เพื่อน...มันเป็นคนโผงผาง ไม่ชอบซ่อม แต่ถ้าเสียมันจะซื้อใหม่เลย (ขออภัยที่ต้องใช้คำว่า มัน เพราะมิฉะนั้นจะไม่ได้อารมณ์) ด้วยเพราะนิสัยมันเป็นอย่างนั้น เวลามันไปทำงานในบริษัทขายรถยนต์ จึงเป็นช่างได้ไม่นาน เพราะไม่ชอบงานซ่อม จึงลาออกมาเปิดกิจการเต๊นท์รถมือสอง ซื้อๆขายๆอยู่ในปัจจุบัน

ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา...ผมกับคอมเครื่องนี้ ก็เลยสนิทกัน เกือบจะเท่าเพื่อนผมกับผมในเวลาไม่นานนัก เพราะพอรู้ว่ามีผมที่พอทำคอมได้ มันก็เลยเทียวแฮ้งค์ เทียวติด เดี๋ยววินโดวส์ล่ม เดี๋ยวเกมส์หาย ตั้งแต่เน็ต 3 บาทก็ผม เน็ต 256/128 ก็ผม มาเป็นเน็ตความเร็วสูงกว่าที่ราคาเดิมก็ผม ฯลฯ

ผมมันคนชอบซ่อม ก็เลยแนะนำว่า พ.ศ.นี้เงินมันหายากนะเว้ย ประหยัดได้ก็ควรประหยัด ใสการ์ดจอเพิ่มแรมแล้วก็ไหลกระฉูด พาวเวอร์ซัพพลายมันเสีย เอามาใส่ใหม่ก็ใช้มาตั้ง 2 ปีแล้ว ฮาร์ดดิสก์ 40G. ก็ถือว่ายังรับไหว มีแฮ้งค์บ้างค้างบ้างก็ดูแลกันไป ทีละ200, 300 ไม่ต้องควักใหม่เป็นหมื่นๆ เพื่อนก็คล้อยตาม บอกว่า เออๆ ฝากดูแลด้วยละกัน

พอเครื่องแรง แรมเยอะ ลูกเพื่อนเลยถามว่า ร้านลุงมีเกมส์อะไรมั่ง เอาแบบร้านลุงเลยนะ ว่าแล้วก็ถอดสายยัดท้ายรถมาบ้าน นั่งลงตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงตี 2 เช้าเอาไปติดตั้งคืน เลยบอกเพื่อนว่า ขอค่าง่วงนอนสัก 200, 300 หน่อยก็ดีว่ะ เพื่อนก็ดีใจหาย ควักให้พันนึง บอกว่ารบกวนหลายเที่ยวแล้ว แถมค่าน้ำมันให้ด้วย

ราบรื่นมาได้อีก 2 วัน หลานโทรมาอีกแล้ว บอกว่าเครื่องมันชอบแฮ้งค์ เข้าวินโดวส์ได้แป๊บเดียวก็เดี้ยง เพื่อนโทรมาย้ำอีกว่า วันว่างๆค่อยมาก็ได้ แบบว่าเกรงใจ แต่ขอเร็วหน่อยละกัน

เรื่องผมแล้ว เรื่องเพื่อนแล้ว มาถึงเรื่องช่างบ้าง ช่างเอาปากกามาคำนวณ C 15 ตัว ตัวละ 35 บาท รวม 525 บาท + ค่าบริการ 300 บาท รวมเบ็ดเสร็จ 800 บาทก็แล้วกัน ผมก็เล่าอาการว่า เข้าวินโดวส์หน่อยก้แฮ้งค์ เล่นเกมส์หน่อยก็แฮ้งค์ บางทีแค่ขยับเม้าส์ก็แฮ้งค์แล้ว ช่างบอกว่าเป็นอาการปกติของพวก C บวม เปลี่ยนแล้วหายแน่นอน

เย็นวันถัดมา เลยให้ภรรยาเพื่อนไปรับเครื่องเอง แล้วให้ช่างต่อโทรศัพท์มาหาผม เพื่อยืนยันรับรองว่าเป็นเจ้าของเครื่อง ถึงเวลานัดช่างก็โทรมา บอกว่าจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เปิดเครื่องได้ ผมถามว่าต้องฟอร์แมทเครื่องใหม่มั้ย ช่างบอกว่าคงไม่ต้อง เพราะไม่ได้ทำอะไรกับฮาร์ดดิสก์ เครื่องใช้ได้แล้ว

เจ้าของเครื่องก็โทรมาหาผม เล่าอาการให้ฟัง ผมเลยบอกว่า ให้ยกกลับไปที่ร้านเลย บอกว่าเข้าวินโดวส์ไม่ได้ ใหนช่างบอกว่าลองเครื่องแล้วใช้ได้ไง นี่มันยังใช้ไม่ได้นี่ครับ

ช่างบอกว่า งานนี้รับแค่การเปลี่ยน C บวมเพียงอย่างเดียว ส่วนจะเข้าวินโดวส์ได้หรือไม่ได้นั้น ให้เป็นหน้าที่ของช่างที่เอามาส่ง(หมายถึงผม) หากให้เขาช่วยดูหรือเซ็ตวินโดวส์ให้ด้วย จะต้องเป็นอีกเรื่องนึง และต้องคิดค่าบริการอีกส่วนหนึ่งด้วย...

เฮ้อ...ผมเข้าใจว่า ขณะที่ช่างถอดเมนบอร์ดออกมาบัดกรี C ออก ช่วงเวลานั้น ค่าต่างๆของ BIOS อาจจะเพี้ยนไป ทำให้ต้อง Clear ใหม่ แล้วจัดการเรื่องลำดับการบู๊ต กับปิดการ์ดจอออนบอร์ด แค่นี้ก็สามารถเข้าวินโดวส์ได้ตามปกติ เพราะวินโดวส์และเกมส์ต่างๆถูกติดตั้งไว้ครบถ้วนแล้ว

ผมเลยบอกว่า เออดี ตรูจะได้ขอเอาไปซ่อมใช้เองที่บ้าน เพราะตะก่อนนี้ เพื่อนคนนี้ทิ้งจอ 19 นิ้วหนักอึ้งให้ผมจอหนึ่งแล้ว เจ้าจอนี้ก็เหลือเกินจริงๆ ซ่อมอยู่ได้ อย่างน้อยก็ปีละครั้ง มันขายซากให้ผมราคา 600 บาท ผมซ่อมไปครั้งละ 700 บาท 2 ครั้งแล้ว ปัจจุบันเริ่มมีอาการแบบว่า พอเปิดใช้นานๆแล้ว ขอบภาพจะหดลงนิดนึง พอปิดเปิดจอใหม่ก็กระเด้งเต็มจออย่างเก่า คาดว่าคงมีการซ่อมครั้งที่ 3 แน่ๆในเร็ววันนี้

การที่แถวๆบ้านมีไฟดับๆติดๆ หรือไฟตกวูบวาบบ่อยครั้ง ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เกิด C บวมได้ หากพาวเวอร์ซัพพลาย ไม่สามารถจัดการกับไฟฟ้าที่ไม่คงที่ได้ดีพอ

สุดท้าย...ก็อาจเป้นที่คุณภาพของ C เอง เห็นบางเว็บบอกไว้ว่า ถ้าบอร์ดเกิน 3-4 ปี ก็ให้เริ่มมองๆที่ C ได้แล้ว เพราะอุปกรณ์ต่างๆเริ่มหมดอายุไข โดยเฉพาะพวก C นี่แหละมักจะไปก่อนเพื่อน

ผมคิดว่านะ...ไม่ว่าจะเปลี่ยนพาวเวอร์ซัพพลาย เปลี่ยนเม้าส์ เปลี่ยนคีย์บอร์ด เปลี่ยนหรือเพิ่มแรม ท่านก็น่าจะต้องลองเครื่อง เข้าวินโดวส์ให้ได้เป็นปกติเสียก่อน จึงค่อยส่งเครื่องคืนลูกค้า น่าจะเวิร์คกว่ามั้ย?

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2550 14:47:48 น.		15 comments
Counter : 4353 Pageviews.
Share Tweet