Group Blog All Blog
|
2>>>เรีอนดอกรัก...ดวงตะวัน เรือนดอกรัก...ดวงตะวัน...อลวนมนต์รักโฮมสเตย์ สาวส้มลิ้มจากบางดอกรัก...เมื่อเรียนจบแล้วยังหางานทำไม่ได้ สอบเรียนต่อโทก็ไม่ได้...เลยคิดอ่านจะเอาเรือนดอกรักทำเป็นโอมสเตย์มันซะเลย...ชุมชนชาวสวนไม่ไกลจากกรุงเทพฯ น่าจะมีอะไรที่พอจะขายได้...ส้มลิ้มคิดจะขายความเป็นไทย อวดสายตาสู่นักท่องเที่ยว...ทั้งๆที่ เธอเปรี้ยวจี๊ดเป็นสาวสมัยใหม่ พ่อที่ไม่ได้ทำสวนแต่กลับชอบเล่นกอล์ฟ ไม่ใส่กางเกงเสื้อม่อฮ่อมแต่ใส่กางเกงยีนส์เสื้อมีแบรนด์ ส่วนย่าที่ไม่ได้นุ่งผ้าถุงผ้าแถบแต่ใส่เสื้อยืดของแถม และชอบกระดกโค้กแทนน้ำเปล่าเหยาะยาอุทัย...นี่หรือคือความเป็นไทย??? อ่านตอนแรกๆ ก็ฮากับบทสนทนาของสมาชิกบ้านดอกรักแล้วค่ะ เมื่อลูกๆโอดครวญเรื่องชื่อจริงของตัวเอง พ่อสมบัติก็ตอบไปแบบที่...อืมมมนะ...มันก็จริงของเค้า... "ปั้ดโธ่...นังสองคนนี่ ก็พ่อเอ็งชื่อสมบัติ ย่าเอ็งชื่อสมจิตร แล้วจะให้ข้าตั้งชื่อพวกเอ็งว่า โสภิตนภา ศรีริต้า บัวชมพู หรือไง? ...ข้าจะบอกให้นะว่า ชื่อสมหญิง กับ สมชาย ที่ข้าตั้งให้น่ะ เวิร์ก สุดๆแล้ว" พอตั้งใจว่าจะเปิดเรือนดอกรักเป็นโฮมสเตย์จริงๆ...ส้มลิ้มก็เริ่มจัดหาความเป็นไทยมาใส่ไว้ที่เรือนดอกรัก ไม่ว่าจะเป็น กระบุง กระจาด หม้อดิน มุ้ง หมอนขวาน ผ้าซิ่น ผ้าแถบ ชามตราไก่ ปิ่นโต แป้งมองเล่ยะ น้ำอบ ดินสอพอง หนังสือมานีมานะ(อันนี้ถูกใจคนอ่านสุดๆ)... "แล้วตัวจะเอาของพวกนี้ไปใช้จริงๆหรือส้มลิ้ม เค้าว่ามันดูปลอมๆยังไงไม่รู้"...กิมลั้ง น้องชายคนเดียวที่ตอนนี้เปลีี่ยนมาเป็นน้องสาวของส้มลิ้มทักท้วง "ก็แล้วใครแคร์ล่ะ นักท่องเที่ยวที่มาโฮมสเตย์ที่บ้านเราเขา็ก็อยากได้แค่บรรยากาศ แค่ความรู้สึกเก่าๆ แค่กลิ่นอายชนบท ชาวสวน เท่านั้นเป็นพอแล้ว" แม้แต่พ่อ ย่าและแป้น ก็ยังทักท้วง แต่นะ...ส้มลิ้มมาถึงขนาดนี้แล้ว จะถอยได้ไง... "นังลิ้ม นี่เอ็งอย่าบอกนะโว้ยว่่าข้าจะต้องหุงข้าวด้วยหม้อดินน่ะ" "ไม่ได้จะบอก แต่่จะให้ทำจริงๆเลยนะย่า" "ข้าไม่ใช้ ข้าจะใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ใครจะทำไม ว๊าย...เตาถ่าน! นั่นเอ็งซื้อเตาถ่านมาด้วยหรือ" ทางด้านพ่อบัติ...ก็มีปัญหากะตะเกียงลาน... "ข้าไม่ได้ใช้มาตั้งหลายปีแล้ว แล้วบ้านเราก็มีไฟฟ้าใช้ เอ็งจะใช้ตะเกียงลานให้ฟืนไฟมันไหม้ทำไมฮึนังส้มลิ้ม?" กับคำถามที่ตามมาอีกมากมาย....เกี่ยวกับความเป็นไทยที่ส้มลิ้มจัดหามา... "แล้วนี่เราต้องกินข้าวในกะลาหรือเปล่าวะส้มลิ้ม?" "นี่นะหรือชุดไทยของเอ็ง ข้านึกว่าจะให้แต่งชุดผ้าไหมไทยยกดิ้นทองดิ้นเงิน มีผ้าทอลายสวยๆพาดบ่า เหมือนที่เห็นคุณหญิงคุณนายในทีวีเขาแต่งกันเสียอีก แล้วให้ข้าพันผ้าแถบผืนเท่านี้ เกิดข้าทำนมหกไปว่ายังไง?" "...ฯลฯ...เราคนไทยน่ะ เลี้ยงสุนัขชิสุห์ได้หรือคะ" และแล้้ว นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกก็มาถึงเรือนดอกรัก...เมืองไทยและการุณย์หุ้นส่วนของเมืองไทยทัวร์ มาสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆเอาไว้รองรับนักท่องเที่ยว...เมืองไทยเคยเจอกับส้มลิ้มในภาคสาวเมืองกรุงเปรี้ยวจี๊ดมาก่อน ถึงกับอึ้ง ขำ กับภาพลักษณ์สาวบางดอกรักและความเป็นไทยแบบปลอมๆของส้มลิ้ม...แต่มันก็ทำให้เมืองไทยติดใจบางดอกรักขึ้นมา...แล้วก็นะ มันก็มีฉากหวานๆ ให้คนอ่านได้จิ้นกันบ้าง... "คุณลากฉันมาอย่างนี้ เกิดฉันตกน้ำตกท่า หรือหกล้มหัวฟาดพื้นสมองเสื่อมไปจะว่าไง?" "ง่ายมาก ผมก็รับเลี้ยงดูตลอดชีวิต" "ไปโดนอะไรมา" "ถูกสาวจิกเอา" "งั้นเชิญคุณไปตรวจให้ละเอียดนะคะ เอ็กซเรย์ อัลตร้าซาวนด์ ทำซีทีสแกน ตรวจแมมโมแกรม" "โห ส้มลิ้ม ใจคอคุณจะให้ผมไปตรวจเต้านมเชียวเหรอ ผมก็แค่กลัวติดเชื้อเท่านั้นเอง" "เอ๊ะ คุณหาว่าฉันเป็นหมาบ้าหรือไง" "เปล๊า แหม...คิดมากจริงคุณ ผมก็แค่ระวังไว้เท่านั้นเอง เชื้อบางชนิดน่ะแรงจะตายไปนะส้มลิ้ม ที่มานี่ก็แค่อยากรู้เท่านั้นเองว่าเชื้อมันไปถึงไหนแล้ว ผมน่ะหวั่นๆว่าเชื้อมันจะเข้าหัวใจแล้วด้วยซ้ำ"...ฮิ้วววววววว "ถ้าเมืองไทยเจ๊ง ผมจะมาสมัครเป็นเลขาฯของคุณจริงๆนะส้มลิ้ม" "ฉันคงไม่มีเงินจ้างหรอกค่ะ" "ก็บอกแล้วไงว่าขอแค่เมตตาเอ็นดูกันก็พอแล้ว อ้อ...แต่ถ้าแถมรักใคร่ใยดีกันด้วยล่ะก็ ผมทำงานให้อย่างถวายหัวใจเลยนะส้มลิ้ม"....อ๊ายยย เขินแทนค่ะ เอาล่ะ...ยกตัวอย่างฉากฮา ฉากหวานๆ กันมาแล้ว....เดี๋ยวจะหาว่าเรื่องเค้าไม่มีเนื้อหาอะไร...จริงๆแล้วมีค่ะ...มีเยอะแยะเลย แบบว่าเล่มหนามากกกก (นิยายของดวงตะวันเป็นอะไรที่ต้องทำใจก่อนอ่านเพราะความหนานี่ล่ะค่ะ) ไหนจะเรื่องโฮมสเตย์คู่แข่ง ปัญหาภายในของเมืองไทยทัวร์ที่ลุกลามบานปลายจนเกิดเรื่องร้ายๆขึ้น การกว้านซื้อที่ดินชาวสวน ไปตามอ่านต่อกันในเล่มนะคะ.... อ่านจบ...ความหนาของเล่มทำให้จบช้าไปนิดนึงค่ะ...แต่ว่าอารมณ์ที่ได้คนละขั้วกับเรื่องในสวนขวัญเลยค่ะ...เรื่องนี้แค่ตอนแรกๆก็ฮากับความพยายามเป็นไทยของครอบครัวเรือนดอกรักแล้วค่ะ...แต่มันไม่ได้มีแค่ความฮาอย่างเดียวนี่สิ...มีหลายสิ่งหลายอย่าง...ที่คนอ่านก็ได้ย้อนกลับมาถามตัวเองเหมือนกันว่า...แล้วอย่างไหนล่ะคือความเป็นไทยจริงๆ แล้วที่ตัวเราเป็นอยู่ทุกวันนี้ใช่ความเป็นไทยรึเปล่านะ...แบบว่าอินจัดคิดว่าตัวเองคือสมหญิง เอ๊ย ส้มลิ้ม... อีกอย่างที่รู้สึกชอบก็คือ...ความเป็นชาวบ้านของบางดอกรักค่ะ...คือแบบ...ชาวบ๊าน ชาวบ้านจริงๆ...การใส่บาตรตอนเช้า การพายเรือขายของ การทำสวน หาหวยเลขเด็ด จับกลุ่มนินทา รวมไปถึงการวางท่าเป็นผู้นำชุมชน บางคนถึงแม้ปากจะบอกว่าเกลียดกันแต่อย่างมากก็แค่ด่ากระทบกันไปมาพอหอมปากหอมคอ...บทสนทนาแบบเอ็งๆ ข้าๆ...แหม ชุมชนนี้ คึกครื้นดีค่ะ ชอบๆๆๆ ตัวละครอย่างพ่อ ย่า และบรรดาชาวบ้านทั้งหลาย...สามารถสัมผัสได้ค่ะ ว่ามีจริงๆแหละคนแบบนี้ อย่างนี้...ถ้าใครอยู่ต่างจังหวัด ชนบทนี่จะรู้เลย แบบนี้แหละ ชาวบ้านของแท้...แม้ว่าความเจริญมันจะค่อยๆคืบคลานมาถึงก็เถอะ แต่ความเป็นเอกลักษณ์ของชาวบ้านยังมีอยู่...และคนเขียนก็ทำได้ดีค่ะ บรรยายได้ถึงบรรยากาศ...ชอบอีกแล้วค่ะ อ่านไปอมยิ้มไปตลอดเรื่องเลย แถมอีกนิด...ในเรื่องนี้ชอบสุดๆก็กิมลั้งน้องชายคนเดียวที่ตอนนี้กลายเป็นน้องสาวของส้มลิ้มค่ะ แหม...พ่อคุณ เอ๊ย แม่คุณ ช่างน่ารัก น่าเอ็นดูจริงๆค่ะ แนะนำเลยค่ะ...สำหรับใครที่อยากหาเรื่องที่อ่านแล้วอมยิ้มไป หลุดฮาเป็นระยะ เขินๆจิกหมอนเป็นบางที...แล้วก็ลุ้นๆเป็นบางตอน แบบกำลังพอดีไม่มากไม่น้อยก็เรื่องนี้เลย...เรือนดอกรัก... ปล...เคยไปเที่ยวแบบพักโฮมสเตย์มาสองสามครั้งค่ะ...พอเอามาเปรียบเทียบความรู้สึกตอนเราเป็นนักท่องเที่ยวแล้ว...เราก็ไม่ได้สนใจอะไรกับความเป็นไทยที่ไม่ว่าจะของจริงหรือจอมปลอม...ขอเพียงแค่ที่นั่นทำให้เรามีความสุขกับการท่องเที่ยวก็พอแล้ว ไม่ต้องกินข้าวจากหม้อดินก็ได้ ไม่ต้องจุดตะเกียงลานแทนการใช้ไฟฟ้าก็ได้...แค่มีความสุขกับสถานที่ที่เราไปเยือนแค่นั้นก็น่าจะพอแล้วสำหรับคำว่าการท่องเที่ยวของจขบ. นะคะ อ่านนานแล้วเหมือนกันฮะเล่มนี้ จำได้ว่าฮากลิ้งมาก เป็นหนึ่งในหลายๆ เล่มของพี่ปุ๊ที่ชอบ
โดย: Boyne Byron วันที่: 6 มกราคม 2557 เวลา:22:33:31 น.
จำไม่ได้ว่าเรื่องนี้มีในดองหรือเปล่าค่ะ อ่านรีวิวแล้วคิดว่าอ่านแล้วต้องชอบแน่ๆเลยค่ะ
โดย: Sab Zab' วันที่: 6 มกราคม 2557 เวลา:22:45:33 น.
ชอบกลางๆ เพราะรู้สึกไม่สุดในแง่ความฮา หรือความอบอุ่นในแนวครอบครัว
แต่ชอบในแง่คิดเกี่ยวกับโฮมสเตย์ ความพยายามเป็นไทยที่ใส่มาค่ะ โดย: ฟ้าใส ในเงาจันทร์ วันที่: 7 มกราคม 2557 เวลา:0:25:04 น.
อ่านแล้วค่ะ รู้สึกเหมือนคุณฟ้าใสฯ
แต่น้องสาวเราชอบมาก บอกว่าตลกดี มีสาระ โดย: polyj วันที่: 7 มกราคม 2557 เวลา:1:41:31 น.
ยังไม่เคยอ่านเลยครับ
โดย: Nat_NM IP: 203.146.150.142 วันที่: 7 มกราคม 2557 เวลา:10:27:13 น.
เคยยืมห้องสมุดมาดองค่ะ แต่... ไม่ได้อ่าน
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 7 มกราคม 2557 เวลา:10:49:39 น.
อยากมีเล่มนี้ในครอบครองจัง รีวิวน่ารักมากค่ะ
โดย: คุณหนูฤดูร้อน วันที่: 7 มกราคม 2557 เวลา:14:15:27 น.
อ่านแล้วครับ...เพิ่งอ่านจบได้ไม่นานด้วย ฮ่าๆ กำลังใจเขียนรีวิว ในเร็วๆนี้ ใจตรงกับพี่ Aneem อีกแล้วว
โดย: อุ้มสม วันที่: 7 มกราคม 2557 เวลา:18:18:20 น.
คุณBoyne Byron...
คุณSab Zab'...รีบไปรื้อหาในกองดองด่วนเลยค่ะ คุณServerlus...คุณฟ้าใสฯ...คุณpolyj... คุณสามปอยหลวง...แปลกดีค่ะ อ่านเพลินเลย คุณพุดน้ำบุศย์...คุณNat_NM... คุณหวานเย็นฯ...คิดว่าในห้องสมุดน่าจะยังมีอยู่ เชียร์ให้ไปยืมมาอ่านอีกรอบค่ะ คุณPdจิงกุเบล...คุณหนูฤดูร้อน...คุณชบาหลอด...เชียร์ให้ลองอ่านดูค่ะ คุณอุ้มสม... คุณคอเล่า... โดย: Aneem วันที่: 7 มกราคม 2557 เวลา:23:01:27 น.
เรื่องนี้เราก็ชอบค่ะ ชอบครอบครัวนี้ ตลกดี ดูอบอุ่นและช่วยเหลือกันดี
โดย: จิตหลอน วันที่: 8 มกราคม 2557 เวลา:23:19:09 น.
คุณจิตหลอน...คุณหัวใจสีชมพู...ชอบเหมือนกันค่ะ น่ารัก
โดย: Aneem วันที่: 9 มกราคม 2557 เวลา:20:14:34 น.
เล่มนี้อ่านแล้วชอบมากเหมือนกันค่ะ แบ่งเอาไว้
ในประเภทของอ่านแล้ว เพลินๆ เพราะว่ามีขำฮาตลอด เมื่อก่อนเพื่อนไม่ค่อยชอบอ่านของดวงตะวัน แต่ว่าพอให้อ่านเรื่องนี้ไปก่อนก็บอกว่า จะเอาเล่มอื่น ของดวงตะวันอ่านอีกล่ะค่ะ โดย: JewNid วันที่: 10 มกราคม 2557 เวลา:19:53:14 น.
|
Aneem
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?] ปีนี้+++ตั้งเป้าไว้ว่าจะพยายามซื้อหนังสือให้น้อยลง...แต่จะอ่านของเก่าที่ดองอยู่ให้มากขึ้น...จำทำได้มั้ยนะ!!! Friends Blog
Link |