สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
โรคเลือดออกในสมอง

โรคเลือดออกในสมอง หรือเส้นเลือดในสมองตีบ (ซีรีโบวัทกูีล่าดีซีท) คือโรคที่เกิดจากมีการตีบตันของเส้นเลือดไปเลี้ยงสมอง หรือมีเลือดออกในเนื้อสมอง เป็นโรคที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน พบบ่อยในผู้ใหญ่ีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ผู้ชายเป็นมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2 ต่อ 3 เท่า


สาเหตุของโรคเลือดออกในสมองนี้เกิดจาก

ภาวะไขมันในเลือดสูง เส้นเลือดมีไขมันมากเกาะมาก ทำให้เส้นเลือดตีบง่าย และผนังของเส้นเลือดเปราะบางทำให้เส้นเลือดแตกง่าย
การอักเสบของเส้นเลือดในสมองจากการติดเชื้อ เช่น โรคซิฟิลิส โรค
เยื้อหุ้มสมองอักเสบ และโรคสมองอักเสบต่างๆ
ภาวะเลือดข้น อุบัติเหตุต่างๆ ที่มีการบาดเจ็บ การกระแทกที่ศีรษะ
โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ


อาการแสดงของโรคเลือดออกในสมอง อาการที่ตรวจพบมีปวดศีรษะ ชัก หมดสติ มีอัมพาตของแขน ขา ปากเบี้ยว ในรายที่เป็นมากและรุนแรงอาจให้ หยุดหายใจได้ และเสียชีวิตได้ ในกรณีที่มีการตีบของเส้นเลือด ทำให้เกิดเนื้อสมองตาย หรือมีก้อนเลือดในสมองกดทับเนื้อสมอง แต่ไม่ทำให้เสียชีวิตในทันที ก็จะพบว่าผู้ป่วยมีอาการอัมพาต อัมพฤกษ์ หรือกล้ามเนื้อแขน ขาอ่อนแรงแบบไม่สมบูรณ์ ผู้ป่วยที่มีอาการน้อย เช่น ยังรู้สึกตัวดี มีคอแข็ง หรืออัมพาตครึึ่งซีก แบบไม่สมบูรณ์ ถือว่าเป็น ไมเนอร์สโต๊ก หรือ สโต๊กอย่างอ่อน หรือผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาก เช่น ไม่รู้สติ หรืออัมพาตครึ่งซีก อย่างสมบูรณ์ แสดงว่าสมองถูกทำลายมาก ถือว่าเป็น เมเจอร์สโต๊ก หรือสโต๊กอย่างรุนแรง

การรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคเลือดออกในสมอง จำเป็นต้องพบแพทย์ และมักจะต้องการรรักษาอย่างรีบด่วน


การรักษามี 2 ชนิด คือ

1.การให้ยาทางเส้นเลือด เพื่อลดการบวมของเนื้อสมอง และช่วยเพิ่มปริมาณเลือดไปเลี้ยงสมอง รอบบริเวณที่ตาย ยาที่ใช้ เช่น สเตียลอย
และเมนนีทอย

2.การผ่าตัดเพื่อลดความดันในสมอง การผ่าตัดเพื่อเอาก้อนเลือดที่กดทับในสมองออก

นอกจากนี้การรักษาีที่สำคัญอื่นๆ ที่จำเป็นต้องมีร่วมด้วย คือ การดูแลพยาบาลผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว การดูแลระบบทางเดินหายใจ การให้อาหารทางสายยาง การทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง และรักษาการโรคที่เป็นสาเหตุเสริม เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการรักษาผู้ป่วยเหล่านี้ด้วย

การปวดศีรษะ อาการปวดศีรษะเป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด ประมาณการกันว่า ทุกคนจะมีอาการปวดศีรษะมาแล้ว อย่างน้อยหนึ่งครั้ง หรือมากกว่านี้ ความรุนแรงของการปวดศีรษะมีตั้งแต่เล็กน้อย ไปจนถึงปวดศีรษะรุนแรง ซึ่งในบางครั้งอาการปวดศีรษะที่รุนแรง อาจบ่งบอกถึงสาเหตุที่รุนแรง และมีอันตรายได้้


สาเหตุของการปวดศีรษะ มีได้หลายประการได้แก่

มีความผิดปกติในสมอง เช่น เป็นเนื้องอกในสมอง เส้นเลือดในสมอง
โปร่งพอง มีความผิดปกตินอกเนื้อสมอง เช่น มีความดันโลหิตสูง สายตา
ผิดปกติ สาเหตุเกิดจากความตึงเครียดทางอารมณ์ และ โรคปวดศีรษะ
ไมเกรน


อาการต่างๆ ของโรคที่ทำให้ปวดศีรษะ

การปวดศีรษะที่เกิดจากความผิดปกติในสมอง เช่น เนื้องอกในสมอง เส้นเลือดโปร่งพองในสมอง ลักษณะของการปวดจะรุนแรง อาจปวดข้างเดียว หรือสองข้างก็ได และปวดอยู่นานไม่สามารถทุเลาลงได้ด้วยยาแก้ปวดธรรมดา้ และจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ชัก หมดสติ อัมพาต แขน ขา อ่อนแีรง หรือปากเบี้ยว

การปวดศีรษะที่เกิดจากความผิดปกตินอกสมอง เช่น การปวดศีรษะที่เกิดจากความดันโลหิตสูง ลักษณะการปวดจะปวดตื้อๆ มึนๆ ตลอดเวลา จะเป็นมากเวลาตื่นนอนตอนกลางวัน อาการปวดศีรษะจะทุเลาลง หรืออาจปวดมากขณะ ไอ จาม หรือ เบ่งอุจจาระ เพราะจะทำให้ความดันในกระโหลกศีรษะสูงขึ้นชั่วคราว ถ้าปวดรุนแรงจะมีอาเจียน ตามัว ร่วมด้วย ตำแหน่งที่ปวดบ่อย คือบริเวณท้ายทอย

การปวดศีรษะเนื่องจากสายตาผิดปกติ ลักษณะจะปวดมากเมื่อใช้สายตามองไกล หรือมองใกล้ ซึ่งมองเห็นไม่ชัดเจน ปวดศีรษะข้างเดียวตื้อๆรุนแรง มีตาแดง ตามัว ตาพร่า ตำแหน่งที่ปวดคือ บริเวณรอบกระบอกตา บริเวณหน้าผาก หรือขมับ และมักจะมีอาการเมื่อใช้สายตานานเกินควร เช่น อ่านหนังสือเป็นเวลานานๆ สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง และต้อหิน
การปวดศีรษะเนื่องจากอารมณ์และความเครียด เกิดจากการใช้ความคิดมาก มีปัญหาซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ มักจะปวดตื้อๆ รอบๆศีรษะ ท้ายทอย ขมับ และมีอาการเหมือนมีผ้ามาบีบรัดที่ศีรษะอยู่ตลอดเวลา อาการปวดจะเป็นช่วงบ่ายหลังจากทำงานเป็นมาเวลานาน

การปวดศีรษะข้างเดียวหรือไมเกรน สาเหตุที่แท้จริงของไมเกรนยังไม่ทราบแน่ชัด เพราะว่าอาจเกิดจากมีการหดตัวและขยายตัวของเส้นเลือดแดงในสมอง ลักษณะการปวดจะปวดตุบๆ เป็นระยะๆ ก่อนปวดจะมีอาการของทางเดินอาหารร่วมด้วย เช่นเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ตำแหน่งที่ปวด คือ บริเวณขมับ อาการปวดจะเริ่มเป็นในตอนบ่ายและตอนเย็น ตอนเช้าจะรู้สึกสบายดี ถ้าท่านมีอาการปวดศีรษะเป็นประจำควรปรึกษาแพทย์ เพื่อการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ และให้คำแนะนำในการรรักษาุที่ถูกต้องต่อไป


การรักษาอาการปวดศีรษะ ถ้าเป็นการศีรษะ เนื่องจากอารมณ์และ ความตึงเครียด มีวิธีการรักษาดังนี้

ในขณะที่กำลังมีอาการรุนแรงอยู่ อาจรับประทานยาแก้ปวด พาราเซท
ตามอล ครั้งละ 1-2 เม็ด ต้องลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อโดยการพัก ใช้ผ้าชุบน้ำร้อนวางบนคอด้านหลัง นวดคอและไหล่เบาๆ อาจจะช่วยได้
ออกกำลังกายทุกวัน หากมีปัญหาต่างๆ ที่สะสมไว้ในใจ ควรขอคำปรึกษาและพูดคุยเพื่อลดความตึงเครียดลง และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง


ถ้าเป็นอาการปวดศีรษะข้างเดียว หรือไมเกรน วิธีรักษาคือ

กินยาแก้ปวด พาราเซทตามอล 1-2 เม็ด พร้อมกับดื่มกาแฟ หรือ ชงชาแก่ๆ หนึ่งถ้วย ให้นอนพักในที่เงียบๆมืดๆ พักผ่อนสงบสติและอย่าคิดมาก
หลีกเลี่ยงความเครียด เช่นขณะทำงานควรหยุดงานชั่วคราว อาจต้องการรักษาแบบจิตบำบัดร่วมด้วย ถ้าอาการปวดศีรษะไมเกรน ไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์ทันที


ถ้าเป็นอาการปวดศีรษะจากความดดันโลหิตสูง ควรปรึกษาแพทย์ทันที และรับประทานยาลดความดันโลหิตตามที่แพทย์สั่ง


ถ้าเป็นอาการปวดศีรษะ เนื่องจากการสายตาผิดปกติ การรักษาจำเป็นจะต้องปรึกษาจักษุแพทย์ โดยทันที และถ้ามีอาการปวดศีรษะที่สงสัยว่าจะเกิดจากการผิดปกติในสมอง เช่นเนื้องอกในสมองควรจะพบแพทย์และ ปรึกษาทันทีเพื่อรักษาที่ถูกต้องต่อไป






ขอบคุณข้อมูลจาก //www.thaihealthinsure.com



Create Date : 30 พฤษภาคม 2552
Last Update : 30 พฤษภาคม 2552 15:43:28 น. 5 comments
Counter : 10428 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ บล๊อคสวยจังเลย
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ


โดย: Ouy 's Zon วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:37:30 น.  

 
เคยล้มตอนเล่นฟุตบอลอย่างแรงหนหนึ่ง ไม่รู้เลือดออกในสมองหรือเปล่า แต่เล่นเอาหน้ามืดไปหลายนาที


โดย: ขุนพลน้อยโค่วจง วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:24:28 น.  

 
หวัดดีค่ะคุณกบ...นุชมารายงานตัวค่ะ หายไปเพราะไม่ค่อยสบาย แต่ดีใจที่เปิดบล็อคแล้วพบข้อความของคุณกบค่ะ ขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะคะ ช่วงนี้ฝนตกบ่อยคุณกบอย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะไม่งั้นจะป่วยแบบนุช กู๊ดไนท์ค่ะ จุ๊บ ๆ


โดย: Vannessa วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:44:11 น.  

 



อัพบล็อก(อีก) แล้วครับ...คุณกบ

นักประวัติศาสตร์ทั่วโลกตกตะลึง !

เช ยังไม่ตาย !

ยังไม่ตายจริง ๆ ครับ

อาจจะแค่สลบไปชั่ววูบก็ได้...

อย่างนี้ต้องตามไปดูเสียแล้วครับ.





โดย: ลุงแว่น วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:19:21 น.  

 


หลับด้วยฝันดี เพื่อตื่นมาทำงานด้วยความสดชื่นนะคะคุณกบ


โดย: ญามี่ วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:0:32:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
30 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.