สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
โรคเหงือกและรำมะนาด

โรคเหงือกเป็นการติดเชื้อของเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆตัวฟัน ซึ่งโรคเหงือกนี้จะเป็นสาเหตุหลักของการ ถอนฟันในผู้ใหญ่เลยทีเดียวครับ จากข้อมูลในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าประมาณ 3 ใน 4 ของผู้ใหญ่จะเป็นโรคเหงือกเพราะฉะนั้นจึงไม่ควรประมาทหรือปล่อยปละละเลยเพราะคุณอาจเป็นโรคเหงือกได้ง่ายๆ



สาเหตุของโรคเหงือกเกิดจากการที่มีการสะสมของ คราบอาหารต่างๆที่ติดบนตัวฟันหรือคราบจุลินทรีย์นานๆ ทำให้เชื้อโรคต่างๆที่อาศัยอยู่ในคราบเหล่านั้นสร้างสารพิษ ขึ้นมาทำลายเหงือกรวมถึงกระดูกที่รองรับฟันด้วย
การดำเนินของโรค



การเริ่มต้นของโรคเหงือกส่วนใหญ่เกิดจาก การที่มีคราบจุลินทรีย์(Dental plaque)ไปยึดเกาะกับ ตัวฟันโดยเฉพาะบริเวณขอบเหงือก สาเหตุของคราบจุลินทรีย์เหล่านี้ก็มาจากคราบของ อาหารต่างๆที่เรารับประทานเข้าไปในชีวิตประจำวัน ในระยะนี้ถ้าเราแปรงฟันอย่างสะอาดและถูก วิธีร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันอย่างมีประสิทธิภาพทุกๆวัน คราบเหล่านี้ก็จะสามารถถูกกำจัดไปได้โดยง่าย



แต่ถ้าเราไม่ทำความสะอาดฟันดีพอ เชื้อโรคต่างๆที่มีอยู่ในคราบเหล่านี้ก็จะเริ่มทำ อันตรายเหงือกทำให้ขอบเหงือกอักเสบอ่อนๆ เห็นเป็นสีแดงกว่าเดิม
ถ้ายังคงปล่อยปละละเลย ไม่ทำความสะอาดให้ดีพอ คราบจุลินทรีย์ก็จะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆลงไปสู่ ใต้เหงือกทำให้เหงือกอักเสบมากขึ้นเป็นสีแดงมากขึ้น บางครั้งจะมีแร่ธาตุต่างๆมาตกตะกอนอยู่รวมกับคราบ เหล่านี้เกิดเป็นหินปูนหรือหินน้ำลายขึ้นซึ่งไม่สามารถ กำจัดออกได้โดยการแปรงฟันอีกต่อไปจำเป็นต้องไปให้ ทันตแพทย์เป็นผู้กำจัดออก



จากภาพจะเห็นว่าถ้ายังไม่ไปพบทันตแพทย์เพื่อ เอาคราบหินปูนออก เหงือกและกระดูกที่รองรับฟันก็ จะเริ่มถูกทำลายลงไป ในช่องปากจะเริ่มเห็นว่าขอบเหงือกจะร่น ลงไปและเริ่มรู้สึกว่าตัวฟันยาวมากขึ้น ฟันเริ่มโยก มีเลือดออกจากเหงือก

โรคเหงือกยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆตราบ ใดที่ยังไม่ได้รับการรักษาโดยทันตแพทย์ บางท่านเรียกโรคเหงือกระยะนี้ว่า โรคปริทันต์ หรือ โรครำมะนาด
ในระยะสุดท้ายเหงือกและกระดูกที่รองรับ ฟันถูกทำลายไปจนเกือบหมด ฟันจะโยกจน เห็นได้ชัด มีเลือดออกจากขอบเหงือกบ่อยๆ บางครั้งจะพบหนองไหลออกมาจากขอบเหงือกด้วย

ในที่สุดก็ต้องถอนฟันออกไปโดยไม่มี ทางรักษาทางอื่น
แต่เนื่องจากโรคเหงือกมักไม่มีอาการเจ็บปวดให้เห็นสักเท่าไรนักคนส่วนใหญ่จึงมักไม่รู้ว่า ตนเองกำลังเป็นโรคเหงือกอยู่และปล่อยให้โรคดำเนินต่อไปจนกระทั่งลุกลาม กลายเป็นโรคปริทันต์หรือรำมะนาดในที่สุด ซึ่งในระยะนี้ทั้งเหงือกและกระดูกที่รองรับฟันอยู่ด้านล่างจะถูกทำลาย ไปด้วยพร้อมๆกันทำให้เกิดฟันโยกและอาจต้องถูกถอนออกไปในภายหลัง

สรุปอาการแสดงที่ทำให้รู้ว่าเราอาจมีโรคเหงือกอยู่

มีเลือดออกจากเหงือกขณะแปรงฟัน
เหงือกมีสีแดงขึ้น และบวม
ขอบเหงือกแยกจากตัวฟัน ไม่แนบสนิทไปกับตัวฟัน
มีกลิ่นปากมานานแล้วก็ไม่หายไปเสียที
มีหนองไหลออกมาระหว่างเหงือกกับตัวฟัน
ฟันโยก
ฟันมีการเคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งเดิมจนสังเกตได้
ฟันปลอมที่ใส่อยู่หลวมมากขึ้น


การป้องกันไม่ให้เกิดโรคเหงือก

1. แปรงฟันให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง

การแปรงฟันจะทำให้เราสามารถกำจัดคราบจุลินทรีย์ที่ยึดติดอยู่กับตัวฟันออกไปได้ แปรงสีฟันที่ใช้ถ้าไม่ได้รับการแนะนำเป็นพิเศษจากทันตแพทย์ก็ควร ใช้แปรงสีฟันที่ม ีขนแบบอ่อนนุ่มเท่านั้นถ้าใช่ร่วมกับยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากที่มี ฟลูออไรด์ผสมอยู่ก็จะช่วยป้องกันฟันผุได้ดียิ่งขึ้น

2. การทำความสะอาดบริเวณซอกฟันทุกวัน

โดยการใช้ไหมขัดฟันหรือเครื่องมือทำความสะอาดฟันแบบอื่นๆก็ตาม เข้าไปทำความสะอาดบริเวณซอกฟันซึ่งเป็นบริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไปทำความสะอาดไม่ถึง อย่าลืมว่าโรดเหงือกในระยะแรกสามารถรักษาให้หายได้โดยการแปรงฟันร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน

ถ้าคุณใช้เครื่องมือทำความสะอาดซอกฟันชนิดอื่นนอกเหนือไปจากไหมขัดฟัน ก็ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนถึงวิธีการใช้ที่ถูกต้องเพื่อป้องกันไม่ให้เหงือกได้รับความบาดเจ็บ

3. ขั้นสุดท้ายก็เป็นการไปตรวจฟันกับทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือนและรับการขูดหินปูนหรือทำความสะอาด ช่องปากโดยทันตแพทย์ในส่วนที่คุณทำความสะอาดไม่หมด

เท่านี้คุณคงเข้าใจถึงคำว่าโรคเหงือกดียิ่งขึ้นและสามารถปฏิบัติตัวให้ปลอดจาก โรคเหงือกได้แล้วนะครับขอให้ทุกท่านมีสุขภาพช่องปากที่ดี




ขอบคุณข้อมูลจาก//dentalwnkhospital.5u.com/hinpoon


Create Date : 09 เมษายน 2553
Last Update : 9 เมษายน 2553 9:13:00 น. 11 comments
Counter : 4950 Pageviews.

 
คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]
คิดว่าจะได้พักผ่อน แต่เปล่าเลยงานมาจ่อคิวยาว ไปหมด
วันที่๑๒ นำเด็กไปแสดงที่งานสงกรานต์วัดอรุณ
วันที่๑๓-๑๔ นำเด็กไปร่วมแสดงแสงสีเสียงที่สิงห์บุรี
วันที่๑๖ ครูเกศไปเป็นกรรมการตัดสินรำวง ต่างอำเภอ
วันที่๑๗ นำทีมงานไปแต่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่เทศบาลโคกพุทรา อ.โพธิ์ทอง อ่างทอง
ที่เงียบหายไปสองสามวัน ครูเกศตัดชุดการแสดงใหม่หมดค่ะ ยังไม่เสร็จเลย ทำงานตั้งแต่๘โมงเช้าถึง๔ทุ่มมาสองวันแล้ว เหนื่อยแต่ก็เป็นงานที่เรารัก ไม่เคยท้อสักนาทีเดียวเลยค่ะ คุณกบสบายดีน๊า.......


โดย: เกศสุริยง วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:23:45:56 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณกบ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:7:32:49 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ร้อนมากกกกกจ้า
แวะมาบอกคุณกบจ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:8:02:19 น.  

 
ผมทำงานทุกวันเลยครับคุณกบ
ไม่ได้หยุดไปไหนหรอกครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:11:58:32 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: ถุงก๊อปแก๊ป วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:15:32:52 น.  

 
ว้าว..............
ดีจัง
ได้ความรู้อีกแล้ว
..........


โดย: tummydeday วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:16:51:50 น.  

 

รักกันไว้เถิด หันมาทำดีเพื่อชาติ กันเถอะนะ.........
สร้างกริตเตอร์

ดูข่าวทางทีวีเห็นแล้วหดหู่ใจจัง สงสารประเทศจังคุณกบเห็นด้วยกับดิฉันไหม........


โดย: เกศสุริยง วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:21:59:59 น.  

 
ขอบคุณสำหับเกล็ดความรู้ที่เอามาฝากนะค้า

แฮปปี้ ปีใหม่ไทยค่ะ


โดย: ❤❤ NamFon..(◕‿◕✿) (CeciLia_MaLee ) วันที่: 11 เมษายน 2553 เวลา:0:46:11 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณกบ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 เมษายน 2553 เวลา:6:51:50 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: ถุงก๊อปแก๊ป วันที่: 11 เมษายน 2553 เวลา:6:56:49 น.  

 


โดย: น้องเมย์น่ารัก วันที่: 5 ตุลาคม 2557 เวลา:0:53:42 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
9 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.