การปฐมพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
| | | |
การปฐมพยาบาลที่เกิดเหตุ
ถ้าท่านมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและมีอาการแน่นหน้าอกดังกล่าวข้างต้นให้ปฏิบัติดังนี้
1.ให้นั่งหรือนอนลง ถ้าอาการแน่นหน้าอกไม่หายใน 2 นาทีรีบโทรหารถพยาบาลฉุกเฉิน 2.รีบติดต่อแพทย์ประจำตัวของท่านทันที 3.ถ้าแพทย์ให้ยาอมใต้ลิ้น isordil 5 mg หรือ nitroglycerineก็ให้อมทันที 1 เม็ดถ้าไม่หายให้อมซ้ำได้อีก 2 เม็ดทุก 5 นาที ถ้าแพทย์ไม่เคยให้ยาอมใต้ลิ้นไม่ควรนำยาคนอื่นมาอมเพราะอาจจะอันตรายถึงชีวิต 4.ถ้าหากมี aspirin ก็ให้เคี้ยวและกลืนทันที 1 เม็ด 5.ติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้าน และตามรถพยาบาล 6.ติดต่อ จส.100 หรือร่วมด้วยช่วยกันเพื่อการจราจรที่คล่องตัว 7.รีบนำส่งโรงพยาบาล 8.ไม่ควรขับรถเอง 9.ไม่ควรใช้ยาอื่นลองรักษา เวลาทุกนาทีมีค่า 10.เมื่อถึงห้องฉุกเฉินให้แจ้งแก่แพทย์ทันที่ว่าสงสัยโรคหัวใจ 11.หากผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นให้ทำการกู้ชีวิตทันที 12.อย่าปฏิเสธความจริงผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ 30%จะเสียชีวิตใน 2-3 ชั่วโมงแรก ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยรีบให้แพทย์ประเมินอาการทันที ผู้ป่วยสูงอายุ หรือผู้ป่วยเบาหวานอาจไม่มีอาการแน่นหน้าอกแต่อาจมาด้วยอาการเหนื่อย คลื่นไส้ 13.เตรียมประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลเดิม ยาที่ได้รับประทานอยู่ไปพร้อมกับผู้ป่วย 14.ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่มีญาติเป็นโรคหัวใจควรได้รับการฝึกอบรมการกู้ชีพ
การกู้ชีพ Cxardiopulmonary Resusucitation คือการช่วยชีวิตเมื่อพบผู้ป่วยหยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้นอย่างกะทันหัน การกู้ชีพประกอบด้วยการช่วยการหายใจซึ่งหากไม่มีเครื่องมือจะใช้วิธีปากประกบปาก และการนวดหัวใจ เพื่อให้เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะของร่างกาย ผู้ที่มีญาติเป็นโรคหัวใจควรได้รับการฝึกกู้ชีพขั้นตอนการกู้ชีพประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้
เมื่อพบผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวต้องทำอย่างไร
- ผู้ป่วยหมดสติหรือไม่ ถามดังๆแล้วดูการตอบสนอง หากไม่พบให้ทำตาม ขั้น 2 - เขย่าตัวพร้อมกับถาม หากเขย่าแล้วไม่รู้สึกตัวให้ทำตามขั้น 3 - คลำชีพขจรที่คอ หากคลำไม่ได้ให้ทำตามขั้นที่ 4 - หาคนซ่วยเหลือ อาจจะโทรไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือศูนย์นเรนทร
หลังจากนั้นจึงทำการกู้ชีพซึ่งมีหลักง่ายดังนี้
A Airway ช่วยทางเดินหายใจให้โล่ง B Breathing ช่วยเรื่องหายใจ C Circulation ช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต
A Airway ช่วยทางเดินหายใจให้โล่ง
ให้ผู้ป่วยนอนราบบนพื้นที่แข็ง คุกเข่าอยู่เหนือศรีษะ ใช้มือดันหน้าผากลง และใช้มืออีกข้างดันคางขึ้นมา ท่านี้จะทำให้ทางเดินหายใจโล่ง ดังรูปที่2 เฝ้าดูว่าผู้ป่วยหายใจเองหรือไม่ หากใน 10 วินาทียังไม่หายใจก็รีบช่วยผู้ป่วยหายใจ
B Breathing ช่วยเรื่องหายใจ
ช่วยหายใจโดยวิธีปากประกบปาก โดยใช้มือข้างหนึ่งบีบจมูก ตามรูปที่3 หายใจเข้าให้เต็มที่ ปากประกบปากให้สนิท เป่าลมลงไปให้เต็มที่ ให้สังเกตว่าทรวงอกมีการขยายหรือไม่ หากไม่ขยายให้เงยหน้าผู้ป่วยตามขั้นตอนแล้วเป่าอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงเริ่มช่วยเรื่องการไหลเวียน
C Circulation ช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต
ใช้ฝ่ามือวางตรงกลางหน้าอกระหว่างนมทั้งสองข้าง มืออีกข้างวางบน หลังมือ แขนเหยียดตรง ใช้น้ำหนักส่วนบนของลำตัวกดทรวงอก เวลากดให้กดหนักและเร็ว กด2 คั้งต่อวินาที เพราะฉนั้นกดประมาณ 100 ครั้งต่อนาที กดลึด 1นิ้วครึ่งถึง 2 นิ้ว เมื่อกดทรวงอกไป 30 ครั้งให้ช่วยการหายใจโดยการเป่าปาก 2 ครั้ง แล้วจึงมากดหัวใจอีกครบ 30 ครั้ง ช่วยชีวิตไปประมาณ 2 นาทีให้ตรวจชีพขจรเส้นเลือดที่คอดังรูปที่ 4 หากคลำได้ ก็ยุติการช่วยชีวิต หากคลำไม่ได้ก็ให้ช่วยชีวิตต่อ
โทรหาความช่วยเหลือจาก 191 หรือโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ควรจดเบอร์โทรฉุกเฉินไว้
ให้ผู้ป่วยนอนราบ คุกเข่าข้างผู้ป่วย ใช้มือข้างหนึ่งกดหน้าผาก มืออีกข้างหนึ่งเชยคางขึ้นมา จนหน้าแหงน ฟันบนสบฟันล่าง ฟังดูว่าผู้ป่วยหายใจ หรือไม่
ถ้าไม่หายใจ ให้เอามือข้างหนึ่งปิดจมูก ปากทาบปากให้สนิท เป่าลมให้เต็มปอด 2 ครั้ง สังเกตดูทรวงอกผู้ป่วยจะขยายขึ้น
คลำชีพขจรข้างลูกกระเดือก ถ้าหัวใจเต้นจะคลำชีพขจรได้
ถ้าคลำชีพขจรไม่ได้ ให้นวดหัวใจ โดยวางมือข้างหนึ่งตรงกลางระหว่างหัวนม มืออีกข้างทับบนมือแรก
กดลงไปตรงๆลึก 2 นิ้ว 15 ครั้ง เป่าปอด 2ครั้ง นวดหัวใจ 15 ครั้งสลับกัน กระทำจนกระทั่งมีคนมาช่วย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก lifestyle.kingsolder.com
|
| | | | |
Create Date : 04 มีนาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 4 มีนาคม 2552 11:13:48 น. |
Counter : 2723 Pageviews. |
|
|
|