ตุลาคม 2559
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
21 ตุลาคม 2559

พระเศวตฯ





“เมื่อคุณพระเศวตฯ ยังเป็นลูกช้างเล็กๆ อยู่ที่บ้านกำนันในจังหวัดยะลา และยังไม่ได้ถวายตัวขึ้น ปรากฏว่า วันหนึ่งมีสุนัขตัวเมียป่วยหนักใกล้ตายชื่อนางเบี้ยว (สุนัข) เป็นโรคอย่างหนักขนาดชักกระตุกไปทั้งตัว แทบจะเอาชีวิตไม่รอดอยู่แล้วได้กระเสือกกระสนมาบริเวณที่คุณพระเศวตเล็กกำลังอาบน้ำอยู่ ได้กินน้ำที่ ใช้อาบตัวคุณพระอาการป่วยก็หายไป คงเหลือเพียงอาการปากเบี้ยว และกลายเป็นสุนัข ที่คอยคลอเคลียติดตามคุณพระเศวตเล็กตลอดมา ได้ชื่อว่า "เบี้ยว"

นางเบี้ยวก็กตัญญูรู้คุณ ติดตามคุณพระเศวตฯ เรื่อยมา ไม่ยอมห่าง
และได้เป็นเพื่อนต่างสายพันธุ์ที่แนบแน่น คุณพระก็เมตตาเอ็นดูนางเบี้ยวถือว่านางเบี้ยวเป็นหมาของคุณพระ

เมื่อถึงคราวที่คุณพระเศวตฯจะต้องเข้ามาอยู่กรุงเทพฯเพราะเป็นช้างต้นขึ้นระวางแล้ว ทั้งคุณพระเศวตฯและนางเบี้ยวก็ทุรนทุรายเดือดร้อนมาก นางเบี้ยวร้องทั้งกลางวันและกลางคืนจะตามคุณพระมาด้วย

เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท จึงมีพระราชกระแส ว่า" ช้างทั้งตัวยังเอาไปได้ ทำไมหมาอีกตัวเดียวจะเอาไปไม่ได้ ให้เอาหมาไปด้วยเถิด สงสารมัน อย่าไปพรากมันเลย"

นางเบี้ยวติดตามเข้ามาอยู่กับคุณพระเศวตฯ เล็กในสวนจิตรลดาด้วย และเป็นที่รักชอบของคนในวัง เมื่อเข้ามาอยู่ในรั้วในวังก็เลื่อนฐานะขึ้นเป็นแม่เบี้ยว บางคนเรียกคุณเบี้ยวด้วยซ้ำไป และได้ออกลูกออกหลานไว้ที่โรงช้างนั้นเป็นจำนวนมาก

แม่เบี้ยวตายไปหลายปีแล้ว แต่คุณพระเศวตฯ ก็ยังเลี้ยงลูกหลานแม่เบี้ยวสืบมา เวลาคุณพระเศวตฯ ออกเดินในสวนจิตรลดาหมาคุณพระทั้งปวงก็วิ่งตามเป็นฝูงและเชื่อฟังคุณพระทุกอย่าง

เมื่อครั้งพระนางเจ้าอลิซาเบธแห่งกรุงอังกฤษเสด็จพระราชดำเนินที่พระตำหนักจิตรลดา คุณพระเศวตฯ ก็มายืนคอยรับเสด็จ หมาทั้งปวงของคุณพระก็มาวิ่งเล่นกันอยู่เต็มสนาม

ผม(ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช)บังเอิญไปเห็นเข้าก็เข้าไปกระซิบคุณพระว่า หมา กระจัดกระจายเต็มทีแล้ว คุณพระได้ยินดังนั้น ก็ร้องเหมือนเสียงแตร หมาทั้งปวงก็วิ่งกลับมารวมกันอยู่บริเวณต้นไม้ใกล้ๆ คุณพระ ไม่ซุกซนต่อไป มีอยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งคุณพระออกจะรักมาก วิ่งเข้ามาอยู่ใต้ท้องคุณพระ อาศัยคุณพระเป็นเงาบังร่ม

ควาญเล่าว่า เวลากลางคืนหมาหลายสิบตัวเหล่านี้ จะนอนแวดล้อมคุณพระ ใครเดินเข้าไปในเวลากลางคืนก็จะเห่าขึ้น
พร้อมกัน และถ้าใครขืนเดินตรงไปถึงตัวคุณพระ ก็คงโดนหมารุมกัดแน่ๆ

คุณพระเศวตฯ เล็กมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวอย่างน่าอัศจรรย์ แลเห็นพระองค์ต้องยกงวงขึ้นจบถวายบังคมทุกครั้งโดยไม่ต้องมีใครบอก และถ้าเสด็จพระราชดำเนินลงไปเยี่ยมที่โรงช้าง คุณพระก็จะเฝ้าฯ ไป และถวายบังคมไปเป็นระยะไม่มีขาด จนพระกรุณาตรัสว่า "ไม่ต้องถวายบังคมบ่อยถึงเพียงนั้น คุณพระจึงจะหยุดถวายบังคม”...

หม่อม ราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช บันทึกว่า คุณพระเศวตเล็ก ถูกพบโดยนายเจ๊ะเฮง หะระตี กำนันตำบลการอ โดยโขลงช้างเดินทางเข้ามาใกล้หมู่บ้านในเวลากลางคืน พอตอนเช้าก็พบเห็นลูกช้างพลัดฝูงอยู่ใต้ถุนบ้าน สันนิษฐานว่าแม่ช้างจะรู้ว่าลูกช้างตัวนี้เป็นช้างสำคัญ และนำมาส่งที่หมู่บ้าน เพื่อเข้ามาสู่พระบารมี ตั้งแต่ยังไม่หย่านม
พระเศวตสุรคชาธารฯ หรือ คุณพระเศวตฯ เล็ก เป็นช้างพลายเผือก เกิดในป่าตำบลการอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา

ทางสำนักพระราชวัง โดยพระราชวังเมือง (ปุ้ย คชาชีวะ) เจ้ากรมช้างต้นได้ตรวจสอบ พบว่าลูกช้างนั้นมีมงคลลักษณะถูกต้องตามคชลักษณศาสตร์ อยู่ในพรหมพงศ์ ตระกูลช้าง 10 หมู่ ชื่อ “ดามพหัตถี” พระเศวตสุรคชาธารนับเป็นช้างต้นช้างที่สามในรัชกาลปัจจุบัน

พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย หลังจากพิธีสมโภชขึ้นระวาง และย้ายไปยืนโรงที่โรงช้างต้น พระราชวังดุสิต นางเบี้ยวก็ได้ติดตามมาด้วย และออกลูกหลานติดตามคุณพระเศวตเล็ก อยู่ภายในพระราชวังดุสิตอีกหลายสิบตัว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จราชดำเนินทรงประกอบพิธีสมโภช ที่จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2511 พระ(ราช)ทาน นามว่า

" พระเศวตสุรคชาธาร บรมนฤบาลสวามิภักดิ์ศุภลักษณเนตราธิคุณ
ทศกุลวิศิษฏ พรหมพงศ์อดุลยวงศ์ตามพหัตถี ประชาชนะสวัสดี
วิบุลยศักดิ์อัครสยามนาถสุรพาหน มงคลสารเลิศฟ้า ๚ "

พระ เศวตสุรคชาธาร เคยเป็นพระสหายในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เมื่อยังทรงพระเยาว์ ได้ตามเสด็จราชดำเนินแปรพระราชฐานไปยังวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์อยู่เสมอ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีเพื่อนเล่นเป็นพระยาช้างสำคัญคู่พระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือพระเศวตสุรคชาธารฯ ช้างต้นช้างที่สามในรัชกาลที่ ๙ ซึ่งปัจจุบันล้มลงแล้ว ทรงเรียกพระเศวตสุรคชาธารฯ ว่า "คุณพระ" ทรงกล่าวถึง "คุณพระ" ไว้ในบทพระราชนิพนธ์เดียวกันว่า "เมื่อเวลาแปรพระราชฐานไปหัวหิน ก็โปรดฯให้คุณพระและสุนัขบริวารทั้งฝูงโดยเสด็จด้วย เหตุนี้ฉันจึงคุ้นเคยกับคุณพระเป็นพิเศษ ฉันนั่งเล่นบนเสื่อ คุณพระก็นั่งด้วย (บางครั้งจะนั่งตักฉัน ต้องคอยเขยิบหนี)..."ที่มา หนังสือ เจ้าหญิงในดวงใจประชาชน)

ในความเชื่อที่มีมาแต่โบราณของไทยถือว่าเป็นเครื่องเชิดชูเกียรติประดับบารมีของพระมหากษัตริย์ เมื่อมีช้างเผือกเข้ามาสู่พระบารมีจะทรงโปรดเกล้าฯ ให้ทำพิธีสมโภชขึ้นระวาง พระราชทานนามเป็น "พระยาช้างต้น หรือนางพระยาช้างต้น" และให้ยืนโรงช้างประจำพระราชฐาน พระมหากษัตริย์พระองค์ใด มีช้างเผือกมาก จะเชื่อกันว่ามีพระบุญญาบารมีมาก สำหรับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 นี้ จวบจนถึงปัจจุบัน

แม้น เหตุการณ์เมื่อวันวารจะผ่านมาแล้วเกือบ ๔๐ ปี แต่ทว่าทุกวันนี้ผู้คนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะพสกนิกรในจังหวัดยะลา ต่างจดจำเหตุการณ์แห่งความประทับใจได้อย่างมิรู้ลืม เพราะในวันนั้นผู้คนนับหมื่นต่างไปร่วมชุมนุมเฝ้าชมงานพระราชพิธีสมโภชและ ขึ้นระวาง พระเศวตสุรคชาธารเป็นช้างสำคัญคู่พระบารมีตามโบราณราชประเพณี

พระเศวตสุรคชาธาร ได้ล้มลง ณ โรงช้างต้นเมื่อ พ.ศ. 2520

เรื่องเล่าจาก “ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
ที่มา//topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/12/K8703834/K8703834.html
ดูรูปคุณพระได้ที่ https://www.facebook.com/madeaw.sri.1/posts/10154143911889757




Create Date : 21 ตุลาคม 2559
Last Update : 21 ตุลาคม 2559 22:37:36 น. 0 comments
Counter : 845 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

lovevalentine
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add lovevalentine's blog to your web]