ถนนสายนี้มีตะพาบ 163
บ้านนอก
โจทย์โดย คุณเป็ดสวรรค์
ตั้งแต่เด็กจำความได้ ฉันอยู่บ้านไม้สองชั้นของตาในซอยซายูริ คนเชียงใหม่แถวสันป่าข่อยคงรู้จักดีว่าซายูริคืออะไร บ้านตาอยู่กึ่งกลางระหว่างซายูริกับเจริญเมือง ซึ่งยังจัดว่าอยู่ในเมือง ฉันเติบโตมาในแถบนั้น
ฉันเรียนโรงเรียนคริสต์หญิงล้วน ย่านถ. เจริญประเทศ เป็นโรงเรียนที่มีโบสถ์ใหญ่อยู่ตรงโค้งถนนเรียนที่นั่นตั้งแต่ชั้น ป.หนึ่ง จนถึง ม.ต้น ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนคอนแวนต์ตลอดมา ทุกสัปดาห์ต้องมีชั่วโมงกิจกรรมร้องเพลงในโบสถ์ แต่เวลาปกติมักจะไม่ค่อยมีนักเรียนคนไหนเฉียดเข้าใกล้โบสถ์ ถ้าไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ หรือแอบไปซื้อขนมหน้าประตูฝั่งอนุบาลในตอนเย็นระหว่างรอเรียนพิเศษ
โรงเรียนกับบ้านตาไม่ไกลกันมากนักเดินไปกลับทุกวันก็พอได้ แต่คงจะไม่ไหวเวลาต้องหอบหนังสือเรียนไปมา วันไหนไม่มีใครไปส่ง ฉันก็เดินลัดเลาะข้ามสะพานนวรัฐผ่านจวนผู้ว่า เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญประเทศ เสียดายที่ฉันยังไม่เคยได้ข้ามขัวเหล็กสักครั้งทั้งที่อยู่ไม่ไกล
คิดว่าคนเชียงใหม่หรือนักนิยมหนังคงไม่มีใครไม่รู้จัก ขัวเหล็ก เป็นฉากสำคัญฉากหนึ่งในหนังรักโรแมนติกเรื่องเพื่อนสนิท ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะถ่ายรูปสวยๆ ตอนนี้ขัวเหล็กประดับไฟหลากสีเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ยามราตรีอีกด้วย
ฉันใช้ชีวิตแบบเด็กในเมือง แทบไม่เคยรู้จักความเป็นอยู่ของคนที่อยู่นอกเมืองหรือไกลออกไปรอบนอก ตอนเด็กเวลาปิดเทอมฉัน ชอบไปเที่ยวบ้านยายทวดที่อยู่สันทราย ไม่ไกลจากตลาดสันทรายมากนัก
ตรงข้ามปากซอยเป็นวัดใหญ่เวลามีงานวัดฉันก็ชอบมาดูหนังกลางแปลง ซอยเล็กๆ บ้านยายทวดลัดเข้ากลางทุ่งนา เรือกสวนไร่นาผืนเล็ก ถนนแคบนิดเดียวเหมือนไม่ได้ทำไว้ให้รถยนต์แล่นผ่าน สองข้างทางเต็มไปด้วยบ้านคนบ่เก่า เป็นบ้านไม้ปลูกยกสูงมีใต้ถุนไว้เลี้ยงไก่ นั่งเล่น สารพัด บ้านไหนมีลักษณะครึ่งไม้ครึ่งปูนจัดว่าทันสมัยมากในตอนนั้น
ตรงข้ามบ้านยายทวดเป็นธารน้ำหรือห้วยเล็กๆ มีขัวน้อยพอคนเดินหรือมอเตอร์ไซค์ข้ามได้ ชีวิตก็ไม่จัดว่าอยู่นอกเมืองเท่าไหร่ เสียแต่ไม่มีเพื่อนวัยเดียวกันให้เล่นด้วย
จนมาช่วงป.6 พ่อย้ายออกจากบ้านพักทหารอากาศในกองบิน มาซื้อที่กลางทุ่งนาทางไป อ.สันป่าตอง ที่นั่นทำให้ฉันรู้จักกับคำว่า บ้านนอก จริงๆ
บ้านของพ่ออยู่กลางทุ่งนาเขียวขจี ตั้งอยู่หลังเดียวโดดเดี่ยว ตรงข้ามชุมชนหมู่บ้านห่างเพียงคลองชลประทานกั้น ปิดเทอมฉันชอบมาอยู่บ้านพ่อมีอะไรให้เล่นเยอะ เพราะเรียนโรงเรียนหญิงล้วน
ฉันไม่มีเพื่อนเล่นซน ส่วนมากเด็กผู้หญิงจะชอบเล่นตุ๊กตาหรือไม่ก็ของเล่นแบบเด็กผู้หญิง แต่ฉันไม่เคยซื้อตุ๊กตาเล่นเลยสักครั้ง ถึงจะชอบความน่ารักของมันก็ตาม
ที่บ้านนอกฉันมีเพื่อนเล่นวัยเดียวกันเป็นเด็กผู้ชายอายุเท่ากัน เกิดห่างกันแค่ไม่กี่วัน เพื่อนฉันเรียนโรงเรียนประจำตำบลใกล้บ้าน เพื่อนของเพื่อนก็อยู่ในหมู่บ้าน ฉันจึงมีเพื่อนวัยเดียวกันทั้งหญิงและชายเป็นเด็กในหมู่บ้าน ที่คอยแวะเวียนมาเล่นด้วยที่บ้านกลางนาของพ่อ
ของเล่นเด็กบ้านนอกนั้นเรียบง่าย ฉันได้เรียนรู้การเล่นว่าวครั้งแรกที่นี่ ว่าวแบบบ้านๆ เด็กๆ ทำกันเองเป็นของเล่นที่ชอบมาก ฉันยังเคยหัดทำแต่ไม่สวยเหมือนของเพื่อน นอกจากว่าวแล้วยังมี ไม้ต่อขา หรือไม้โถกเถก หรือขาโถกเถก แล้วแต่จะเรียกกันในแต่ละที่ ตอนแรกที่หัดเล่นฉันล้มบ่อยมาก เพราะทรงตัวไม่อยู่ แต่พอชำนาญแล้ว ก็จะต่อให้ขาสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่แค่เดินแข่งพวกเรายังวิ่งแข่งกันอีกด้วย
แม่ของเพื่อนเป็นคนเมืองแท้ๆ ที่เรียกว่าคนบ่เก่า ฉันชอบไปนั่งดูแม่เพื่อนจักตอก ตอกคือไม้แผ่นบางๆ ที่ได้จากไม้ไผ่เป็นลำปอกเปลือกผ่าซีกฝานเป็นแผ่นบางเฉียบ บางมากจนไม่คิดว่าได้มาด้วยฝีมือคนกับมีดเล่มเดียว ไม้ไผ่บางขนาดกว้างไม่ถึงหนึ่งนิ้วสานไขว้กันไปมา เอามาทำบานหน้าต่างแบบยกแล้วมีไม้ค้ำ สมัยนี้คงไม่มีแล้ว ฉันว่ามันทำยากมากมาย แถมค่าแรงยังไม่คุ้มกับที่นั่งหลังขดหลังแข็งเลย ตอนนี้ได้รู้ว่ามีเครื่องจักตอกไม้ไผ่แบบใช้มือหมุน สามารถทุ่นแรงได้มากเป็นนวัตรกรรมใหม่ที่น่าทึ่ง
เคยได้ยินชื่อ ละครซอ กันไหม ฉันเคยฟังครั้งแรกที่บ้านนอกของพ่อ เริ่มจากแม่บ้านที่มาทำกับข้าวให้พ่อเป็นแฟนพันธุ์แท้วิทยุเอเอ็มคลื่นท้องถิ่น บางคลื่นจะว่ากันด้วยคำเมืองตลอดรายการ แม่บ้านทำงานบ้านไปเปิดฟังไป ฉันได้ประสบการณ์แปลกใหม่กับการฟังละครซอไปด้วย หลังๆ ป้ายังเปิดโทรทัศน์ดูคราวนี้ไม่มาแต่เสียง ยังเห็นทั้งภาพอีกด้วย
ฉันหัดขี่จักรยานครั้งแรกที่บ้านนอกของพ่อ เป็นจักรยานโบราณคันสูงสีดำๆ ที่มีตะแกรงสีเงินด้านหลัง นิยมใช้บรรทุกของบ้าง ฟืนบ้าง พอขี่เป็นพ่อก็ซื้อให้ฉันหนึ่งคัน คราวนี้เป็นคันเล็กลงมาหน่อยไม่ต้องเขย่งขี่ขาไม่ถึงอีก ฉันชอบขี่จักรยานเลียบคลองชลประทานข้ามฝั่งไปบ้านลุงผู้ใหญ่ที่เป็นร้านขายของชำ ขายผัก ขายสารพัดที่จะขาย โดยเฉพาะจะมีกับข้าวถุงบ้าง ข้าวผัด ขนมจีน ขนมโบราณบ้าง
ฉันชอบข้าวผัดสีชมพูโรยหน้าไข่เจียวใส่ถุงพลาสติกแบนๆ ห่อละไม่กี่บาท ไปทีไรต้องซื้อทุกครั้งนอกจากข้าวผัดแล้ว อีกอย่างที่ฉันชอบมากก็คือหมูทอด ฉันว่าหมูทอดที่ไหนก็ไม่อร่อยเหมือนของเชียงใหม่ หมูแบนๆ ติดกระดูก มีขายทุกร้าน แต่ที่บ้านนอกจะพิเศษหน่อยคือทุกอย่างราคาถูกกว่าในเมือง
ฉันชอบมากเวลากินหมูทอดกับข้าวเหนียวร้อนๆแล้วก็มีน้ำพริกตาแดงถุงเล็กๆ ทำเหมือนพริกน้ำปลาในร้านอาหารตามสั่ง แล้วก็ชอบแหนมหรือทางเหนือเรียกว่า จิ้นส้มหมก ก็เป็นของโปรดที่ชอบมาก
พูดเรื่องของกินมีอีกอย่างที่ฉันชอบมากคือ ข้าวกั้นจิ๊น เป็นข้าวนึ่งผสมน้ำเลือดหมูห่อใบตองโรยกระเทียมเจียวมีพริกทอดแนม กินกับแคบหมูหรือขนมจีนน้ำเงี้ยวอร่อยมาก ฉันรู้จักแคบไขเป็นครั้งแรกก็ที่บ้านนอกของพ่อ แคบไขทำมาจากไขมันควายต่างกับแคบหมูที่สีและความมัน ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แต่ก็กินได้
คนบ้านนอกมีกิจวัตรต่างกับคนในเมืองมากเหมือนกัน ฉันเคยเห็นชาวบ้านไล่ล่างูสิงในท้องนาเอามาทำอาหาร บางทีก็ไล่จับหนูนาหรือหนูพุกมาทำอาหาร เวลามีงานบุญเมนูที่เห็นบ่อยมากคือลาบที่ไม่เหมือนกับลาบอีสานที่นิยมกินกันทั่วบ้านทั่วเมือง จำได้ว่าเวลามีงานที่บ้านนอกของพ่อ ชาวบ้านจะนิยมทำลาบเลือดที่เอาเนื้อดิบมาทำ กินกับข้าวเหนียวทั้งสีแดงๆ เห็นเลือดสีแดงสดแล้ว ฉันไม่กล้าลองและไม่อยากลอง แต่พอเอามาคั่วเป็นสีน้ำตาลเข้มๆ หอมน่ากินแถมยังอร่อยมาก แต่ตอนนี้เป็นเมนูที่ต้องบอกลาเพราะฉันไม่กินเนื้อวัวมานานมากแล้ว
สิบกว่าปีผ่านไป ตอนนี้บ้านนอกของพ่อเจริญมาก มีหมู่บ้านจัดสรรผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง อู่ซ่อมรถยนต์ ห้องแถว เต็มพื้นที่ไปหมด
ไม่มีทุ่งนาเขียวขจี ไม่มีนกเอี้ยงเลี้ยงควายเฒ่าไม่มีที่ให้เล่นว่าวอีกต่อไป แต่ฉันยังคงคิดถึงบรรยากาศเดิมๆ ที่บ้านนอกของพ่อตลอดมา
ตะพาบรอบนี้มาช้าอีกตามเคย
ช่วงนี้อัพบล็อกยากจังค่ะ
ตั้งใจจะอัพเมื่อวานก็ไม่ได้เลยช้าไปหน่อย
ขอบคุณของแต่งบล็อกสวยๆ
จากคุณยายเก๋าและคุณญามี่ค่ะ
ขอบคุณเพลงประกอบเพราะๆ จากอินเตอร์เน็ตค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ
ค่อยตามไปบล็อกพี่ๆ นะคะ
^___^
คืนนี้ค่อยมาแก้อีกรอบค่า
ขอบคุณมากๆ ค่า