ทำไมต้องทวงบัลลังค์(ฟร่ะ)
หลายคนคงจะสงสัยว่าทำไม ทำไม ทำไม แล้วก็ทำไม(เมิงจะทำไมไปทำไมเยอะแยะไอ้รถเบนซ์) ทำไมต้องทวงบัลลังค์ เมิงเป็นเจ้าชายรึไงต้องมาทวงบัลลังค์หรือว่าดูหนังกำลังภายในมากไปหน่อย ไม่ใช่อะไรหรอกครับ บัลลังค์ในที่นี่ให้ความหมายว่า ที่ๆที่เราเคยอยู่อย่างยิ่งใหญ่และได้รับการสนใจ หลายๆคนยังคง งง อยู่ งงต่อไปแหละ ฮ่าๆๆๆ ผมเชื่อนะว่าหลายๆคนที่เคยผอมหุ่นดี ดูดี แล้ววันนี้กลับมาอ้วน เหี่ยว แก่ หรือไม่ว่าอะไรก็ตามที่นำไปสู่สภาวะเสื่อม ย่อมจะหวนนึกถึงอดีตที่หวานหอมอยู่เสมอๆแน่นอน ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่คิดถึงมันตลอดเวลา เมื่อก่อนตอนผอม ถ้าจะเรียกว่าหล่อโดยไม่กลัวใครหมั่นไส้ผมก็จะขอยืดอกตะโกนดังๆว่า"ช่ายกุหล่อ" อิอิ อย่าเพิ่งอาเจียนกันนะครับ ผมมีดีกรีเป็นMCตามงานอีเว้นท์ต่างๆ ด้วยความที่พูดเก่งขี้เล่น เลยทำให้ได้มาทำงานในส่วนนี้ ตอนนั้นผมก็หุ่นปรกตินะ เคยอวบๆตอนมัธยมแล้วก็มาผอมตามธรรมชาติตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่ แต่ แต่ แต่แล้วมันก็เกิดขึ้น ลัทธิความผอมเริ่มครอบงำเหล่าวัยรุ่นไทย ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่บ้าคลั่ง แต่เรามันพวกชอบความรวดเร็วและเห็นผลชัดเจน ผมก้าวเท้าเข้าสู่วงการลดความอ้วนด้วยป้ายโฆษณาลดน้ำหนักอาทิตย์ละไม่กี่ร้อยบาทที่แปะกันเกลื่อนหน้าคลีนิคชื่อดัง "เห้ย...ลดกะหมอไม่อันตรายหรอกเมิงจะกลัวไรว่ะรถเบนซ์"(คำพูดที่ผมพูดกับตัวเองก่อนเดินไปหาหมอ) ผมได้ทำการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน ทำโนทำนี้ตามระบบ แล้วก็เข้าพบหมอ หมอก็ถามโน้นถามนี้ว่า เคยทานยามาไหม จะลดเท่าไร แค่นี้ก็พอแล้วนะจะเอาอีกหรอ เอาอีกห้าโลก็พอ(เห้ยตกลงหมอจะสนับสนุนหรือห้ามเนี่ย...กุงง) หมอก็สั่งยาระดับที่เท่านี้ แล้วก็นัดอีกสองอาทิตย์ต่อมา มีพนักงานอธิบายการทานยา บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆแล้วผมก็หิ้วถุงยากลับบ้านพร้อมกับยิ้มพิมพ์ใจกลับบ้านไป อารมณ์ประมาณคนเพ้อฝัน ยาที่จ่ายมาให้ตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไรมั้ง แต่มาทราบทีหลังหลักๆก็พวกยาที่ทำให้ไม่หิว รู้สึกเบื่ออาหาร ยาระบาย ยาลดอาการใจสั่น ยาขับปัสสาวะ ยาสกัดฮอร์โมนไทรอยด์ หลักๆก็น่าจะเป็นแบบนี้แล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณความรุนแรงไปเรื่อยๆเป็นลำดับ กินเข้าไปเป็นไงมั้งว่ะ ? ไม่หิวข้าว คอแห้ง ใจสั่น ฉี่เหลือง โอ้โห.....สองอาทิตย์แรก ลดไปสี่โล คุณชีช่วยกล้วยหอม พอมาสัปดาห์ที่สองหมอก็จ่ายยาแรงขึ้นนิดหน่อย เราก็นึกในใจขออีกสี่โลเถอะว่ะ แต่พอทานยาที่นี้จะมีอาการหน้ามืดร่วมด้วย แต่เราก็น้ำหนุกลดจนสมใจ จนมีครั้งหนึ่งลุกจากเตียงนอนไปเข้าห้องน้ำล้มหัวฟาดพื้นไปเลย ดีนะที่พื้นมันไม่แข็งเท่าหัวเลยไม่แตก หุหุ จนผอมจนพอใจแล้วหมอก็ปรับยาลงจนระดับสุดท้ายที่เรียกว่ายาหยุดนั้นแหละก็มาใช้ชีวิตผอมได้แปปหนึ่ง พอเราไม่ได้ทานยาไม่เกินอาทิตย์ คุณพระช่วยไม่ทันแล้ว ผีปอปเข้าสิงร่าง หิวบ่อยมาก กินเยอะมาก เจออะไรเป็นอยาก ทั้งอยากทั้งหิวทั้วหิวทั้งอยาก เดินเข้า7-11เป็นบ้านหลังที่สองเลย ในขณะที่ปอปสิงสู่อยู่ในร่าง แต่ดี้แดตีแด่แด้ดีแด่ ผีฟ้าเอย.......บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ เราก็กินอะไรอย่างลืมตัว แต่สิ่งที่ไม่อยากกินคือกินบ้านกินเมืองกินภาษ๊ประชาชน(อุ้ย ไม่เอาไม่พูดการเมืองนะครับรถเบนซ์) จน.....จน......จนน้ำหนักที่ลดลงไป6โล กลับคืนมาสู่ร่าง 12 กิโลครับพี่น้อง 12กิโล 1โหลกิโลกรัมพอดีครับพี่น้อง กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำยังไงดีอ่ะ น้ำหนักมันมาจากไหนอ่ะ เห้ยทำไงว่ะ อืดแล้ว พี่ๆที่โมก็บอกว่าเมิงลดได้แล้วนะเห้ยเดี๋ยวไม่มีงาน แต่ที่เจ็บสุดมีพี่ที่คอยรับงานถามมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า "เมิงไปกินควายที่ไหนมาไอ้เบนซ์" โอ้วยิ่งกว่าโดนเหยียบหน้า ทำไงดีว่ะ ? ในเมื่อมันเพิ่มได้มันก็ต้องลดได้ กลับไปหาหมอสิ ก็ได้กลับไปหาหมออีกครั้งหมอก็จ่ายยาแรงกว่าเก่าน้ำหนักก็ลดลงมาอีก แต่คราวนี้จะช้ากว่าคราวที่แล้วแต่ก็สำเร็จ แต่ที่สังเกตุได้คือ หน้าเริ่มไม่ใส เริ่มโรมเหมือนคนอดนอน อารมณ์หงุดหงิดตลอดเวลา เคยสุกสนานบนเวทีแต่บัดนี้กลับคิดเพียงว่าทำให้มันเสร็จๆไปได้กลับไปนอน พอหยุดทานก็กลับมาอ้วนอีก พออ้วนก็กลับไปทานยาอีก เป็นแบบนี้อยู่เกือบสองปี เท่าที่จำได้อยู่กับช่วงเวลาผอมไม่ถึงสองเดือน แล้วมันก็กลับมาอ้วนอีก กางเกงมีทุกไซส์ตั้งแต่เอว30จนถึง36 พออ้วนงานก็น้อย เรียนก็หนัก ไม่มีเวลาได้ดูแลตัวเองเท่าไร จนตั้งปล่อยตัวให้อ้วนเพราะมันลดไม่ลงแล้ว ยาก็ได้แค่นิดเดียว เราก็ไม่อยากอ้วนๆผอมๆอ่ะ รู้เลยว่าเวลากินยาแล้วหน้าไม่ใสแล้วใจยังร้ายอีก คือมันหงุดหงิดไปหมดใครทำอะไรขวางหูตลอด เลยตัดสินใจเด็ดขาดว่า เลิก ยาลดความอ้วน เราเลิกกัน
Free TextEditor
Create Date : 23 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 23 ธันวาคม 2552 2:16:58 น. |
|
4 comments
|
Counter : 413 Pageviews. |
|
|
|
ขอให้มีความสุขนะคะ
ขอให้มีโชคหมดทุกข์โศกโรคภัย
พ้นเคราะห์ที่เลวร้าย พันภัยด้วยเทอญ