ไข้กาฬหลังแอ่นกลับมาอีกแล้ว
พอดีได้ดูข่าวเรื่องคนงานกลับมาจากประเทศทางแอฟริกาและติดโรคนี้มา ก็เลยอยากนำมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับพิษภัยของโรคนี้กันอีกครั้งนะค่ะ
โรคไข้กาฬหลังแอ่น เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ Neisseria meningitidis ปกติเราพบเชื้อนี้ในคอโดยไม่เกิดโรค เป็นโรคที่พบไม่บ่อยแต่อันตรายถึงชีวิต การติดเชื้อมีได้ 2 ลักษณะคือ
-เยื่อหุ้มสมองอักเสบ meningitis -โลหิตเป็นพิษ meningococcemia นอกจากเยื่อหุ้มสมองแล้ว เชื้อนี้ยังสามารถทำให้เกิดโรคที่ ข้อ ปอดบวม
การติดต่อ
เชื้อนี้จะติดต่อทางน้ำลายหรือเสมหะโดยการสูบบุหรี่ร่วมกัน ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน จูบปากกัน หรือผายปอดช่วยชีวิต
อาการของโรคไข้กาฬหลังแอ่น
ผื่นเป็นจุดแดง เหมือนไข้เลือดออก มักจะพบตามแขน ขา ทดสอบเอาแก้วกดบนผื่น ผื่นจะไม่จางหาย ประกอบด้วย ไข้สูง ปวดศรีษะ คอแข็ง ผื่นตามตัว คลื่นไส้อาเจียน ซึมลง ผื่นจะมีลักษณะเป็นจุดแดง หรือดำคล้ำ บางที่เป็นตุ่มน้ำซึ่งมีเชื้ออยู่ภายในเนื่องจากโรคดำเนินเร็วมาก หากมีอาการดังกล่าว 2 อย่างขึ้นไปโดยเฉพาะผู้สัมผัสผู้ป่วยต้องรีบพบแพทย์โดยด่วน
การวินิจฉัย
- การตรวจเลือด CBC จะพบจำนวนเม็ดเลือดขาวสูง - การตรวจน้ำไขสันหลัง จะพบเซลล์ในน้ำไขสันหลังสูง - การตรวจหาเชื้อจากเลือด เช่นการเพาะเชื้อ หรือการย้อมเชื้อจากตุ่มน้ำ หรือเลือด
ภาวะแทรกซ้อน
- หูหนวกพบได้ร้อยละ 10-20 - โรคลมชัก - ข้ออักเสบ พบได้บ่อยมักเป็นหลายๆข้อ - ปอดอักเสบ
การรักษา
ในรายที่สงสัยควรรีบให้การรักษาโดยเร็วไม่ควรรอจนเกิดผื่น ยาที่ใช้คือ penicillin
การป้องกัน
วัคซีนป้องกันโรค และยาปฏิชีวนะสำหรับผู้สัมผัสโรค
ใครที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ผู้ป่วยที่มีปัจจัยเหล่านี้จะมีโอกาสเป็นโรคไข้กาฬหลังแอ่น คือ
- ผู้ติดเชื้อทางเดินหายใจ - ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง - ผู้ที่สัมผัสกับโรค - ผู้ที่ท่องเที่ยวไปแหล่งระบาด - พฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดโรคคือ การสูบบุหรี่มวนเดียวกัน การดื่มแก้วเดียวกัน หรือการจูบปากกัน
เชื้อไข้กาฬหลังแอ่นทำให้เกิดโรคอะไร
เกิดจากเชื้อ Neisseria meningitides ในประเทศไทยเป็น sologroup A ,B และ อื่นๆคิดเป็นสัดส่วน 19.5% 53.7% และ26.8%ตามลำดับทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบซึ่งมีอัตราการตาย 13% และโลหิตเป็นพิษมีอัตราการตาย11% มักเกิดในอายุ3-12 เดือน
ใครควรได้วัคซีนป้องกันโรคกาฬหลังแอ่น
- เด็กอายุมากกว่า 2 ขวบในขณะที่มีการระบาดของเชื้อ เด็กอายุ3-18 เดือนในช่วงระบาดอาจฉีด 2 เข็มห่างกัน3 เดือน - เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการที่ต้องสัมผัสกับเชื้อ - บุคคลที่ๆจะไปถิ่นระบาด หลังฉีดจะมีภูมิคุ้มกันอยู่ไม่เกิน3 ปี ภูมิจะเริ่มขึ้น7-10 วัน
ขนาดวัคซีนที่ให้
ให้ 0.5ml scที่ แขนหรือก้น ไม่ควรให้วัคซีนในคนท้อง
การให้ยาปฏิชีวนะในผู้ที่สัมผัสโรค
ผู้ที่สัมผัสโรคได้แก่ - สมาชิกในครอบครัวที่อยู่ด้วยกันเกิน25ชั่วโมงต่อสัปดาห์ - เจ้าหน้าที่ที่ดูแล - ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดเช่น จูบ การเป่าปากช่วยชีวิต การใช้ท่อช่วยหายใจ
ยาที่ให้มีอะไรบ้าง
- Rifampicin 600mg วันละ 2ครั้งป็นเวลา 2วัน 10มก./กก.สำหรับเด็กอายุ1-12ปี 5มก./กก.สำหรับเด็กอายุ3-11เดือน - Ciprofloxacin 500mgวันละครั้ง - Ceftriazone 250mg IM เป็นทางเลือกในกรณีที่ไม่สามารถใช้ Rifampicin
วัคซีนนี้ในประเทศไทยยังไม่ควรมีการใช้วัคซีนป้องกันไข้กาฬเนื่องจากวัคซีนปัจจุบันไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อชนิดที่มีอยู่เพราะวัคซีนที่มีอยู่ต่อต้านได้เฉพาะ serogroup A,C,Y W-135
ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลวิภาวดี
Create Date : 20 กันยายน 2552 |
Last Update : 20 กันยายน 2552 12:39:57 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1632 Pageviews. |
|
|
|