ถนนสายนี้มีตะพาบ :85: นาฬิกาทราย
นาฬิกาทราย โจทย์โดย พี่อ้อมแอ้ม(คนผ่านทางมาเจอ) นานมาแล้ว โลกเป็นเพียงวัตถุทรงกลมเรียบๆเปล่าๆ ไม่มีอะไรอยู่เลยนอกจาก น้ำแข็งก้อนใหญ่กับนาฬิกาทรายเรือนยักษ์ ที่มีปลายเปิดสามารถปล่อยทรายออกได้อย่างเดียว น้ำแข็งกับนาฬิกาทรายเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เล็ก ร่วมทุกข์ร่วมสุข จนทั้งคู่เติบใหญ่เข้าสู่วัยหนุ่มสาว ความงดงามของน้ำแข็ง ทำให้นาฬิกาทรายแอบชื่นชมหลงใหล แต่ทุกครั้งที่พยายามแสดงความสนิทสนมใกล้ชิด ความเย็นชาจากน้ำแข็งก็ทำให้นาฬิกาทรายต้องผิดหวังทุกทีไป วันหนึ่ง นาฬิกาทรายทะเลาะกับน้ำแข็งอย่างรุนแรงถึงขั้นแตกหัก นาฬิกาทรายร้องไห้เสียใจหนีไปอยู่อีกซีกโลก หนึ่ง เวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่านาฬิกาทรายกับน้ำแข็งก็ยังไม่คืนดีกัน ต่างคนต่างอยู่คนละซีกโลก จนมาวัน หนึ่งเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำให้โลกจะต้องแตกออกเป็นสองส่วน น้ำแข็งรู้ดีว่าถ้าโลกแตกเป็นสองส่วนแล้ว ก็คงไม่ได้เจอกับนาฬิกาทรายตลอดกาล แต่ด้วยทิฐิที่มีอยู่ น้ำ แข็งจึงเลือกที่จะอยู่นิ่งๆแทนที่จะออกตามหานาฬิกาทราย ดวงจันทร์โคจรผ่านมา น้ำแข็งจึงถามว่าอีกซีกโลกเป็นอย่างไรบ้าง ดวงจันทร์บอกว่า นาฬิกาทรายกลับมาไม่ทันเพราะโลกกำลังจะแยก จึงปล่อยทรายออกมาปกคลุมรอยแตกของโลก เพื่อยึดไว้ไม่ให้แยกออกจากกัน โดยหวังว่าจะได้กลับมาพบน้ำแข็งอีก ทันทีที่รู้ น้ำแข็งก็รีบออกตามหานาฬิกาทราย........ สายเกินไป ทรายกำลังจะหมดจากตัวนาฬิกาแล้ว เมื่อน้ำแข็งมาถึงก็ได้ยินเพียงคำพูดสุดท้ายจากปาก ของนาฬิกาทราย "ฉันรักเธอ" ความเย็นชาที่มีในตัวน้ำแข็งหมดลงทันที น้ำแข็งจึงเริ่มละลายในขณะที่ทรายเม็ดสุดท้าย ร่วงลงสู่พื้นดิน กลายเป็นน้ำทะเลที่อ่อนโยน คอยโอบอุ้มผืนทรายที่บริสุทธิ์ อยู่คู่กันมาจนทุกวันนี้ น่ารักดี ตำนานอะไรเนี่ย ยังกะเทพนิยายพาฝันยังไงยังงั้น ไม่เห็นจะเข้าใจเลย มาเกี่ยวกันได้ยังไง ใครกันนะช่างคิด ฉันพึมพำกับตัวเองหลังจากอ่านตำนานนาฬิกาทรายจากในเว็บเว็บหนึ่งที่บังเอิญเปิดเข้ามาเจอโดยบังเอิญ ตำนานเล่าขานที่เคยได้ยินได้อ่านมา เกี่ยวกับนาฬิกาทรายและคนรักซึ่งก็คือน้ำแข็ง ตำนานก็คือตำนานไม่มีสิ่งใดบ่งบอกว่าเป็นความจริง และตำนานนั้นก็เป็นเหมือนทรายที่ปลิวหายและน้ำแข็งที่ละลายไปตามกาลเวลา ไม่ค่อยมีใครพูดถึงนัก ฉันจึงเปิดค้นหาประวัติที่แท้จริงของนาฬิกาทายต่อไป อันที่จริงนาฬิกาของโลกในยุคแรกคือนาฬิกาแดด นาฬิกาที่ใช้บอกเวลารุ่นแรกสุดโดยชาวสุเมเรียน ที่ใช้นาฬิกาชนิดนี้ โดยจะแบ่งช่วงเวลาออกเป็น 12 ช่วงในหนึ่งวัน ซึ่งแต่ละช่วงจะกินเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยใช้วิธีวัดความยาวแสงเงาเป็นมาตรฐานในการวัดระยะเวลา ขณะที่ชาวกรีกประดิษฐ์นาฬิกาน้ำ โดยใช้ถ้วยเจาะรูจมลงในโอ่ง เรียกว่า ?Clepsydra? ดูการจมของถ้วยเทียบระยะเวลา ชาวกรีกใช้นาฬิกาชนิดนี้ในศาล ต่อมาในปี 250 ก่อนคริตศักราช นักปราชญ์อาร์คิมิดิส พัฒนานาฬิกาน้ำนี้ขึ้นโดยเพิ่มตัวควบคุมความเร็ว เขาปรับปรุงนาฬิกาชนิดนี้เพื่อใช้งานทางดาราศาสตร์ ต่อมาจึงมีการทำนาฬิกาทรายขึ้น ซึ่งมีลักษณะเป็นแก้วเป่าสองชิ้นมีรูแคบๆ กั้นกลาง โดยใช้ทรายเป็นตัวบอกเวลามักใช้จับเวลาระยะสั้นๆ เช่น การกล่าวสุนทรพจน์ การบูชา การเฝ้ายาม และการทำอาหาร เป็นต้น นาฬิกาทรายจึงเป็นปัจจัยสำคัญในสมัยก่อนที่ไม่ต้องอาศัยสภาพอากาศใด นี่สิ ค่อยเข้าใจหน่อย นาฬิกาทรายคือเครื่องจับเวลาดีๆนี่เอง เดี๋ยวนี้คงไม่มีคนใช้แล้วมั๊งโบราณซะขนาดนั้น ในโทรศัพท์มือถือมีเครื่องจับเวลาเยอะแยะจะตาย แต่คนคิดค้นนาฬิกาทรายก็เก่งจริงๆนะ น่าทึ่งมาก ฉันพึมพำกับตัวเองเป็นครั้งที่สอง ประวัติของนาฬิกาทรายที่มีมาช้านานโดยชาวกรีกเป็นผู้คิดค้น น่าทึ่ง ฉันจึงคิดหาคำจัดความของนาฬิกาทรายในใจฉันว่ามันเป็นอย่างไร... ~นาฬิกาทราย~ สำหรับฉัน..นาฬิกาทรายเปรียบเสมือนสิ่งของสวยงามทั่วไปที่มีเอาไว้ประดับห้อง วางบนโต๊ะทำงานก็สวยดี วางบนเปียโนก็ได้อารมณ์วินเทจแสนสวยเหมือนเจ้าหญิงกำลังเต้นรำยามเสียงเปียโนบรรเลง เพียงแค่สวยงามเท่านั้นไม่ได้มีความหมายพิเศษอะไร สำหรับใครบางคน..นาฬิกาทรายมีความหมายมากกว่านั้น คือของแทนใจ คือของขวัญ คือกล่องความทรงจำที่มีค่า บางทีนาฬิกาทรายอาจจะมีคุณค่าทางใจมากกว่าที่ฉันคิดถ้ามันมาจากใครบางคนที่ถูกใจ สำหรับฉัน..นาฬิกาทรายในใจฉันอาจจะมีคุณค่าน้อยกว่านาฬิกาทรายในใจใครหลายคน เม็ดทรายที่ไหลผ่านลงไปเม็ดแล้วเม็ดเล่าจวบจนเม็ดสุดท้ายไม่ได้มีความหมายอะไร สำหรับใครบางคน..นาฬิกาทรายในใจเขาอาจมีคุณค่ามาก หมายถึงบางสิ่งที่อยากเก็บรักษาไว้ไม่ให้สูญสลายหายไปเหมือนดั่งเม็ดทรายเม็ดสุดท้าย สำหรับฉัน...เพียงแค่กลับด้านนาฬิกา เวลาก็หมุนเปลี่ยนกลับมาได้ใหม่เสมอ สำหรับใครบางคน..อาจหมายถึงเวลากำลังจะหมดลงในไม่ช้า เวลาที่ไม่อาจย้อนคืนกลับมาได้ใหม่ถึงแม้จะกลับด้านนาฬิกา แต่ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง สำหรับฉัน...ถ้าไม่อยากให้ทรายในนาฬิกาหมด ก็แค่วางมันตามแนวนอน ทรายก็จะคงอยู่สองข้างเท่าๆกัน สำหรับใครบางคน..ความคิดของฉันคงบ้าสิ้นดี ใครจะบ้าเอานาฬิกาทรายวางในแนวนอนกัน พอดีได้กลิ้งตกแตก ความคิดค้านในจิตใจของฉันหลั่งไหลพรู่มาดั่งสายน้ำที่ก้อนน้ำแข็งละลาย น้ำแข็งในใจของฉันเริ่มละลายลงทีละนิด ฉันนั่งมองกล่องของขวัญขนาดเล็กผูกโบว์สวยงามในมือ กล่องของขวัญเนื่องในโอกาสวันเกิดและวันแห่งความรักวันเดียวกันที่ฉันได้รับเมื่อกลับถึงบ้าน ของขวัญจากใครบางคนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวและหัวใจของฉัน นาฬิกาทรายเหรอ น่ารักจัง หมู่นี้ทำไมฉันถึงมีเรื่องให้คิดเกี่ยวกับนาฬิกาทรายบ่อยๆนะ แม้แต่ของขวัญวันเกิดยังเป็นนาฬิกาทรายเลย ฉันฉีกยิ้มเต็มแก้มเมื่อเห็นความน่ารักของเจ้าของขวัญตรงหน้า พร้อมทั้งหยิบมันมาชื่นชมโดยไม่ลังเล ทรายในนาฬิกาไหลพรั่งพรูลงมาเรื่อยๆช่างละเอียด สวยงาม ฉันรู้สึกว่ามันน่ารักขึ้นมาทันทีหรือเพราะว่าตอนนี้ฉันเห็นแล้วว่ามันมีคุณค่าทางใจมากกว่าเป็นแค่เครื่องจับเวลาที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรก็ไม่รู้นะ.. คุ ณ คิ ด เ ห มื อ น กั น มั๊ ย ? ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ ^^ ขอบคุณของแต่งบล็อคสวยๆจากคุณญามี่และคุณชมพรค่ะ ขอบคุณภาพ+เพลง และข้อมูลตำนานนาฬิกาทรายกับน้ำแข็งจากอินเตอร์เนตด้วยค่ะ
Create Date : 22 กรกฎาคม 2556 |
Last Update : 23 กรกฎาคม 2556 23:35:20 น. |
|
91 comments
|
Counter : 2629 Pageviews. |
|
|
ฝันดีนะคะ