LucifeR.. in Woderland~ "The reward of a good thing well done is to have it done."ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและปลอดภัยนะคะ
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
30 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
พูดไม่ได้..สื่อสารไม่รู้เรื่อง..หลงทาง..ความผิดใครกันแน่ คนมาหรือคนอยากให้มา!



เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ ลูฟเห็นแล้วสลดใจมาก เรื่องของเรื่องก็คือ

เย็นวันนั้นลูฟออกไปวิ่งตามปกติค่ะ หลังจากกลับมาบ้านก็เหนื่อย แต่สั่งตัวเองให้ออกไปเดิน ไปสูดอากาศ เหนื่อย เลยอยากออกไปเดินเล่น ไปวิ่ง..

วันนั้นเป็นวันที่ตอนเย็นดูมืดกว่าปกตินิดหน่อย แต่ช่างประไร ฉันจะเดิน มืดแล้วเดี๋ยวค่อยวิ่งกลับบ้าน

เส้นทางที่ลูฟวิ่งจะราวๆครึ่งชั่วโมงไปกลับค่ะ ถือว่าไม่ไกลนะลูฟว่า แต่ว่ามันเป็นขึ้นเนินบ้าง ลงเนินบ้าง

ที่นิวซีแลนด์นี่ลูฟค้นพบอย่างนึงว่า ไม่ว่าพื้นที่จะเป็นแบบไหน เนินเขาหรอ? สูงแค่ไหนก็ช่าง เตี้ยแค่ไหนก็ช่าง เค้าสามารถ 'เอาบ้านทั้งหลังเข้าไปใส่เนินนั้นได้' ไม่ต้องเกลี่ยถนนให้ยุ่งยากแบบที่ไทย เวลาคุณอยู่บ้านที่นี้มันเลยจะเหมือนเขาวงกตย่อมๆ เข้าประตูไป มาออกชั้นสอง ลงบันไดไปเป็นห้องน้ำ เปิดประตูไปเป็นโรงรถ เลี้ยวซ้ายเป็นห้องนอน เวลาจะกินข้าว ขึ้นมากินข้างบน ดูทีวีข้างบน สวนก็ชั้นนั้น ไอคนอยู่ชั้นล่างเวลามองจากหน้าต่างมันเลยเหมือนอยู่กึ่งๆใต้ดิน มันน่าจะมีห้องลับใส่สมบัตินะนี่ หุหุหุ ยังไม่พอ ถ้าเดินออกจากห้องนอนไปหลังบ้านจะเป็นสวนเล็กๆ มีม้านั่งชมแดดชมลม มีพุ่มไม้อยู่รอบๆถ้าเดินออกจากบริเวณที่กั้นไว้ก็ได้กลิ้งลงเนินค่ะท่านผู้ชม ออกไปอีกทีก็ออกชายหาดเลยค่ะ

เอ่อรู้สึกจะนอกเรื่องมาซะไกล กลับๆๆๆๆ เข้าคอกเร็ว
เอ้ย! กลับเข้าเรื่องๆ ก็คือวันนั้นลูฟกำลังวิ่งอยู่ค่ะ วิ่งไปก็คิดเรื่องนู้นเรื่องนี้เยอะแยะมากมาย พอวิ่งไปจนถึงทางแยกที่เราจะต้องข้ามถนนเนี่ยก็หยุดนิดนึง ตรงนี้ถ้ามาตอนเย็นๆรถจะวิ่งตลอดค่ะถึงจะเป็นถนนแถวบ้านคนก็ตาม มันไม่ค่อยมีช่องว่างให้ข้ามเล้ย แต่พอดีวันนั้นค่อนข้างไปเร็วนิดนึงทำให้ไปมีรถเยอะค่ะ ข้ามไปได้ไม่ยากเย็นนะ แต่พอข้ามไปฝั่งตรงข้ามปุ๊บ ก็มีเสียงบีบแตรค่ะ ไอเราก็ไม่ได้สนใจ เท้าฉันอยู่บนฟุตบาทนี่หว่า คงไม่ใช่ฉันน่ะ

ปี๊บๆ อ้าว ไม่หยุดแฮะ มันเรียกใครน่ะ
ปี๊บๆ เอ๊ะ เอะใจเลยหันไปดูนิดนึง คุณลุงคนขับรถเมล์เค้าบีบแตรเรียก

เรียกหนูทำไมคะ หนูไมได้ไปวิ่งตัดหน้ารถลุงนา แล้วลุงแกก็เปิดประตูรถถามข้ามฝังมาถามว่า "หนูๆ พูดภาษาจีนอ่ะเปล่า"

นึกว่าเรื่องไร

"เปล่าค่ะ มีอะไรหรอคะ"

ลุงเค้าก็ชี้ไปที่ป้าคนนึงในรถแล้วบอกว่า"แกนั่งรถผิดคันน่ะ แกต้องขึ้นเบอร์สองห้าแปด พูดกับแกให้หน่อยสิ"

หนูน้อยหน้าหมวย ที่ใครๆคิดว่าเป็นคนจีนเสมอ(แต่หัวใจไทยแท้นะเออ) เลยหันไปหาป้าคนนั้น อันที่จริงเค้าอายุพอสมควรแล้วนะ จะเรียกป้าก็ยังไงๆ น่าจะเรียกอาม่ามากกว่า เค้าก็พูดภาษาจีนใหญ่เลย ฟังไม่รู้เรื่องแหละค่ะ ถึงหนูจะเคยเรียนภาษาจีนมา แต่หนูผ่านมาได้เพราะเพื่อนติวนะค้า รู้สึกผิดขึ้นมากระทันหันเลยค่ะ

เหล่าชือ หนูขอโทษที่ไม่ตั้งใจเรียน
หนูขอโทษที่แอบกินหนมตอนเหล่าชือสอน
หนูขอโทษที่ไม่เคยทำการบ้าน
หนูขอโทษที่ไม่เคยท่องศัพท์
หนูขอโทษ แงงงง

คุณป้าเค้าก็พยายามมากเลย หน้าเค้าเหมือนเค้าสับสน ทั้งกลัว ทั้งไม่รู้จะทำยังไงดี เค้าพยายามเอามือนึงแบแล้วอีกมือนึงเขียนเป็นตัวเลขให้ลูฟอ่าน ทู ฟายฟ์ เอดท์ ลูฟฟังแล้วจับใจความได้ทำนองว่าเค้าขึ้นรถผิดมา เค้าจะต้องขึ้นสองห้าแปด ไม่ใช่สองหกเจ็ด ง่า

ไอสองคันนี้มันละแวกเดียวกันแต่มันอยู่ใกล้กันซะเมื่อไหร่เล่า ลูฟอยู่Lynfieldค่ะพี่น้องคะ จะมาต้องขึ้นสองหกเจ็ด ส่วนสองห้าแปดนั้นมันไปBlockhouse Baysค่ะ โซนติดกันเลย แต่แหม มันเดินใกล้จริงๆเลย ตั้งชั่วโมงนึง ลูฟเคยเดิน เหนื่อยแบบดิ้นขาดใจกระหายน้ำตาย เอิ้ก

ไอเราก็ผ่านวิชาภาษาจีนตอนมอต้นมาได้ด้วยคะแนนสามกว่าๆที่ไม่รู้ผ่านมาได้ยังไง ไอเพื่อนแสนดีมันก็ผ่านฉลุยสี่หมด ของหนูนี่คะแบบรุ่งๆริ้งๆค่ะ แต่นั่นแหละเลยได้แต่บอกว่า ว่อ ชรือ ไท่ กลั๋ว เหยิน ไท่กลั๋ว

คุณป้าเค้าก็มองหน้าตาปริบๆ น่าสงสารมาก ไท่ กลั๋ว ปู๋ ชรือ จง กลั๋ว เหยิน

ง่า ไม่ใช่คนจีนหรอกหรอ

บอกคุณคนขับไปว่า I only speak a little Chinese.
งืม คุณคนขับเค้าฟังมาซักพักแล้วท่าทางจะช่วยอะไรไม่ได้แฮะ เค้าเลยได้แต่บอกว่าโอเค เค้าจะพาป้าแกไปส่งที่ป้ายรถเมล์ คงหมายถึงป้ายรถเมลที่ถูกอ่ะนะ

ถือว่าเค้าใจดีนะคะ แต่ว่าดูท่าทางเค้ามีน้ำโหอยู่นิดๆนะ
ป้าคนนั้นเค้ายังพูดภาษาจีนกับลูฟเลย ลูฟพยายามบอกเค้าว่าอยู่กับคนขับนะเดี๋ยวเค้าจะไปส่งที่ป้าย อังกฤษอ่ะค่ะ ภาษาจีนคำนี้ลูฟไม่รู้ คนขับเค้าก็บอกว่าโอเคไปได้แล้วๆ แล้วหันไปตะโกนใส่ป้าคนนั้นว่า นั่งลง! เค้าไม่ได้พูดภาษาเธอ! เราเห็นแล้วตกใจเลยค่ะ ป้าเค้าก็กลัวสิคะ เลยได้แต่นั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ เราเสียใจจริงๆที่เราไม่สามารถช่วยอะไรเค้าได้เลย ตลอดทางที่เราวิ่งต่อจนถึงบ้าน เราได้แต่คิดอยู่ว่าถ้าเพียงแต่เราเอาโทรศัพท์มาด้วยนะ จะโทรไปเรียกเพื่อนที่บ้าน มันเป็นคนจีนค่ะ ให้เค้าช่วยคุยให้หน่อย ถึงรู้ว่าคุยไปมันก็ไม่ได้อยู่ตรง มันพาป้าเค้าไปส่งบ้านไม่ได้แต่ว่าอย่างน้อย ให้ป้าเค้าเข้าใจว่าเค้าจะต้องยังไง แล้วคนขับเค้าจะไปส่งป้าที่ป้ายรถเมล เอให้ป้าเค้าหายตกใจและกลัวไปได้บ้าง

เรารู้สึกแย่มาก ปกติเราไปวิ่งเราไม่เอาอะไรไปกับเราเลยค่ะ ไม่เอาไปเลยเพราะเรากะจะไปวิ่งอย่างเดียว

ถ้าเอาบัตรรถมา เดี๋ยวจะไม่ยอมวิ่งกลับบ้านเพราะป้ายรถเมล์อยู่ใกล้ๆ

ไม่เอามือถือมาเพราะไม่ได้โทรหาใคร และไม่คิดว่าจะมีใครโทรหา

ไม่เอาตังมาเพราะเดี๋ยวจะแอบแวะไปซื้อของกินที่ซุปเปอร์มาเก็ตข้างบ้าน

ไม่เอาอะไรมาเลยยกเว้นนาฬิกาที่ต้องจับเวลาตัวเอง

เราได้แต่คิดว่า ปกติเนี่ยคนจีน ไม่สิ ทุกคนแหละค่ะ ที่มาเรียนหนังสือที่นี่ มาทำงานที่นี่ บางทีเค้าอาจจะมีชีวิตที่ดีกว่าที่เค้ามีที่ประเทศที่เค้าจากมา ถ้าเค้ามามีชีวิตที่นี่ที่เค้าคิดว่ามันมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าและเค้าตั้งใจจะอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต เยอะมากที่จะพาครอบครัวตัวเองที่ประเทศตัวเองมาอยู่ด้วย เช่นลูกพาพ่อแม่มา แล้วก็หลาน ครอบครัวญาติอะไรแบบนี้ ซึ่งถ้าคนมองผิวเผินจะมองว่าอะไรวะ มันจะมาอยู่แบบขนกันมาหมดเลยหรือไง แต่ถ้าเรามองให้ลึกกว่านั้น มองว่าเค้าต้องการให้คนที่เค้ารักมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีโอกาสมากขึ้น ได้สูดอากาศสดชื่นในประเทศที่มีประชากรแกะมากกว่าคนถึงแปดเท่า หรือบางทีพวกเค้าอาจจะแค่ต้องการให้คนที่เค้ารักอยู่ใกล้ๆ ไม่อยากให้ต้องห่างกัน ไปเยี่ยมได้แค่ปีละครั้งหรือสองครั้ง ซึ่งบางทีมันไม่พอหรอก อย่างน้อยให้ได้อยู่ดูแล อยู่ด้วยกัน แต่บางครั้ง กับคนสูงอายุ ยิ่งตลอดชัวิตอยู่ที่ใดที่นึงมาตลอด ต้องย้ายตามมาอยู่ประเทศแปลกหน้าที่ผู้คนพูดภาษาที่พวกเค้าพูดไม่ได้และไม่อาจแม้แต่จะเข้าใจ จะยากเย็นหรือเจ็บปวดเพียงใด

เราได้แต่คิด เราได้แต่มอง เราได้แต่ห่วงแทน
ทำไมถึงปล่อยให้เค้าออกมาโดยไม่มีคนพาไป ในเมื่อเค้าดูแลตัวเองไม่ได้ การสื่อสารกับคนอื่นไม่ได้ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย และหลงทางเนี่ย มันน่ากลัวมากนะคะ ถ้าคนไม่เคยเจออาจจะไม่เข้าใจก็ได้ ทำไมถึงปล่อยมา

รู้นะว่ารักรู้นะว่าห่วง ถึงได้ให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่ทำไมไม่รู้จักดูแลกันและกันให้มันดีกว่านี้หน่อย เราอาจจะเป็นแค่คนนอก แต่เป็นคนนอกที่เห็นแล้วเศร้าใจค่ะ

เรารู้ บางทีเค้าอาจจะไม่ว่าง ไม่มีเวลาเพราะต้องทำงานเก็บเงิน เพื่อสร้างฐานะ ยิ่งเวลามีคนมาอยู่ด้วยมากขึ้นแล้ว ชีวิตนึงต้องกินต้องใช้ ต้องใช้เงิน ยิ่งในโลกที่มีเศรษฐกิจและเงินตราเป็นหัวใจหลัก มีอำนาจและความมั่งมีเป็นแกนในการหมุนให้เคลื่อนที่ แต่ว่า
หากคุณจะดูแลคนที่คุณรักมากกว่านี้
อย่างน้อยคนที่คุณรักจะได้ไม่ต้องมีประสบการณ์อยู่อย่างโดดเดียวท่ามกลางคนแปลกหน้า หรือมีความกลัวในดวงตาคู่นั้น

ได้โปรด เราไม่อยากเห็นอีกแล้ว

หนูสัญญาจะตั้งใจเรียนค่ะ เพื่อคนอื่นและเพื่อตัวหนูเองและวันหลังจะหัดพกโทรศัพท์มือถือค่ะ



เจ้าชายรองเท้าแตะ




Create Date : 30 มิถุนายน 2550
Last Update : 1 กรกฎาคม 2550 9:18:31 น. 19 comments
Counter : 569 Pageviews.

 

*** สวัสดีคะ แวะมาเยี่ยมในวันหยุด มีความสุขมาก ๆ นะคะ ***



โดย: หน่อยอิง วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:19:33:35 น.  

 
แวะมาเยียมนิวซีแลนด์ด้วยคนคะ


โดย: mintny_n วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:20:35:50 น.  

 
อ่านเรื่องนี้แล้วสะเทือนใจเชียวครับ ผมจินตนาการตามเรื่องที่ว่าอาม่าถูกคนดุจนเสียความรู้สึกแล้วสงสารจังเลย ผมก็มีอาม่าครับ แต่เป็นแค่จินตาการนะครับ อาม่าผมอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นดีพอสมควรครับ


ตัวผมเองเนี่ยะเป็นคนที่มีความคิดแปลกๆอย่างนึงก็คือ คิดว่าเหตุการณ์อะไรที่เกิดให้เราเห็นเนี่ยะ เป็นบททดสอบให้เราได้รู้จักเติบโตโดยเฉพาะ หมายความว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นมาเพื่อเราโดยเฉพาะ เหมือนเป็นละครจัดฉากเพื่อทดสอบเรา ฉะนั้นแล้วผมเข้าใจเลยล่ะครับว่าเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะรู้สึกยังไง และจะรู้สึกอยากเก็บมันมาเป็นข้อคิด คิดให้คุ้มกับที่เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นมาให้เราได้พบเจอครับ


โดย: อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:21:54:27 น.  

 
แวะมาเยี่ยมนะคะ อ่านแล้วคิดถึงตอนคุณแม่มาอยู่ที่เกาหลีจังเลย แม่จะเครียดมาก ไม่กล้าออกไปไหนคนเดียวเพราะกลัวสื่อสารไม่เข้าใจ...


โดย: แม่ฮานึร วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:22:18:52 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกเป็นหวังจัง ถ้าเป็นเรา คงแย่แน่ ๆ เลยค่ะ


โดย: verdancy วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:22:37:42 น.  

 
ทำไมต้องดุกับอาม่าขนาดนั้นด้วย น่าสงสารจัง อาม่าคงกลัว+เครียดมากแหงๆ


โดย: ศศิกัณห์ วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:48:17 น.  

 
เครียดไปเลยนะเนี่ย


โดย: เฮ้อ IP: 124.157.146.161 วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:03:38 น.  

 
ชอบเพลงเจ้าชายรองเท้าแตะจังเลยครับ ไม่ได้ฟังนานแล้ว แต่ก็ยังเพราะอยู่เสมอ


โดย: จากวันที่เธอไม่อยู่ วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:49:39 น.  

 
ผิงว่านะลูฟก็ทำดีที่สุดแล้วอะ ถ้าเป็นผิงคงช่วยอะไรไม่ได้เลยเพราะพูดจีนไม่ได้เลยอะ เรื่องไปอยู่ต่างประเทศนี่ไม่เคยคิดเลย กลัวเป็นพลเมืองชั้นสอง แต่ไปเที่ยวนี่ชอบๆ ^^


โดย: น้องผิง วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:05:07 น.  

 
อ่านแล้วเห็นใจทั้งคุณและคุณป้ามากๆครับ

emoemo


โดย: KyBlueSky วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:20:45 น.  

 
ยาว จัง ฟร่ะ.. นี ป่าวเรื่อง ที่บอก กลุ้มๆ....

เอาไว้ ย้ายห้อง เสร็จแล้ว จะมาอ่าน ใหม่นะ งับ....

อย่าคิดมาก นะ หัดร้อง เพลง ไว้เยอะๆเด๋ว มาฟัง..


โดย: ตาทึ่มหน้าใส วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:5:39:50 น.  

 
emoemoemoemoemoemoemoemoemoemo


โดย: ลูฟ IP: 222.153.66.40 วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:13:34 น.  

 
คุณหน่อยอิง
มีความสุขมากๆเช่นเดียวกันค่า

คุณmintny_n
ขอบคุณที่มาเยี่ยมกันนะคะemo

คุณอะไรคือสิ่งหายากแต่ไม่มีค่า
อืมเราก็มีแนวคิดคล้ายๆกันนะคะ เราเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นโอกาส และทุกวันๆสิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่มีวันเหมือนกันเลย เหมือนกันว่าแม้มันจะคล้ายๆกันเพราะเป็นชีวิตประจำวัน แต่ว่าถ้าเราสังเกตดูไม่มีวันไหนเลยที่เหมือนกัน ยิ่งเราเป็นพวกชอบคิดค่ะ คิดอะไรก็ไม่รู้คิดอยู่นั่นแหละ ช่างคิดจริง555 เหมือนกับเราเป็นคนคิดมากแต่ว่าคนคิดมากจะละเอียดอ่อนน้า
แล้วก็ไม่ขี้เกียจแล้วด้วย เห็นคุณอะไรคือสิ่งหายากแต่ไม่มีค่าตอบทุกโพสแล้วรู้สึกว่าคุณใส่ใจ เลยเอามั่งๆ55

คุณแม่ฮานึร
แล้วตอนนี้คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ พอจะออกไปไหนมาได้ได้อย่างสบายไหมคะ เราว่าออกไปเที่ยวก็ดีนะ ไปคล่อนคลาย เพราะถ้าอยู่บ้านอย่างเดียวมันจะเหงาค่ะ เหมือนถูกขัง อิอิ

คุณverdancy
เราก็เคยหลงทางค่ะแต่ไม่เคยโดนตะโกนใส่emo

คุณศศิกัณห์
เนอะ หวังว่าตอนนี้คงจะอยู่ที่บ้านแล้ว ไม่รู้ว่าวันนั้นกลับถึงบ้านได้ยังไงแล้วนานแค่ไหน น่าสงสารอยู่ดีแหละค่าemoemo

คุณเฮ้อ
เครียดเลยจริงๆค่ะอิอิ

คุณจากวันฯ
ชอบเหมือนกันค่า ดูสบายๆดีemo

ผิง
ชอบเที่ยวเหมือนกันแต่ไม่มีตังไปเที่ยวอ่ะ55 ลองมาดูก็ดีนะมาลองผิดลองถูก ใช้ชีวิตดูแบบนี้ก็เป็นการใช้ชีวิตที่น่าสนใจไปอีกแบบนึงเลย

คุณKyBluesky
จนตอนนี้ยังได้แต่หวังว่าป้าจะถึงบ้านอย่างปลอดภัย
ขอบคุณมากเลยค่า อุตส่าแวะมาหากัน

ลุงทึ่มหน้าใส
ใช่แล้ว กลุ้ม แต่มันผ่านมาแล้วช่างมันเถอะเอามาเป็นประสบการณ์ละกันน้อเรา


โดย: ลูฟเอง IP: 222.153.66.40 วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:35:28 น.  

 
แวะมาเยี่ยมน้องลุฟค่ะ แหะๆ บ้านน่ารักนะค่ะ


โดย: ตี๋ร่างเพรียว IP: 58.8.123.177 วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:12:54 น.  

 
หวัดดีคะ น่าเห็นใจนะคะ แต่ทำดีที่สุดแล้วคะ เข้าใจเลยว่าเป็นอารมณ์เป็นงัย เพราะทุกวันนี้ก้อพูดกับใครไม่ค่อยได้ เพราะภาษานี่แหล่ะ


โดย: mintny_n วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:27:01 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล็อกนะคะ ตอนนี้คุณแม่กลับไปอยู่เมืองไทยแล้วค่ะ ได้ข้อสรุปว่าที่ไหนก็ไม่สุขใจเหมือนเมืองไทยบ้านเรา....


โดย: แม่ฮานึร วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:26:20 น.  

 

*** สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมค่ะ
และขอบคุณที่แวะไปเยี่ยม หน่อยอิงที่ Blog นะคะทุก comment คือกำลังใจให้แก่กัน และอย่าลืมแวะไปทักทายหน่อยอีกนะคะ ***



โดย: หน่อยอิง วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:05:39 น.  

 


อิอิ แอบแวะมา ตอนเผลอ


โดย: ตาทึ่มหน้าใส วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:6:43:29 น.  

 
เข้ามาฟังเพลงโปรดก่อนนอนอีกครั้ง


โดย: จากวันที่เธอไม่อยู่ วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:50:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

HikingForever
Location :
Auckland New Zealand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยิ้มง่าย หัวเราะเสียงดัง เป็นมิตรค่ะแล้วก็ไม่ค่อยกัดใคร^^ ยินดีที่รู้จักค่ะ
I wish one day I could be like the mountain which will never been carried away or sway by the wind.
เหอๆ ทำก๋วยเตี๋ยวแท้ๆทำไมมันออกมาเหมือนราดหน้าวะ คราวที่แล้วก็ต้มยำกุ้งแต่ไปเหมือนแกงส้ม แง้วๆๆ

น้องกิ๊กลิง
น้องเพนกี้
น้องลิงกี้
X
X
X
   
Friends' blogs
[Add HikingForever's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.