Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
31 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

....เพียงพอ เพื่อพอเพียง... (ลูกทุ่ง)

...

วันสุกอีกแล้ว... อากาศจะต้องร้อนแน่ๆ ถึงทำให้เราสุกได้...
เป็นวันศุกร์ที่ สามสิบเอ็ด กรกฎาคม ห้าสอง...31/07/2552

....เพียงพอ เพื่อพอเพียง... (ลูกทุ่ง)

พอสิ้นเดือนเจ็ด ฝนอาจขาดเม็ด เป็นบางเวลา...
แต่พอย่างเข้าเดือนสิงหา ผ่านถึงกันยาจนตุลาคม...
สองเดือนช่วงนี้ คงมีหลายวันที่ฝนพร่างพรม...
บรรเทาทุกข์โศก คลายความขื่นขม... ไม่ต้องระทม ไม่จมจ่อมไป...

เพราะความเย็นฉ่ำ จะช่วยดับความร้อนในใจ...
บันดาลสร้างชีวิตใหม่ ให้แตกผลิใบ...รอวันงอกงาม...

แม้จะเคยเหนื่อย เคยอ่อน เคยล้า อย่ามีคำถาม...
ขอเพียงแค่พยายาม และตั้งใจทำ ตามใจส่งเสียง...
มั่นใจยึดหลักเศรษฐกิจ ชีวิตพอเพียง...
งอกเงย งดงาม หล่อเลี้ยง... เป็นเพื่อนข้างเคียง อยู่กันถาวร...

แม้ไม่สะดวก ไม่ร่ำไม่รวย ก็ไม่เดือดร้อน...
ตื่นมา หากิน หลับนอน... พักผ่อนแล้วสบายใจ...
พรุ่งนี้ที่รอ... ตื่นขึ้นมา ค่อยว่ากันใหม่...
เพียงพอ เพื่อได้เป็นไท...ไม่ต้องพึ่งใคร... พึ่งพาตนเอง...
เพียงพอ เพื่อความเป็นไท... ไม่พาพึ่งใคร... จะได้ร้องเพลง...

เพลงอะไรเหรอ... เพลงลอยกระทง นี่ไง... อิ อิ อิ...

วันเพ็ญเดือนยี่สิบสอง
นั่งอยู่ริมคลอง ทำท่าอวดเก่ง...
มีคนตั้งหลายที่สุดเจ๋ง...
มานั่งร้องเพลงพอเพียง เพียงพอ...

จะพอ จะพอ จะเพียง...
จะเพียง จะเพียง จะพอ...
เพียงแค่ไหนกันหนอ...
ถึงจะได้ฝ่อ จนพอกันเป็น...

ทำงาน ทำงาน ทำเงิน...
ทำเงินจนเกินตอนเย็น...
กว่าจะได้เผ่น ก็ค่ำเกินไป...
พรุ่งนี้ ทำใหม่...หายใจไม่ทัน...

หลากหลาย ไปต่างชีวิต...
บ้างเกิดมาคิด อุทิศเพื่อฝัน...
บางชีวิต อุทิศให้งาน...
บางชีวิต อุทิศให้ทาน...

ถ้าใครมาอ่าน... ขอให้สุขใจ...
แล้วพบกันใหม่ วันลอยกระทง...

ลอยกระทงปีนี้ เดือนพฤศจิกายน เนอะ...


...




 

Create Date : 31 กรกฎาคม 2552
5 comments
Last Update : 31 กรกฎาคม 2552 3:41:38 น.
Counter : 995 Pageviews.

 

................

ตามมาดีๆน่ะ อย่าดื้อน่ะ

(วันสุก)ของกอร์ไม่เห็นจะสุกเลย
อากาศเย็นสบาย ค่อนข้างแฉะนิดๆ เพราะฝนตกอ่ะ
เมื่อตอนเย็นกอร์อัพบล๊อคแล้วน่ะ P'K
ใช่ๆๆ กอร์ เคยได้ยิน คนเค้าพูดเรื่องพอเพียง
อันที่จริง กอร์เคยอ่านจากเวปไซด์มากกว่า
แต่กอร์คิดว่า คนไทย(ส่วนมาก)น่ะใช้เงินไม่ค่อยจะแพลนกัน
อันนี้สังเกตุจากเพื่อนคนไทยของกอร์น่ะ P'K
ชอบใช้ของแพงๆ และ แบรนด์เนม อย่างบ้าๆบอ
กอร์ชอบของที่ดูดี แต่ราคาไม่แพงมาก
บางครั้งแต่งตัวไปเที่ยวน่ะ เพื่อนชมเลย
ว่ายี่ห้ออะไร สวยจัง
แต่ความลับคือ กอร์ ไปซื้อ มาถูกๆ
แล้วเอามามิกซ์กันอ่ะ

กอร์คิดถึง P'K จริงน่ะ บางครั้งเบื่ออ่ะ
อยากคุยกับใครๆ มั่ง แต่คุยกับคนอื่นไม่สนุก
คุยกับกอใหญ่ ก็ทะเลาะกันทุ๊กที เฮ้อ

 

โดย: model de gorrya 31 กรกฎาคม 2552 5:58:12 น.  

 

ว๊า เจ้าหมาอ้วนมันดื้อ ไม่ยอมตามมา
ต้องบังคับ นี่แน๊ะ แปะ ๆๆๆๆ (เสียงกอร์กำลังทำร้ายร่างกายเจ้าสุกี้)


................

 

โดย: model de gorrya 31 กรกฎาคม 2552 6:05:27 น.  

 

ใกล้ตีสี่ ยังอดทนเขียนอีก
นับถือ นับถือ..
ไม่ง่วงเหรอจ๊ะ
อยากเป็นห่วงน่ัะ
แต่ไม่ดีกว่า
555

 

โดย: The god..mother ! part 1 IP: 112.142.28.23 31 กรกฎาคม 2552 10:18:28 น.  

 

...(ชูสองนิ้ว) สู้ สู้ จ้า...
...ยิ้ม...

 

โดย: ... IP: 125.24.7.130 2 สิงหาคม 2552 8:08:01 น.  

 

...

นิทานสอนใจ : คนยากไร้กับหนูตาย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 สิงหาคม 2552 10:04 น.

ท่านจุลลกเศรษฐี ในเมืองพาราณสี เป็นผู้ฉลาดเฉียบแหลม เป็นบัณฑิตที่รู้จักปรากฏการณ์ต่าง ๆ วันหนึ่งจุลลกเศรษฐีไปเฝ้าพระราชา ระหว่างทางเห็นหนูตายตัวหนึ่ง เขามองดูท้องฟ้าแล้วกล่าวว่า บุคคลผู้มีปัญหา อาจเอาหนูตายตัวนี้ไปเป็นทุนเลี้ยงลูกเมียได้

ชายผู้ยากไร้คนหนึ่งชื่อ จูฬันเตวาสิก ได้ยินท่านเศรษฐีพูดเช่นนั้น ก็คิดว่า ท่านเศรษฐีไม่รู้จริงคงไม่พูด จึงเอาหนูตายตัวนั้นไปขายคนเลี้ยงแมวได้ทรัพย์มากากนิกหนึ่ง (กากนิก เป็นมาตราเงินอินเดียในสมัยนั้นที่มีค่าน้อยที่สุด เทียบมาตราเงินไทย 1 สตางค์)

จากนั้นก็นำทรัพย์หนึ่งกากนิกนั้นไปซื้อน้ำอ้อยงบ (น้ำอ้อยที่เคี่ยวแล้วทำเป็นแผ่นสะดวกกับการพกพา) แล้วเอาหม้อใบหนึ่งตักน้ำ ไปยืนคอยพวกช่างดอกไม้กลับจากป้า ให้ชิ้นน้ำอ้อยและให้ดื่มน้ำคนละกระบวย พวกช่างดอกไม้ก็ให้ดอกไม้คนละกำมือแก่เขา

จูฬันเตวาสิกเอาดอกไม้ไปขายได้เงินกลับมามากขึ้น ก็นำเงินนั้นไปซื้อน้ำอ้อยงบและไปยืนคอยพวกช่างดอกไม้เช่นเดิม ทำเช่นนี้จนเขามีเงินถึง 8 กหาปณะ (4 บาทเท่ากับ 1 กหาปณะ)

วันหนึ่ง ฝนตก พายุหนัก กิ่งไม้แห้งบ้างสดบ้างถูกพายุพัดลงมาเป็นอันมากในพระราชอุทยาน คนเฝ้าอุทยานไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดี จูฬันเตวาสิกจึงรีบไปบอกคนเฝ้าว่า ถ้าจะให้ใบไม้กิ่งไม้เหล่านั้นแก่เขา เขาจะขนออกไปให้หมด คนเฝ้าสวนดีใจรีบบอกให้เขามาขนไปในทันที

ด้วยความดีใจ จูฬันเตวาสิกรีบกลับไปที่สนามเด็กเล่น ให้น้ำอ้อยแก่เด็ก ๆ แล้วขอแรงให้ช่วยขนกิ่งไม้จนหมดภายในเวลาไม่นาน กิ่งไม้จำนวนมากกองอยู่ที่หน้าประตูพระราชอุทยาน ก็พอดีกับช่างหม้อหลวงที่มาเที่ยวหาฟืน เพื่อเผาภาชนะดินของหลวงพบเข้า จึงขอซื้อกิ่งไม้เหล่านั้น

จาก การขายไม้ ชายยากจนอย่างจูฬันเตวาสิกมีทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 16 กหาปณะแล้ว เมื่อมีทรัพย์มากขึ้น เขาจึงคิดอะไรได้อย่างหนึ่ง ด้วยการตั้งตุ่มน้ำไว้ไม่ไกลจากประตูเมือง เพื่อให้บริการคนหาบหญ้า 500 คน เหล่านคนหาบหญ้าพอใจในบริการที่มีน้ำใจของเขา จึงเอ่ยปากว่า หากต้องการให้พวกตนช่วยอะไร ขอให้บอกได้เลย

นอกจากคนหาบหญ้าแล้ว จูฬันเตวาสิกยังได้ผูกมิตรกับคนมากหน้าหลายตา ทำให้เขามีเพื่อนมากมาย วันหนึ่ง เพื่อนดีคนหนึ่งก็มาบอกข่าวแก่เขาว่า พรุ่งนี้จะมีพ่อค้าม้านำม้า 500 ตัวมายังนครแห่งนี้ จูฬันเตวาสิกจึงไปพบคนหาบหญ้า และขอซื้อหญ้าเตรียมเอาไว้

วันรุ่งขึ้น พ่อค้าม้านำม้า 500 ตัวมาถึง ก็พบว่ามีเพียงจูฬันเตวาสิกที่มีหญ้าขาย เขาได้กำไรจากการขายหญ้าในครั้งนี้ 1,000 กหาปณะ

โอกาสต่อมา ก็มีเพื่อนมาแจ้งข่าวแก่เขาว่า มีพ่อค้านำเรือสำเภาขนาดใหญ่มาจอดเทียบท่า จูฬันเตวาสิกไม่รอช้า รีบไปขอเหมาสินค้าทั้งลำเรือเอาไว้ เมื่อพ่อค้ารายอื่นมาถึงจึงต้องมาซื้อสินค้าจากเขา สุดท้ายเขาได้ทรัพย์มาเป็นจำนวนถึง 200,000 กหาปณะ

เมื่อได้ทรัพย์เป็นจำนวนมากเช่นนี้ เขาก็เกิดความคิดว่า "เราควรเป็นคนกตัญญู นำทรัพย์ที่ได้ไปตอบแทนท่านเศรษฐี"

เร็วเท่าใจคิด จูฬันเตวาสิกถือทรัพย์ 100,000 กหาปณะไปมอบให้เศรษฐีเพื่อเป็นการตอบแทน พอท่านเศรษฐีทราบเรื่องทั้งหมด เห็นในสติปัญญา และความเฉลียวฉลาด จึงยกลูกสาวให้แต่งงานด้วย และเมื่อเศรษฐีล่วงลับไปแล้ว จูฬันเตวาสิกก็ได้เป็นเศรษฐีแห่งเมืองนั้นสืบต่อมา

นิทาน เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า การเชื่อฟังท่านผู้รู้ ไม่ดูเบาต่อคำสั่งสอน พยายามปฏิบัติตาม และทำอย่างมีปัญญา ใคร่ครวญพิจารณาให้ดี มีความคิดรอบคอบ และเมื่อได้ทรัพย์มาแล้วก็ระลึกถึงผู้มีพระคุณ บุคคลผู้มีคุณสมบัติเช่นนี้ ย่อมไม่ตกต่ำ มีแต่จะตั้งตนได้และเจริญรุ่งเรือง ความรู้ ความประพฤติ และการงานที่ดีย่อมเป็นที่พึ่งพิงของบุคคลได้ดีกว่าสิ่งอื่น ดังภาษิตที่ว่า "ไม่มีมิตรใดเสมอได้ด้วยวิชชา"

ชะตากรรมเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหยั่งถึงได้ แต่ความเพียรพยายามเป็นสิ่งที่เรารู้ได้และอยู่ในอำนาจของเรา การทำความเพียรให้เป็นหน้าที่ของเรา การให้ผลเป็นหน้าที่ของกรรม

เมื่อหวังความสำเร็จผล ก็ต้องรู้จักรอคอย และควรคอยอย่างสงบ ไม่ใช่กระวนกระวายใจ อะไรที่ควรได้ ย่อมได้มาเองโดยผลแห่งกรรม หรือความเพียรชอบนั้นแล

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากหนังสือ "เพื่อเยาวชน" ของสำนักพิมพ์คนรู้ใจค่ะ

...

 

โดย: som...jaaa... IP: 202.57.171.236 3 สิงหาคม 2552 0:34:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


loykratong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ไม่มีอะไรขึ้นตลอด
ไม่มีอะไรลงตลอด
...ไม่มี the end of the world ...

Web Site Hit Counters

ราคาทองคำ
 

ราคาทองคำต่างประเทศ



Friends' blogs
[Add loykratong's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.