สุขมาก สุขน้อย ก็สุขเถอะ
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
14 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 

ตอนที่ 6 เมื่อคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง

Smileyคงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า เมื่อได้ยินคำว่า "มะเร็ง" โดยเฉพาะเมื่อเกิดกับคนใกล้ชิด
ย่อมทำให้เกิดอารมณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความตระหนกตกใจ กลัว กังวล เสียใจ สับสน
หรือโกรธ ซึ่งเป็นปฎิกิริยาตามธรรมชาติ แต่ในที่สุด หลังจากฝ่านพ้นอารมณ์เหล่านั้นแล้ว
ผู้ป่วยและครอบครัวหรือคนใกล้ชิด ก็มักจะพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับการวินิจฉัยที่เพิ่งได้รับมา
ไม่มากก็น้อย บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดความเข้าใจและมีมุมมองในการดูแลผู้ป่วย
โรคมะเร็ง เพื่อให้ท่านสามารถปรับตัวและใจให้พร้อมที่จะรับมือกับโดรได้ดีขึ้น


การดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งเป็นงานที่ท้าทาย เพราะต้องมีทั้งการดูแลทางร่างกายที่อาจ
มีการเปลี่ยนเปลงไป ไม่ว่าจะจากตัวโรคเอง หรือเป็นผลจากการรักษาก็ตาม นอกจากนี้
การดูแลทางด้านจิตใจและอารมณ์ของผู้ป่วยและผู้ใกล้ชิดเอง ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยกว่ากัน
ซึ่งหมายความว่า ทั้งผู้ป่วยและผู้ใกล้ชิด จำต้องมีการปรับตัวเพื่อรับสถานการใหม่ ๆ
ที่อาจเกิดขึ้น
"คุณไม่สามารถปฏิเสธตนเองได้ว่าไม่ได้เป็นมะเร็ง แต่คุณสามารถรับมือกับมันได้"


**เริ่มต้นอย่างไรดี**
ผู้ป่วยโรคมะเร็งส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นพบแพทย์ทั่วไป หรือแพทย์เฉพาะทางตามอาการ
ที่ผิดปกติ เช่น ผู้ป่วยมะเร็งปอดที่มีอาการไอหรือหอบเหนื่อย อาจไปพบอายุรแพทย์
หรือายุแพทย์โรคทางเดินหายใจ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมอาจเริ่มต้นพบศัลยแพทย์ด้วย
ปัญหาก้อนในเต้านม เป็นต้น เมื่อได้รับข้อมูลเบื้องต้นหรือการวินิจฉัยจากแพทย์ที่ดูแลแล้ว
แพทย์อาจส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ผู้ป่วยโรคมะเร็งจำนวนมาก
อาจมีอาการของโรคมะเร็งได้หลายอวัยวะ อีกทั้งมักเป็นผู้สูงอายุซึ่งมักมีโรคร่วมอื่น ๆ อยูด้วย
อาทิเช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ถุงลมโป่งพอง ทำให้ต้องรับการดูแลจากอายุรแพทย์
ที่มีความรู้รอบด้าน ร่วมกับอายุรแพทย์เฉพาะทางในการดูแลรักษาโรคมะเร็ง สำหร้บ
อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งที่จะให้ข้อมูลรายละเอียดด้านแนวทางการดูแลรักษา
หรือการพยากรณืโรคมะเร็งนั้น ได้แก่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางอายุรศาสตร์โรคมะเร็ง
( Medical Oncologist ) หรือ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางอายุรศาสตร์โรคเลือด ( Hematologist )
( ในกรณีที่เป็นมะเร็งของเม็ดเลือดหรือต่อมน้ำเหลือง ) จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทานจะหาข้อมูล
ได้เต็มที่ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการรักษา


การรักษาโรคมะเร็งนั้น มักต้องอาศัยความร่วมมือของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลายสาขา
ที่ทำงานร่วมกันเป็นทีม ได้แก่ ศัลยแพทย์ รังสีแพทย์ อายุรแพทย์ พยาธิแพทย์ และ
แพทย์อื่น ๆ อีกหลายสาขา โดยแพทย์แต่ละสาขาจะมีความชำนาญเฉพาะด้าน อายุรแพทย์
โรคมะเร็งมีความชำนายที่จะเป็นผู้ให้คำแนะนำโดยรวมว่าในภาวะโรคของทานนั้น
มีแนวทางการรักษาอย่างไรบ้าง บอกลำดับของการรักษาแต่ละวิธีที่เหมาะสม และทำหน้าที่
เป็นผู้ประสานงานกับแพทย์สาขาต่าง ๆ เพื่อให้ผลการรักษาโรคมะเร็งของผู้ป่วยคนหนึ่ง ๆ
เป็นไปอย่างดีที่สุด ที่สำคัญ อายุรแพทย์โรคมะเร็งเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมเพื่อให้มี
ความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคมะเร็งด้วยยาเคมีบำบัด หรือยาต้านมะเร็งในหลายรูปแบบ
มีความชำนาญในการเลือกการรัษาด้วยยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วย และเหมาะสมกับชนิดของ
โรคมะเร็ง นอกจากนี้ ผู้ป่วยมะเร็งจำนวนมากอาจมีโรคประจำตัวอื่นที่ทำให้การดูแลรักษา
ด้วยยาเคมีบำบัดซึ่งอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงมีความซับซ้อนมากขึ้น อายุรแพทย์โรคมะเร็ง
จะดูแลปัญหาเหล่านี้ได้อย่างถี่ถ้วน ทำให้การรักษาโดยรวมราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
"คนเป็นมะเร็งไม่จำเป็นต้องตายจากมะเร็งทุกคน"


**เมื่อท่านต้องดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง**
หากท่านเป็นผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยและต้องดูแลผู้ป่วย สิ่งสำคัญคือท่านควรร่วมรับรู้ข้อมูล
การเจ็บป่วยโดยการไปพบแพทย์พร้อมกับผู้ป่วย บางครั้งผู้ป่วยอาจจะไม่ได้แจ้งให้แพทย์
ทราบอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษา ไม่สามารถจำทุกอย่างที่แพทย์แนะนำได้
หรือผู้ป่วยบางรายไม่กล้าถามคำถามกับแพทย์ ท่านจะเป็นผู้ที่เชื่อมต่อสิ่งเหล่านี้และทำให้
การรักษาสมบูรณ์มากขึ้น ผู้ป่วยและครอบครัวมักจะไม่กล้าถามแพทย์ ไม่ว่าจะเพราะความ
เกรงใจหรือกลัวก็ตาม แต่ที่จริงแล้ว แพทย์ยินดีที่จะตอบข้อสงสัยของผู้ป่วยเป็นอย่างยิ่ง
แต่เนื่องจากบางครั้งแพทย์เองอาจจะเข้าใจว่าท่านเข้าใจหรือทราบแล้ว จึงไม่ได้เน้นเย้ำ
เพิ่มเติม เป็นต้น
ท่านอาจต้องช่วยบริหารจัดการกิจกรรมในชีวิตประจำวันบางอย่างแก่ผู้ป่วยในช่วง
การรักษา เช่น การจดตารางการนัดหมายกับแพทย์ การดูแลเรื่องการรับประทานยา
การจดบันทึกอาการผิดปกติต่าง ๆ เพื่อรายงานแพทย์ (ผู้ป่วยสามารถทำได้เช่นกัน)
การจัดการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ การจัดสลับหน้าที่ของสมาชิกคนอื่น ๆ ในบ้านให้ทุกอย่างดำเนิน
ได้ใกล้เคียงเดิม เพื่อที่จะไม่ทำให้ผู้ป่วยต้องพะวงในเรื่องเหล่านี้จนเกินไปในระหว่างการรักษา
เป็นต้น


การตัดสินใจร่วมกันของคนในครอบครัวในเรื่องการรักษาก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำ ทั้งนี้
ควรกระทำเมื่อทุกฝ่ายได้ร่วมรับรู้ข้อมมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก่อน โดยยึดประโยชน์ของ
ผู้ป่วยเป็นหลัก และให้น้ำหนักความต้องการของผู้ป่วยมากที่สุดด้วย เมื่อตัดสินใจ
อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ต้องไม่มีการกล่าวโทษกันภายหลัง จงนึกเสมอว่าทุกคนต่างทำด้วย
ความรักและเป็นห่วงผู้ป่วยทั้งนั้น
การดูแลทางจิตใจเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การดูแลด้านกาย แน่นอนที่ผู้ป่วยจะมีความวิตก
กังวล เครียด และเป็นทุกข็จากการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ ในฐานะของผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย การให้
กำลังใจจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จงทำให้เขารู้ว่าเขาไม่ได้เผชิญกับมันตามลำพัง
และท่านพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขาทุกขั้นตอน
การรักษาโรคมะเร็งอาจจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่เดือน หรืออาจยืดเยื้อนานกว่านั้น
ได้เช่นกัน โดยเฉพาะในกรณีที่โรคอยู่ในระยะแพร่กระจาย ดังนั้นท่านเองต้องตระหนักว่า
ตัวท่านเองต้องดูแลสุขภาพทั้งกายและจิตใจของตนเองเช่นกัน ท่านควรมีการพักผ่อนบ้าง
โดยมีคนมาช่วยผลัดเปลี่ยนการดูแลผู้ป่วยเป็นครั้งคราว ซึ่งจะทำให้ท่านมีพลังกลับคืนมา
พร้อมที่จะประคับประคองผู้ป่วยและครอบครัวให้มีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด







Free TextEditor




 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2554
2 comments
Last Update : 14 พฤษภาคม 2554 17:38:15 น.
Counter : 2117 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ..

ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะค่ะ..

อ้อมแอ้มจะเลือกทานอาหารต้านมะเร็งค่ะ

จำพวก มะเขือ บล็อคโคลี่ และอีกหลายอย่าง

ขอให้มีความสุขมากๆในทุกๆวันนะค่ะ

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 4 มิถุนายน 2554 22:11:10 น.  

 



สวัสดีค่ะ..

อ้อมแอ้มได้ผู้โชคดีรับเสื้อ

"เพื่อนเป็นแล้วรักษาไม่หาย"แล้วนะค่ะ

อยากรู้ว่าเป็นใคร..?

เชิญติดตามได้ที่บล็อคคนผ่านทางมาเจอค่ะ

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 24 กรกฎาคม 2554 19:46:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


lovecancer
Location :
กาญจนบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สุขมาก สุขน้อย ก็สุขเถอะ
Color Codes ป้ามด
Friends' blogs
[Add lovecancer's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.