เมื่อวานแวะเข้าซุปเปอร์ฯตาเหลือบไปเห็นสตรอเบอรรี่ค่ะ กรี๊ดๆๆ ยังมีอยู่อีก อ่านดูข้างกล่องของฟินแลนด์นี่แหละ แต่คงจะมาจากเรือนเพาะชำค่ะ ก็เลยสอยมาหนึ่งกล่องเล็กๆ 250 g พอซื้อมาแล้ว มานั่งนึกจะทำอะไรใส่เจ้าสตรอเบอรรี่ดีน๊า ก็เลยนึกไปถึงชีสเค๊กอะไรสักอย่าง พอดีเรามีชาเขียวมัจฉะอยู่แล้วเลยเป็นที่มาของเค๊กวันนี้ค่ะMilky Green Tea Cheesecake (Cheesecake au Matcha au Lait 抹茶歐蕾芝士蛋糕)
ปล่อยอีกภาพ มายั่วนํ้าหมากก่อนเลยค่ะ
ก็เลยหาสูตรทำ อืมมมดูไม่ยากเท่าไรนะ อุปกรณ์วัตถุดิบก็หาได้แถวๆนี้ด้วย เลยจัดไปค่ะ*** วันนี้เราก็ยังดัดแปลงตามแบบที่เราถนัดและชอบเช่นเคยค่ะ ขั้นตอนอาจจะไม่เป๊ะๆตามสูตรนะคะ***
พอทำออกมาแล้วมันอร่อยดีนะคะ ดูฉํ่าๆดีด้วย แต่ผิวอาจจะไม่สวยเรียบเนี๊ยบเหมือนบล็อกต้นฉบับนัก อิอิ เพราะตอนที่เทลงพิมพ์ไม่ได้พิถีพิถันนัก แต่ก็อร่อยเป็นพอ ฮ่าๆๆ ไม่ได้ทำส่งประกวดสักหน่อยนี่เน๊อะ ทำกินในครอบครัวจะกลัวทำไม ฮี่ๆๆ
... อีกภาพค่ะ...
อร่อยๆค่ะ
ขอบคุณมากๆสำหรับสูตรอร่อยๆนะคะ Milky Green Tea Cheesecake (Cheesecake au Matcha au Lait 抹茶歐蕾芝士蛋糕)
Milky Green Tea Cheesecake (Cheesecake au Matcha au Lait 抹茶歐蕾芝士蛋糕)
ส่วนประกอบและวิธีทำ
Milky Green Tea Cheesecake (Cheesecake au Matcha au Lait 抹茶歐蕾芝士蛋糕)
Adapted from Cheese Cake Book, by Junko Fukuda, Kumiko Yanase, and Yasuyo Shida
改自《我愛乳酪蛋糕》。福田涥子、信太康代、柳瀨久美子/著
150 grams digestive biscuits, or, honey (plain) graham crackers
54 grams unsalted butter, melted and let cooled slightly
(A)
390 grams cream cheese, softened
124 grams caster or granulated sugar
78 milliliters heavy cream
1 medium-size egg, at room temperature
1½ tablespoons cake flour, sifted
(B)
3 teaspoons matcha powder
3 teaspoons caster or granulated sugar
1½ tablespoons cherry brandy, or, kirschwasser
Lightly grease the sides of a 23-centimeter springform pan, and line with parchment; line the base of the pan with aluminum foil. Secure the ring (i.e. sides) to the base of the pan. (Well. You know how to use a springform pan, don’t you?) Then wrap two layers of aluminum foil on the outside, around the base and sides of the pan. Set aside. Preheat the oven to 160°C.
Place the digestive biscuits into a Ziploc bag, press to force the air out of the bag, and seal the bag tightly. With a rolling pin, bash the biscuits into fine crumbs. Alternatively, a food processor will help you do the job. Mix in the melted butter, then press the mixture into the bottom of the prepared pan to get an even layer. Chuck the whole thing into the fridge to chill.
In the meantime, using a hand mixer, cream together (A) till smooth and creamy. Then, stir in the heavy cream, and followed by the egg, in two to three times to avoid curdling of the mixture. Next, mix in the sifted flour. Whisk together (B), and stir into the batter to combine. Lastly, mix in the liqueur.
Pour the batter over the crust, and place the whole pan into another larger baking pan that comes with sides taller than those of the springform pan. Prepare the bain-marie by filling the baking pan with boiling-hot water. Place the assemblage into the preheated oven and bake for 40 minutes, till almost cooked through and the cake’s surface begins to spring back when gently touched. Turn off the oven, leave the oven door opened ajar as you let the cheesecake cool to room temperature in the oven.
Remove the cooled cheesecake from the oven, the bain-marie, and then the layers of aluminum foil. Refrigerate for at least at least three hours, preferably overnight, before slicing to serve. Cheesecakes, including this one, keep real well in the fridge. (Mine kept for seven days, since my family consists of small eaters.)
ผงชาเขียวมัจฉะ ที่มีอยู่แล้วค่ะ
- เปิดเตาอบที่ 160c
- บดบิสกิตให้ละเอียดกับเนยที่ละลายแล้วกรุพิมพ์ แช่ตู้เย็นพักไว้ก่อน
-ตีวิปปิ้งครีม นํ้าตาลทราย (เราใช้นํ้าตาลทรายแดงค่ะวันนี้ มันฉํ่าๆดี) ผสมให้เข้ากัน เติมชาเขียวลงไป คนๆๆให้เข้ากัน แล้วเติมไข่ ตีให้เข้ากันอีกที พักไว้
- ตีครีมชีสกับนํ้าตาลทรายจนครีมสีอ่อนๆลง ค่อยๆเทส่วนผสมของชาเขียวที่พักไว้ลงไป แล้วตีให้เข้ากัน ค่อยๆเติมแป้งเค๊กและ cherry brandyลงไป ผสมให้เข้ากัน
- เทใส่พิมพ์ที่แช่ในตู้เย็นไว้ค่ะ เสร็จแล้วห่อรอบๆด้วยกระดาษฟอยด์รอบๆ วางบนถาดอบที่มีนํ้าอุ่นประมาณครึ่งถาด เข้าเตาอบประมาณ 40 นาที
- พอสุกแล้วปล่อยค้างไว้ในเตาอบจนเย็นลงแล้วนำเข้าแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 6ชั่วโมงหรือคืนหนึ่ง หลังจากแช่เย็นแล้วก็เตรียมหมํ่าได้เลย
บดบิสกิตให้ละเอียดกับเนยที่ละลายแล้วกรุพิมพ์ แช่ตู้เย็นพักไว้ก่อน
ตีวิปปิ้งครีม นํ้าตาลทราย (เราใช้นํ้าตาลทรายแดงค่ะวันนี้ มันฉํ่าๆดี) ผสมให้เข้ากัน เติมชาเขียวลงไป คนๆๆให้เข้ากัน แล้วเติมไข่ ตีให้เข้ากันอีกที พักไว้
- ตีครีมชีสกับนํ้าตาลทรายจนครีมสีอ่อนๆลง ค่อยๆเทส่วนผสมของชาเขียวที่พักไว้ลงไป แล้วตีให้เข้ากัน ค่อยๆเติมแป้งเค๊กและ cherry brandyลงไป ผสมให้เข้ากัน
- เทใส่พิมพ์ที่แช่ในตู้เย็นไว้ค่ะ เสร็จแล้วห่อรอบๆด้วยกระดาษฟอยด์รอบๆ วางบนถาดอบที่มีนํ้าอุ่นประมาณครึ่งถาด เข้าเตาอบประมาณ 40 นาที
แช่ตู้เย็นค้างคืนแล้ว ก็เสริ์ฟเลยค่ะ
น่าหมํ่ามั๊ยคะ?
นี่คือ ความผิดพลาดค่ะ รอบๆเค๊กไม่เนี๊ยบ ไม่เซ็ทตัวดีเลย แงๆๆ
แต่กับพิมพ์เล็กๆยังพอได้นะคะ
กินกับชาร้อนๆนี่ อร่อยจริงๆค่ะ
อร่อยๆด้วยกันค่ะ
โรยๆผงชาเขียวสักหน่อย โป๊ะๆๆเลย
ใครเป็นสาวกชาเขียวยกมือขึ้น!!
มามะ มาหมํ่าด้วยกันค่ะ
สาวน้อยของคุงแม่นก เป็นตัวป่วนในครัวมากกว่าตัวช่วยค่ะ อิอิ แต่คุงแม่หนูทำขนมอร่อยนะคร๊าาจุ๊บๆๆ :)
... แล้วพบกันใหม่เมนูหน้านะคะ :)
Have a nice day na ka! จุ๊บๆๆๆ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชิมด้วยกันค่ะ ^^
      
| |
... Live Well ❤ Laugh Often ❤ Love Much ...
ปิด
ปิด
ปิด
วันนี้มาสวยหวาน...สไตล์ญี่ปุ่นเลยค่ะคุณนก
~~เฮลซิงกิ ~~ Finland 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [
