เพราะหนังสือเปิดตา และการเดินทางเปิดใจ
เซี่ยงไฮ้ แอ็ปเปิ้ลใบใหญ่ของจีน

จบการเดินทางที่เมืองใหญ่ริมอ่าวก็แล้วกัน จริงๆฉันยังต้องนั่งรถไฟสะบักสะบอมกลับปักกิ่งเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับบ้านอีก แต่ปักกิ่งรอบหลังก็หนาวเกินจะออกมาเดินทะเล่อทะล่าให้หัวหูเย็น แถมเงินจะช็อปก็ไม่มีแล้ว กิจการท่องเที่ยวก็เลยซบเซา จะมีก็แต่ไปกินหม้อไฟเกาหลี...เฮ้อ คิดแล้วก็หิวขึ้นมาเลย

นิวยอร์กสไตล์ตะวันออก
ไม่รู้เหมือนกันว่ามีใครเปรียบเทียบไว้แบบใจตรงกันหรือเปล่า แต่ฉันคิด (ของฉัน) เอาเองแหละว่าเซี่ยงไฮ้นี่ช่างเหมือนนิวยอร์ก ค่าที่มันเป็นเมืองใหญ่ตั้งอยู่ริมทะเล มีตึกสูงเสียดฟ้าที่หน้าตาเป็นเอกลักษณ์ให้คนทั่วโลกจดจำได้มากมาย มีถนนช็อปปิ้งสายใหญ่ๆหลายสาย มีย่านเก่าแก่อันเป็นที่อยู่ของชนชาติต่างๆ มีรถไฟใต้ดินที่คนแน่นแสนแน่น (แม้ว่าจะไม่สกปรกและน่ากลัวเท่าซับเวย์ของนิวยอร์ก) แล้วก็มีคนจีนที่ดูสมัยใหม่ แต่งตัวเก๋ไก๋ มีสไตล์ ไฉไลกว่าเมืองไหนๆที่ผ่านไปเจอ เหมือนหนุ่มสาวนิวยอร์เกอร์เวอร์ชั่นเอเชีย ดังนั้นสำหรับฉัน เซี่ยงไฮ้จึงดูเหมือนนิวยอร์กในหลายๆแง่มุม ทั้งทำเลที่ตั้ง ทั้งแสงสีภายนอก ทั้งสีสันแห่งชีวิต





แถมที่นี่ยังเป็นที่แรกที่ฉันได้เห็นหนุ่มกับหนุ่มควงกันอย่างเปิดเผย อันเป็นการตอบคำถามซุกซน (ที่แอบตงิดๆ ตั้งแต่ย่างเท้ามาถึงประเทศจีน) ว่าที่นี่จะมีผู้ชายสีม่วงกันบ้างไหม (อย่างน้อยก็ที่เปิดเผยน่ะนะ) เพราะขนบอันขึ้นชื่อเรื่องลูกชายสืบสกุลและการถูกกฎหมายจำกัดให้มีลูกได้แค่คน (หรือตอนนี้สองคน) น่าจะทำให้ความคาดหวังของพ่อแม่และวงศาคณาญาติใหญ่โตจนอาจจะสะกดความต้องการลึกๆของหนุ่มน้อยลูกกตัญญูไว้จนหมดสิ้น

เนื่องจากมากระเป๋าตังหายที่เซี่ยงไฮ้ ก็เลยไม่ค่อยได้เจาะลึกที่ไหนเท่าไหร่ ได้แต่เดินเล่นในสวน (ก็หลายสวนอยู่) เดินเล่นในวัด เดินเล่นตามถนนช็อปปิ้ง (เดินเล่นจริงๆเพราะไม่มีเงิน) เดินเล่นย่านเมืองเก่าแท้ๆ และเดินเล่นย่านเมืองเก่าทำเทียม (ซินเทียนตี้) ก่อนจะไปเดินเล่นย่านถนนวัฒนธรรม (ตัวหลุนลู่) เดินเล่นในพิพิธภัณฑ์ เดินเล่นบ้านนักเขียน (หลู่ซิ่น หรือภาษาจีนคือหลู่ซุ่น) และเดินเล่นริมน้ำยามค่ำ









ไปแวะๆแตะๆ พอให้รู้สึกว่าได้ทำความรู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตากับผู้หญิงเปรี้ยวจัดที่ชื่อเซี่ยงไฮ้คนนี้เอาไว้บ้างก่อน รอไว้มีโอกาสลมพาวาสนาส่ง ผู้หญิงขี้หลงขี้ลืมอย่างฉันจะขอกลับมาทำความรู้จักเธออย่างจริงจังอีกครั้ง คราวหน้า...จะมาแบบเตรียมตัวพร้อมสู้ศึก มีอะไรจะเล่นงานก็ขนมาสู้กันสักตั้ง เอาให้เข็ดฟันเลยนะเธอจ๋า
+++

ข้อมูลจำเพาะ
เวลา เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง
สนามบิน นอกจากปักกิ่ง ยังมีสนามบินให้ลงอีกหลายแห่งทั่วประเทศ สายการบินก็มีหลายสายให้เลือกในราคาต่างกันราวฟ้ากับเหว เมื่อไปถึงแล้วเดินทางระหว่างเมืองได้ด้วยรถไฟและรถทัวร์ ซึ่งสะดวกและมีให้เลือกมากมาย ถ้าชัดเจนว่าจะไปไหนบ้างก็หาทางไปไม่ยาก ปัญหา (ใหญ่) อย่างเดียวคือภาษา แต่ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เพราะพกงูและปลาไปคนเดียวโด่เด่ (อย่างฉัน) ก็ยังรอดยี่สิบวันอันตรายมาได้ แหม...พูดแล้วจะหาว่าคุย อิอิ
เงิน 1 หยวน เท่ากับประมาณ 5 บาท
ระบบไฟ เหมือนเมืองไทย ปลั๊กไฟก็ใช้ด้วยกันได้

ที่พัก
แบบราคาไม่แพงเป็นห้องรวม มีทั้งแบบห้องน้ำในตัวและห้องน้ำรวม เคยเห็นตั้งแต่ 2 ไปจนถึง 20 เตียง ราคาเฉลี่ยประมาณ 40-60 หยวน เท่าที่พักมาก็สะอาดใช้ได้ บางที่อาจจะหนวกหูหรือห้องน้ำไม่สะอาดถูกใจบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วจัดว่าน่าพอใจ ถ้าพักโรงแรม ราคาประมาณ 70-100 หยวนขึ้นไป

ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ
หลากหลายและค่อนข้างแพง วัดและสวนอาจอยู่ที่ 10-40 หยวน แต่ถ้าเป็นวังหรือสถานที่สำคัญก็จะแพงขึ้นอีก อยู่ในราว 60-90 หยวน ของฟรีมีน้อย (จริงๆ) ช่วงที่ค่าเข้าชมราคาถูกจะเป็นฤดูหนาว (พ.ย. ถึง ก.พ.) ซึ่งคงไม่มีใครฝ่าหนาวไปเที่ยว (เอ...หรือจะมี)

การเดินทาง
แต่ละเมืองจะมีรถเมล์ และ (อาจจะมี) รถไฟใต้ดินบริการ มอเตอร์ไซค์รับจ้างกับสามล้อก็เห็นมีแยะอยู่

รถเมล์
- ราคาค่ารถเมล์จะอยู่ที่ราวๆ 1-3 หยวน แล้วแต่เมืองด้วย ถ้าซูโจว รถเมล์จะแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย ถ้าเป็นรถแอร์ก็จะแพงกว่าเล็กน้อย
- ควรเตรียมเงินเล็กๆ (หนึ่งหยวน) เอาไว้จ่ายค่ารถ เพราะในกรณีที่ไม่มีกระเป๋า ต้องหยอดตู้ คนขับจะไม่มีเงินทอน
- รถเมล์บางสายไม่วิ่งกลางคืน ถ้าเดินทางไปถึงค่ำอาจต้องเช็คก่อนว่ามีรถเมล์หรือเปล่า หรือถ้าเอาสะดวกก็ขื้นแท็กซี่ไป (โปรดเตรียมที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของโรงแรมให้พร้อม)
- เมืองใหญ่ๆอย่างเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ถามหาสายรถเมล์ยากเพราะรถเยอะและเมืองใหญ่ แถมรถติดด้วย ถ้าไม่มีเวลาจะหลงเรื่อยเปื่อย โปรดเลือกวิธีสัญจรที่ชัวร์กว่านี้

รถไฟใต้ดิน
ราคาก็แล้วแต่เมือง เช่น ปักกิ่ง 2 หยวนตลอดสาย เซี่ยงไฮ้ 3-6 หยวน แล้วแต่ระยะทาง ส่วนหนานจิงมีรถไฟใต้ดินสายเดียว 2-3 หยวน แล้วแต่ระยะทาง

อาหารการกิน
หากินง่าย ไม่แพง เริ่มต้นอิ่มได้ตั้งแต่ 3-5 หยวนไปจนถึง 25 หยวน (พวกร้านฟาสต์ฟู้ดสไตล์เคเอฟซี ภาษาจีนเรียกว่าเขิ่นเต๋อจี และแมกโดนัลด์ ภาษาจีนเรียกว่าม่ายตังเหลา แต่ไม่ต้องเรียกหรอก เห็นก็เดินเข้าไปเลย เมนูสั่งไม่เป็นก็จิ้มเอา) ส่วนอาหารข้างทาง มีให้เลือกมากมายหลายหลาก ละม้ายคล้ายบ้านเราเป็นส่วนใหญ่ (อันนี้เขียนถึงไว้ในบล็อกด้วยแล้วจ้า)
- ผลไม้เมืองหนาวมีขายเยอะแยะ ราคาไม่แพง ถ้าไม่กลัวหนักก็ซื้อติดกระเป๋าไว้กิน แก้หิวและแก้กระหายได้
- ถ้าขึ้นรถไฟจะมีของกินขายตลอด หรืออาจจะไปกดน้ำร้อนเพื่อกินมาม่าหรือชงชาได้ฟรี แนะนำให้ซื้อกระบอกใส่น้ำ (แก้ว) พกติดตัวไปด้วย เป็นการหลิ่วตาตามคนจีนที่เวิร์กมาก โดยเฉพาะช่วงหนาวๆ ถ้ามีขดลวดต้มน้ำไปด้วยจะยิ่งดีเป็นพิเศษ


+++




Create Date : 18 ธันวาคม 2551
Last Update : 18 ธันวาคม 2551 2:57:38 น. 2 comments
Counter : 572 Pageviews.

 


โดย: OFFBASS วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:3:26:21 น.  

 
รู้สึกว่าจะจำกัดให้มีลูกแค่ครอบครัวละหนึ่งคนค่ะตอนนี้ ถ้าอยากมีอีกต้องเสียภาษีให้รัฐ (ไม่รู้ว่าเท่าไร่)

เห็นบ่อยเหมือนกันค่ะ ชายชาย แบบว่าจุ๊บๆ กันกลางถนนก็มี

เสียใจด้วยนะคะเรื่องกระเป๋าตังค์ เราก็เคยโดนล้วงโทรศัพท์

ช่างเปรียบเทียบนะคะ เซี่ยงไฮ้สาวแสนเปรี้ยว นิวยอร์คเอเชีย เห็นด้วยค่ะ


โดย: พื้นที่สีเขียว วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:7:40:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

lunaloca
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ง า น แ ป ล


ช่างเป็นนักแปลที่ทำงานได้หลากแบบหลายแนว
นามปากกาคละเคล้า เดาทางไม่ถูกจริงๆนิเรา

Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
18 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add lunaloca's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.