โรคไข้ "ชิคุน กุนยา"
พอย่างเข้าฤดูฝนโรคระบาดต่างๆ ก็ตามมามากมาย โรคระบาดที่กำลัง ระบาดอยู่ทางภาคใต้ของไทยซึ่งเกิดจากยุงลาย
จากสถานการณ์การระบาดของโรคชิคุนกุนย่าในเขตอำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2551 มีผู้ป่วยจำนวน 82 ราย จนถึงขณะนี้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ใน 13 อำเภอทั้งจังหวัดนราธิวาสและได้กระจายไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานคร นนทบุรีและฉะเชิงเทรา ปี พ.ศ. 2551 มีผู้ป่วยจำนวน 2,433 ราย และกลางเดือนมกราคม 2552 มีผู้ป่วยจำนวน 536 ราย และคาดว่าการระบาดของโรคยังจะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากช่วงดังกล่าวมีนักศึกษาและประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในจังหวัดอื่น ๆ จึงมีความเสี่ยงที่การระบาดจะขยายไปพื้นที่จังหวัดอื่น
ดังนั้นทางโรงพยาบาลจึงขอความร่วมมือ โดยเมื่อพบผู้ป่วยตั้งแต่สงสัยหรือเป็นโรคไข้ชิคุนกุนย่าเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลขอให้มีการรายงานตามแบบ รง.506 กรณีพบผู้ป่วยตามเกณฑ์เฝ้าระวังทั้งเกณฑ์ทางคลินิกและเกณฑ์ทั่วไปทางห้องปฏิบัติการสามารถประสานกับฝ่ายระบาดวิทยา กองควบคุมโรค สำนักอนามัยในการส่งตรวจจำเพาะหาแอนติบอดีหรือจีโนมของไวรัสชิคุนกุนย่าตามระบบเฝ้าระวังโรค เพื่อยืนยันการพบโรคดังกล่าวที่โทรศัพท์หมายเลข 0-2354-1836,0-2245-8106
ลักษณะโรค
โรคชิคุนกุนยา เป็นโรคติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค มีอาการคล้ายไข้เดงกี แต่ต่างกันที่ไม่มีการรั่วของพลาสมาออกนอกเส้นเลือด จึงไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมากจนถึงมีการช็อก
สาเหตุของโรคชิคุนกุนยา
โรคชิคุนกุนยาเกิดจากเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา (Chikungunya virus) ซึ่งเป็น RNA Virus จัดอยู่ใน genus alphavirus และ family Togaviridae ที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ดังนั้นจึงมักพบการระบาดในช่วงฤดูฝนที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะกับการเพาะพันธุ์ของยุงลาย
การติดต่อของโรคชิคุนกุนยา
การติดต่อของโรคชิคุนกุนยาเกิดขึ้นเมื่อยุงลายตัวเมียกัดและดูดเลือดผู้ป่วยที่อยู่ในระยะไข้สูง ซึ่งเป็นระยะที่มีไวรัสอยู่ในกระแสเลือด เชื้อไวรัสนั้นจะไปเพิ่มจำนวนมากขึ้นในตัวยุง และเมื่อยุงนั้นไปกัดคนอื่นต่อ ก็จะปล่อยเชื้อไปยังคนที่ถูกกัด ทำให้เกิดการติดเชื้อโรคชิคุนกุนยาได้
ทั้งนี้โรคชิคุนกุนยามีระยะฟักตัว 1-12 วัน แต่ช่วง 2-3 วันจะพบบ่อยที่สุด ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 จะเป็นช่วงที่มีไข้สูง มีไวรัสอยู่ในกระแสเลือดมาก และสามารถติดต่อกันได้หากมียุงลายมากัดผู้ป่วยในช่วงนี้ และนำเชื้อไปแพร่ยังผู้อื่นต่อ
อาการของโรคชิคุนกุนยา
ผู้ที่เป็นโรคชิคุนกุนยาจะมีไข้สูงอย่างฉับพลัน ร่วมกับอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น มีผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูกหรือข้อ ปวดกระบอกตา หรือมีเลือดออกตามผิวหนัง และอาจมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งดูเผินๆ คล้ายกับโรคไข้เลือดออก หรือหัดเยอรมัน แต่จะไม่มีอาการรุนแรงจนถึงขั้นช็อก หรือเลือดออกมากเช่นโรคไข้เลือดออก
อย่างไรก็ตามโรคชิคุนกุนยาสามารถเป็นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่ผู้ใหญ่จะมีอาการรุนแรงกว่า คือมักจะมีอาการปวดข้อทั้งข้อมือ ข้อเท้า และเป็นข้ออักเสบตามมาด้วย ซึ่งมักจะเปลี่ยนตำแหน่งที่ปวดไปเรื่อยๆ บางครั้งมีอาการรุนแรงมากจนขยับข้อไม่ได้ แต่จะหายภายใน 1-12 สัปดาห์ หรือบางคนอาจจะปวดเรื้อรังอยู่เป็นเดือนหรือเป็นปีก็ได้
การรักษาและป้องกันโรคชิคุนกุนยา
ทุกวันนี้ยังไม่มีวัคซีนสำหรับการรักษาและป้องกันโรคชิคุนกุนยา ดังนั้นการรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการ เช่น หากเป็นไข้ก็ให้ยาลดไข้ หรือหากปวดข้อก็ให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น แต่ล่าสุดได้มีผลการศึกษาวิจัยพบว่า ยาคลอโรควิน (Chloroquin) สามารถบรรเทาอาการที่เกิดจากโรคชิคุนกุนยาได้ผลดีเช่นกัน
ทั้งนี้วิธีที่จะสามารถป้องกันโรคชิคุนกุนยาได้ดีที่สุดก็คือ การกำจัดยุงลายอันเป็นตัวพาหะนำโรค โดยต้องหมั่นตรวจดูแหล่งน้ำภายในบ้าน เช่น บ่อ กะละมัง ชาม โอ่งน้ำ ตุ่ม ฯลฯ ควรหาฝาปิดให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ยุงมาวางไข่ หรือให้ใส่ทรายอะเบทในอัตรา 1 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร ลงไปในน้ำก็จะสามารถป้องกันการวางไข่ของยุงลายได้ รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาฉีดพ่นหมอกควันตามอาคารบ้านเรือนที่มีแหล่งน้ำขังอยู่ เพื่อเป็นการป้องกันและกำจัดลูกน้ำยุงลาย
นอกจากนี้ตัวเราเองก็ต้องป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด โดยการทายากันยุง หรือใช้สารไล่ยุง และสวมเสื้อผ้าที่ป้องกันไม่ให้ยุงกัด รวมทั้งยังต้องเฝ้าสังเกตอาการของคนรอบข้างว่ามีอาการใกล้เคียงกับโรคชิคุนกุนยาหรือไม่ หากมีอาการคล้ายเคียงหรือต้องสงสัยให้รีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว
จะเห็นว่าแม้โรคชิคุนกุนยาจะไม่ทำอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ทำให้คนป่วยได้รับความทุกข์ทรมาน และความรำคาญใจจากอาการปวดได้เช่นกัน
การรักษา
ไม่มีการรักษาที่จำเพาะเจาะจง (specific treatment) การรักษาเป็นการรักษาแบบประคับประคอง (supportive treatment) เช่นให้ยาลดอาการไข้ ปวดข้อ และการพักผ่อน
1. นิยามในการเฝ้าระวังโรค (Case Definition for Surveillance)
1.1 เกณฑ์ทางคลินิก (Clinical Criteria) มีไข้สูง ร่วมกับ อาการอย่างน้อยสองอาการ ดังนี้
· ปวดข้อ/ข้อบวม/ข้ออักเสบ · มีผื่น · ปวดกล้ามเนื้อ · ปวดศีรษะ · ปวดกระบอกตา
1.2 เกณฑ์ทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory Criteria)
· ทั่วไป -Complete blood Count (CBC) มีเม็ดเลือดขาวต่ำ เกร็ดเลือดผิดปกติ - จำเพาะ -ตรวจพบแอนติบอดีจำเพาะต่อเชื้อไวรัสชิคุนกุนย่าในน้ำเหลืองคู่(Paired serum)ด้วยวิธี Haemagglutination Inhibition ≥4 เท่า หรือถ้าน้ำเหลืองเดียวกัน (Single serum)พบแอนติบอดี ≥1:2,560 เท่า หรือ -ตรวจพบแอนติบอดีชนิด IgM ต่อเชื้อไวรัสชิคุนกุนย่า(≥4 Units)โดยวิธี ELISAหรือ -ตรวจพบไวรัสจีโนมของไวรัสชิคุนกุนยาได้จากเลือด โดยวิธีPCRหรือ -แยกเชื้อพบไวรัสชิคุนกุนย่าได้จากเลือด(Viral Isolation)
2. ประเภทผู้ป่วย (Classification)
2.1 ผู้ป่วยที่สงสัย(Suspected case) หมายถึง ผู้ที่มีอาการตามเกณฑ์ทางคลินิก
2.2 ผู้ป่วยที่เข้าข่าย(Probable case) หมายถึง ผู้ที่มีอาการตามเกณฑ์ทางคลินิกและมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
· มีผลการตรวจเลือดทั่วไป
· มีผลการเชื่อมโยงทางระบาดวิทยากับผู้ป่วยรายอื่นๆที่มีผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการจำเพาะ
2.3 ผู้ป่วยที่ยืนยันผล(Confirm case) หมายถึง ผู้ที่มีอาการตามเกณฑ์ทางคลินิก และ มีผลตามเกณฑ์ทางห้องปฏิบัติการจำเพาะ
3. การรายงานผู้ป่วยตามระบบเฝ้าระวังโรค รง.506 (Reporting Criteria)
ให้รายงานผู้ป่วยตั้งแต่สงสัย(Suspected case) โดยรายงานเป็นโรคในลำดับที่ 84 ของ
รายการโรคในบัตรรายงาน 506 รวมทั้งรายงานผู้ป่วยที่ค้นพบในชุมชน
4. การสอบสวนโรค (Epidemiological Investigation)
4.1 สอบสวนเฉพาะราย(Individual Case Investigation) เมื่อมีรายงานผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้กับนิยามโรคChikungunya โดยเกิดโรคเป็นกลุ่ม(Cluster)ให้สอบสวน ยืนยันการวินิจฉัย ค้นหาแหล่งติดเชื้อและควบคุมโรค
4.2 สอบสวนการระบาด(Outbreak Investigation)เมื่อมีรายงานผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้กับนิยามโรคChikungunya โดยเกิดโรคเป็นกลุ่ม(Cluster)ให้สอบสวน ยืนยันการวินิจฉัย/การระบาด หาสาเหตุและระบาดวิทยาของการระบาดและควบคุมโรค
ระบาดวิทยาของโรค
การติดเชื้อ Chikungunya virus เดิมมีรกรากอยู่ในทวีปอาฟริกา ในประเทศไทยมีการตรวจพบครั้งแรกพร้อมกับที่มีไข้เลือดออกระบาดและเป็นครั้งแรกในทวีปเอเชีย เมื่อ พ.ศ. 2501 โดย Prof.W McD Hamnon แยกเชื้อชิคุนกุนยา ได้จากผู้ป่วยโรงพยาบาลเด็ก กรุงเทพมหานคร
ในทวีปอาฟริกามีหลายประเทศพบเชื้อชิคุนกุนยา มีการแพร่เชื้อ 2 วงจรคือ primate cycle (rural type) (คน-ยุง-ลิง) ซึ่งมี Cercopithicus monkeys หรือ Barboon เป็น amplifyer host และอาจทำให้มีผู้ป่วยจากเชื้อนี้ประปราย หรืออาจมีการระบาดเล็กๆ (miniepidemics) ได้เป็นครั้งคราว เมื่อมีผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันเข้าไปในพื้นที่ที่มีเชื้อนี้อยู่ และคนอาจนำมาสู่ชุมชนเมือง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มียุงลายชุกชุมมาก ทำให้เกิด urban cycle (คน-ยุง) จากคนไปคน โดยยุง Aedes aegypti และ Mansonia aficanus เป็นพาหะ
ในทวีปเอเซีย การแพร่เชื้อต่างจากในอาฟริกา การเกิดโรคเป็น urban cycle จากคนไปคน โดยมี Ae. aegypti เป็นพาหะที่สำคัญ ระบาดวิทยาของโรคมีรูปแบบคล้ายคลึงกับโรคติดเชื้อที่นำโดย Ae. aegypti อื่นๆ ซึ่งอุบัติการของโรคเป็นไปตามการแพร่กระจายและความชุกชุมของยุงลาย หลังจากที่ตรวจพบครั้งแรกในประเทศไทย ก็มีรายงานจากประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย ได้แก่ เขมร เวียตนาม พม่า ศรีลังกา อินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
โรคนี้จะพบมากในฤดูฝน เมื่อประชากรยุงเพิ่มขึ้นและมีการติดเชื้อในยุงลายมากขึ้น พบโรคนี้ได้ในทุกกลุ่มอายุ ซึ่งต่างจากไข้เลือดออกและหัดเยอรมันที่ส่วนมากพบในผู้อายุน้อยกว่า 15 ปี ในประเทศไทยพบมีการระบาดของโรคชิคุนกุนยา 6 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2531 ที่จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. 2534 ที่จังหวัดขอนแก่นและปราจีนบุรี ในปี พ.ศ. 2536 มีการระบาด 3 ครั้งที่จังหวัดเลย นครศรีธรรมราช และหนองคาย
ขอบคุณข้อมูลจาก รพ.วิภาวดี //gotoknow.org/blog/know/260935 สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สนุกพิเดีย
Create Date : 14 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 14 พฤษภาคม 2552 8:57:03 น. |
|
22 comments
|
Counter : 2457 Pageviews. |
|
|
|