สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
สูตรสมุนไพรสยบลมพิษ








ลมพิษ (Hives) เป็นภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีทั้งลมพิษชนิดเฉียบพลันและลมพิษชนิดเรื้อรัง เกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่แพ้ เช่น อาหาร สารปรุงแต่งในอาหาร หรือยาปฏิชีวนะบางตัว ในบางรายอาจเกิดจากการติดเชื้อ เช่น หวัด ฟันผุ ไซนัสอักเสบ ไวรัสตับอักเสบ หรือแม้กระทั่งพิษแมลงสัตว์กัดต่อยก็เป็นสาเหตุของลมพิษได้เช่นกัน


นอกจากนี้ยังเป็นผลมาจากการแพ้อากาศหนาว ฝุ่น เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ สารเคมีต่างๆ หรือแม้กระทั่งแสงแดด ล้วนเป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดอาการได้เช่นกัน แต่สำหรับบางคนก็ไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้


เมื่อเกิดอาการแพ้ร่างกายจะสร้างสารที่เรียกว่าฮีสตามีน (histamine) ออกมาจากเซลล์ในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้หลอดเลือดฝอยขยายตัว และมีพลาสมา (น้ำเลือด) ซึมออกมาในชั้นผิวหนัง จนเกิดเป็นผื่นนูนแดง ส่วนใหญ่ผื่นจะหายไปเองภายใน 3-4 ชั่วโมง บางรายอาจเป็นอยู่นานหลายวันหรือหลายสัปดาห์


รักษาลมพิษด้วยสมุนไพร

การทาขี้ผึ้งหรือโลชั่นเป็นเพียงการช่วยบรรเทาอาการคันได้ในชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่ทางที่ดีเมื่อมีอาการลมพิษไม่ควรเกา เพราะการเกาจะไปกระตุ้นให้ผื่นลมพิษยิ่งขยายมากขึ้น และที่สำคัญควรจดรายการอาหารหรือยาที่กินก่อนเป็นลมพิษ ถ้าหากเป็นซ้ำอีกบันทึกนี้จะช่วยให้รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุ แล้วงดสิ่งนั้น


หากลองวิธีข้างต้นแล้วยังไม่ได้ผล ลองเหลียวซ้ายแลขวามองหาสมุนไพรใกล้ตัวคุณดูสิคะ ซึ่งสมุนไพรสำหรับรักษาลมพิษมีดังนี้ค่ะ


สมุนไพรชนิดทา

สีเสียด นำสีเสียดมาผสมกับปูนแดง (ที่ใช้กินกับหมาก) ใส่น้ำพอหมาด ใช้ทาบริเวณที่เป็นลมพิษ

ใบพลู นำใบพลูมาตำให้ละเอียด ผสมกับเหล้าขาว ใช้ทาบริเวณที่เป็นลมพิษ

หัวข่าแก่ นำหัวข่าแก่มาตำให้ละเอียด ผสมเหล้าขาว นำมาทาบริเวณที่เป็นลมพิษ

ใบเสลดพังพอน นำใบหรือต้นของเสลดพังพอนตำกับแป้งดินสอพอง ผสมเหล้า ใช้ทาบริเวณที่เป็นลมพิษ

หมายเหตุ ใช้สมุนไพรเหล่านี้ในปริมาณที่พอเหมาะกับบริเวณที่เป็น และใช้ปูนแดงหรือเหล้าขาวซึ่งเป็นตัวทำปฏิกิริยาในปริมาณเล็กน้อย


สมุนไพรชนิดกิน

- นำใบขิงสด ใบพริกไทยสด และใบคนทีสอ อย่างละเจ็ดใบมาโขลกรวมกันแล้วคั้นเอาน้ำที่ได้มาดื่มแก้ลมพิษ

- นำต้นขลู่นา (ทั้งราก ต้น ใบ และดอก) ต้มกับน้ำสะอาดดื่มบ่อยๆ นอกจากจะช่วยขับปัสสาวะได้แล้ว ยังช่วยบรรเทาอาการลมพิษได้อีกทางหนึ่ง
ป้องกันด้วยอาหาร


เมื่อภูมิชีวิตตกจะส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอลง การฟื้นฟูสมรรถนะของร่างกายจะเป็นไปอย่างไม่เต็มที่ เพราะแมสต์เซลล์ (mast cell) ถูกทำลาย จึงเกิดอาการแพ้ได้ง่ายกว่าคนปกติ


ในสมัยก่อนคนโบราณจะนำดอกแค ยอดแค หยวกกล้วย และหัวปลีมาปรุงอาหาร เพราะมีสารอาหารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย หรือแม้แต่ผักผลไม้ต่างๆก็ช่วยได้เช่นกัน แต่ที่เห็นผลได้อย่างชัดเจนก็คือกล้วยน้ำว้าและมะละกอสุก


วิธีปฏิบัติตัวหนีลมพิษ

วิธีง่ายๆและใกล้ตัวอีกวิธีหนึ่งคือเวลาที่มีอาการลมพิษกำเริบสามารถบรรเทาอาการได้โดยการอาบน้ำเย็น และใช้ครีมวิตามินอี นอกจากนั้นควรกินวิตามินซีเสริมประมาณวันละ 1-2 กรัม และเพื่อเป็นการป้องกันในระยะยาว ควรเลี่ยงอาหารบางอย่าง หรือสิ่งที่แพ้อื่นๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดลมพิษดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นค่ะ


อาการลมพิษที่ควรรีบไปพบแพทย์

1. คันรุนแรงหรือบวมมากบริเวณใบหน้า ตา ปาก และลิ้น
2. มีอาการเสียงแหบ หรือแน่นหน้าอก หอบ หรือหายใจไม่ออกเฉียบพลัน
3. มีอาการเป็นลม ช็อก ความดันโลหิตต่ำร่วมด้วย
4. แต่ละแห่งที่ลมพิษขึ้นผื่นยุบช้าคือเกิดขึ้นนานกว่า 24 ชั่วโมง และหลังจากที่ผื่นบริเวณนั้นหายแล้วจะมีลักษณะเป็นรอยสีน้ำตาลคล้ำเกิดขึ้น
5.มีอาการไข้ ปวดข้อ และแพ้แดดร่วมด้วย



Create Date : 24 มกราคม 2552
Last Update : 24 มกราคม 2552 7:28:24 น. 0 comments
Counter : 3661 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
24 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.