่ ทำบล็อกใหม่สวยเชียวค่ะ ทำบล็อกเก่งกว่าเล็กอีก แวะมาวันนี้ได้มาอ่านเรื่องเธอมาเพื่อช่วยพ่อแค่เริ่มอ่านก็ตื่นเต้นน่าติดตามซะแล้วอยากรู้จังว่าพยาบาลเรียกหมอมาดูอะไร หรือว่าเด็กหญิงนงเยาว์ฟื้นขึ้นมาหรือเปล่าเอ่ย....

 

โดย: หญิงแก่น 5 กุมภาพันธ์ 2554 10:46:50 น.  

 

ขอเวลาสำหรับตอนใหม่อีก ๕ วันครับ ลงแน่ ๆ

ขอบคุณคุณต้า

คุณหนูแอน

หญิงแก่น

และท่านที่มาอ่านแต่ไม่เมนท์ครับ ฮา

 

โดย: pantamuang 5 กุมภาพันธ์ 2554 13:42:51 น.  

 

สายัณห์สวัสดีค่ะลุงบูลย์
+===========================+

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!

ขออภัยที่ดีใจแบบออกอาการตื่นเต้นมาก ไม่นึกไม่ฝัน...
จะได้เห็น ได้อ่าน ได้ทักทายลุงบูลย์ใน bg อีกค่ะ

มหัศจรรย์ใจม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก


ปล. ขออภัยนะค๊า
อารามดีใจในอารมณ์เวอร์ชั่นสาวบ้านนอก อะคึ่ ๆ

ลป. ขอเวลาตั้งสติและอยู่เงียบ ๆ
จะตั้งใจอ่านเอาเรื่อง...ยาววววววววววววววว หุ หุ

 

โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น 5 กุมภาพันธ์ 2554 19:24:51 น.  

 

พึ่งมานั่งอ่านคะ

ต้องรออีก 5 วันใช่ไหมคะ หนูคาดเหตุการณ์ล่วงหน้าว่า นงเยาว์
พื้นแน่นๆ เลย (คงไม่ใช่ตอนแรก แล้วตายเลย
มันรันทดยิ่งกว่าดูซี่รีเกาหลี่อีกนะคะ) ให้รออีก 5 วันรอได้คะ ฝากถึงอาจารย์อย่างใจร้ายกับตัวละคร
ห้ามนงเยาว์ตายนะ

 

โดย: คุณแอน (seton ) 5 กุมภาพันธ์ 2554 23:08:41 น.  

 

รออ่านตอนต่อไปครับ ครู

ราตรีสวัสดิ์ครับ

 

โดย: เศษเสี้ยว 6 กุมภาพันธ์ 2554 0:14:53 น.  

 

มานับเวลาถอยหลังรอคอยตอนต่อไปค่ะคุณลุง

 

โดย: หญิงแก่น 6 กุมภาพันธ์ 2554 11:21:33 น.  

 

ตัวอย่างตอนต่อไป


“ หมอคะ เด็กนั่นฟื้นอีกแล้ว ”
หมอทำหน้าเหมือนถูกผีหลอก รีบเอาเครื่องตรวจฟังเสียงจี้ตามจุดต่าง ๆ ตรวจอาการดูใหม่อย่างละเอียด ตรวจแล้วก็พยักหน้า ยอมรับว่าสภาพร่างกายของนงเยาว์กลับเข้าสู่ความเป็นปกติอีกหน แล้วรีบให้พยาบาลนำเครื่องมือต่างๆ เข้ามาตรวจเช็ก
“ปอด หัวใจ ชีพจร ความดัน อุณหภูมิ...ปกติดีทุกอย่าง”
“ นี่เกิดอะไรขึ้น ” หมอหนุ่มจ้องหน้าเด็กหญิง เด็กหญิงก็จ้องตาตอบ หมอหนุ่มรำพึงในใจ “แน่ใจว่าเรามิได้ตรวจผิด มันเป็นเรื่องเหนือเหตุผล เหนือหลักวิชาแพทย์ที่เราเรียนมา มันเป็นเรื่องที่วิชาการแพทย์ยังเข้าไม่ถึง เป็นเหตุการณ์หนึ่งในล้าน เราเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาบ้างเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าสักวันหนึ่งจะได้เจอ คนตายแล้วฟื้น มีเล่ากันอยู่ ”


(เอามายั่วเล่นสำหรับหยั่งเสียง ฮา)

 

โดย: pantamuang 6 กุมภาพันธ์ 2554 11:39:34 น.  

 

สวัสดีคะ ทักทายตอนเที่ยงวัน มีน้ำจิ้มเป็นตัวอย่างตอนต่อไปด้วย
อาจารย์สบายดีนะคะ

 

โดย: คุณแอน (seton ) 6 กุมภาพันธ์ 2554 12:40:24 น.  

 

 

โดย: แนวเนี๊ยะ 7 กุมภาพันธ์ 2554 0:16:30 น.  

 

สวัสดีค่ะ...คุณลุงบูลย์

กลับมาคุยกันเหมือนเดิมแล้วค่ะ เดี๋ยวมาอ่านอีกทีนะคะ

ปล. มี e-mail ให้คุณลุงด้วยค่ะ

 

โดย: ติดปีก (ไกลบ้าน) IP: 109.84.35.226 7 กุมภาพันธ์ 2554 6:46:36 น.  

 

ได้รับกลอนบทนี้มาจากคุณชินวัฒน์ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศ ถูกใจไพบูลย์มาก ขอเอามาเสนอต่อ


ประวัติศาสตร์บาดหมาง
สุจิตต์ วงษ์เทศ


ประวัติศาสตร์บาดหมางสร้างบาดแผล
ทำหน้าที่มีกระแสศึกถล่ม
คนเจ็บตายชายแดนแผ่นพนม
ประวัติศาสตร์สาสมคะเนคะนอง

ไม่แพ้ ไม่ชนะ ไม่เสมอ
ต่างเหิมเห่อเหี้ยมโหดผู้จองหอง
คนสั่งการบันเทิงเหลิงลำพอง
ชาวบ้านต้องล้มตายสิ้นไร้แล้ว

บ้านช่างหล่อ กรุงธนบุรี
เสาร์ 5 กุมภาพันธ์ 2554
10.25 น.

 

โดย: pantamuang 7 กุมภาพันธ์ 2554 10:32:28 น.  

 

คุณลุงเล็กรอตอนต่อไปอยู่ดีแหล่ะ ไม่ต้องมายั่วให้อยากเพื่อหยั่งเสียงหรอกค่ะ รออยู่ รออยู่นะคะ

 

โดย: หญิงแก่น 7 กุมภาพันธ์ 2554 14:06:53 น.  

 




ไหน...ไหน...ตอนต่อไป....โถ่ยังไม่มา...เดี๊ยวเจอกันหน้าบล๊อกครูน่ะ
คุณเล็ก...เข้ามารอด้วยคร้า....
(พี่แอนนั่งอ่านถึงตอนไหนแล้วเนี่ย....)

 

โดย: แนวเนี๊ยะ 7 กุมภาพันธ์ 2554 21:30:07 น.  

 



เข้ามารายงานว่า.....แฟนคลับลุงบูลย์.....
กำลังถามเทคนิคการหาหนังสือกันทั้งหลังไมค์และหน้าบล๊อก.....

พวกเรา....ติดตามลุงบูลย์........อยู่น่ะคร้า....
(ชุมพร...อากาศเป็นไงบ้างคร้า....)



 

โดย: แนวเนี๊ยะ 7 กุมภาพันธ์ 2554 23:52:59 น.  

 


อิ อิ อันยองคะ (อันยอง แปลว่า สวัสดีคะ (ภาษาเกาหลี))
ห้ามด่าหนูนะคะว่าบ้าเกาหลี เว้นหนูไปสักคนเถอะคะ
เจ้าของบ้านคงหลับแล้วสินะ
อันตัวข้าพเจ้านั้นยังไม่นอน เพราะนอนไม่ได้ พวกรอด่าถ้างานไม่เสร็จ

ปล.
น้องต้าคะ พี่ไปกระซิกเบาๆ ที่หลังไมค์แล้วนะ ทำไมมันมาดังที่นี้

 

โดย: seton 8 กุมภาพันธ์ 2554 1:16:46 น.  

 

ไม่ได้เล่นบล็กหลายวัน

มาถึงเจอเซอร์ไพรส์ บล็อกใหม่วัยรุ่นมากค่ะลุง

ดีใจมากที่ได้เห็นลุงกลับมา

แต่เรื่อง เดี๋ยวค่อยอ่านนะคะ สติ สมาธิ ไม่มีเลย

ไงก็อ่านแน่นอน ติดไว้ก่อนค่ะ

คิดถึงจ้า

 

โดย: นักล่าน้ำตก 8 กุมภาพันธ์ 2554 6:20:40 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


มาอีกแล้ว สวัสดีตอนเช้าคะอาจารย์

 

โดย: seton 8 กุมภาพันธ์ 2554 8:50:04 น.  

 

สวัสดีค่ะ.....ตอนต่อไปมายังคะคุณลุง

 

โดย: หญิงแก่น 8 กุมภาพันธ์ 2554 12:16:51 น.  

 

มาอ่านค่ะ

เรื่องนี้ลุงเขียนนานหรือยังเอ่ย


เขียนได้เห็นภาพคนป่วยและชีวิตในห้องผู้ป่วยมากๆค่ะ

อ่านเพลินทีเดียว แต่ละย่อหน้ากำลังสวย ขอย้ำว่าชอบจังหวะวรรคตอน ย่อหน้าของลุงทุกครั้งนะคะ มันกำลังดี

แหม..แต่ลุงนะลุง นักล่าฯกำลังจะเดาว่าน้องเค้าฟื้น ลุงรีบเฉลยตอนหน้าซะงั้น

อยากรู้เหมือนกันว่า น้องเค้าจะกลับมาช่วยพ่อยังไง

น่าติดตามจริงๆ

ว่าแต่เทียนอายุยังไม่สี่สิบเลย พยาบาลเรียกว่า "ลุง" แล้วเหรอคะ ?



 

โดย: นักล่าน้ำตก IP: 115.87.241.240 8 กุมภาพันธ์ 2554 14:41:06 น.  

 

หวัดดีคร๊าบลุง

อันนี้ลุงบูลย์คนเก่าหรือคนใหม่ครับ คนเก่า แต่หัวใจใหม่ปิ๊งใช่ไหมเนี่ย

ผมอ่านมาหลอนตอนแล้ว แต่ก็ลืมหมดแล้ว ลงในผี 48 นะ จำได้ จำได้

ชวนลุงเที่ยววัดครับ ยามว่างมาเลยนะ แต่อาจโหลดนานหน่อย รูปมันเยอะนะ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 8 กุมภาพันธ์ 2554 15:04:07 น.  

 

ผี48 ....หายังไงน้อ

 

โดย: แนวเนี๊ยะ 8 กุมภาพันธ์ 2554 19:06:55 น.  

 

สวัสดีครับคุณลุงบูลย์

อ่านรวดเดียวจบครับ ค่อยๆอ่านที่ละคำ ทีละบรรทัด
งานเขียนของคุณลุงบูลย์ ถ้าเปรียบภาพเขียนคงเป็นภาพเหมือนจริง
แต่เบื้องหลังกว่าจะมาเป็นภาพที่งดงามนั้น ต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย

ดีใจครับที่ได้อ่านคอมเมนต์ของคุณลุงบูลย์อีก
เหมือนหยาดน้ำทิพย์ชโลมใจ มีพลังมากครับ

 

โดย: Insignia_Museum 8 กุมภาพันธ์ 2554 20:26:10 น.  

 

แวะมาหาคุณลุงก่อนนอนอีกรอบขอบคุณนะคะที่แวะไปหาเล็กเมื่อบ่ายดีใจมากค่ะ พอเล็กเห็นบล็อกคุณลุงโฉมใหม่ว่าทันสมัยจัง เลยเข้าไปดูธีมที่บล็อกปรากฏว่าเพิ่งรู้ว่าเค้าอัพธีมมาให้เลือกเพิ่มขึ้นแต่เล็กลองแล้วติดขัดหลายอย่างได้ตรงนี้ไม่ดีตรงนั้น บางธีมโหลดรูปตรงคอมเม้นท์ไม่ได้ บางธีมไม่มีกรอบตรงคอมเม้นท์ หรือเล็กทำไม่เป็นไม่รู้ อย่างของคุณลุงตรงคอมเม้นท์เปลี่ยนให้เป็นสีเหลืองทำไงคะ สุดท้ายยังคงรอตอนใหม่ มาไว ไว ได้ไหมคะคุณลุง กี่วันแล้วเนี่ย ราตรีสวัสดิ์ นอนหลับฝันดีนะคะ

 

โดย: หญิงแก่น 8 กุมภาพันธ์ 2554 21:37:58 น.  

 

ลองอีกที่นะคะ พอดีเหนียว

 

โดย: แอน (seton ) 8 กุมภาพันธ์ 2554 22:20:26 น.  

 

ครูค่ะ..แวะมาดูความเคลื่อนไหว ก่อนลาครูไปนอนค่ะ...

(ขอแซว...แฟนคลับพี่แอนว่า เป้หวานจริงๆ )

ครูค่ะ ที่B2S สาขาโรบินสันรังสิต มียอดหนังสือในวงล้อมเหลือ 1 เล่ม...
รอเค้าหาอีกวัน..... เค้าแจ้งต้าว่า หายครับ...
(แฟนคลับครูคนนี้...จะเป็นพนักงานเก่าๆ หรือลืมจ่ายตังค์น้อ..อิ อิ)
นึกว่าจะได้หนังสือครูเพิ่มอีกซะแล้ว....
เพิ่งเริ่มสะสมได้ 3 เล่มเองค่ะ.........
ราตรีสวัสดิ์คร้าครู

 

โดย: แนวเนี๊ยะ 9 กุมภาพันธ์ 2554 0:02:28 น.  

 

สวัสดีค่ะ...คุณลุงบูลย์

คุณลุงเขียนได้สนุก,ตื่นเต้น,น่าติดตาม มากค่ะ บรรยายซะจนผู้อ่านเห็นภาพ เหมือนกับว่านั่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเลย แถมลุ้นสุดๆอีกต่างหาก
อิ อิ สนุกจริงๆค่ะ

ขอนอกเรื่องนิดหนึ่ง เพราะเห็นมีรื่องไข้มาลาเรีย ปีที่แล้วนี่เองหนูเจอ
ผู้หญิงไทย กับแฟนเขาที่สนามบิน กำลังจะไปเมืองไทย สังเกตเห็น
ผู้หญิงหน้าตาแดงๆ และตัวสั่น ถามว่าเป็นอะไร เขาบอกว่าเป็นไข้
เพราะว่า เมื่อเช้าเพิ่งไปฉีดวัคซีนมาสองเข็ม ป้องกัน มาลาเรีย กับ
โรคอะไรอีกซักอย่างหนึ่ง เนื่องจากแฟนเขาเองก็เพิ่งจะมาเมืองไทย
เป็นครั้งแรก ก็เลยกลัวไปสาระพัดโรค เลยต้องฉีดวัคซีนป้องกันไว้ก่อน บางทีพวกฝรั่งเขาก็มองว่าประเทศทาง เอเชียเรายังมีโรคร้ายแรงอยู่อีกมากมาย...อิ อิ ว่ากันตามจริงแล้วเนี่ยะ หนูเองก็ยังไม่เคย
ฉีดเลยวัคซีน ป้องกันมาลาเรีย...เอ..รึว่าต้องไปฉีดซะแล้ว อิ อิ

 

โดย: ไกลบ้าน IP: 2.204.67.64 9 กุมภาพันธ์ 2554 5:57:40 น.  

 

อาจารย์เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ใช่ไหมคะ
อย่าเครียดตามข่าว ผ่อนคลายบ้าง ส่วนตัวหนูเองไม่อยากจะ
เชื่อว่าทุกวันนี้ เรากับกัมพูชาที่เป็นเพื่อนบ้านมานานยังไมเลิก
ทะเลาะกัน คงเป็นความบาดหมางที่ต้องส่งต่อให้คนรุ่นหลัง
ปฎิบัติกันต่อสืบไป สงสารชาวบ้านที่ต้องเดือนร้อนเสียเวลา
ทำมาหากิน

มีรูปมาฝากคะเมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมา ไปจังหวัดสระแก้ว
เพื่อเก็บรูปมาใช้ในงาน นางแบบหนูเองคะ


(คัดลอกของหนูแอนมาลงใหม่)

 

โดย: pantamuang 9 กุมภาพันธ์ 2554 8:03:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


pantamuang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย

ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ

ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..

ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.

เริ่ม 9 กันยายน 2550

Friends' blogs
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.