สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
มะเร็งเต้านม





โดยทั่วไปบรรดาหญิงสาวทั้งหลายมักมาโรงพยาบาลด้วยก้อนในเต้านม ซึ่งก้อนในเต้านมที่มีลักษณะบ่งชี้ไปในทางไม่ดี จะมีลักษณะดังนี้

1. โตเร็ว
2. แข็ง ขอบไม่ชัด
3. ติดแน่นกับเนื้อเยื่อรอบข้าง
4. ที่ใกล้เต้านมบริเวณดังกล่าวบุ๋มลงไป หรือผิวหนังมีลักษณะคล้ายผิวส้ม
5. หัวนมบุ๋มลงไป
6. มีเลือดออกทางหัวนม
7. มีต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้โตร่วมด้วย

นอกจากนี้อาจมาโรงพยาบาลด้วย มีน้ำคล้ายเลือดไหลออกทางหัวนม แต่พบน้อยกว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นมะเร็งเต้านม

- การตรวจที่ดีที่สุดคือ ตรวจด้วยตัวเอง โดยอาจทำขณะอาบน้ำหรือก่อนนอน โดยวิธีการ คือ ยกแขนข้างเดียวกับเต้านมที่ต้องการตรวจขึ้น เอามือไว้หลังท้ายทอย และใช้ฝ่ามือของอีกข้างค่อยๆ คลึงเบาๆ ไปให้รอบเต้านม ไม่ใช่บีบเต้านม สังเกตหน้ากระจกว่า เต้านม 2 ข้างยังเท่ากันดีหรือเปล่า

- ผู้หญิงที่มีอายุประมาณ 35 ปี ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายรวมทั้งทำ Mammogram เป็นการ X-ray เพื่อ Check เต้านม ทำปีละครั้งและทำเรื่อยๆ ทุกปี แค่นี้ก็พอแล้วครับ ถ้ามีอะไรที่สงสัยว่าผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ทันที

มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดชนิดหนึ่งในผู้หญิง และเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญของผู้หญิง อัตราเฉลี่ยของผู้หญิงที่เป็น พบประมาณ 1 ใน 9 ของผู้หญิงทั้งหมด


สาเหตุของมะเร็งเต้านมมีหลายปัจจัยที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งเต้านม คือ

1. พันธุกรรม เชื่อว่า การเป็นมะเร็งเต้านมประมาณ 30% สัมพันธ์กับประวัติครอบครัว หรือยีน
2. อาหาร พบว่า การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อาหารทอด อาจเพิ่มอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งเต้านมได้(รายงานของ National Cancer Institute)
3. Hormone พบว่า การใช้ Hormone ในเพศหญิง เช่น การทานยาคุมกำเนิดตั้งแต่อายุยังน้อย ทานเป็นเวลานานๆ อาจเพิ่มอุบัติการณ์ของการเกิดมะเร็งเต้านม การให้ Hormone ทดแทนในหญิงวัยทอง ก็สามารถเพิ่มอุบัติการณ์การเป็นมะเร็งเต้านม(เล็กน้อย) เช่นเดียวกัน
4. ความอ้วน พบว่า ผู้หญิงที่อ้วนโดยเฉพาะในช่วงหลังหมดประจำเดือน เพิ่มอุบัติการณ์การเป็นมะเร็งเต้านมได้ 1.5 – 2.0 เท่า
5. การให้นมลูก ในอดีตเคยมีรายงานว่า ผู้หญิงที่ให้นมลูกมากกว่า 36 เดือน จะลดการเป็นมะเร็งเต้านม แต่ปัจจุบันทฤษฎีนี้ไม่น่าเชื่อถือแล้ว
6. การเข้าสู่ระยะหมดประจำเดือน พบว่า การเข้าสู่ระยะหมดประจำเดือนเร็ว เช่น ประจำเดือนหมดตั้งแต่อายุก่อน 45 ปี จะมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมน้อยกว่าคนที่ประจำเดือนหมดช้า เช่น ประจำเดือนหมด อายุ 55 ปี ถึง 2 เท่า
7. การมีบุตร พบว่า ในคนที่ไม่มีบุตร มีอุบัติการณ์การเกิดโรคมะเร็งมากกว่าคนมีบุตร 30-70 % ยิ่งมีบุตรคนแรกขณะอายุน้อย อุบัติการณ์จะยิ่งลดลง แต่ถ้ามีบุตรคนแรกขณะที่อายุมากกว่า 30 ปี จะมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมสูงขึ้น
8. มีเนื้องอกที่อื่น พวกนี้มักมีเรื่องของพันธุกรรมมาเกี่ยวข้อง และโอกาสที่จะเป็นมะเร็งเต้านมก็จะสูงขึ้น
9. กัมมันตรังสี การโดนรังสีมากๆ จะทำให้อุบัติการณ์สูงขึ้น ตอนที่มีการทิ้งระเบิดปรมาณูที่ญี่ปุ่น พบว่า คนที่อยู่ที่ญี่ปุ่นใกล้เมืองที่โดนระเบิดปรมาณู เป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้น แต่สำหรับผลกระทบจากการฉาย X-ray จะพบอุบัติการณ์ที่จะเป็นมะเร็งน้อยกว่า 1 % ดังนั้นคงไม่ต้องกลัวครับ


การรักษา

ปัจจุบันเชื่อว่า มะเร็งเต้านมไม่ใช่โรคที่เป็นเฉพาะที่ แต่เชื่อว่าโรคทั้งระบบของร่างกาย(Systemic Disease) ดังนั้นในการรักษา การผ่าตัดอาจไม่เพียงพอ อาจต้องมีการให้เคมีบำบัด หรือการใช้ Hormone ช่วยในการรักษา


การผ่าตัดปัจจุบันที่ทำกันบ่อยๆ มี 2 ชนิด คือ

1. ตัดเต้านมออกทั้งหมด
คือ จะตัดเต้านมข้างที่เป็นมะเร็งออกทั้งหมด รวมทั้งเลาะต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกไปด้วย เป็นการผ่าตัดมาตรฐานที่ทำกันอยู่

2. ตัดเต้านมออกบางส่วน
จุดประสงค์คือ ต้องการเก็บเต้านมไว้ เพื่อความสวยงาม โดยอาจต้องตัดออกไปให้กว้างขึ้นกว่าบริเวณที่ก้อนเนื้องอกอยู่ แต่ว่าการผ่าตัดชนิดนี้ ไม่สามารถทำได้ในผู้ป่วยทุกคน จะสามารถทำได้ในกรณีที่

- ก้อนมะเร็งไม่ใหญ่มาก
- ยังคลำไม่พบต่อมน้ำเหลืองโตที่รักแร้
- ก้อนมะเร็งไม่ได้อยู่ตรงกลางหรือใกล้หัวนม
การผ่าแล้วเต้านมที่เหลือต้องดูสวย เพราะจุดประสงค์คือ ความสวยงามด้วยนั่นคือ ถ้าเอาเนื้องอกออกแล้วเต้านมผิดรูปมาก ไม่สวย ไม่ควรทำวิธีนี้

การผ่าตัดแบบไม่ตัดเต้านมออกทั้งหมด ผู้ป่วยต้องได้รับการฉายแสงรักษาที่บริเวณเต้านมที่เหลือ
ส่วนเรื่องเคมีบำบัด การใช้ Hormone คงต้องดูระยะของโรค และชนิดของ Cell ซึ่งการผ่าตัดทั้ง 2 ชนิด ก็ยังต้องการรักษาต่อเหมือนกัน
สรุป การเอาเต้านมออกหมด ไม่ต้องฉายแสง แต่ถ้าเก็บเต้านม ต้องฉายแสง


การป้องกัน

การป้องกันที่สำคัญที่สุดคือ การค้นหาโรคตั้งแต่ยังไม่มีอาการ เพื่อจะได้รีบรักษาก่อนที่จะลุกลาม


การตรวจเต้านมด้วยตนเองมี 3 วิธี


1.ยืนหน้ากระจก
-ปล่อยแนบข้างลำตัวตามสบาย เปรียบเทียบเต้านม
ทั้ง 2 ข้างว่ามีการบิดเบี้ยวของหัวนม ความสูงต่ำ
ของหัวนม หรือ สิ่งผิดปกติอื่นๆหรือไม่
-ประสานมือทั้ง 2 ข้างเหนือศรีษะแล้วกลับมา
อยู่ในท่าท้าวสะเอว พร้อมทั้งดูสิ่งที่ผิด ปกติ
-ให้โค้งตัวมาข้างหน้าโดยใช้มือทั้ง 2 ข้าง วาง
บนเข่า ในท่านี้เต้านมจะห้อยลงไปตรง อาจมอง
เห็นความผิดปกติได้ชัดมากขึ้น





2.นอนราบ
-นอนในท่าที่สบายแล้วสอดหมอน หรือม้วน
ใต้ผ้าใต้ไหล่ซ้าย
-ยกแขนด้านเดียวกับเต้านมที่จะตรวจเหนือ
ศีรษะเพื่อให้เต้านมด้านนั้นแผ่ราบซึ่งจะ ทำให้
คลำพบ ก้อนได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะส่วนบน
ด้านนอก ซึ่งมีเนื้อนมหนามากที่สุด และเกิด
มะเร็งบ่อยกว่าส่วนอื่น
-ให้ใช้ 3 นิ้ว คือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และ นิ้วนาง
คลำทั่วทั้งเต้านมและรักแร้ ที่สำคัญคือ ห้าม
บีบเนื้อเต้านม เพราะจะทำให้รู้สึกว่ามีก้อน
ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่





3.ขณะอาบน้ำ
-สำหรับผู้หญิงที่มีเต้านมขนาดเล็ก
ให้วางมือข้างเดียวกับเต้านม ที่ต้องการตรวจบนศีรษะ
แล้วใช้มืออีกข้างคลำ ในทิศทางเดียวกับที่คลำใน
ท่านอน
-สำหรับผู้หญิงที่มีเต้านมขนาดใหญ่ ให้ใช้มือข้างนั้น
ประคองและตรวจคลำเต้านมจากด้านล่าง ส่วนมือ
อีกข้างให้คลำจากด้านบน



วิธีการคลำมีดังนี้


การคลำในแนวก้นหอย
-โดยเริ่มจากส่วนบนไปตามแนวก้นหอย จน
กระทั่งถึงฐานเต้านมบริเวณรักแร้




การคลำในแนวขึ้นลง
-เริ่มจากใต้เต้านมถึงรักแร้แล้วขยับนิ้วทั้ง 3 คลำ
ในแนวขึ้นและลงสลับกันไปเรื่อยๆจนทั่วทั้งเต้านม





การคลำในแนวรูปลิ่ม
-เริ่มจากส่วนบนของเต้านมจนถึงฐานแล้วกลับสู่ยอด
อย่างนี้ไปเรื่อยๆให้ทั่วทั้งเต้านม






Create Date : 26 มกราคม 2552
Last Update : 26 มกราคม 2552 10:53:31 น. 4 comments
Counter : 1736 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ


โดย: ความเจ็บปวด วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:3:13:20 น.  

 
บล๊อกสวยมาก ๆ ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ ด้วยน๊า จุ๊บ ๆ


โดย: หนี่หนีหนี้ (แพรวขวัญ ) วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:13:12:50 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมเยียนที่อบอุ่นนะค๊า




โดย: fleuri วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:18:15:01 น.  

 
หวัดดีค่ะคุณกบ นุชแวะมาเก็บ

เกี่ยวอาหารสมองค่ะ มีประ

โยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณสำ

หรับความรู้ที่นำมาฝากกันค่ะ

Photobucket


โดย: Vannessa วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:10:16:44 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
26 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.