รักต่างรส...ลีฬวรา...คำเตือน : อากาศหนาวทำให้ความสามารถในการอ่านน้อยลง...กว่าจะจบเล่มใช้เวลานานมาก
กิมจิอาหารประจำชาติเกาหลีกับปลาร้าอาหารประจำชาติไทย ดูไม่น่าจะเข้ากันได้...แต่อะไรๆก็เกิดขึ้นได้...แถมความแค้นยังมีต่อกันมาตั้งแต่รุ่นคุณแม่ซะอีก...
ศิวัช...หรือเสือ เจ้าของร้านอาหารเกาหลีที่ฮอตฮิตสุดๆ...ลูกชายคนโตของแม่ศรีเมืองอดีตแม่ค้าส้มตำที่ทำร้านเจ๊งจนลูกชายต้องเข้ามาช่วยกอบกู้ด้วยการเปลี่ยนเป็นร้านอาหารเกาหลี เพราะเสือเคยเรียนที่เกาหลีมาก่อน และยังมีหุ้นส่วนเป็นชาวเกาหลีด้วย...ร้านส้มตำยโสเลยเปลี่ยนเป็นร้าน @ Soul ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แสนดี...ครีเอทีฟน้องใหม่ที่โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงาน...จนต้องกลับมาดูแลร้านส้มตำแม่ลออ...แต่ร้านก็เปลี่ยนไปมาก จากที่เคยมีลูกค้าคึกคัก ก็นับวันร่วงโรย ลูกค้าค่อยๆหายไป ร้านก็ทรุดโทรม...จนแสนดีคิดว่าจะเข้ามาดูแลต่อจากแม่ที่กำลังป่วยเอง...
ศึกร้านอาหารเกาหลีและร้านส้มตำเริ่มเกิดขึ้น เพราะแม่ศรีเมืองเคยมีเรื่องราวบาดหมางกับแม่ลออมาก่อน...แถมแสนดียังเข้าตาจน เพราะคนในร้านกลับทรยศอีก ไหนจะเปิดร้านวันแรกก็มีเรื่องมีราวถึงขนาดขึ้นโรงพักซะงั้น...โชคดีที่ศิวัชไม่บ้าจี้ตามแม่ศรีเมืองไปด้วย เลยแอบคอยช่วยเหลือแสนดีอยู่ห่างๆ
"รับหน่อยไหม ขนมจีบไส้หอยเชลล์ ผมเพิ่งหัดทำ ว่าจะลองขายที่ร้านดู รับรองว่าขายให้ไม่แพงหรอกนะ"
"นี่คุณกำลังขายขนมจีบให้ฉันอย่างนั้นเหรอ"
"ผมตั้งใจทำมากนะ แป้งก็ทำเอง ไส้ก็ทำเอง ผมเพิ่งเคยขายขนมจีบเป็นครั้งแรก ส้มไม่สนใจเป็นลูกค้าหน่อยเหรอ"
เรื่องนี้จริงๆก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ความแค้นเก่าๆของคนรุ่นแม่ พลอยให้ลูกไม่สบายใจไปด้วย แต่มันมีอะไรเด็ดๆ ซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะกลยุทธ์การดึงลูกค้าที่เดี๋ยวนี้การแข่งขันสูงมาก เคล็ดลับการตำส้มตำให้อร่อยต้องเลือกใช้ของยังไง การทำกิมจิ การแ่ข่งขันที่ยังมีการยัดเงินใต้โต๊ะ การบริหารจัดการลูกน้องที่ต้องใช้ทั้งพระเดชพระคุณ...มันเลยทำให้เรื่องสนุกขึ้นเยอะ ชอบคำพูด คำสอน ของตัวละครในเรื่องค่ะ
"ความฝันมันอยู่กับเราทุกที่แหละ ถ้าเราไม่ละทิ้งมััน"...จากฤทธินาถหรือริดซี่ เพื่อนสนิทของแสนดี
"ในยุคการค้าเสรีแบบนี้ ขืนเสียเวลาเดินทางไปแสวงหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่แข่งจะได้วิ่งแซงไม่เห็นฝุ่นกันพอดี คิดง่ายๆนะ บิล เกตส์ รวยล้นฟ้าแบบนั้น ไมโครซอฟต์เคยพึ่งพานางกวักเสียที่ไหน สมองล้วนๆ ปั้นความคิดขึ้นมาขายจนรวยล้นฟ้า"...จากแสนดี นางเอกของเรื่อง
"ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้แหละ กว่าจะประสบความสำเร็จได้ก็มักจะมีบททดสอบก่อ่นเสมอ ฉะนั้นอย่าเพิ่งไปท้อเพียงเพราะว่าสอบตกตั้งแต่ครั้งแรกแบบนี้"
"โลกนี้ไม่ใช่แค่ขาวหรือดำ แต่ยังมีสีเทาอยู่ตรงกลาง ส้มไม่ควรเลือกว่าถ้าไม่ยอมก็ต้องแตกหักอย่างรุนแรง ที่จริงควรใช้วิธีสั่งสอนแบบละมุนละม่อมถึงจะให้ผลดีแก่ทุึกฝ่าย"
"...ถึงแม้จะไม่ชนะใครก็ยังชนะใจตัวเอง ซึ่งถือเป็นชัยชนะที่สำคัญที่สุดนะลูก"....จากแม่ลออ
"แกรู้ไหมยะ สำหรับผู้ชายเวลาหมดรักแล้วน่ะ แม้แต่ความสงสารก็ยังไม่มีให้เลย ฉันเจอจนชินแล้ว จึงไม่อยากทำตัวให้คนอื่นสมเพช"...."ถ้าริจะเป็นกะเทยแล้วก็อย่าฝันถึงความรักจากผู้ชาย เพราะมันหายิ่งกว่าหาน้ำในทะเลทรายเสียอีก รู้ไหม ยายหน้าสวย"....จากรุ่นพี่กะเทยของริดซี่
"ผู้ชายคนนั้นมันทำลายหัวใจไปแล้วก็จริง แต่เธอยังร่วมสังฆกรรมทำลายตัวเองไปด้วยทำไมยะ เธอจะต้องยืนหยัดให้ได้ทั้งต่อหน้าและลับหลังนะ..." ....จากครูเจนนี่ ครูของริดซี่
เรื่องนี้เจอคำพูดโดนๆเยอะค่ะ...ขนาดหน้าสุดท้ายก็ยังไม่วาย...
"เราอย่าวางแผนชีวิตกันไปไกลขนาดนั้นเลย เอาแค่ปีสองปีข้างหน้านี้ก็พอ ส้ม....ผมตั้งใจว่าอีกสองปีจะแต่งงาน ถึงตอนนั้นอยากชวนส้มไปร่วมงานด้วย...ในฐานะเจ้าสาว...จะได้ไหม"...
อ่านจบ...น่ารัก ชอบค่ะ เสียดายที่ดองไว้นานไปหน่อย...แถมรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้คุ้มค่าและทรงคุณค่ามากขึ้นไปอีก เมื่อซื้อมาในราคา 99 บาท (จำไม่ได้ว่าตอนนั้นร้านหนังสือจัดโปรโมชั่นอะไร) อ่านปกหลังเข้าใจว่าคงแนวจิกกัด หาทางแก้แค้นกันไปมา....แต่ที่ไหนได้ มันสนุกกว่านั้น ตั้งแต่การคิดกลยุทธ์ต่างๆเพื่อดึงลูกค้าเข้าร้าน การบริหารจัดการต่างๆ ทำให้ชอบแนวความคิดของพระนางเรื่องนี้ค่ะ ใครที่อยากมีธุรกิจส่วนตัวอะไรสักอย่าง ลองหยิบเรื่องนี้มาเป็นแนวทางศึกษาแบบเบาๆดูค่ะ อร่อยดีมีสาระใช้ได้เลยค่ะ...ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครก็จัดว่าน่าสนใจดีค่ะ แม่กับลูก เพื่อน คนรัก คู่อริ ดูมีเหตุให้คิดตามได้ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น...ประมาณนั้น...
ส่วนอีกคู่ที่ขโมยซีนได้น่ารักน่าหยิก...ก็คู่ของริดซี่และเผด็จศึก...ที่โผล่มาทีไรก็เรียกรอยยิ้มให้กับคนอ่านทุกครั้ง...แถมท้ายยังจัดดราม่าให้อีกนิดหน่อย...กลัวไม่ครบรส...
ตอนนี้หนังสือใหม่ก็ดองไว้จนตกรุ่นหมดแล้ว