ปลอบ.

หลายครั้งที่ผมมั่วไปอ่านไดอารี่ของคนอื่น


แล้วเห็นว่าเจ้าของไดกำลังมีปัญหา




อาจจะทะเลาะกับแฟน หมาตาย พ่อแม่ไม่เข้าใจ เอ็นท์ไม่ติด เพื่อนทิ้ง




นั่งฟูมฟายอยู่ในไดอารี่ตัวเอง




แล้วก็มีคนมาเม้นท์ปลอบใจต่างๆนานา




ผมสังเกตว่า เม้นท์ส่วนใหญ่จะไปในทางเดียวกัน




ประมาณว่า อย่าคิดมากนะ ยิ้มไว้ เดี๋ยวดีเอง ไม่เป็นไรหรอก




ผมรู้สึกนะ ว่าถ้าผมเป็นเจ้าของได อ่านแล้วคงไม่ทำให้ผมดีขึ้นหรอก




คนมันมีปัญหา จะห้ามไม่ให้คิดมากได้ไงฟะ




แต่ผมก็เข้าใจคนมาเม้นท์อีกแหละ ว่าเค้าอยากช่วย อยากปลอบ




แต่ไม่รู้จะปลอบยังไงดี ก็เขียนมาแบบพื้นๆ ก็ยังดีกว่าไม่ได้ปลอบล่ะวะ









จริงๆศิลปะของการปลอบใจนี่มันไม่ง่ายนะครับ




ผมเจอกับตัวเองมาแล้ว




แม่ผมเคยมีปัญหาทุกข์ใจมาก มาเล่าให้ผมฟัง




ผมฟังแล้วก็แนะนำวิธีแก้ปัญหาไป แม่ทำงี้สิ แม่คิดงี้สิ




แม่ฟังแล้วก็ทำหน้าขอบคุณ แล้วก็บ่นเรื่องเดิมต่อไป




ผมก็งง ก็เมื่อกี้บอกวิธีแก้ไปแล้วไง ทำไมยังคิดเหมือนเดิม




ก็บอกซ้ำไปอีก แม่ก็ทำเหมือนเดิมอีก ทีนี้จะทะเลาะกันเอา




เรื่องก็จบลงด้วยความไม่เข้าใจของผม ว่าทำไมผมช่วยแม่แล้วไม่สำเร็จ









วันนึง มาได้อ่านหนังสือ ผู้หญิงมาจากดาวอังคาร ผู้ชายมาจากดาวศุกร์




ถึงจะอ๋อออกมาได้




บางครั้งคนเราไม่ได้ต้องการวิธีแก้ปัญหา เค้าแค่ต้องการคนมารับฟังเท่านั้น




คราวหลังแม่มาปรึกษาผม ผมลองนั่งฟังเฉยๆ เออออไปเป็นระยะๆ




ให้กำลังใจไปสองสามคำ ปรากฏว่ามันได้ผลแฮะ




แม่ผมดีขึ้นเฉยเลย




ผมถึงได้เข้าใจว่า อ๋อ การปลอบใจมันมีหลายวิธีแฮะ




บางครั้ง การบอกวิธีแก้ปัญหาก็ใช้ได้ผล




แต่บางครั้ง การนั่งฟังเฉยๆ ได้ผลกว่าว่ะ





พี่แว่น จักราวุธ แสวงผล เคยสอนผมเรื่องการเขียนเพลงให้ประทับใจ




แกยกตัวอย่างเรื่องนึงขึ้นมา




สมมติว่า มีผู้ชายคนนึง พยายามทำทุกอย่างที่จะชนะปัญหาในชีวิต




อะไรทำได้ทำหมด ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทุ่มสุดชีวิต




แต่สุดท้าย ผู้ชายคนนั้นพบความพ่ายแพ้




กลับมานั่งซึมเศร้าอยู่เพียงลำพัง




ผิดหวัง สับสน นึกถึงความพยายามทุกอย่างที่สูญเปล่า




เหมือนไม่เหลืออะไรเลย




แล้วอยู่ๆ มีคนคนนึง เดินเข้ามานั่งข้างๆผู้ชายคนนี้




บีบไหล่เขา แล้วพูดสั้นๆว่า




"ผมเห็นครับพี่ ผมเห็นที่พี่พยายาม"






มันปลอบใจผู้ชายคนนี้ได้ทันทีเลยนะครับ คำพูดแค่นี้




และมันกินใจด้วย




เรื่องสมมติเรื่องนี้ นอกจากจะเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ของการเขียนเพลงให้ประทับใจ




มันยังเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ของการที่เราจะปลอบใจใครซักคน









บางครั้ง เราอาจไม่ต้องการวิธีแก้ปัญหาที่เราเจออยู่




เราอาจแค่อยากรู้สึกว่า มีใครคอยอยู่ข้างๆเรา มองเราด้วยสายตาที่เข้าใจ




เราอาจต้องการแค่นั้นเอง




เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่ได้สู้อยู่เพียงลำพัง




เวลาเราเหนื่อย เราท้อ เราล้ม




เราอาจไม่ได้ต้องการคนมาฉุดเราให้ลุก




เพราะบางที มันจะไปย้ำว่าเราอ่อนแอ เราลุกเองไม่เป็น



แต่เพียงมีใครมานั่งยองๆอยู่ข้างๆ แล้วถามว่า "เจ็บมั้ย"




แค่นั้นก็พอแล้ว









ช่วงนี้ผมก็ล้มๆลุกๆบ่อย มีเพื่อนที่แสนดีปลอบผมอยู่ประจำ




บางครั้งก็ทำให้ผมสบายใจ แต่บางครั้งก็ไม่ได้ผล




แต่ทุกๆครั้ง ไม่ว่ามันจะได้ผลหรือไม่ได้ผล




ผมก็ยังรู้สึกเสมอนะ ว่าอย่างน้อยก็ยังมีคนห่วงใยเรา









เพราะฉะนั้น ถ้าคุณเป็นคนปลอบคนไม่เก่ง




ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ปลอบไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็รู้วิธีเอง




มันดีกว่าที่คุณจะไม่ปลอบแน่นอน ผมยืนยัน








ขอบคุณเพื่อนผมคนนั้น ที่คอยปลอบผมมาตลอด




แต่ที่สำคัญ ถ้าปลอบไม่สำเร็จ อย่าโมโหนะ




คนโดนปลอบจะยิ่งใจฝ่อนะ รู้ป่าว









ถ้าเรารักใคร แล้วเรามีความสามารถที่จะปลอบเค้า เวลาเค้าทุกข์ได้




ผมว่าเราจะมีความสุขมากเลยนะ




แต่บางครั้งมันก็ไม่ง่ายนัก




เราอาจจะต้องทำความเข้าใจความเป็นเค้าให้มาก




แล้ววันนึงเราจะจับทางเค้าได้ว่า เค้าต้องการการปลอบใจแบบไหน




นี่เป็นวิธีที่ผมใช้มาตลอด (หลังจากที่ปลอบแม่สำเร็จวันนั้น)







ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการปลอบคนที่คุณรักนะครับ



ขอขอบคุณเจ้าของบทความดี ๆ พี่ปอย@ไดอีส //inmydream.diaryis.com/2006/12/13



อลิซาเบทจังโดนสองใจเป็นที่สุดเลยประโยคนี้

"คนมันมีปัญหา จะห้ามไม่ให้คิดมากได้ไงฟะ
" (-*-)


ฮ่า ฮ่า ฮ่า .. โอ๊ยแหล่มมาก
Smiley Smiley Smiley


พี่ปอยพูดได้โดนใจสองเป็นที่สุด



พี่ปอยคะ งานแฟตปีนี้ หนูซื้อซีดีพี่แน่นอนค่ะ




อลิซาเบทจังตอนนี้หัวเข่าข้างซ้ายของสองก็เริ่มบวม ๆ


มันจะขัด ๆ เหมือนจะติดตามแขนไปอีก



และก็รู้สึกว่าศอก และ ไหล่ข้างซ้ายอาการก็ไม่ดีเลย



บอกตามตรงว่าสองช่วยอะไรตัวเองไม่ได้เลย



เพียงสิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือ ทำใจ



ก็อย่างว่าหล่ะนะ ว่าด้วยกฎแห่งการแลกเปลื่ยนที่เท่าเทียม



เงินไม่มีก็อย่ามาป่วยเป็นโรคประหลาด



หลักประกันสุขภาพก็ช่วยเพียงแค่ดีขึ้น เรื่องหายขาดนั้นเป็นเพียงความฝัน




อลิซาเบทจังช่วงนี้สองงานเยอะมาก แทบจะไม่ได้กระดิกตัวไปใหนเลย


ยากที่สุดก็คือกว่าจะหาเวลามาดัดแขนได้



ถ้าตังค์ที่หามาได้ ได้มาเป็นของสองเองก็คงจะดี



จะได้มีเก็บไว้ตอนไปรักษาตัว



หรือใช้พักผ่อนบ้าง เฮ้ออออออ เวรของกรรม




อลิซาเบทจังเมื่อคืนก่อนสองฝันถึงพี่คะ


นี่ล่ะมั้งที่เขาเรียกว่าจิตใต้สำนึก



ในฝันนั้นไม่ได้หวานแหววอะไรกัน



เป็นเหตุการณ์ในห้องตรวจห้องเดิม



พี่คะนั่งอยู่ที่เดิม บนเก้าอี้สีนํ้าเงินตัวเดิมนั้น




พี่คะนั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือของสอง



เขาคนนั้น .. ช่างอยู่ใกล้หัวใจเหลือเกิน
Smiley



ในฝันนั้นสองสีหน้าไม่ค่อยดี



เพราะกำลังโดนแก๊งค์คุณหมอล้อเรื่อง จดหมายน้อย 555



แต่พี่คะก็ช่วยดุแก๊งค์คุณหมอให้



จากนั้นสองก็สะดุ้งตื่น และเมื่อตื่นขึ้นมา สองก็พบว่าตัวเองนอนนํ้าตาไหล



ฮ่า ฮ่า ฮ่า น่าสมเพชตัวเองจริง ๆ เลย
อลิซาเบทจัง


สองก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าฝันดี หรือ ฝันร้าย





อลิซาเบทจังช่วยบอกฝนที ว่าหยุดตกได้แล้ว.



ปล. ถึงคุณ "นํ้าค้างบนยอดหญ้า" สองหาที่จดไว้เจอแล้วนะคะ


      ที่นั่นก็คือ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่


      แต่สองจนปัญญาเรื่องชื่อของไร่นั้น


      แล้วก็คิดว่าถ้าเป็นที่ส่วนบุคคล เขาก็คงจะไม่ให้เราเข้าไป.Smiley




ทำไมช่วงนี้เจอแต่เรื่องผิดหวังฟระ.
Smiley










Create Date : 13 ตุลาคม 2553
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 10:25:14 น.
Counter : 642 Pageviews.

7 comments
  
บางครั้ง..กับบางคน..แม้นั่งติดกัน..แม้ห่างกันเพียงเอื้อมมือ..
แต่มันคือแสนไกลในความรู้สึก..
บางที..การได้เพ้อฝันมันก็ทำให้เรามีความสุข..ถึงแม้เป็นเพียงฝันลมๆแล้งๆก็ตาม..
ถ้าใจเราเป็นสุขก็เป็นต่อไปเถอะ..เพราะเราไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครเขาเนอะ..
ปล..ถ้าคุณสองมีโอกาสได้มาเที่ยวเมืองเหนือจริงๆ..เราอาจจะได้พบกันก็เป็นไปได้นะ..ดูแลเทคแคร์ตัวเอง..และหัวใจตัวเองให้ดีนะ..ยังเป็นกำลังใจให้เสมอ..^-^..
โดย: นํ้าค้างบนยอดหญ้า IP: 61.7.232.234 วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:10:43:14 น.
  
สวัสดีครับ

แวะมาทักทายยยนะครับ
โดย: ทาโบะจัง ! (boyalonejang ) วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:11:07:30 น.
  
อ่านแล้วรุ้สึกดีค่ะ เเละเห็นด้วยจริง ๆ ว่าบางครั้งที่เราระบายก็เพื่ออยากพูดอยากระบายเท่านั้นเองค่ะ
โดย: mayonetta วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:11:21:38 น.
  
เปิดมาคิดว่ามาผิดบล๊อกแนะ

คิดว่า พี่คะ ของสอง มาแอบเขียนได ที่นี่ 555

ฝนตกดูแลตัวเองมาก ๆ นะ
ถ้าป่วยน้ำมูกไหลไม่มีใครช่วยเช็ดให้นะเออ..
โดย: ปันฝัน วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:11:23:40 น.
  
ใช่ค่ะ ส่วนใหญ่ก้อแค่อยากให้มีคนรับฟังเราเท่านั้นเอง
หลายๆครั้งไม่ต้องการคำแนะนำอะไร คุณคิดถูกแล้วค่ะ
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:12:21:43 น.
  
หวัดดีจ้าสาวน้อย
ผ่านไปได้ด้วยดีจ้า
คนเรา มีทั้งสมหวังและผิดหวังนะ
ไม่งั้นจะเรียกว่าชีวิตหรอ
โดย: kwan_3023 วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:12:26:32 น.
  
คล้ายๆกันค่ะ ตอนนี้พยายามหาวิธีบำบัดชีวิตตัวเองอยู่ค่ะก็เลยไปเจอวิธีนี้มาก็เลยเอาใสฝากค่ะ
โดดเดี่ยวเดียวดายให้มีสุข




ความรักของเราแต่ละคนอาจเริ่มต้นจากการพบกันโดยบังเอิญ
มีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกันตอนไปงานเลี้ยง งานวันเกิดเพื่อน
ทำงานที่เดียวกัน หรือรู้จักมักคุ้นกันตั้งแต่ยังเด็ก ฯลฯ

ไม่ว่าเราจะพบเจอกันด้วยเหตุการณ์แบบไหน
การเริ่มต้นของความรักก็มักเริ่มจากความสุขและความงดงามเสมอ
มีความทรงจำและความประทับใจในกันและกันจนต้องสานสัมพันธ์ต่อ
ทำความรู้จักตั้งแต่ผิวเผินจนมาเป็นคนรักกันในที่สุด

แต่ใครจะไปรู้ว่าความรักครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร
ไม่ว่าจุดเริ่มต้นจะเป็นเช่นไร สุดท้ายก็มีแต่ความเศร้าอยู่ดี
แม้เราจะพยายามทำใจให้ยอมรับกับความไม่แน่นอนบ้างแล้วส่วนหนึ่ง
แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ ก็ไม่มีใครห้ามน้ำตาไม่ให้มันไหลได้เลยสักคน

ความรักนั้นมักถูกมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิต
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนจะให้ความสำคัญกับมันมากเป็นพิเศษ
และพยายามสืบเสาะหาใครคนนั้นที่จะมาเป็นคู่ชีวิต
เพื่อที่จะมาร่วมสร้างความสุข เสียงหัวเราะ มอบรอยยิ้ม
มอบสิ่งดีๆ ให้แก่กัน สร้างอนาคตที่สดใส
ใช้วันคืนและแบ่งปันความสุขความทุกข์ที่มีร่วมกัน

เมื่อถึงวันนั้นเราจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันอยู่กับเราไปนานๆ
แต่ความรักมันก็เหมือนเรื่องอื่นๆ ในชีวิตที่เราได้แต่ทำให้ดีที่สุดเท่านั้น
รักกันให้ดีๆ ทำแต่สิ่งดีๆ พูดแต่สิ่งดีๆ มอบแต่สิ่งดีๆ ให้คนที่เรารัก

แต่มันจะลงเอยอย่างไรก็เป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่อาจกำหนดผลได้
จะสมหวังหรือผิดหวังก็เป็นเพียงสิ่งที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ทั้งสองทาง
เราคงไม่อาจไปทัดทานอะไรได้

หากเขาเป็นคนที่ใช่...สุดท้ายมันก็คือใช่
แต่หากเขาไม่ใช่...จะยื้ออย่างไรก็คงอยู่กับเราได้ไม่นานนัก
กับคำถามที่ว่าความรักมักเริ่มต้นด้วยความสุข และจุดจบจะต้องเศร้า
จึงไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป. . .
ขอร่วมเป็นกำลังใจให้กับคนที่ยังสับสนในความรักนะคะ
และก็หวังว่าทุกอย่างเราจะผ่านไปได้ด้วยดี
เพราะความรู้สึกของเราตอนนี้ก็ไม่ต่างจากเรื่องราวทั้งหมดนี้เท่าไหร่นัก

รักษาสุขภาพและดูแลตัวเองด้วยนะคะ

รักเสมอ เจน (ภายใต้)
โดย: ภายใต้ วันที่: 14 ตุลาคม 2553 เวลา:12:44:47 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อาร์ลาฟองค์
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



.. คิดก่อน บอกก่อนจะนอนฉันยังคงคิดถึง

.. คิดอยู่ ไม่ว่าตอนนี้ หรือว่า จะตอนใหน.
New Comments
ตุลาคม 2553

 
 
 
 
 
1
2
15
18
 
 
13 ตุลาคม 2553
All Blog
MY VIP Friends