Somebody's me... Nobody's know.. You are what you thinks.. and.. I am who i am.. Whatever will be, will be..
Group Blog
 
<<
กันยายน 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
23 กันยายน 2559
 
All Blogs
 

เขียนไปให้สุดฝัน : วินทร์ เลียววาริณ











เขียนไปให้สุดฝัน

วินทร์ เลียววาริณ

หนังสือในโครงการ เติมหัวใจใส่ห้องสมุด

จำนวน 431หน้า ราคา 350.-


หนังสือแฉ (share)

ประสบการณ์การเขียนนิยายของ วินทร์ เลียววาริณ


จากโปรยปกหลัง

            เขียนไปให้สุดฝัน เป็นหนังสือที่อธิบายวิธีการเขียนเรื่องสั้น และ นวนิยายแบบต่างๆ วิธีคิดเรื่อง สังเคราะห์ไอเดีย วางพล็อต ฯลฯ อธิบายว่าทำไมจึงเขียนแบบนั้นแบบนี้ เมื่อไรควรให้รายละเอียดตัวละคร เมื่อไรไม่ควร เมื่อไรควรบรรยายฉาก เมื่อไรไม่ควร ฯลฯ โดยยกตัวอย่างประกอบเป็นกรณีศึกษา รวมถึงวิธีวางแผนเป็นนักเขียนมืออาชีพ


เดินบนเส้นทางคนขายฝัน

               ในหนังสือ คุณวินทร์เล่าเรื่องราวตั้งแต่กลับจากต่างประเทศ เริ่มตั้งไข่กับงานเขียนครั้งแรกที่ทำพร้อมกันสองแนวทาง แนวแรกคือเรื่องสั้นแบบ ‘พล็อตจ๋า’ เน้นความบันเทิงอย่างเดียว อ่านเอาสนุกมาก่อนสาระ กับอีกแบบคืองาน ‘วรรณกรรมจ๋า’ ถ่ายทอดความคิดเน้นศิลปะลุ่มลึกกว่าแบบแรก

คุณวินทร์ให้คำอธิบายแนวทางนี้ไว้ในคำนำหนังสือ เป็นที่มาของ ‘เขียนไปให้สุดฝัน’ และเคยลงไว้ในเว็บไซด์ในชื่อ ‘เงาของนักเขียนคนหนึ่ง’


หาเรื่องเขียน

             เล่าถึงวิธีหาเรื่องมาเขียน หาจากไหนอย่างไร คุณวินทร์บอกว่างานเขียนในโลกมีมากมาย อ่านทั้งชีวิตก็ไม่หมด ไม่ว่าจะเขียนอะไรใหม่ก็ดูเหมือนจะมีคนเขียนมาหมดแล้ว เปรียบกับเวลาเข้าร้านอาหาร ไม่ว่าใหม่แค่ไหน เราก็วัดคุณค่าอาหารที่รสชาติดี กินอิ่ม มีความสุข

          งานเขียนนิยายก็เช่นกัน เรามิได้วัดจากรางวัลที่ได้รับ หรือผลกระทบของมันต่อสังคมโลก เป็นแรงผลักดันให้เกิดสงคราม สันติภาพ หรือการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงสังคมสักกี่ครั้ง เราวัดคุณค่าของหนังสือนิยายที่ความบันเทิง ความลุ่มลึกของสาระ และความงดงามแห่งการประพันธ์ แค่นี้พอแล้ว

          บางทีจุดสำคัญไม่ได้อยุ่ที่ทำของ ‘ใหม่’แต่ต้องทำงาน ‘ดี’ นักเขียนไม่ควรลืมว่าการเขียนหนังสือควรเป็นประสบการณ์ที่สนุก ไม่ใช่ความทรมานและฝันร้ายตลอดเวลาที่งานไม่เสร็จ และเครียดว่าคนอ่านจะชอบมันไหม

          นิยายทุกเรื่องเป็น fiction แต่ไม่ใช่ fiction ทุกเรื่องเป็น Literature เราเรียก fiction ที่มีคุณภาพ มีความงดงามของเรื่องและภาษามีความลุ่มลึกว่า Literature มันเป็นเรื่องอะไรก็ได้ ขอให้เขียนได้ลุ่มลึกได้อารมณ์ มีสาระวิตามินครบ และงดงามทางศิลปะการประพันธ์ เปรียบเหมือนจิตรกรผู้ใช้สีโหลๆ ราคาถูกมาวาดเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับฝีมือ ไม่ใช่คุณภาพของสีหรือพู่กัน


ศิลปะการเปรียบเทียบ

            คุณวินทร์เล่าเกี่ยวกับการวาดภาพกับการเขียนนิยาย ว่ามีหลักการและองค์ประกอบคล้ายหรือแตกต่างกันอย่างไร อะไรเป็นจุดเด่นของภาพ เส้นนำสายตา การทำให้ภาพน่าสนใจ เปรียบได้กับการวางโครงเรื่องของนิยาย หรือเรื่องสั้นก็อาศัยหลักการเดียวกันนี้

           จุดนำสายตา คือการเปิดเรื่องและการปูเรื่อง จุดเด่นคือไคลแมกซ์ของเรื่องการวางภาพแบบที่จุดเด่นไม่อยู่กลางภาพ ก็คือการเล่าเรื่องแบบไม่บอกหมดให้คนอ่านคิดเอง ผสมเองนักเขียนสร้างองค์ประกอบและพล็อตย่อยที่ต้องการแล้วร้อยพวกมันเข้าด้วยกันในลักษณาการเดียวกับการวาดรูป เมื่อนักเขียนวางโครงเรื่องจนได้องค์ประกอบภาพลงตัวแล้ว ก็ ‘ระบายสี’ โดยใส่รายละเอียดของตัวละครฉาก บทบรรยาย บทสนทนา ฯลฯ เพื่อให้เรื่องชัดเจนสมบูรณ์

          นวนิยาย คือการคลุกกันของพล็อตย่อย ดนตรีคือการคลุกกันของตัวโน้ต ถ้าคลุกกันได้อย่างสมดุลก็เป็นงานที่ดี คุณวินทร์บอกว่า การเขียนนิยายก็คือการทำงานศิลปะชิ้นหนึ่ง เมื่อมันเป็นศิลปะ มันจะเป็นอะไรก็ได้ตามใจอิสระ ไม่จำเป็นต้องมีแต่ตัวหนังสือ หรือเป็นตามขนบที่ทำมาหลายร้อยปี ความงามคือสัดส่วนที่ดี คือความลงตัวในศิลปะทุกแขนง


Less is more

           ปัญหาของงานศิลปะจำนวนมาก คือมีองค์ประกอบในงานมากเกินไป นักเขียนควรรู้ว่าอะไรควรเน้น อะไรควรเป็นกลาง อะไรควรเบลอ องค์ประกอบต้องมีอยู่แต่ไม่สำคัญก็ทำให้มันเจือจางลงกลายเป็นกลาง 

          คำถามคือรู้ได้อย่างไรว่าแค่ไหนจึงจะพอดีไม่มากไป ง่ายนิดเดียว! คำตอบคือ ถ้าตัดฉากนั้นออกไปแล้วยังอ่านรู้เรื่องแสดงว่าฉากนั้นไม่จำเป็นต้องมีอยู่

          งานเรื่องสั้นและนวนิยายต้องรู้จักเว้นพื้นที่ว่าง ไม่ต้องบรรยายทุกจุดรายละเอียดของฉากและตัวละคร ฉากที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่หรือทำให้เป็นกลาง หรือ ‘เบลอ’ งานเขียนที่อัดเนื้อเรื่องจนไม่มีพื้นที่ให้หายใจอ่านแล้วชวนวาง


พล็อตย่อย

            คุณวินทร์เล่าว่า หากคัดเลือกนักเขียนที่เก่งในเรื่องเน้นพล็อต (plot-based) ของโลกมาสักสิบคน กิมย้ง คือหนึ่งในนั้น ตลอดชีวิตเขาเขียนนวนิยายและเรื่องสั้นแค่สิบห้าเรื่องเท่านั้น แต่แทบทุกเรื่องทำให้ยุทธจักรสะเทือน 

            กิมย้งเป็นนักอ่านตัวยงทั้งตำนานจีน ไปจนถึงวรรณกรรมตะวันตก เมื่อเขานำวิธีการแต่งเรื่องแบบตะวันตกมาผสมกับวิธีการเขียนแบบตะวันออก ผสานกับจินตนาการไร้ขอบเขตของเขา ก็คือกำเนิดของนิยายจีนกำลังภายในแนวใหม่ กิมย้งเป็นราชาแห่งการสร้างพล็อต พล็อตหลัก และพล็อตย่อยของเขาประณีตอย่างยิ่ง

          แม้ว่านวนิยายสามารถมีพล็อตย่อยได้ไม่จำกัด ก็ยังต้องเชื่อมพล็อตย่อยเข้าด้วยกันเพื่อไม่ให้เรื่องรุงรัง เรื่องย่อยในเรื่องสั้นอาจจะใช้ตัวละครตัวเดียวกันเชื่อม ตัวอย่างที่คลาสสิคและงดงามที่สุดเรื่องหนึ่งคือ The Godfather 2 ของฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา และมาริโอ พูโช (ลองหาอ่านจากหนังสือได้ตัวอย่างละเอียดมาก) หลักการง่ายๆ คือ ไม่ว่าจะมีกี่พล็อตย่อย โยงมันเข้ากับแกนกลางเรื่องเสมอ ถ้าพล็อตย่อยนั้นไม่สามารถเสียบเข้ากับแกนกลาง สมควรพิจารณาตัดมันทิ้งไป

ปัญหาของนวนิยายจำนวนมาก คือสร้างพล็อตย่อยที่ไม่เกี่ยวกับแกนเรื่องหลัก เป็นพล็อตย่อยลอยๆ นึกจะใส่ก็ใส่เข้าไป โดยไม่สนใจว่ามันจะส่งผลต่อแกนเรื่องหลักอย่างไร หรือบางทีก็ส่งผลเพียงเล็กน้อย คุณวินทร์แนะนำว่า อย่าเสียดายถ้ามันไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง เจี๋ยนมันทิ้งไปเลย แต่เก็บท่อนที่ตัดไว้ในฐานข้อมูลอาจได้ใช้ในโอกาสหน้า

เรื่องพล็อตย่อยไม่จำเป็น มียกตัวอย่างเรื่องมังกรหยกภาคแรก กับ Pulp Fiction ที่คุณวินทร์ยกมาเปรียบอย่างละเอียด แยกเป็นฉาก พล็อตรอง พล็อตหลัก

เรื่อง RedHerring การปูพื้นนิยาย คุณวินทร์เล่าเทคนิคในการปูพื้นแบบเล่าย้อน ซ่อนไว้ หลอก เบี่ยงเบนความสนใจ ที่มักใช้ในนิยายสืบสวนฆาตกรรม โดยยกตัวอย่างจากนวนิยายเรื่องปีกแดง

       Chekhov’s Gun นักเขียน AntonChekhov เขียนไว้ว่า “ถ้าในบทที่ 1คุณแต่งเรื่องให้มีปืนยาวกระบอกหนึ่งแขวนไว้บนผนัง ในบทที่ 2 หรือ 3 ปืนนั่นต้องยิงอะไรสักอย่าง ถ้าไม่ยิง มันก็ไม่ควรอยู่ในเรื่องตั้งแต่แรก” นี่เป็นที่มาของคำว่า Chekhov’s Gun

             ในวงการเขียนมักใช้วลีนี้ เมื่อเอ่ยถึงองค์ประกอบที่ดูไม่สำคัญ แต่กลายเป็นจุดสำคัญโดยนักเขียนเจตนาให้จุดนั้นดูไม่สำคัญ คุณวินทร์ยกตัวอย่างเรื่อง The Shawshank Redemtion อย่างละเอียด ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีมากของการใช้ Chekhov’s Gun ที่ได้ผลดีมาก และอีกเรื่องที่หักมุมโดยใช้องค์ประกอบนี้ได้ผลคือเรื่อ งThe Sixth Sense (มีการยกตัวอย่างและอธิบายจุดสำคัญไว้อย่างละเอียดในหนังสือ)


ลำดับเรื่อง

คุณวินทร์ยกตัวอย่างเรื่อง Memento ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ว่าเป็นตัวอย่างการจัดลำดับฉากเล่าเรื่องที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง ส่งผลให้พล็อตที่ดูธรรมดากลายเป็นเรื่องที่สุดยอดที่สุดเรื่องหนึ่งของวงการภาพยนตร์ 

           การจัดลำดับเหตุการณ์ของเรื่อง เป็นกระบวนการที่สำคัญมากในการเขียนเรื่องสั้นและนวนิยายเรื่องที่พล็อตดีมาก แต่จัดลำดับไม่เป็น อาจน่าเบื่อ ตรงกันข้าม เรื่องที่มีพล็อตธรรมดาแต่จัดเหตุการณ์ก่อนหลังได้ดี มักจะดี หรืออย่างน้อยที่สุดก็รอดตัว

           จะเห็นว่าวิธีการเล่าแต่ละแบบเหมาะสมกับนิยายแต่ละเรื่อง ขึ้นอยู่กับการออกแบบเรื่องว่าวิธีไหนให้พลังมากที่สุด จะเขียนเรื่องที่สนุกและจับคนอ่านอยู่ นักเขียนต้องรู้ว่าควรเริ่มเล่าจากตรงไหน


การเปิดเรื่อง

             คุณเคยมีอาการ ‘รักแรกพบ’ ไหม? คุณเจอผู้หญิงหรือผู้ชายคนหนึ่งแล้วชอบเธอหรือเขามาก จนแอบกระซิบกับตัวเองว่า เป็นความรักแน่เลย  แน่ละ มันยังไม่ใช่ความรัก แต่อาการชอบสุดขีดแบบนี้ ควรเป็นเป้าหมายของการเปิดเรื่องสั้นและนวนิยายทุกเรื่อง

          การเปิดเรื่องก็เหมือนกับการที่คุณมีนัดกับคู่นัดครั้งแรก ต้องแต่งตัวให้เหมาะสมดูดี แต่ไม่เผยหมด พบกันครั้งแรกแล้วประทับใจ รู้สึกว่าคู่นัดมีสิ่งที่น่าค้นหาต่อ แต่อย่างไรก็ตามการเปิดเรื่องแบบ ‘เอาอยู่’ ไม่จำเป็นต้องใช้ฉากแอคชั่นเสมอไป

          ฉากเปิดเรื่องแบบสร้างความอยากรู้อยากเห็น คือหัวใจการเปิดเรื่อง TheMatrix (มีตัวอย่างในหนังสืออย่างละเอียด) ส่วนมากมันมีอยู่ในนิยายระทึกขวัญ Thriler

ฉากเปิดแบบใช้อารมณ์สะเทือนใจ เป็นวิธีที่ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเศร้าน้ำตาไหลท่วมหัวเข่า แต่เป็นข้อความที่อ่านแล้วใจสะเทือน คุณวินทร์ยกตัวอย่างเรื่อง ผีเสื้อกับดอกไม้ไฟมาแนะนำในหนังสือ

          ฉากเปิดเรื่องโดยบรรยายธรรมชาติ งานนักเขียนชั้นครูสมัยก่อนจำนวนมาก เปิดเรื่องโดยบรรยายฉากธรรมชาติ ใช้ภาษาสวยงาม บรรยายเห็นภาพพจน์  วิธีเปิดเรื่องแบบนี้ค่อนข้างเนิบนาบ เป้าหมายคือใช้อารมณ์เรื่องจับคนอ่าน การเปิดเรื่องแบบนี้ต้องใช้ฝีมือทางภาษามากกว่าการเปิดเรื่องแบบอื่น 

          คุณวินทร์ยกตัวอย่างบทเปิดเรื่องของนวนิยาย แผ่นดินของเรา ของนักเขียนชั้นครู แม่อนงค์ (มาลัย ชูพินิจ)และอีกหลายเรื่องที่มีบทเปิดเรื่องบรรยาย

          นอกจากนี้ยังมีฉากเปิดเรื่องโดยการใช้ตัวละคร, บทสนทนา , เล่าเหตุการณ์ , ฉากแอ็คชั่น , ฉากเซ็กส์ , ภาพแอ็บสแทร็ก , แนวทดลอง, แบบผสม ที่ยกตัวอย่างงานคุณวินทร์เอง และอีกหลายเรื่องเป็นการเปิดเรื่องที่ยกตัวอย่างแบบเข้าใจง่าย

          ที่ยกมายังไม่ถึงครึ่งเล่มของหนังสือ ยังมีเรื่องดีๆ ที่น่ารู้อีกมากทั้ง ฉากปิดนิยาย เทคนิคต่างๆ ในการเขียนนวนิยาย เรื่องสั้น อารมณ์ขัน เทคนิคการเล่าเรื่องแบบต่างๆ การหักมุมการใช้สัญลักษณ์ในงานเขียน เทคนิคการเขียน หลายอย่างสามารถนำเอามาใช้ และสร้างสรรค์งานได้และอ่านเข้าใจง่าย


ปิดท้ายบทที่เรื่องน่าอัศจรรย์

คุณวินทร์บอกว่า คำว่า ‘นักเขียนอาชีพ’แปลว่าจ่ายค่าอาหาร ค่าน้ำค่าไฟ ค่าดูหนัง ค่าเล่าเรียนลูก ทุกอย่างด้วยรายได้จากการเขียนหนังสือหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ แค่คิดจะเป็นนักเขียนอาชีพ ก็น่ากลัวแล้ว

          รอดชีวิตมาสิบปี ในฐานะนักเขียนอาชีพรู้สึกอย่างไร? รู้สึกว่าปาฏิหาริย์มีจริง! ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! แต่ปาฏิหาริย์ชนิดนี้มาพร้อมการออกแรง การเขียนหนังสือเป็นงานหนัก การเขียนให้ดียิ่งหนัก การรักษาคุณภาพต่อเนื่องยิ่งหนักเข้าไปอีก

           การเป็นนักเขียนอาชีพเมืองไทยมีข้อจำกัดอย่างหนึ่งคือเรื่องรายได้ หยุดเขียนวันไหน ก็อดวันนั้น เพราะรายได้จากการพิมพ์หนังสือขาย ไม่ใช่เงินก้อนใหญ่ที่อนุญาตให้เกษียณได้ การทำงานโดยมีภาระนี้ค้ำคออยู่ ทำให้ทำงานดีได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น

          นักอ่านก็เปลี่ยนไป คนอ่านแบบจริงจังมีน้อยลง จากกลุ่มที่อ่านทุกอย่าง เป็นกลุ่มที่อ่านเฉพาะบางแนวเท่านั้น และหลายคนวิวัฒนาการเป็นพวกชอบอ่านข้อความสั้น บทความหนึ่งหน้าถือว่า “ยาวมาก” โมเดลเขียนเอง-พิมพ์เอง-ขายเอง จึงอาจเป็นทางรอดทางเดียวก็เป็นได้

          ในวงการนักเขียน ประสบการณ์สามสิบปีไม่จัดว่ายาว เพราะการเรียนรู้ไม่มีจุดสิ้นสุดนักเขียนที่คิดว่าตัวเองเก่งแล้ว ไม่ต้องเรียนอะไรใหม่ คือนักเขียนที่ตายแล้ว นักเขียนต้องตามโลกให้ทัน การเปิดโลกทำให้ได้รับข้อมูลใหม่ๆ มาทำงานตลอดเวลา ทำให้ไม่ตัน นี่แปลว่านักเขียนไม่เพียงต้องเป็นนักอ่านตัวยง ยังต้องเป็นนักคิด คิดไกลกว่าคนอื่น ตั้งคำถามต่อทุกสิ่ง

          เมื่อมองโลกทะลุ ก็มีมุมมองการเขียนที่ลึกขึ้นกว่าแค่เขียนนิยายธรรมดาเรื่องหนึ่ง การเข้าใจโลกทำให้เราเขียนงานที่สมจริง แม้จะเป็นนิยายน้ำเน่า ก็เขียนได้ลึกกว่า สมจริงกว่า

          นักเขียนควรเป็นอิสระจากกรอบคิด ก้าวข้ามกติกา ความเคยชิน ลองเขียนเรื่องที่ไม่เคยเขียนมาก่อนบ้างจะสนุก หากนักเขียนไม่สนุกกับการเขียนหนังสือ ผู้อ่านจะสนุกได้อย่างไร อีกข้อหนึ่งนักเขียนควรมีคุณสมบัติของการเป็นนักคิดด้วย คือไม่ใช่รอสิ่งที่เป็นข้อมูลชั้นสองหรือผู้อื่นเล่าให้ฟัง เราคิดริเริ่มขึ้นมาก่อนได้ เดินนำหน้าผู้อ่านสักสองสามก้าวเสมอ

          หน้าสุดท้ายของหนังสือ คุณวินทร์เขียนไว้ว่า คนอยากเขียน มีลมหายใจได้ด้วยการเขียน มีสาระหรือไม่มีก็ช่าง แค่อยากเขียน เหมือนคัน ก็ต้องเกา 

          ดังฉะนี้ ใครอยากเขียน ก็เขียน อย่าเพิ่งรีบคิดไปไกล ว่าจะพิมพ์งานที่ไหน จะขายได้กี่เล่ม จะสวมสูทตัวไหนไปรับรางวัล เขียนๆๆๆๆ เขียนให้หายคันในหัวใจ เขียนแล้วมีความสุขก็เท่ากับได้รับรางวัลเรียบร้อยแล้ว

         จงเขียนด้วยใจรักงานเขียน เขียนด้วยความเพียร เขียนด้วยความทนทาน ความรักในการเขียนจะให้ศิลปะความเพียร ให้ผลงาน ความทนทานให้พลัง ที่จะเดินไปข้างหน้าเมื่อได้เป็นนักเขียน

          ความจริงคือ คนที่ไม่ได้เป็นนักเขียน ร้อยละร้อยไม่ใช่เพราะเขียนแย่ แต่เพราะเลิกล้มกลางคัน เพราะจะเป็นนักเขียนต้องทนทานเหมือนยางรถยนต์ แล่นไปได้ทุกสภาพถนน ทุกสภาพดินฟ้าอากาศ หมุนไปข้างหน้าตลอดเวลา

           ระยะทางยังอีกไกล ก้มหน้าเขียนไปและเขียนไปให้สุดฝัน...



เล่มนี้ของพี่ดียังไง?

           เขียนไปให้สุดฝัน ไม่ใช่หนังสือตำราสอนงานเขียนแบบเป็นเรื่องเป็นราว แต่เป็นหนังสือแชร์ประสบการณ์งานเขียนกว่าสามสิบปีของคุณวินทร์ ที่อ่านง่าย ให้ข้อมูลได้กว้างมาก หลายข้อสำคัญยกตัวอย่างจากภาพยนตร์ที่เคยดู ทั้งที่ดูแล้วชอบมาก ดูแล้วกลางๆ หรือดูแล้วไม่เข้าใจเลย แต่ผ่านตาจากหนังทำให้เข้าใจได้ไม่ยากเมื่อยกตัวอย่างเปรียบเทียบ

คุณวินทร์อธิบายแต่ละฉากได้อย่างเห็นภาพ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการดำเนินเรื่อง หรือบทเปิดเรื่องหนังดูยากแบบ The Matrix , Memento  หรือหนังสือยอดฮิตอย่าง มังกรหยก หนังอภิมหาอมตะอย่าง The Godfather , The Shawshank Redemtion  และอีกหลายเรื่อง ทั้งของคุณวินทร์ และนักเขียนท่านอื่น แยกย่อยฉากต่อฉาก พลิอตหลัก พล็อตรอง การดำเนินเรื่องแบบไหน ให้ผลอย่างไร และปิดท้ายด้วยข้อความจากนักเขียนชั้นครูหลายท่าน ที่ให้คำนิยามนักเขียนไว้ในหลากหลายแบบ

เขียนไปให้สุดฝัน เหมาะสำหรับนักเขียนและนักอยากเขียน ที่กำลังเริ่มต้นเดินทางสายนักเขียน รวมถึงนักเรียน นักศึกษา นักธุรกิจ ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องใช้การเขียน และใครก็ตามที่อยากเขียนได้ดี หรืออ่านพล็อตนิยายต่างๆ ไว้ศึกษา นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้ยังเป็นหนังสือในโครงการเติมหัวใจใส่ห้องสมุดอีกด้วย


อ่านแล้วได้อะไร?

           หลายครั้งที่ถามตัวเองว่าเขียนไปทำไม เขียนเพื่ออะไร เพื่อความสุขของตัวเอง เพื่อคนอ่าน เพื่อเป็นหนังสือ เพื่อเงิน หรือเพื่อสนองความอยากเอาชนะตัวเอง มันมีหลากหลายความรู้สึกปนเปอยู่ในนั้นแบบแยกไม่ออก

          บางครั้งที่เหนื่อย บางทีก็ท้อ อยากวาง อยากพอ แต่พออ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ได้ลูกฮึด ได้ไฟ ได้ฝัน และได้คิด แต่จะทำได้หรือไม่นั้น ก็คงต้อง ‘เขียนไปให้สุดฝัน’ แค่นั้นเอง...




++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณของแต่งบล็อกสวยๆ จากคุณยายเก๋าและคุณญามี่ค่ะ

ขอบคุณเพลงเพราะๆ จากอินเตอร์เน็ตค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ

^___^




 

Create Date : 23 กันยายน 2559
34 comments
Last Update : 23 กันยายน 2559 0:39:51 น.
Counter : 3041 Pageviews.

 

อรุณสวัสดิ์ครับ.... คำแนะนำของคุณวินทร์ ข้างบนสุดยอดเลย

แนะนำได้เข้าใจ... ผมนั่งละเลียดอ่าน แหะ ๆ ใช้ถูกหรือเปล่า
ไม่รู้ รู้สึกเช่นนี้นจริง ๆ กลัวข้อความจะหมด.. เพราะเป็น
ประโยชน์จริง ๆ

ชอบตรงที่ว่า แขวนปืน ตั้งแต่บทที่ 1 ตอนที่ 2 ก็ยังมี
ถ้าไม่ความสำคัญให้ตัดทิ้งไป... ดีกว่า

พฤติกรรมคนอ่านหนังสือเปลี่ยนไปเยอะ จริงเลยครับ เขาไปอ่าน
อะไรที่สั้น ๆ ตามเน็ต นักเขียนไทยคงใส้แห้งต่อไป

พอดีเราไม่ใช่นักเขียน เลยเฉย ๆ 555 เพียงแต่อยากเล่า
และฝึกปรือ ขอเพียงมีคนเข้ามาอ่านก็พอใจที่สุดแล้วครับ
คุณนุ่น

เดี๋ยวจะ จดบันทึกไว้ก่อน ว่าจะแวะมาอ่านบล๊อกตอนนี้อีก
กันลืม แหะ ๆ ไม่คิดอุดหนุนคุณวินทร์เลยเหรอ.. พอดี ๆ

ไม่ค่อยเดินไปตามร้านหนังสือเท่าใดนะครับ ชอบอยู่ในที่
เงียบ พวกป่า กับธรรมชาติ

งั้นโหวตให้คุณน่นก่อน กันลืม
lovereason Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ต่อท้ายอีกติ๊ดเดียว... จะลองหาซื้อหนังสือนี้บ้างครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 23 กันยายน 2559 5:11:35 น.  

 

ไปให้ถึงฝันให้ได้จ้ะนุ่น

เป็นหนึ่งกำลังใจเล็ก ๆ ให้จ้ะ

พี่เองก็เขียนไม่เป็น แต่ชอบอ่าน ยากเย็นพอสมควร สำหรับการจะเขียนหนังสือ ไม่ว่าเรื่องสั้น เรื่องยาว ให้คนอ่าน ๆ แล้วสนุก รื่นไหล ไม่สะดุด

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
lovereason Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 23 กันยายน 2559 5:38:31 น.  

 



สวัสดียามเช้าครับน้องนุ่น

น้องนุ่นรีวิวได้ยอดเยี่ยมมากๆ
สรุปเนื้อหาออกมาสั้นๆ อ่านง่าย ได้สาระเต็มๆ
ใครชอบงานเขียนคงไม่พลาดเล่มนี้อย่างแน่นอน

พี่ก๋าชอบงานของพี่วินทร์ช่วงแรกๆครับ
โดยเฉพาะเรื่องสั้นหักมุมทั้งหมด
ตอนนี้อ่านแล้วทึ่งมากๆ
แต่หลังๆอาจไม่ได้ตามอ่านทั้งหมด เพราะมีนิยายด้วย
มีเรื่องสั้นวิทยาศาสตร์ด้วย
ซึ่งไม่ค่อยใช่แนวที่พี่ก๋าอ่านสักเท่าไหร่

แต่ที่ชอบมากที่สุดเห็นจะเป็นงานเขียนชุดกำลังใจครับ
ตามอ่านทุกเล่มเลยเช่นกัน


หนังสือในร้านหนังสือใหญ่ๆ ตอนนี้ไม่ค่อยมีทางเลือกมากนัก
ตามเศรษฐกิจจริงๆนั่นล่ะครับ
ร้านเลยเลือกหนังสือที่จะวางขาย ขายไม่ดีสามเดือนก็ส่งคืน สนพ.ทั้งหมด
ไม่ได้วางขายตลอดเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

ทางเลือกคือต้องติดต่อซื้อหนังสือโดยตรงกับนักเขียนหรือ สนพ. ไปเลยครับ

โหวต Book blog ครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 23 กันยายน 2559 6:20:44 น.  

 

อ่านจบ ต้องไปหา เขียนไปให้สุดฝัน มาสะสมอีกหนึ่งเล่ม
ชอบมากค่ะ

ขอบคุณนะคะ คุณุน่น

 

โดย: นัน IP: 192.95.30.51 23 กันยายน 2559 8:19:58 น.  

 

แวะมาโหวตค่า
lovereason Book Blog ดู Blog

 

โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน 23 กันยายน 2559 8:40:21 น.  

 

เอาจริงๆนะคุณนุ่น หมอกไม่ค่อยได้อ่านงานของคุณวินทร์เท่าไหร่ตั้งเเต่ผิดหวังจาก ประชาธิปไตย์บนเส้นขนานเล่มที่ได้รางวัลของคุณวินทร์
แต่คลิ้กเข้ามาอ่านเพราะบล้อกคุณนุ่นแล้วอาจจะลองๆไปหาเปิดอ่านดูสักหน่อยถ้ามีเวลา

 

โดย: little foggy 23 กันยายน 2559 9:14:25 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
lovereason Book Blog ดู Blog

รีวิวได้สุดยอดเลยล่ะน้องนุ่น
ครบถ้วนกระบวนความ
เป๊ะ...รู้เลยว่าเล่มนี้ดีอย่างไร
พี่อุ้มก็กะว่าจะโพสต์มั่งแต่จะเป็น BLOG หน้า

 

โดย: อุ้มสี 23 กันยายน 2559 9:38:57 น.  

 

เขียนไป ให้สุดฝัน ขุนเขตขันธ์ วันมุ่งหมาย
ความหวัง ดั่งเม็ดทราย หลอมละลาย ชายหญิงคน
เขียนไป ให้สุดฝัน ว่างวัยวัน วกเวียนวน
สงสัย ใส่สับสน เติมเต็มตน แต่งแต้มตัว
ต้นกล้า อาราดิน

 

โดย: ต้นกล้า อาราดิน 23 กันยายน 2559 9:42:50 น.  

 

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วโอ้โฮเลยอะ

การเป็นนักเขียนนี่ยากจังแฮะ

ถึงว่าสิรุ้งถึงยังเขียนไม่ได้แม้แต่เรื่องสั้นอิอิ

แค่เริ่มต้นหาพล๊อตหลักก็นึกไม่ออกแล้วค่ะ

ส่งกำลังใจให้เพื่อนๆที่อยากเป็นนักเขียนดีกว่า

สู้ๆนะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog
comicclubs Book Blog ดู Blog
อุ้มสี Photo Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
lovereason Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: เรียวรุ้ง 23 กันยายน 2559 18:29:13 น.  

 

มาช่วยลุ้นให้ได้เก้าอี้ค่ะ
พี่คงเอาดีทางนี้ไม่ทันแล้ว เอิ๊ก

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
Tristy Food Blog ดู Blog
ตุ๊กจ้ะ Hobby Blog ดู Blog
mariabamboo Parenting Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
lovereason Book Blog ดู Blog

ขอบคุณโหวตด้วยนะคะ

 

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 23 กันยายน 2559 18:55:30 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
lovereason Literature Blog ดู Blog

----------------------------

Less is more ... ชอบคำนี้จัง ใช้ได้กับทุกเรื่องเลยนะคะ
‘เขียนไปให้สุดฝัน’...นึกถึงคำนี้เลย "ฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง"

"ถามตัวเองว่าเขียนไปทำไม เขียนเพื่ออะไร"
ก็เหมือนกับที่เรานั่งทำบล็อกอยู่ทุกวันนี้ ถามว่า ทำทำไม ทำเพื่ออะไร ...
ตอบตัวเองว่า ทำเพราะอยากทำ ยังมีความสุขที่ได้ทำ ... แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรซับซ้อน
ทำอะไรแล้วมีความสุข ก็นั่นแหละ คือคำตอบ อิอิ

 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 23 กันยายน 2559 19:56:42 น.  

 

นักเขียนท่านนี้คุ้นชื่อมากค่ะ
นิคก็รู้จักมาจากในบล็อกนี่ละ พูดถึงคุณวินทร์กันหลายคนนะ

เล่มนี้เป็นคู่มือนักเขียนได้เลยนะคะคุณนุ่น
เค้าแฉละเอียดทุกมุมเลย
นี่เป็นหลักๆเลยก็ว่าได้
อ่านๆดูแล้ว เล่มนี้เค้าดีค่ะ




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
Sweet_pills Travel Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Food Blog ดู Blog
lovereason Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ที่เห็นและเป็นมา 23 กันยายน 2559 22:26:30 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับน้องนุ่น

หนังสือคำคมพี่ก๋าซื้อที่ B2S ครับ
ถ้าจำไม่ผิดมีสองเล่มด้วย

ที่ซีเอ็ดไม่เห็นวางขายนะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 23 กันยายน 2559 23:19:46 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

lovereason Book Blog ดู Blog

................................

เป็นหนังสือที่ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่รักการเขียนได้อย่างดีเลยนะคะน้องนุ่น
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 24 กันยายน 2559 0:07:15 น.  

 



สวัสดียามเช้าครับน้องนุ่น

 

โดย: กะว่าก๋า 24 กันยายน 2559 6:36:03 น.  

 

ขอบคุณสำหรับโหวตนะคะคุณนุ่น

อุเปนทรวิเชียรฉันท์ 11 ยาก>>>> ยากตรงครุและลหุแหละค่ะแต่สัมผัสนี่ง่ายเลยเพราะเหมือนกาพย์ยานี 11

รุ้งอ่านจากที่คุณนุ่นรีวิวการแต่งนิยายแล้วได้แต่ถอนหายใจค่ะ ถ้าเป็นรุ้งแต่งๆไปคงลืมพล๊อตตอนต้นแล้วมั้ง การเขียนนิยายสักเรื่องมันซับซ้อนมากนะนั่น อย่าว่าแต่นิยายเลย แค่คิดจะแต่งเรื่องสั้นรุ้งก็เหงื่อตกแล้วค่ะ

 

โดย: เรียวรุ้ง 24 กันยายน 2559 14:12:26 น.  

 

กาญ ที่เที่ยวเยอะจ้ะ น้ำตก ภูเขา วัดวาอาราม อุทยานแห่งชาติ ใกล้กรุงเทพฯ ด้วยล่ะ

ลืมบอก แสงสุดท้าย เวอร์ชั่นนี้ ฟังสบาย ๆ เพราะดีจ้ะ

*** ทางสายที่สาม พี่มีด้วยล่ะ แต่ยังไม่ได้อ่านเลย

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 24 กันยายน 2559 18:47:59 น.  

 

ขำๆไปวันๆก็สบายใจดีค่ะ น้องนุ่น
ขอบคุณที่แวะไปนะคะ

 

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 24 กันยายน 2559 21:26:47 น.  

 

เขียนไปให้สุดฝัน แวมาอ่านอ่านรีวิวหนังสือค่ะ
นักเขียนท่านนี้ยังไม่เคยอ่านเลยค่ะ

lovereason Book Blog


 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 24 กันยายน 2559 21:40:36 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

lovereason Book Blog ดู Blog

รีวิวได้ละเอียดมากเลยค่ะน้องนุ่น
อ่านแล้วทำให้รู้ว่าการเป็นนักเขียนนี่
ยากยิ่งนักค่ะ

 

โดย: AppleWi 24 กันยายน 2559 23:09:57 น.  

 

ทักทายวันหยุดค่า
มาชวนไปดูสัตว์ประหลาดที่บ้านจ้า ภูมิใจนำเสนอมากเลย อิอิ

 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 25 กันยายน 2559 10:07:18 น.  

 

โดยส่วนตัวไม่ได้เขียนแนวเนื้อเรื่องหรือฟิค แต่จากที่เค้าแนะนำสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เหมือนกันครับ

lovereason Book Blog
+

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 25 กันยายน 2559 17:28:57 น.  

 

อ่านรีวิวของคุณนุ่นแล้วอยากไปหาเล่มเต็มๆมาอ่านเลยค่ะ


สัปดาห์หนังสือคุณนุ่นจะเข้ากรุงเทพมาเลือกซื้อหนังสือหรือเปล่าคะ


ปอมไม่ได้ไปมาหลายปีแล้ว เพราะคนเยอะจัดค่ะ


lovereason Book Blog

 

โดย: กาปอมซ่า 25 กันยายน 2559 20:49:14 น.  

 



สวัสดียามเช้าครับน้องนุ่น


การ์ตูนเดี๋ยวนี้อ่านง่ายนะ
อ่านสนุก สรุปเนือ้หาออกมาเป็นภาพ
พี่ก๋าว่ามันอ่านง่ายกว่าที่เป็นตัวหนังสืออย่างเดียวเยอะเลย

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตด้วยนะครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 26 กันยายน 2559 6:33:20 น.  

 

เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ห้ามพลาดค่ะ

 

โดย: Sakormaree IP: 1.47.199.216 26 กันยายน 2559 13:04:38 น.  

 

เป็นหนังสือที่ดีมากๆเลยนะคะ นี่แค่อ่านจากทีนี่ทำให้เราถึงกับอยากจะไปหาซื้อมาอ่านทั้งเล่มเลย อ่านแล้วรู้สึก เป็นแนวทางให้กับนักเขียนมือใหม่ๆได้ดีทีเดียวค่ะ
โหวต book blog ให้ค่ะ ยอดเยี่ยมจริงๆ ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะคะ

 

โดย: Max Bulliboo 27 กันยายน 2559 13:25:38 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Book Blog ดู Blog
กาปอมซ่า Dharma Blog ดู Blog
lovereason Book Blog ดู Blog

 

โดย: พันคม 27 กันยายน 2559 15:55:36 น.  

 


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

lovereason Book Blog ดู Blog

 

โดย: ืnewyorknurse IP: 192.99.15.166 28 กันยายน 2559 2:30:30 น.  

 

 

โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน 28 กันยายน 2559 8:41:54 น.  

 

น่าสนใจเหมือนกันครับเล่มนี้

เพลงเพราะจังเลยครับ บอดี้แสลมเวอร์ชั่นผู้หญิง

lovereason Book Blog ดู Blog


 

โดย: The Kop Civil 28 กันยายน 2559 9:12:08 น.  

 

เล่มนี้มือเขียนนิยายควรอ่านเป็นอย่างยิ่งเลยนะครับนี่ (ส่วนมือเขียนบล็อกตะพาบปัญญาอ่อนเช่นผมก็อ่านการ์ตูนต่อไป)
คุณนุ่นสรุปทั้งเล่มมาอย่างดีเลย ถือเป็นการแฉ (share) ให้เพื่อนๆด้วย เป็นบล็อก book review ที่เยี่ยมมากครับ ^^
ชอบที่ว่าถ้าตัดฉากนั้นออกไปแล้วยังอ่านรู้เรื่องแสดงว่าฉากนั้นไม่จำเป็นต้องมีอยู่ หนังสือหรือภาพยนตร์หลายๆเรื่องใส่ของมาเยอะจนคนอ่าน/คนดูจับประเด็นไม่ถูกจริงๆครับ หรือการ์ตูนสืบสวนอย่างโคนัน clue ที่พบทั้งหมดจะต้องเกี่ยวข้องกับคนร้าย (ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ใช่แบบนั้นแน่ๆ แต่ถ้าใส่ clue ที่ไม่เกี่ยวข้องมาเยอะเกินไปคนอ่านจำอะไรไม่ได้แน่ๆ) และพล็อตย่อยก็ต้องโยงเข้ากับแกนกลางเรื่อง
ปิดท้ายด้วยสาระสำคัญว่าคนที่เขียนได้ดีมักจะเป็นคนที่เขียนเพราะชอบเขียน ไม่ได้อยากได้รางวัลอะไรพวกนั้น หนังสือก็เหมือนบล็อกนะครับ ของคุณนุ่นแต่ละบล็อกคุณภาพอัดแน่นเพราะเป็นคนชอบเขียนชอบอ่านจริงๆ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กิ่งฟ้า Travel Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog
mambymam Music Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
บ้านต้นคูน Travel Blog ดู Blog
mastana Literature Blog ดู Blog
ตุ๊กจ้ะ Topical Blog ดู Blog
lovereason Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ชีริว 28 กันยายน 2559 22:30:09 น.  

 

คุณวินทร์เป็นหนึ่งในนักเขียนที่พี่ชอบนะ

แต่หลังๆ ไม่ค่อยได้ตามงานแหละ ออกเยอะจัด ตามเก็บไม่ทันง่าาา

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เรียวรุ้ง Funniest Blog ดู Blog
ปรัซซี่ Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
lovereason Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


พี่ไปทริปเพิ่งกลับมา เลยเพิ่งมาตอบเน้อ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 29 กันยายน 2559 13:24:53 น.  

 

วันนี้ตอนแรกนึกว่าเป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมนี้ ก็เลยกะส่งท้ายปิดงานซะหน่อย อิอิ
พอออนแอร์ปั๊บ เห็นข้อความนี้ค่ะ ...

"ขยายเวลาร่วมกิจกรรมไปจนถึงวันที่ 16 ตุลาคม 2559"

 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 30 กันยายน 2559 10:06:06 น.  

 

ขอบพระคุณมากครับ
เนื้อหา เคล็ดวิชา มีประโยชน์ต่อนักเขียนมากๆ

 

โดย: วรสิกา IP: 49.229.103.87 23 กันยายน 2560 11:52:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


lovereason
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 76 คน [?]









+ ++
Friends' blogs
[Add lovereason's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.