Why are we dying to live while we are living to die?
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
19 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 

Good Wives IV

หลังจากที่ Laurie อกหักจาก Jo ก็ออกไปเที่ยวเล่นที่ Europe กับปู่ของตัวเอง โดยที่เอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ไม่ช่วยปู่ทำงานเลย วันหนึ่ง Laurie ก็มาหา Amy น้องสาวของ Jo ที่กำลังท่องเที่ยวอยู่เหมือนกัน Amy ไม่รู้เลยว่า Laurie อกหักจาก Jo และที่มาเที่ยวนั้นก็เพื่อให้ลืม Jo จึงว่า Laurie ไปว่าขี้เกียจ ไม่รู้จักทำงาน ทำให้ Laurie คิดได้และกลับไปช่วยปู่ดูแลกิจการของตัวเอง

ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวืตของ Beth ทุกคนต่างห้อมล้อม Beth ด้วยความรักและความอบอุ่น Beth จึงไม่รู้สึกกลัวความตายเลย แต่เธอกลับรู้สึกว่าเธอเสียดายที่จะตายไปโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรให้ครอบครัว จนวันหนึ่งที่เธอมาเห็นกลอนที่ Jo เขียนไว้ให้เธอ กล่าวชื่นชมความรักและความเสียสละของ Beth ที่มีให้กับครอบครัว และว่า Jo มีความสุขมากแค่ไหนที่ได้อยู่กับ Beth และนั่นก็ทำให้ Beth ไม่กลัวที่จะทิ้งทุกคนไป ความรักที่ Beth ทิ้งให้กับครอบครัวนั้น ยื่งเพิ่มพูนมากขึ้นแม้ว่าเธอจะจากไปก็ตาม

Laurie พยายามทำใจให้ลืม Jo ให้ได้ เพราะเขาอยากจะพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าความรักนั้นไม่ได้ทำให้เขาแย่ลง แต่ทำให้เขาเข้มแข็งขึ้น และยิ่งเขาพยายามลืม Jo มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เขาแปลกใจกับผลลัพท์ที่ว่าเขาลืมเรื่องนั้นได้ง่ายกว่าที่คิด จนเขาอดละอายไม่ได้ที่ลืม Jo ได้เร็วขนาดนั้น ในขณะเดียวกันข่าวเรื่องที่ Beth เสียชีวิตแล้วก็มาถึง Laurie และ Amy ทำให้ Laurie รีบรุดไปหา Amy ซึ่งเศร้าซึมอยู่ในขณะนั้น และแล้ว ความรักระหว่างสองคนก็ก่อขึ้นมา

Jo ผู้ที่คอยดูแล Beth ในช่วงสุดท้ายของชีวิตนั้นจมปรักอยู่กับความเศร้าที่ Beth จากไป เธอรู้สึกเดียวดายและต้องการความรักจากคนอื่นอย่างมาก เธอมองตัวเองที่อยู่โดดเดี่ยว ไม่มีใคร แต่แม่ก็มีพ่อ Meg ก็มี John และ Laurie ที่เคยเป็นของเธอก็กลายเป็นของ Amy ไปแล้ว ตอนนี้เธอคิดว่าถ้า Laurie มาขอความรักจากเธอ เธอก็คงตอบรับเพราะว่าเธอรู้สึกโดดเดี่ยวเป็นอย่างมาก

และแล้ว Amy และ Laurie กลับมาเยี่ยม พร้อมกับบอกว่าทั้งคู่แต่งงานกันแล้วเพราะว่า Amy ต้องการกลับบ้านให้เร็วที่สุด แต่ครอบครัวที่ Amy ไปด้วยยังไม่อยากกลับ เธอเลยต้องแต่งงานกับ Laurie เพื่อให้เขากลายเป็นผู้ปกครองพาเธอกลับมาบ้าน ทุกคนต่างมีความสุขอย่างมาก ยกเว้น Jo คนเดียวที่ยังรู้สึกเดียวดายอยู่เหมือนเดิม แต่แล้ว Mr. Bhear ก็มาพบ Jo ซึ่งทำให้ Jo รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะวันนั้นก็เป็นวันเกิดของเธอพอดีด้วย ทุกคนต่างรู้ว่า Mr. Bhear มาเพื่อมาบอกรัก Jo ไม่ใช่เพราะเรื่องงานอย่างเดียว

Amy และ Laurie เป็นคู่ที่เหมาะสมกันอย่างมากเพราะว่า Amy รู้ว่าควรจะจัดการกับ Laurie อย่างไรโดยที่ไม่ทำให้เขารู้สึกว่าถูกควบคุมอยู่ Amy ยังสามารถจัดการเรื่องการเรือนได้อย่างดีและเป็นที่ชื่นชมของเพื่อนๆของ Laurie อีกด้วยเพราะเธอนั้นรู้วิธีการวางตัวว่าควรทำอย่างไร

ลูกแฝดของ John และ Meg ฉายแววความฉลาดออกมาตั้งแต่ยังเล็กๆ เพราะสามารถเดินได้ตั้งแต่ 8 เดือน พูดได้คล่องตอนหนึ่งขวบ ลูกสาวที่ชื่อ Daisy สามารถเย็บผ้าได้ตอนอายุ 3 ขวบและยิ่งเก่งขึ้นเรื่อยๆ ส่วนลูกชาย DemiJohn นั้นก็เก่งด้านการประดิษฐ์ ทั้งสองเป็นที่รักของทั้งครอบครัวและเพื่อนๆที่พบเห็น Daisy นั้นรักทุกคนละพร้อมที่จะหอมและกอดคนที่เดินผ่านไปมาที่เข้ามาทักเธอ ส่วน DemiJohn นั้นก็ช่างซักถามอยู่เสมอ

ในระหว่างที่ Mr. Bhear ยังอยู่ที่นั่นนั้น เขาได้ไปเยี่ยมบ้าน Jo เกือบทุกวัน ไปคุยกับพ่อของ Jo และทำกิจกรรมอื่นๆกับ Jo จนกลายเป้นกิจวัตรประจำวัน จนวันหนึ่งที่เขาหายตัวไปถึงสามวัน ทำให้ทั้งครอบครัวสงสัยว่าเขาจะกลับไปแล้ว และ Jo รู้สึกเศร้าอย่างมาก วันหนึ่ง Jo ได้เดินออกไปบริเวณที่น่าจะเจอ Mr. Bhear แล้วก็เจอฝนตก แต่แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งมากางร่มให้เธอ ซึ่งก็คือ Mr. Bhear นั่นเอง และใต้ร่มคันเดียวกันนั้น Jo กับ Mr. Bhear ก็ได้สารภาพความใจในออกมา และสัญญาว่าจะกลับมาอยู่ด้วยกันเมื่อตั้งตัวและได้ทำงานของตัวเองให้สำเร็จแล้ว

สองปีผ่านไป Aunt March เสียชีวิตลงพร้อมกับยกบ้าน Plumfield ให้กับ Jo ซึ่ง Jo ก็วางแผนว่าจะเอาไปทำเป็นโรงเรียนสอนเด็กชาย โดยที่ Jo จะเป็นคนดูแลและ Mr. Bhear เป็นคนสอน

ในงานเลี้ยงรวมญาติของทั้งครอบครัว ทุกคนต่างกลับมาที่บ้าน PlumField เพื่อชื่นชมความสำเร็จของแต่ละคน Amy กับ Laurie มีลูกสาวที่อ่อนแอที่แม่ของเธอเรียกว่า Beth ส่วน Mr. Bhear กับ Jo ก็มีลูกชายสองคน ทุกคนต่างมีความสุขและภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองได้สร้างและทำขึ่นมา และขอบคุณแม่ของตัวเองที่ทำให้ทุกคนได้เป็นผู้หญิงที่มีความสุขมาขนาดนี้


เราชอบเรื่องนี้มากๆๆๆ เพราะว่าเป็นภาคต่อจากเรื่องที่เคยอ่าน และรู้สึกว่าจะมีภาคต่อจากนี้อีก เป็นเรื่องโรงเรียนของ Jo ประมาณนั้น
ประโยคหนึ่งที่น่าประทับใจคือ
Into each life some rain must fall,
Some days must be dark and sad and deary.

มันแตกต่างกับเพลง Seasons Change ที่จะบอกว่าหลังฝนก็ต้องมีวันที่สวยงาม
แต่นี่กลับเตือนเราให้รู้ตัวเสมอว่าเมื่อมีสุขก็ย่อมมีทุกข์เป็นธรรมดา และเราควรที่จะยอมรับว่า ชีวิตนี้ไม่ใช่จะมีเพียงความสุขอย่างเดียว




 

Create Date : 19 สิงหาคม 2550
0 comments
Last Update : 19 สิงหาคม 2550 13:20:44 น.
Counter : 737 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


LpDeeDa
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




การที่เราเอาหนังสือที่เราอ่านอยู่นั้นมาย่อลงใน blog ก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมีคนอ่านมากมายหรอก แต่แค่เป็นการกระตุ้นตัวเองให้ตั้งใจอ่านเข้าไว้ และนึกเสมอว่ายังมีคนที่ยังรออ่านใน Blog อยู่ (หรือเปล่า)
Friends' blogs
[Add LpDeeDa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.