สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
เลือดคั่งในหลอดเลือดดำส่วนลึก Deep vein thrombosis หรือโรคชั้นประหยัด







เส้นหลอดเลือดดำส่วนลึกคืออะไร

เส้นหลอดเลือดดำจะนำเลือดที่ใช้แล้วกลับสู่หัวใจโดยอาศัยการบีบตัวของกล้ามเนื้อร่วมกับลิ้นในหลอดเลือดดำ หลอดเลือดดำที่ขามี 2 ชนิดคือหลอดเลือดดำที่ผิว superficial veinที่เราสามารถเห็นได้ด้วยตา ซึ่งจะนำเลือดจากผิวไปสู่หลอดเลือดดำส่วนลึก deep veinซึ่งจะอยู่ในกล้ามเนื้อ หลอดเลือดดำลึกก็จะนำเลือดไปยังหลอดเลือดดำใหญ่ในท้อง inferior venacava


เลือดคั่งในหลอดเลือดดำลึกคืออะไร

ปกติเลือดในหลอดเลือดดำจะไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อมีภาวะที่เลือดดำหยุดไหลเวียนและจับแข็งตัว thrombosisในหลอดเลือดเรียกภาวะนี้ว่าลิ่มเลือดคั่งในหลอดเลือดดำ[blood clot] ภาวะนี้อาจจะเกิดร่วมกับการอักเสบของหลอดเลือดดำ thromboplebitis คือมีทั้งลิ่มเลือดและการอักเสบของหลอดเลือด ภาวะนี้อาจจะเกิดที่เส้นเลือดผิว superficial vein ซึ่งเพียงทำให้บวมและปวดเท้านั้นจะไม่ไปอุดหลอดเลือดหัวใจหรือปอด การรักษาก็ไม่ยุงยากแต่หากเกิดที่เส้นเลือดส่วนลึก deep vein จะก่อให้เกิดปัญหามากคือลิ่มเลือดอาจจะไปอุดที่ปอดเรียก pulmonary embolism ซึ่งอันตรายเสียชีวิตได้





สาเหตุของลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ สาเหตุใหญ่ๆที่ทำให้เกิดภาวะนี้ได้แก่

**หลอดเลือดดำได้รับอันตราย เช่นอุบัติเหตุกระดูกหัก กล้ามเนื้อถูกกระแทก หรือการผ่าตัด
**เลือดในหลอดเลือดมีการไหลเวียนช้าลง เช่นการนั่งหรือนอนนาน หลัง**ผ่าตัด อัมพาต การเข้าเผือก
**การที่เลือดมีการแข็งตัวง่าย


ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ

- คนแก่ นอนไม่เคลื่อนไหวมากว่า 3 วัน
- อัมพาต
- การเข้าเผือก
- หลังผ่าตัดทำให้ต้องนอนนาน
- การที่ต้องนั่งรถ รถไฟ เครื่องบิน หรือนั่งไขว่ห้าง
- การใช้ยาคุมกำเนิด ฉีดยาเสพติด
- การตั้งครรภ์ หลังคลอด
- นอนไม่เคลื่อนไหวมากกว่า 3 วัน
- โรคมะเร็ง
- โรคทางพันธุกรรมบางโรค





อาการของโรคลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ




ขาข้างที่เป็น dvt จะบวมกว่าอีกข้าง


อาการที่สำคัญ

คืออาการบวมที่เท้าเนื่องจากการไหลกลับของเลือดไม่ดีมักจะบวมข้างเดียว บางรายอาจจะเห็นเส้นเลือดโปงพอง อาจจะมีอาการปวดกล้ามเนื้อหรือเป็นตะคริวพบได้ครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยโดยเฉพาะเวลากระดกข้อเท้าจะทำให้ปวดมากขึ้น เมื่อกดบริเวณน่องก็จะทำให้ปวด ผู้ป่วยบางรายอาจจะไม่มีอาการที่เท้าอาจจะมาพบแพทย์ด้วยเรื่องหอบเหนื่อยเนื่องจากลิ่มเลือดไปอุดในปอด


การตรวจร่างกาย

ต้องใช้การตรวจหลายอย่างมาช่วยในการวินิจฉัย

1. บวมเท้าที่เป็นข้างเดียว และอาจจะกดเจ็บบริเวณน่อง เมื่อจับปลายเท้ากระดกเข้าหาตัวโดยที่เข่าเหยียดตรง[เรียกการตรวจนี้ว่า Homans Sign ]
อาจจะตรวจพบว่าหลอดเลือดดำโป่งและอาจจะคลำได้ ถ้าเส้นเลือดอักเสบเวลาคลำจะปวด
2. อาจจะมีไข้ต่ำๆ


การวินิจฉัยต้องอาศัยการตรวจพิเศษ

1. venography คือการฉีดสีเข้าไปในเส้นเลือดที่สงสัยเพื่อดูว่ามีลิ่มเลือดอุดหรือไม่ แต่ให้ผลการตรวจไม่แม่นยำ และอาจจะเกิดอาการแพ้จึงไม่นิยม

2. venous ultrasound เป็นการใช้ ultrasound ช่วยในการวินิจฉัย วิธีนี้ไม่เจ็บปวดให้ผลดี

3. MRI





การรักษา

หากวินิจฉัยว่าเป็น dvt จะต้องรีบให้การรักษาโดยรับตัวไวในโรงพยาบาลแพทย์จะเลือกให้ heparin หรือ low molecular weight heparin หลังจากนั้นต้องให้ warfarin เพื่อป้องกันลิ่มเลือดอีก 3 เดือน


การป้องการ

คือการลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำลึกและการป้องกันเส้นเลือดขอด


วิตามินอีช่วยลดการเกิดโรคนี้

วิตามินอีเคยได้รับการทดลองให้ผู้ป่วยเพื่อป้องกันโรคหัวใจและโรคมะเร็งแต่ผลการทดลองให้ผลไม่ดีดังที่คิด แต่มีการทดลองการให้วิตามินอีพบว่ามีผลต้านฤทธิ์ต่อวิตามินเค(vitaminK)ในสัตว์ทดลอง จึงได้มีการทลองให้ในคนซึ่งตีพิมพใน Circulation. เดือนกันยายน 2550

โดยศึกษาผู้หญิงแข็งอายุมากกว่า 45 ปีซึ่งก็เจาtเลือดตรวจหาโรคเป็นพื้นฐาน ผู้เข้ารับการศึกษาจะได้รับ วิตามินอี 600 ยูนิต แอสไปริน 100มกวันเว้นวัน หรือเม็ดแป้ง การศึกษาจะดูอัตราการเกิดโรค venous thrombosis หรือผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคนี้ พบว่ามีผู้ป่วยประมาณ19000 คนทั้งกลุ่มที่ได้วิตามินอี และกลุ่มที่ได้เม็ดแป้ง และมีลักษาณะเช่นเชื้อชาติ อายุ ไม่ต่างกันทั้ง2 กลุ่ม ระยะเวลาที่ศึกษาประมาณ10.2 ปี





ผลการศึกษาพบว่า

1. มีการเกิดโรคลิ่มเลือดที่เท้า 482 คนโดยที่ไม่มีประวัติผ่าตัดหรือได้รับอุบัติเหตุ
2. คนที่ได้รับ วิตามินอี จะมีอัตราการเกิดลิ่มเลือดน้อยกว่ากลุ่มที่ได้เม็ดแป้งเล็กน้อย
3. สำหรับผู้ที่เคยเป็นโรคชั้นประหยัดมาก่อนหรือมีพันธุกรรมพบว่า วิตามินอีจะลดอัตราการเกิดโรคนี้ได้ถึงร้อยละ 44-48


คำแนะนำ

ผู้ที่เคยเป็นโรคลิ่มเลือดอุดที่เท้ามาก่อน โดยที่ไม่ได้รับอุบัติเหตุหรือผ่าตัดน่าจะได้รับประโยชน์จากการรับประทานวิตามินอีวันละ 600 ยูนิตต่อวัน แต่ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลท่าน













Create Date : 28 ธันวาคม 2551
Last Update : 28 ธันวาคม 2551 10:01:06 น. 3 comments
Counter : 10902 Pageviews.

 


โดย: beautyswan วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:10:34:16 น.  

 




โดย: myshumi วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:20:36:12 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ 2552 จ้า
ขอให้รวยๆ เฮงๆ ตลอดปีนะจ้า


โดย: maew_kk วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:8:38:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
28 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.