Bloggang.com : weblog for you and your gang
สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
โรคหัวใจขาดเลือด
เจ็บหน้าอก กับโรคหัวใจขาดเลือด
อาการเจ็บหน้าอก เป็นอาการที่สำคัญอย่างหนึ่ง ของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ แต่ก็อาจจะเป็นอาการของโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรคหัวใจก็ได้ คนทั่วไปมักจะคิดว่า อาการเจ็บหน้าอก โดยเฉพาะเจ็บหน้าอกด้านซ้าย เกิดจากโรคหัวใจ จึงเกิดความกังวล ความกลัวว่า จะมีอันตรายถึงชีวิตจากหัวใจวาย โดยทั่วไป อาการเจ็บหน้าอกพบได้บ่อย ในชีวิตประจำวัน ของคนทั่วๆ ไป อาการเจ็บหน้าอก เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาการเจ็บในหลอดอาหาร ปอด เยื่อหุ้มปอด หรือในกล้ามเนื้อ และพังผืดผนังหน้าอก
นอกจากนี้ยังเกี่ยวเนื่องไปถึง กระดูกหน้าอก กระดูกซี่โครงอ่อนด้านหน้า และข้อต่อของกระดูก อาการเจ็บในหลอดอาหาร มักเกิดขึ้น ระหว่างรับประทานอาหาร บางทีเกิดระหว่างกลืน บางทีอาจเกิดจาก หลังรับประทานอาหาร มักมีอาการจุกเสียดบริเวณลิ้นปี่ และใต้กระดูก หน้าอก เกิดเนื่องจาก กรดในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนกลับไปที่หลอดอาหาร ทำให้เกิดการอักเสบ ของหลอดอาหารได้ อาการเจ็บจากปอด และเยื่อหุ้มปอดมักจะมีอาการเจ็บ ที่เกี่ยวข้องกับการหายใจเข้าลึกๆ ลักษณะการเจ็บจะมีอาการเจ็บแปล๊บๆ ขึ้นมาได้ บางครั้งอาจมีอาการบวม และกดเจ็บบริเวณที่มีการอักเสบ ของกระดูกข้อต่อ ระหว่างกระดูกหน้าอก และกระดูกซี่โครงอ่อน อาการที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ล้วนทำให้ผู้ที่เกิดอาการ มักไม่แน่ใจว่าตัวเอง จะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดหรือไม่ ซึ่งในตอนต่อไป จะได้กล่าวถึงอาการเจ็บหน้าอก จากโรคหัวใจขาดเลือด
โรคหัวใจขาดเลือด
เกิดจากเส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ เกิดอาการตีบ ทำให้เลือด ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่ได้ กล้ามเนื้อหัวใจ ขาดออกซิเจนชั่วขณะ เกิดอาการเจ็บหน้าอก อาการจะทุเลาเมื่อพัก และถ้าเส้นเลือดที่ตีบ เกิดอุดตันอย่างเฉียบพลัน จะทำให้เกิด กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ทำให้เกิด อาการเจ็บหน้าอก อย่างรุนแรง อาจมีอาการ หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตแบบปัจจุบันทันด่วน ก่อนที่จะไปถึงโรงพยาบาลได้
อาการเจ็บหน้าอกจากหลอดเลือดหัวใจตีบ เกิดจากการเสียสมดุลย์ ของการใช้ออกซิเจน ของกล้ามเนื้อหัวใจ ในคนปกติ หรือผู้ที่มี หลอดเลือดหัวใจตีบเล็กน้อย การไหลเวียนของเลือด เพียงพอที่จะส่งออกซิเจน ให้กล้ามเนื้อหัวใจ แม้ว่าจะทำงานอย่างหนักก็ตาม ในผู้ที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบมากขึ้น จะมีอาการเจ็บหน้าอก เมื่อมีการออกกำลัง เพราะกล้ามเนื้อหัวใจ ต้องการออกซิเจนมากขึ้น แต่ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจมีจำกัด เนื่องจากหลอดเลือดตีบ อาการจะดีขึ้นเมื่อพัก ความต้องการออกซิเจน ของกล้ามเนื้อหัวใจลดลง อาการเจ็บหน้าอกมักจะเป็นไม่เกิน 10 นาที เมื่อหลอดเลือดตีบมากขึ้น ระยะเวลาที่ออกกำลังจะน้อยลง อาการเจ็บหน้าอก จะเกิดเร็วขึ้นตามลำดับ และถ้ามีอาการอุดตัน ของหลอดเลือดหัวใจที่ตีบ กล้ามเนื้อหัวใจที่หลอดเลือดตันไปเลี้ยง จะตาย อาการเจ็บหน้าอก จะเป็นอยู่นาน และต่อเนื่องมากกว่า 15 นาทีขึ้นไป และอาการจะไม่ทุเลา แม้จะไม่ได้ทำกิจกรรมใดๆ เลย
ลักษณะอาการเจ็บหน้าอก จากโรคหัวใจขาดเลือด เป็นอาการเจ็บปวดเหมือนถูกกดดัน ผู้ป่วยมักจะบรรยายว่า มีอาการแน่นหน้าอก เหมือนถูกกด ถูกบีบ หรือรู้สึกแน่น กลางหน้าอก อาการเหล่านี้ อาจร้าวไปยังหัวไหล่ แขน คอ ขากรรไกร หรือหลังก็เป็นได้ บางคนอาจมีความรู้สึกเหมือนมีเชือดรัด หรือมัดรอบหน้าอก อาจมีอาการเหงื่อออกอย่างมาก ตัวเย็น วิงเวียน คลื่นไส้ และอ่อนแรง ระยะเวลาของการเจ็บหน้าอก และความรุนแรงของอาการเจ็บ ขึ้นอยู่กับสภาพหลอดหัวใจว่าตีบน้อย ตีบมาก หรืออุดตันโดยสิ้นเชิง และความต้องการออกซิเจน ของกล้ามเนื้อหัวใจ ถ้าออกกำลัง หัวใจต้องทำงานหนัก ต้องการออกซิเจนมากขึ้น อาการเจ็บหน้าอกก็จะเป็นมาก และนานกว่า ในขณะพักการทำงานของหัวใจลดลง ความต้องการออกซิเจนก็จะลดลง อาการเจ็บหน้าอกจะลดลง
ใครบ้างที่มีโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือด สาเหตุของโรคหัวใจขาดเลือด มักจะเกิดจากปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง ได้แก่
1. เพศชาย มีโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือด มากกว่าเพศหญิง 3-5 เท่า
2. อายุ ในเพศชาย มักจะเริ่มตั้งแต่ อายุ 35 ปีขึ้นไป ในเพศหญิงจะเกิดช้ากว่า คือ มักจะเกิดในวัยหมดประจำเดือน อายุประมาณ 50-55 ปี
3. สูบบุหรี่
4. ไขมันในเลือดสูง
5. โรคความดันโลหิตสูง
6. โรคเบาหวาน
7. อ้วนและไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
8. เครียดง่าย เครียดบ่อย
9. มีประวัติโรคหัวใจขาดเลือดของคนในครอบครัว
ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงหลายข้อ ก็จะมีโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ได้เร็วกว่าผู้อื่น และมักจะมีความรุนแรงของโรค มากกว่าผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยง
การวินิจฉัยโรคหัวใจขาดเลือด
การวินิจฉัยเบื้องต้น ที่สำคัญที่สุด คือ อาการเจ็บหน้าอก ดัง ได้กล่าวแล้วข้างต้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง หลายข้อ มีอาการเจ็บหน้าอก เหมือนถูกกดทับ หรือเหมือนถูกบีบรัด เป็นมากเวลาออกกำลัง ทุเลาลงเวลาพัก อาการมักจะหายไป ใน 10-15 นาที ในกรณีที่มีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง มีเหงื่อออกมาก วิงเวียน คลื่นไส้ มือเท้าเย็น เขียว หรือมีอาการหมดสติ พักแล้วไม่ดีขึ้น มักเกิดจาก หลอดเลือดหัวใจอุดตันโดยสิ้นเชิง ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย ต้องรีบนำผู้ป่วยถึงโรงพยาบาลทันที ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตโดยกระทันหันได้
ในกรณีที่หลอดเลือด หัวใจตีบเล็กน้อย อาจจะไม่มีอาการเจ็บหน้าอกเลย หรือเจ็บเล็กน้ อย เมื่อเวลาออกกำลังกายหนักเท่านั้น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ จะช่วยวินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ ในกรณีที่หลอดเลือดหัวใจตีบน้อย คลื่นไฟฟ้าหัวใจมักจะปกติ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะออกกำลังกาย การออกกำลังกายทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ต้องการออกซิเจนมากขึ้น เมื่อหลอดเลือดหัวใจตีบ ไม่สามารถนำเลือด และออกซิเจน ให้กล้ามเนื้อหัวใจได้เพียงพอ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และอาจมีอาการเจ็บหน้าอกเกิดขึ้น จึงช่วยในการวินิจฉัย โรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ นอกจากนี้ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะออกกำลังกาย ยังช่วยบอกความรุนแรง ของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และสมรรถภาพของหัวใจได้อีกด้วย
ปัจจุบันการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ขณะออกกำลังกาย ทำโดยให้เดินบนสายพาน และมีการบันทึกกร๊าฟของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และความดันโลหิตตลอดเวลา ที่ออกกำลังกาย และในระยะพัก หลังออกกำลังกาย เพื่อเปรียบเทียบกับคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ในขณะที่ยังไม่ได้ออกกำลังกาย
การตรวจพิเศษอย่างอื่น ที่ช่วยในการวินิจฉัย โรคหัวใจขาดเลือด เช่น การฉีดสารกัมมันตภาพรังสี และใช้เครื่องมือตรวจจับสารเหล่านี้ ซึ่งจะปรากฏที่กล้ามเนื้อหัวใจ และนำภาพเหล่านี้มาเปรียบเทียบกัน ระหว่างในขณะพัก กับในขณะออกกำลังกาย ในผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ภาพที่ได้ขณะออกกำลังกาย จะมีการขาดหายไปของสารกัมมันตภาพรังสี ในบริเวณกล้ามเนื้อหัวใจที่ขาดเลือดไปเลี้ยง
การวินิจฉัยที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เป็นการตรวจเพื่อวินิจฉัยเบื้องต้น สำหรับวิธีการตรวจเพื่อยืนยัน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ คือ การฉีดสารทึบรังสีเข้าไปในเส้นเลือดหัวใจ โดยการใช้สายสวนหัวใจเข้าทางหลอดเลือดแดง เข้าสู่เส้นเลือดหัวใจ และมีการบันทึกภาพขณะฉีดสารทึบรังสี ผ่านเข้าไปในเส้นเลือดหัวใจ นอกจากจะเห็นลักษณะการตีบของเส้นเลือดหัวใจแล้ว ยังช่วยในการวางแผน การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ในขั้นตอนต่อไปด้วย
การรักษาโรคหัวใจขาดเลือด
โรคหัวใจขาดเลือดเนื่องจาก เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ เกิดตีบหรืออุดตัน โรคนี้เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว เป็นโรคที่ต้องรักษาต่อเนื่อง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทางที่ดีที่สุดก็คือ การป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ขึ้น โดยการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น จะชะลอการเกิดโรคนี้ ก่อนวัยอันควรจะเป็น หรืออาจจะไม่เป็นเลยก็ได้
ในผู้ที่มีอาการของโรคหัวใจขาดเลือดเป็นครั้งแรก คือมีอาการเจ็บหน้าอก เวลาออกกำลังกาย หรือเหนื่อยง่ายกว่าปกติ โดยหาสาเหตุไม่ได้ ควรพบแพทย์แต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะได้วินิจฉัยโรคได้ถูกต้อง พร้อมทั้งจะได้รับการรักษา และป้องกันไม่ให้โรคลุกลามไปมากขึ้น กล้ามเนื้อหัวใจส่วนที่ยังดีอยู่ จะได้ทำงานเป็นปกติต่อไปได้
การรักษาโรคหัวใจขาดเลือดประกอบไปด้วย
1. การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต โดยการลดปัจจัยเสี่ยง
การลดปัจจัยเสี่ยงเป็นแนวทางที่ สำคัญอย่างยิ่ง ในการรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จากเส้นเลือดหัวใจตีบ ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้มีการตีบของเส้นเลือดหัวใจ และยังช่วยลดอัตราการเสียชีวิต จากโรคหัวใจลงด้วย การลดปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ
เลิกสูบบุหรี่ เด็ดขาด
ลดน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานในผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน
ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ
ควบคุมโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง และความดันโลหิตสูงให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ สำหรับผู้ที่เป็นแล้ว ในผู้ที่ยังไม่เป็นโรคเหล่านี้ ควรมีการตรวจเช็คทุก 6 เดือน เพื่อที่จะได้ควบคุมโดยเร็วที่สุด
2. การรักษาด้วยการใช้ยา
ในโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความรุนแรงของโรคมีหลายระดับ ตั้งแต่ไม่มีอาการ ไปจนถึงภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ หลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน เป็นต้น เพราะฉะนั้น ยาที่ใช้รักษา จึงขึ้นอยู่กับระยะ และความรุนแรงของโรคได้แก่
ยาเพื่อป้องกันการจับตัวของเกล็ดเลือด กับผนังของหลอดเลือดแดง ซึ่งมีผลทำให้เกิดการทำลายของผนังหลอดเลือด และทำให้หลอดเลือดตีบ ตันมากขึ้น และอุดตัน
ยาเพื่อช่วยลดอาการเจ็บหน้าอก ลดการทำงานของหัวใจ ช่วยให้การทำงานของหัวใจดีขึ้น
ยาเพื่อใช้ละลายลิ่มเลือด ที่อุดกั้นเส้นเลือดหัวใจที่ตีบอย่างเฉียบพลัน เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย จะได้ประโยชน์มาก ถ้าให้ได้เร็วที่สุด หลังจากที่เส้นเลือดหัวใจ มีการอุดตันอย่างเฉียบพลัน ถ้าเกิน 6 ชั่วโมงไปแล้ว จะได้ประโยชน์น้อย หรืออาจจะไม่ได้ประโยชน์เลย
ยาอื่นๆ ที่ใช้รักษาภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ ยาขับปัสสาวะ ยาที่ใช้รักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น ยาพวกนี้จะใช้ก็ต่อเมื่อ มีโรคแทรกซ้อน
เกิดขึ้นเท่านั้น
3. การขยายเส้นเลือดหัวใจโดยบอลลูน
เป็นวิธีการขยายเส้นเลือดหัวใจ โดยการให้สายสวนหัวใจ ผ่านทางเส้นเลือดแดงที่โคนขา เข้าไปจนถึงเส้นเลือดหัวใจที่ตีบ และขยายเส้นเลือด โดยทำให้บอลลูนที่ปลายของสาย สวนหัวใจพองขึ้น เพื่อที่จะดันเส้นเลือดที่ตีบให้ขยายออก จะได้มีเลือดไปเลี้ยงหัวใจได้มากขึ้น
4. การรักษาโดยการผ่าตัดต่อเส้นเลือดหัวใจใหม่
โดยการใช้เส้นเลือดแดง หรือเส้นเลือดดำที่ขา มาต่อเส้นเลือดหัวใจ เพื่อเพิ่มทางเดินของเลือด ที่จะมาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจมากขึ้น
การรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ที่เกิดจากเส้นเลือดหัวใจตีบ ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ขึ้นอยู่กับระยะของโรคที่มาพบแพทย์ ไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีใดก็ตาม โรคนี้เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด ต้องการการรักษาต่อเนื่องตลอดไป เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นเลือดตีบมากขึ้น หรือเกิดภาวะแทรกซ้อน ที่จะตามมาซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ ภาวะหัวใจล้มเหลว และภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ทำให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้
ขอขอบคุณข้อมูลจากนายแพทย์ภาณุ สมุทรสาคร
อายุรแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญทางโรคหัวใจ
วารสารโรงพยาบาลรามคำแหง ฉบับที่ 11
Create Date : 02 เมษายน 2552
Last Update : 2 เมษายน 2552 8:26:11 น.
4 comments
Counter : 1950 Pageviews.
Share
Tweet
ดีค่ะ ขอบคุณที่ไปทักทายกันนะคะ รักมากมายค่ะ
โดย:
baniair
วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:12:17:07 น.
สวัสดีค่ะคุณกบ มาบล็อกมี่วันนี้ ทานข้าวให้อิ่มก่อนนะคะ เดี๋ยวจะตกใจร้องอะฮ้าจิ อิอิ
โดย:
ญามี่
วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:17:17:02 น.
สวัสดีจ้ะ
แวะมาชมบล้อกค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปตามเสียงคิดถึงนะจ๊ะ
โดย:
รัตนมาลี
วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:19:07:37 น.
เคยเจ็บหน้าอกแบบจุก หายใจไม่ออก เสียดเหมือนมีของแหลมแทงอยู่ กลัวจะตายค่ะ
ไปหาหมอก็สัณนิฐานว่าอ้วนและแก๊สตีขึ้นน่ะค่ะ อิอิ
ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆมาฝากกันเสมอเลยน่ะค่ะ
Happy friday จ้า ลัลล้าสุดๆ
โดย:
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:10:21:22 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [
?
]
.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake
เพื่อนของกบ
ป้ามด
UnderSunShine (คุณนุ้ย)
แค่ฟ้ามีดาว^^(คุณอุ๊)
Paradijs(คุณไหม)
lozocat(คุณแคท)
ยอดสน
ญามี่
ขุนพลน้อยโค่วจง(คุณเขตต์)
ลูกนางฟ้าลงมาเกิด
Hawaii_Havaii(คุณอ้อย)
maew_kk
close2heaven
the river of Aquarius
thattron(คุณแอน)
KungGuenter(คุณกุ้ง)
N_BEE810
ดอกหญ้าเมืองเลย
เนยสีฟ้า(คุณเนย)
pk12th
หมูฟ้าใส
แพรวขวัญ
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
นู๋หญิงจ๋า(คุณหญิง)
ยายกุ๊กไก่
oranuch_sri(คุณนุช)
vannessa(คุณนุช)
fleuri
jj&TheGang(คุณแจน)
ลุงกล้วย
กะว่าก๋า
พลังชีวิต
ความเจ็บปวด
ถปรร
i-pinkberriiz's
รักษ์บ้านเกิด(คุณแอ๊น)
บ้านหวานเย็น
hiansoon
chabori (คุณไผ่)
ลุงแว่น
มิสเตอร์ฮอง
แม่น้องขวัญ_ซาแมนต้า
เกศสุริยง
ถั่วงอกน้อย
ไก่ย่างถูกเผามันจะถูกไม้เสียบ
kopdon
ปลายแป้นพิมพ์
Elbereth
ying_lp1
ถุงก๊อปแก๊ป
ชมพร
ooyporn
ดอกหญ้าใน Houston
หาแฟนตัวเป็นเกลียว
cd2lucky
อุ้มสี
คนผ่านทางมาเจอ
แม่อ้วนคนสวย
แม่อ้วนใจดีที่สุด
Pastel pied
never the last
กำไลสีส้ม
CeciLia_MaLee
นายแว่นธรรมดา
praewa cute
ปูขาเก เซมารู
ลิงค์เพื่อนกัน
กต
กรมการกงสุล
hi5kobnon
Facebookkobnon
แม่บ้าน
h&c
ชีวจิต
naichef
hilunch
หมอชาวบ้าน
lisa
Group Blog
ห้องโรคภัยไข้เจ็บ
ห้องพืชผักสมุนไพร
ห้องโรคกับอาหาร
ห้องรู้ทันโรค
ห้องสาระน่ารู้
ห้องบันทึกความทรงจำ
ห้องเกร็ดความรู้
ห้องแฟชั่นและความงาม
ห้องโชคชะตา
ห้องทำนายทายทัก
ห้องเทศกาลวันสำคัญ
ห้องสูตรอาหาร
ห้องพรรณไม้ดอกไม้
ห้องสมุดเยี่ยม
ห้องเล่าสู่กันฟัง
ห้องเก็บของ
Tag
ห้องออกกำลังกาย
ห้องบ้านรักษ์ธรรมชาติ
ห้องของสะสม
ห้องโรคภัยไข้เจ็บ (2)
<<
เมษายน 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
2 เมษายน 2552
โรคหัวใจขาดเลือด
All Blogs
โรคเยื่อจมูกอักเสบฝ่อ
ขั้นตอนการรักษาอาการนอนกรน
รู้เท่าทันโรคสมองเสื่อม
ไข้หรือตัวร้อน
4 วิธี ช่วยกระดูกให้แข็งแรง
หัดเยอรมันกับการตั้งครรภ์
รับมือลมแดด......เพลียแดด
โรคผิวหนังแข็ง
เทคนิคคลายเครียด
ผ่าคลอด... ลูกเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ !
ปวดเมื่อยเมื่อสูงอายุ
ภาวะสูดสำลักขี้เทาในเด็กแรกเกิด
ผนังกั้นช่องจมูกคด (Deviated Nasal Septum)
ตาบอดในวัยเด็ก
การปฏิบัติตนในการรักษาฝ้า กระ หรือรอยดำ
ตายแล้ว! ไขมันในเลือดสูง
โรคเส้นเลือดขอดในสมอง
โรคหินปูนเกาะกระดูกหู (Otosclerosis)
การนอนในวัยต่างๆ
ผลกระทบของการเสพสารเสพติดระหว่างตั้งครรภ์
โรคฮันนีมูน วายร้ายคุกคามกระเพาะปัสสาวะ
เมื่อน้ำ...เข้าหู
กินถูกหลัก ช่วย ตับ แข็งแรง
การดูแลสุขภาพทางเดินหายใจในช่วงฤดูหนาว
รู้ลึก รู้จริง อินซูลิน
โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า
อันตรายจากสารเคมี เข้าตา... ก่อโรค
วันนี้คุณกลืนได้ปกติหรือยัง?
หนูน้อยภูมิแพ้ กับการดูแลสุขภาพในหน้าหนาว
โรคตุ่มน้ำพองจากภูมิคุ้มกัน
หลอดเดียว...ก็คุมอยู่
น่าห่วง! หูตึง
มารู้จักไซนัสอักเสบในเด็กและวิธีรักษาที่ถูกต้องกันเถอะ
มะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์สตรีที่พบบ่อย
หอบหืดจากภูมิแพ้...โรคเรื้อรังที่ต้องรีบรักษา
ปวดหลัง แต่ทำไมร้าวลงขา
โรค...ของคนอยากผอม
6 คำถามยอดฮิต ...ท้องแล้วมีเซ็กส์ได้ไหม
ตาบอดจากโรคเบาหวาน
จะสูดหรือดูดก็เสี่ยงมะเร็งปอด
โรคเยื่อจมูกอักเสบฝ่อ
การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
เมื่อไร! สงสัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม
เมื่อหลอดเลือดหัวใจตีบ
การใช้คลื่นความถี่วิทยุ จี้บริเวณเพดานอ่อน เพื่อรักษานอนกรน
เมื่อเป็นข้อสะโพกเสื่อม
โรคลิมโฟมาผิวหนัง
ว่าด้วยสิวไขมันอุดตันบนใบหน้า
กระเนื้อ
โรคเท้าปุก
โรคผิวหนังแข็ง
ทำไม? ...ต้องตรวจเลือด - ตรวจปัสสาวะ
รู้ได้อย่างไร! ลูกน้อยในท้องปัญญาอ่อน
การตรวจพิสูจน์ ดีเอ็นเอ
แผลเป็น
เต้านมเกิน หรือ นม 4 เต้า
หลับสบาย ได้สุขภาพ
โรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ
เสียงแหบ
ไส้เลื่อนในเด็ก
เชื้อรา...ปัญหาของตกขาวคันในสตรี
ภาวะสำลักส่งแปลกปลอมในทางเดินหายใจ
สวยด้วย..คอนแทคเลนส์จริงหรือ
ลูกป่วยหน้าฝน
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
เมื่อลูกรักของคุณนอนกรน
มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
กลิ่นปาก
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส
เวียนศีรษะ
หูน้ำหนวก
อวัยวะเพศกำกวมในเด็กทารกแรกเกิด
หูด
ไข้หรือตัวร้อน
มะเร็งหลังโพรงจมูก
ถาม- ตอบปัญหาเรื่องนิ่วทางเดินปัสสาวะ
อาการปวดหู
โรคเป็นสาวก่อนวัย
คำแนะนำสำหรับผู้ที่มีระดับกรดยูริกในเลือดสูง
โรคตุ่มน้ำพองจากภูมิคุ้มกัน
เยื่อแก้วหูอักเสบเฉียบพลัน
กระบังลมหย่อน
ไทรอยด์เป็นพิษ ไม่ใช่มะเร็งไทรอยด์
เนื้องอกเต้านม ในหญิงสาว
ดูแลสุขภาพ...ห่างไกลโรคแผลในกระเพาะอาหาร
โรคหินปูนเกาะกระดูกหู (Otosclerosis)
เยื่อแก้วหูทะลุจากการบาดเจ็บ
หน้าฝนระวังโรคตาแดง
ทำไม? ...ต้องตรวจเลือด - ตรวจปัสสาวะ
กำจัดขนด้วยเลเซอร์ อันตรายหรือไม่
กรดไหลย้อน.....ภัยเงียบวัยทำงาน
การผ่าตัดมะเร็งทำให้โรคแพร่กระจายจริงหรือ
มารู้จักเลเซอร์กันเถอะ
สุขอนามัยการนอนที่ดีขั้นพื้นฐาน (Basic Sleep Hygiene)
เฝือก อุปกรณ์ดามกระดูกและข้อ
เจ็บคอเรื้อรัง
การบำบัดโรคจมูกและไซนัสด้วยวิธีสูดไอน้ำร้อน (Steam Inhalation for Sinonasal Diseases)
ก้าวใหม่การรักษากระจกตาเสื่อมด้วยสเต็มเซลล์
หินน้ำลาย
เมื่อหลอดเลือดหัวใจตีบ
โรคเนื้องอกสมอง
โรคหลอดเลือดอักเสบ (Cutaneous vasculitis)
โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม
ยาหรือ.....ระวังนะ!
โรคตาเหล่
อยากกระตุ้นให้ลูกฉลาดตั้งแต่อยู่ในท้อง
ผ่าคลอด... ลูกเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ !
เส้นเลือดขอดที่ขา
คัดจมูก...เกิดจากอะไรเอ่ย
ลูกพูดช้า
เตรียมพร้อมก่อนผ่าตัดหัวใจ
สายเสียงอักเสบ และวิธีถนอมเสียง
ถาม-ตอบเรื่องข้อเสื่อม
คันเรื้อรัง... อาจมีโรคภายในแทรกซ้อน
เมื่อใบหน้ากระตุกครึ่งซีก
ทำอย่างไรเมื่อเป็นโรคลิมโฟม่า
หิด
มารู้จักและช่วยเด็กสมาธิสั้นกันเถอะ ตอนจบ
มารู้จักและช่วยเด็กสมาธิสั้นกันเถอะ ตอนที่ 2
มารู้จักและช่วยเด็กสมาธิสั้นกันเถอะ ตอนที่ 1
โรคทอนซิล (Tonsil) ตัดทิ้งดีหรือไม่
การทำดีท็อกซ์ดีจริงหรือ
ท้องลม...ท้องหลอก
สวยใสไม่ไร้สติ แสงแดดกับการดูแลรักษาผิว
แม่จ๋า... หนูคันก้น
มีโรคอะไรบ้างนะที่ต้องระวังเมื่อลูกน้อยปวดท้อง
กันหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอย่างไรดี
สารบ่งชี้มะเร็ง (tumor marker) ที่ควรรู้จัก
เวียนศีรษะ บ้านหมุน .ช่วยด้วย
โรคเหงือกและรำมะนาด
คู่มือตรวจสุขภาพยุคประหยัด
การตั้งครรภ์แฝด
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
ระวัง!โรคพิษสุนัขบ้า
การทำดีท็อกซ์ดีจริงหรือ
ขึ้น... ลงเครื่องบิน มีปัญหาปวดหู หูอื้อ...ทำอย่างไรดี
ท้องอืด.... อาหารไม่ย่อย
โรคของคนอยากผอม
ตับ กับหน้าที่หลัก 4 ประการ
โรคเริม
โรคด่างขาว
ปีกมดลูกอักเสบ
ไซนัสอักเสบ ..รักษาได้
ไฝ..แบบไหนถึงน่ากลัว จะเป็นมะเร็ง
ภาวะสมองเสื่อม
โรคลมพิษ
เลือดกำเดาไหล
โรคเบาหวานกับไต
กระดูกพรุน แก้ง่ายเพียงเติมแคลเซียมจริงหรือ
น่ากลัว... ไวรัสตับอักเสบ ซี
โรคลมแดด(Heat Stroke)
พังผืดใต้ลิ้น ปัญหาที่ถูกซ่อนเร้นของลูกน้อย
เด็กอ้วน
จะสูดหรือดูดก็เสี่ยงมะเร็งปอด
หูอื้อ
โรคเส้นเลือดขอดในสมอง
โรคในช่องปากศัตรูตัวฉกาจของเด็ก ๆ
โรคลมบ้าหมู
ตาบอดสี
ไข้หรือตัวร้อน
เจ็บคอจัง....ทอนซิลอักเสบ
ล้างจมูกให้ลูกน้อย
เมื่อลูกรักของคุณนอนกรน
การดูแลรักษาสุขอนามัยของหู
การดูแลสุขภาพทางเดินหายใจในช่วงฤดูหนาว
กระเนื้อ
อัมพฤกษ์อัมพาต โรคเรื้อรังที่ต้องดูแล
โรคเส้นเลือดขอดในสมอง
เกลื้อน
การอุดฟัน
โรคไข้สมองอักเสบ
เป็นโรคหัวใจแล้วตั้งครรภ์
มะเร็งกล่องเสียงและคอหอยส่วนล่าง
มารู้จักและช่วยเด็กสมาธิสั้นกันเถอะ
พังผืดใต้ลิ้น ปัญหาที่ถูกซ่อนเร้นของลูกน้อย
มารู้จักไวรัสตับอักเสบ ซี กันเถอะ
โรคลิมโฟมาผิวหนัง
โรคธาลัสซีเมีย
ความรู้เกี่ยวกับฟลูออไรด์
หัวจ๋า...ผมลาก่อน
ทำไงดี! ไม่มีมดลูก รังไข่
คัดจมูก...เกิดจากอะไรเอ่ย
เลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด : สัญญาณอันตราย
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
พยาธิใบไม้ตับ...ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งท่อน้ำดี
มะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์สตรีที่พบบ่อย
ทำอย่างไร เมื่อพบว่ามีน้ำเหลืองไหลออกจากหัวนม
ลมหนาว...วายร้ายของเจ้าตัวน้อย
โรคตุ่มน้ำพองจากภูมิคุ้มกัน
รู้ลึก รู้จริง อินซูลิน
กระเปาะหลอดเลือดสมองโป่งพอง โรคร้ายที่รักษาได้
ตาบอดในวัยเด็ก
สิวเสี้ยน
ทำฟันในเด็ก น่ากลัวจริงหรือ
มีโรคอะไรบ้างนะที่ต้องระวังเมื่อลูกน้อยปวดท้อง
โรคเยื่อจมูกอักเสบฝ่อ
จะทำอย่างไรให้ฟันขาว
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
โรคตาจากเบาหวาน
ไซนัสอักเสบ...รักษาได้
อาการไอ
เสียงดังในหู
โรคหินปูนเกาะกระดูกหู
อยากเช็คสุขภาพ.....ทำอย่างไรดี
กันหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอย่างไรดี
ท้องลม...ท้องหลอก
โรคเป็นสาวก่อนวัย
กระเนื้อ
โรคตาแดง
หูชั้นกลางอักเสบในเด็ก
โรคด่างขาว
รับมือ...ไบโพลาร์
กรดไหลย้อยมาฝากตามคำขอคุณเกศสุริยงค่ะ
มะเร็งหลังโพรงจมูก
นิ่วในถุงน้ำดี
มารู้จัก "โรคไอบีเอส" หรือลำไส้แปรปรวน
โรคจมูกอักเสบชนิดไม่แพ้ (Non-Allergic Rhinitis)
ถาม-ตอบเรื่องแผลเป็น
อาการปวดหู
ไข้กาฬหลังแอ่นกลับมาอีกแล้ว
ไข้ออกผื่น ในเด็กเบบี๋
ถาม-ตอบปัญหาคราบหินปูน
โรคจอประสาทตาเสื่อม
มะเร็งตับ
โรคเบาจืด
หมอนรองกระดูกเคลื่อน
ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม..โรคแพนิค
8 คำถามสุดฮิตของคนมีลูกยาก
โรคแพ้อากาศ
อาการสะอึก
เอสแอลอี - โรคภูมิแพ้ต่อตัวเอง
ต้อหินเฉียบพลัน
โรคหัวบาตร HYDROCEPHALUS หรือเด็กหัวแตงโม
โรคหนอนพยาธิในลำไส้
อาการไอ ส่งสัญญาณอะไร?
เด็ก......ก็เครียดเป็น
โรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
ท้องเสีย
หลากหลายประเด็นเกี่ยวกับ วัคซีน
รู้ทัน...ศัลยกรรมเพื่อความงาม
หูชั้นนอกอักเสบ...ปวดหูจัง ทำไงดี
รับมือกับวัณโรคในครอบครัว
มีลูกยาก เรื่องยากที่แก้ไขได้
นิ่วท่อไต
กาฬโรคปอด (Pneumonic Plague ICD9 020.5)
ไส้เลื่อนเป็นแล้วอย่าได้อายหมอ
เนื้องอกของหลอดเลือด (Vascular tumor)
โรคข้อศอกเทนนิส โรคสุดฮิตของคนใช้ ข้อมือและข้อศอกบ่อยๆ
โรคจอประสาทตาเสื่อม
โรคลมอัมพาต
รวบรวมคำถาม ถามบ่อย เรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ (เอช1เอ็น)
อาการไอกับการแก้
ความรู้เกี่ยวกับโรคไตวาย
โรคไข้สมองอักเสบ
โรคปอดอักเสบ
โรคสุดฮิตในกลุ่มคนที่ใช้ข้อมือ
ภัยคอนเทกต์เลนส์ตาโต
เกิร์ด-โรคน้ำย่อยไหลกลับ
ปวดกล้ามเนื้อ
ตะคริวถามหา
หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน
สเตมเซลล์จากสายสะดือมรดกที่พ่อแม่ให้ลูก
ขี้หู : ปฏิกูลที่ควรกำจัด...จริงหรือ?
ก๊าซในทางเดินอาหาร
กล่องเสียงอักเสบ
ส่าไข้ในเด็ก
เนื้องอกสมอง
โรคบิดชิเกลล่า
มะเร็งลำไส้
บรูเซลโลซิส : โรคติดเชื้อจากสัตว์เลี้ยง
โรคต้อกระจก
โรคปวดหลัง
ต่อมทอนซิลอักเสบ(Tonsillitis)
โรคเลือดออกในสมอง
โรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่
โรคหยุดหายใจขณะนอนหลับ
ความรู้เกี่ยวกับถุงยางอนามัย
ริดสีดวงทวาร(Hemorrhoid)
โรคไข้ "ชิคุน กุนยา"
หลายหลากเกี่ยวกับโรคของผู้สูงอายุ
โรคอ้วนลงพุงMetabolic syndrome
อย่างไรที่เรียกว่า...ท้องนอกมดลูก
หลากหลายประเด็นความรู้เกี่ยวกับ วัคซีน
โรควูบ
พิษร้ายของสเตียรอยด์
มาเรียนรู้เรื่องโรคเกี่ยวกับดวงตาหน้าต่างของหัวใจกัน
พิษร้าย...ยานอนหลับ
โรคปวดศรีษะ
ความรู้เกี่ยวกับการตรวจภายใน
โรคเกี่ยวกับการนอน
โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเลี้ยง
คลังโลหิตสภากาชาดไทยขาดแคลนเลือดเชิญชวนผู้ใจบูญบริจาคโลหิตช่วยเพื่อนมนุษย์
ยุงลายกับไข้เลือดออก
โรคร้ายสะสมจากการบริโภค
ว่ากันด้วยเรื่องความรู้เกี่ยวกับฟัน
โรคข้ออักเสบ
โรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของชายและหญิง
โรคหัวใจขาดเลือด
โรคตับอ่อนอักเสบ
โรคหัด
อาการบ่งชี้ของโรคกระเพาะอาหาร
ความรู้เกี่ยวกับโรคอ้วน
โรคตับแข็ง
โรคหัวใจวายและการดูแล
ก๊าซในทางเดินอาหาร
โรคติดต่อทางพันธุกรรมที่ควรรู้
โรคหอบหืดภัยเงียบที่มาแบบไม่รู้ตัว
โรคหนังแข็ง
ความรู้เกี่ยวกับการทำดีท๊อกซ์
โรคเกี่ยวกับสตรีตกขาวที่เกิดจากเชื้อรา
โรคสะเก็ดเงิน
ความรู้เกี่ยวกับการตรวจเต้านมด้วยวิธีเมมโมแกรม
โรคอัลไซเมอร์
โรคไส้เลื่อน
โรคเกี่ยวกับหัวใจ
โรคเลือดจางธาลัสซีเมีย
โรคพาร์กินสัน Parkinson
โรคไข้สมองอักเสบ เจอี
โรคต้อหิน
ช็อกโกแลตซีส (cyst) โรคภายในของผู้หญิง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ปวดศรีษะจากไมเกรน
โรคกระดูกพรุนภัยเงียบที่ต้องระวัง
ความรู้เรื่องโรคไต
เมื่อกระเพาะเป็นแผล
คุณมีสุขภาพดีแค่ไหนและเราควรไปพบแพทย์เมื่อใด
ความรู้เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมความงาม
มะเร็งเต้านม
มะเร็งต่อมลูกหมากเรื่องที่ผู้ชายควรทราบ
มะเร็งศีรษะและลำคอ
โรคเก๊าท์
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการทำเลสิค
ความรู้เกี่ยวกับยาและการใช้ยาสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ
ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งผิวหนัง
โรคบาดทะยัก
การทดสอบและความรู้เกี่ยวกับภูมิแพ้ชนิดต่างๆ
มะเร็งโคนลิ้น มะเร็งต่อมทอนซิล (มะเร็งออโรฟาริ้งค์)
มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
หลากหลายกับโรคตับอักเสบ
ความรู้เรื่องการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์
งูสวัดนะ ไม่ใช่เริม
ว่ากันด้วยเรื่องโรคไตวาย
โรคคางทูม (Mumps)
เลือดคั่งในหลอดเลือดดำส่วนลึก Deep vein thrombosis หรือโรคชั้นประหยัด
โรคปอดบวม
โรคบิด : โรคติดต่อทางอาหารและน้ำ
ไส้ติ่งอักเสบ
ภาวะและผลจากอาหารเป็นพิษ
โรคกรดไหลย้อนกลับ
โรคหลอดเลือดหัวใจ
ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง
การตรวจสุขภาพประจำปีจำเป็นหรือไม่
โรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
โรคซึมเศร้า
โรคลมชัก ลมบ้าหมู
โรคไซนัสอักเสบ
ร้อนใน-แผลในปาก
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ตากุ้งยิง
กลาก เกลื้อน และโรคเชื้อราบนผิวหนัง
เมื่อเกิดอาการ...เสียวฟัน และ คอฟันสึก
โรคขาดเอ็มซัมย์หรือโรคเม็ดเลือดแดงแตก
โรคภูมิแพ้ที่เยื่อบุตา (Allergic Conjunctivitis)
หูดับ
การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพื่อลดความเครียด
ข้อเข่าเสื่อม
การตกเลือด (Hemorrhage)
โรคบ้านหมุน (Vertigo) น้ำในหูไม่เท่ากัน
โรคไข้หวัดนก
โรคนิ่ว
โรคที่มาพร้อมกับลมหนาว
"ไข้เลือดออก" เพชฌฆาตหน้าฝนที่ทุกคนมองข้ามไป
การทำ กิฟท์ (GIFT)
สารพันปัญหาเล็บในผู้เป็นเบาหวาน
โรคหลอดเลือด
กระดูกข้อเข่าเสื่อม
ผื่นแพ้จากการสัมผัส
โรคเลือดจางธาลัสซีเมียคืออะไร
ฝีที่เต้านม โรคที่คุณผู้หญิงต้องระวัง
โรคริดสีดวงทวาร
โรคตาบอดสี
โรคไข้กาฬหลังแอ่น
โรคผิวหนังที่เรียกว่า "เริม"
ผมร่วง
เรื่องน่ารู้ก่อนการจัดฟัน
โรคไซนัสอักเสบ
อัมพาตครึ่งท่อน หรือทั้งตัวคุณกลัวไหม..
โรคปวดศรีษะและโรคต่างๆ ที่ตามมา
ไทรอยด์เป็นพิษ
อัลไซเมอร์ ความจำเสื่อมกับวิธีป้องกัน
รู้สู้โรค ฉี่หนู เชื้อร้ายที่มากับน้ำท่วม
เมื่อผิวแพ้แดด
โรคกระเพาะปัสสาวะไวเกิน
รู้เท่าทัน ป้องกันโรคกระดูกพรุน
ผลกระทบจากการนอนกรนร้ายแรง......แต่สามารถแก้ไขได้
โรคน้ำกัดเท้า...มันมากับความอับชื้น
ทอนซิลอักเสบ
โรคเก๊าท์และการดูแลอาหารของผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์
กรดในกระเพาะอาหาร
โรค มือ-เท้า-ปาก และ โรคจากเชื้อเอนเตอโรไวรัส 71
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ สเตียรอยด์
ซีสต์เต้านม ศัตรูของสาวๆ
มือ..บอกสุขภาพ
ทำความรู้จัก..ต้อกระจกให้มากขึ้น ?....
เส้นเลือดขอด(Varicose Vein)
ปวดหลังเรื้อรัง....ไม่ใช่แค่เหตุบังเอิญ
วัยทองอย่างมีคุณภาพ
ความรู้เรื่อง "ตัดมดลูก"
โรคที่ผู้หญิงควรรู้ ช็อกโกแลตซีส
รู้ก่อนกินยาลดความอ้วน
โรคไมเกรน
เลือดออกตามไรฟัน
ชีอปปิ้งมากเกินไประวังจะเป็นโรคนิ้วล๊อค
ว่าด้วยก้อนที่เต้านม
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับไวรัสตับอักเสบบี....โรคที่ติดต่อได้ง่ายที่สุด
ต่อมลูกหมากโต....โรคที่ผู้ชายควรรู้
"กระเพาะปัสสาวะอักเสบ" โรคยอดฮิตของสาวเวิร์กกิ้ง
วัยทองไม่ได้ถามหา แต่สักวัน......ต้องมาเอง
ห้องนอนซ่อน ภูมิแพ้
ยืนเพื่อสุขภาพ
ควรหรือไม่? ......ใช้แป้งกับจุดซ่อนเร้น
จะเก็บฟันคุดไว้หรือเอาออกดีนะ....
ข้าวกล้องของดีเพื่อสุขภาพ
วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของมะเร็งชนิดต่างๆ
Vitamins and Minerals for Men
Vitamins and Minerals for Woman
มาเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน.....เพื่อร่างกายที่สดใสมีชีวิตชีวา
11 วิธีพิชิตโรคภูมิแพ้
อาการนอนไม่หลับ
สุขภาพ
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add kobnon's blog to your web]
Links
BlogGang.com
MY VIP Friend
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.