ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ แหล่งรวมความรู้ตามแนวพระราชดำริ
สร้างฐานสังคมการเรียนรู้การพึ่งตนเองอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพลิดเพลินกับการปฎิบัติจริงพร้อมน้อมนำพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ ก่อตั้งบนที่ดินส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมูลนิธิชัยพัฒนาและสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีเจตจำนงที่จะถวาย ความจงรักภักดีประกอบกิจกรรมสนองพระราชดำริ โดยมูลนิธิชัยพัฒนาขอพระบรมราชานุญาตขอใช้ที่ดิน 14 2 18 ไร่ ตั้งอยู่หลังเขื่อนขุนด่านปราการชล บ้านท่าด่าน ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปภัมภ์สนับสนุนงบประมาณ เพื่อทำการพัฒนาให้เกิดประโยช์แก่ประชาชนทั่วไป
โดยจัดทำโครงการศูนย์นิทรรศการ การบริหารทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อแสดงแนวคิดและทฤษฎีการพัฒนาตนเองตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โครงการศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ เป็นโครงการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานนามเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2545 โดยเริ่มก่อสร้างดำเนินการก่อตั้ง ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติมาตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2545 จัดสรรพื้นที่กว่าี่ 14 ไร่ ให้ก่อเกิดประโยชน์สูงสุด สู่การเป็น อาศรมปัญญา อีกทั้งยังออกแบบการจัดวางให้เหมาะสมให้ผู้เข้าชมได้รับทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน ( Play + Learn = Plearn) ตามแนวพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์พระผู้พระราชทานกำเนิดโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย
อาคารและการใช้พื้นที่ทั้งหมดก่อเกิดประโยชน์คุ้มค่าสูงสุด ประกอบด้วยอาคารนิทรรศการ ต้อนรับนักท่องเที่ยว อาคารประชุม ร้านค้าและ OUTDOOR THEATER
แปลงสาธิตกิจกรรมกลางแจ้งตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ด้านการเกษตร ปศุสัตว์ และพลังงาน โดยจัดแปลงสาธิตประกอบด้วยทางเดินโดยรอบ ให้ผู้ที่สนใจเข้าไปศึกษาทดลองและ เรียนรู้ด้วยตนเอง อาทิ
แปลงป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง คือ ไม้ผล ไม้ฟืน ไม้ใช้สอย และประโยชน์อย่างที่ 4คือ มีป่าไม้ครอบคลุมช่วยในการอนุรักษ์ดินและน้ำส่งผลประโยชน์และสิ่งแวดล้อมอีกนานัปการ
แปลงทฤษฎีแก้มลิง หนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ใช้เป็นแม่แบบในการแก้ปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล นั้นคือการแก้ปัญหาน้ำท่วม ก็ให้ขุดคลองต่าง ๆ เพื่อชักน้ำให้มารวมกัน แล้วนำมาเก็บไว้เป็นบ่อพักน้ำ จากนั้นจึงระบาย น้ำลงทะเลเมื่อปริมาณน้ำทะเลลดลง ซึ่งเปรียบเหมือนลิงเวลากินกล้วยจะเก็บไว้ที่แก้ม ได้หลายลูกแล้ว ค่อย ๆ นำมาเคี้ยวกินภายหลัง
แปลงปลูกหญ้าแฝก ตัวช่วยสำคัญในการพลิกฟื้นปรับปรุงคุณภาพของดินให้สามารถทำการเกษตร ได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน และการพัฒนา ทรัพยากรดินให้เกิดแร่ธาตุและความชุ่มชื้นมีวิธีอื่น ๆ อีกหลายวิธี เช่น ใช้ฟางและเศษใบไม้มาห่มดิน, การใช้พรมใยปาล์ม ( weedrop) ซึ่งทำมาจากปาล์มที่ผ่านการรีดน้ำมันแล้ว นำทะลายปาล์มมาตะกุยให้เป็นเส้น ๆ ก่อนจะเอาไปอัดให้เป็นแผ่น เป็นผ้าห่มดิน เพื่อการเกษตรใช้ปูเพื่อรักษากล้าไม้ คลุมดินไม่ให้วัชพืชขึ้นรบกวน ช่วยยึดหน้าดิน โดยการใช้ร่วมกับหญ้าแฝกและต้นไม้และเก็บความร้อนชื้นให้จุลินทรีย์ใต้ดินทำงาน
แปลงทฤษฎีใหม่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระราชดำริให้จัดแบ่งที่ดินออกเป็น 4 ส่วน
ส่วนที่ 1 ขุดสระเก็บกักน้ำ (ร้อยละ 30)
ส่วนที่ 2 ทำนาข้าว (ร้อยละ 30)
ส่วนที่ 3 ปลูกพืชไร่หรือพืชสวน (ร้อยละ 30)
ส่วนที่ 4 เป็นที่อยู่อาศัยและเลี้ยงสัตว์ (ร้อยละ 10) เพื่อให้ราษฎรสามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างมั่นคง
จุดสาธิตเรื่องพลังงาน การผลิตกระแสไฟฟ้าจากถ่าน เครื่องผลิตไบโอดีเซล เครื่องผลิตแก๊สจากขยะที่จะได้ทั้งปุ๋ยน้ำชีวภาพและแก๊สไว้ใช้ในครัวเรือน หากใครได้เข้ามาชมและศึกษาอย่างจริงจังก็สามารถนำไปเป็นต้นแบบใช้งานได้จริง
ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดนครนายก บรรจุด้วย ความรู้ควบคู่ความสุขตาสุขใจ ความเพลิดเพลินที่ได้มาเยือนที่สื่อความหมายผ่านนิทรรศการทั้งภายในและภายนอกอาคาร พร้อม ๆ กับการฝึกอบรมให้กับผู้ที่สนใจ ที่จะนำแนวคิดและทฤษฎีการพัฒนา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปประยุกต์ใช้ ในการทำงานในชีวิตประจำวัน
โดยศูนย์ได้ทำการฝึกอบรมให้กับข้าราชการและประชาชนทั่วไป จัดวางภูมิทัศน์ภายนอก ในลักษณะของจากน้ำหยดแรกที่ต้นน้ำ ไหลลงสู่ทะเล หรือ จากฟ้า มาภูผา สู่มหานที ผู้เข้าชมจะได้เห็นถึงการจัดการเรื่องของน้ำอย่างมีประสิทธิภาพทุกขั้นตอนตามแนวพระราชดำริ เมื่อมีการจัดการน้ำที่ดี การพัฒนาดินด้วยวิธีธรรมชาติจึงได้ผลที่ดีตามมา เกิดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศและป่าไม้
จากนั้นจึงทำการสอนให้คนได้รู้จักที่จะใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ สร้างอาชีพ สร้างความมั่นคงที่เกิดจากฐานการเรียนรู้การพึ่งตนเองอย่างเป็นขั้นตอน ทุกกิจกรรมเน้น ให้ก่อเกิดการเรียนรู้ที่สามารถปรับใช้ได้โดยง่าย ดึงดูดให้เกิดความสนใจและสามารถพัฒนา สู่มาตรฐานการผลิตที่สูงขึ้น ตลอดจนรู้จักรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด รวมทั้งรักษาสภาพแวดล้อมให้มีใช้อย่างยั่งยืนเพื่อชนรุ่นหลัง
สำนักงาน ททท.ภาคกลางเขต 8 ขอเชิญชวนร่วมชม ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะก่อเกิดประโยชน์ให้ชีวิต ของเรามีความพอเพียงและดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข
เริ่มต้นการเดินทางออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครนายก ชมเขตทหารน่าเที่ยว โรงเรียนเตรียมทหาร และ โรงเรียนนายร้อย จปร. มีกิจกรรมท่องเที่ยวให้เยี่ยมชม ได้ความรู้ควบคู่ความสนุกสนานมีความสุขได้ทุกวัย จากนั้นมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครนายก แล้วใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 3049 มุ่งหน้าไปทางน้ำตกนางรอง ไหว้พระขอพรพระประธาน และชมอุโบสถอายุกว่า 220 ปีที่ วัดใหญ่ทักขิณาราม รับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นขับรถตรงไปยังน้ำตกนางรอง ผ่านอุทยานวังตะไคร้ ไปอีกประมาณ 500 เมตร เลี้ยวขวาขับตรงไปก็จะถึง ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ เรียนรู้และศึกษาทฤษฎีเกษตรพอเพียงและชมจุดสาธิตตามแนวพระราชดำริ ยามเย็นชม เขื่อนขุนด่านปราการชล หนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ก่อนจะเดินทางกลับด้วยสวัสดิภาพ
การเดินทาง
รถยนต์ จากกรุงเทพ ฯ แยกรังสิตตามทางหลวงหมายเลข 305 เลียบคลองรังสิตผ่านอำเภอองครักษ์ หรือใช้ทางหลวงหมายเลข 1 เลี้ยวขวาที่หินกองไปตามถนนสุวรรณศร ทางหลวงหมายเลข 33 จนถึงนครนายก
รถโดยสารจากกรุงเทพ ฯ มีรถโดยสารปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ (ถนนกำแพงเพชร 2) มีเส้นทางเดินรถ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางกรุงเทพ ฯ รังสิต องครักษ์ นครนายก หรือเส้นทางกรุงเทพ ฯ - หินกอง นครนายก
รายละเอียดติดต่อสอบถามได้ที่ สถานีขนส่งสายเหนือ (ถ.กำแพงเพชร 2) โทร.0-2936-3660, 0-2936-3666
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
สำนักงาน ททท.ภาคกลางเขต 8 โทร.0-3731-2282, 0-3731-2284 หรือ //www.tat8.com
ผู้ประสานงานศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ นครนายก
คุณปัญญา ปุลิเวคินทร์ โทร.08-1964-5915
คุณวริสร รักษ์พันธุ์ โทร.08-1970-3779
ขอขอบคุณข้อมูลเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ //www.panyathai.or.th/wiki/index.php
Create Date : 30 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 30 กรกฎาคม 2552 10:34:54 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1106 Pageviews. |
|
|
|
|
|