Bloggang.com : kobnon : เดินขึ้นภูเขาทอง ทดสอบพลังขา

สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

เดินขึ้นภูเขาทอง ทดสอบพลังขา

มดงานอย่างเราๆ ถ้ามีเวลาให้ตัวเองสักนิด อยากให้ลองไปเดินขึ้นภูเขาทอง วัดสระเกศ กันค่ะ เชื่อหรือไม่ว่าสามารถทำให้คุณได้ฟื้นฟูพลังวังชาที่ถดถอยด้วยความอ่อนล้าอย่างชะงัดทีเดียว

เลือกหนึ่งเช้าสบายๆ แดดยังไม่แรง คว้าหมวกติดมือไปด้วย ใส่รองเท้าให้กระชับ คู่ที่เดินเยอะๆไม่เหนื่อย ติดน้ำดื่มไว้ในกระเป๋าสะพาย บอกลาความหงอยเหงาที่ต้องไปเพียงลำพัง เพราะการอยู่คนเดียวในบางครั้งก็สร้างความฮึกเหิมบางอย่างให้หัวใจสูบฉีดพลุ่งพล่าน แหงนมองยอดเจดีย์ภูเขาทองที่ทอประกายสีทองสุกสว่างทาบท้องฟ้าแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เริ่มออกเดินทีละก้าว

สำหรับคนที่เพิ่งมาครั้งแรก บันไดเวียนวนเบื้องหน้าอาจดูน่าหวั่นไปสักหน่อย ขอแนะนำให้ใช้โอกาสนี้ค่อยๆนับก้าวเดินของตัวเองทีละก้าว ตั้งสติจดจ่ออยู่กับตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ บันไดขึ้นและลงนั้นอยู่คนละด้าน จึงไม่ต้องห่วงว่าใครจะสวนทางลงมา แต่ละขั้นนั้นถี่ยิบ ก้าวสั้นๆ อาจเหนื่อยกว่าก้าวควบทีละสองขั้น หรือจะใช้วิธีก้าวหนึ่งขั้น ควบสองขั้น ไปทีละช่วงก็ได้

ทางขึ้นภูเขาทองอาจแบ่งได้เป็นสามช่วง ช่วงแรกไม่ไกลเท่าไรก็ถึงจุดแวะพัก มีร้านกาแฟให้ดื่ม มีเก้าอี้ให้พักเท้า ด้านซ้ายมือแขวนระฆังเรียงราย และฆ้องขนาดยักษ์พร้อมไม้ให้เคาะ ลองหยิบไม้แล้วไล่เคาะด้วยความตั้งใจ พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งดีงาม เสียงก้องกังวานไปทั้งภูเขาทองจากน้ำมือของเราจะฟังไพเราะสดใส ชวนให้ใจอิ่มเอิบทีเดียว

ช่วงที่สองคือครึ่งทางของภูเขาทอง เราจะเห็นภาพมุมกว้างของเกาะรัตนโกสินทร์อันงดงามจับตา สายลมพัดเย็นชื่นฉ่ำจนเหงื่อที่ชุ่มค่อยๆเหือดแห้ง แม้น่องขาอาจจะเริ่มปวดเมื่อย แต่รับรองว่าใจของคุณจะยังฮึดสู้ จนไปถึงช่วงบนสุดที่สายตาเราจะสะท้อนภาพพาโนรามาสามร้อยหกสิบองศาของกรุงเทพเมืองฟ้าอมร ถึงตอนนี้ความเหน็ดเหนื่อยทั้งหมดแทบจะมลายไปสิ้น มีแต่ความสบายเนื้อสบายตัว ทั้งสบายใจอย่างบอกไม่ถูกอีกด้วย

ความอิ่มเอิบนี้จะยิ่งล้นพ้นเมื่อเราได้เข้าไปกราบพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าด้านใน แล้วปีนบันไดไปอีกนิดก็จะขึ้นไปถึงยอดบนสุดของภูเขาทอง สักการะบรมบรรพตด้านบนซึ่งทอสีทองเป็นประกายเจิดจ้า อาณาบริเวณรอบตัวคือเมืองหลวงที่เราอาจไม่เคยได้เห็นในมุมนี้มาก่อน และเป็นมุมที่ช่วยให้จิตใจหนักหนาเครียดขมึงผ่อนคลายลงในที่สุด

ลองสัมผัสประสบการณ์เล็กๆ แต่เป็นเสี้ยวเวลาที่ยิ่งใหญ่ในการตั้งสติอยู่กับตัวเอง ทั้งเดินขึ้นและเดินลง นับทุกก้าวอย่างตั้งใจ แล้วคุณจะพบว่าความสุขง่ายๆอยู่ใกล้ๆแค่นี้นี่เอง

ขอบคุณข้อมูลจาก
//www.goodfoodgoodlife.in.th/
time-for-myself-detail.aspx?tid=173

Create Date : 28 มีนาคม 2554

Last Update : 28 มีนาคม 2554 13:12:56 น.

1 comments

Counter : 813 Pageviews.

เป็นความคิดที่ดี
แต่ผมยังไม่เคยไปทำสักที
เคยแต่ไปเที่ยวงานตอนเด็กๆ
ถ้าได้วิ่งขึ้นลงทุกวันเหมือนในหนังญี่ปุ่นก็คงจะดี
สุขภาพแข็งแรงแน่นอน
55555
สวัสดียามบ่ายครับ