|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
การบรรยายธรรมะโดยท่าน ว.วชิรเมธี ท่านได้ให้พร 4 ข้อ ดังนี้
> 1. อย่าเป็นนักจับผิด คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง ' กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก ' คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส ' จิตประภัสสร ' ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี ' แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข '
> 2. อย่ามัวแต่คิดริษยา ' แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน ' คนเราต้องมี พรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า ' เจ้ากรรมนายเวร ' ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น เราต้องถอดถอน ความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น ' ไฟสุมขอน ' ( ไฟเย็น) เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อน เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี ' แผ่เมตตา ' หรือ ซื้อโคมลอยมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล ่อยให้ลอยไป
> 3. อย่าเสียเวลากับความหลัง 90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ ' ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น ' มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องภาระต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ ' อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน ' ' อยู่กับปัจจุบันให้เป็น ' ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี ' สติ ' กำกับตลอดเวลา
> 4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ ' ตัณหา ' ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ ธรรมชาติของตัณหา คือ ' ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม ' ทุกอย่างต้องดู ' คุณค่าที่แท้จริง ' ไม่ใช่ คุณค่าเทียม < /FONT> เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกาคืออะไร ? คือไว้ดูเวลาไม่ใช่ใส่เพื่อความโก้หรู คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือคืออะไร ? คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้จริงของโทรศัพท์ เราต้องถามตัวเองว่า ' เกิดมาทำไม ' คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน ตามหา ' แก่น ' ของชีวิตให้เจอ คำว่า ' พอดี ' คือ ถ้า ' พอ ' แล้วจะ ' ดี ' รู้จัก ' พอ ' จะมีชีวิตอย่างมีความสุข '
กรุณาส่งข้อความดีๆ นี้ให้คนที่ท่าน ' รัก ' และ ' ปรารถนาดี ' หวังว่าทุกๆท่านจะได้ประสบแต่ความสุขกายสบายใจ
Create Date : 22 ตุลาคม 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 22 ตุลาคม 2552 15:06:51 น. |
Counter : 695 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
เป็นนักจับผิดสิคะดี แต่ 'ต้อง' จับผิดโดยยึดเอาสิ่งที่ถูกต้องและประเสริฐอันเป็นสากลเป็นหลัก ธรรมะและสัจธรรมน่ะค่ะ จับผิดเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิด (ที่คนคิดว่าถู)
> 2. อย่ามัวแต่คิดริษยา
อันนี้ใช่ อย่าคิดริษยาใคร เพราะมันเป็นกิเลส เผาตัวเอง ก็นำธรรมะมายึดไว้เป็นหลักปฏิบัติ สุดยอดค่ะ ดีกับเราทั้งนั้น
> 3. อย่าเสียเวลากับความหลัง
เสียเวลาหน่อยก้ได้ค่ะ รู้ความหลัง ฟื้นอดีตได้ เพื่อจะได้รู้กรรมของเรา ว่าทำอะไรไว้ เหตุมันอยู่ที่ตรงนั้นแหละ มีผลก็มีเหตุ จะแก้ผลก็แก้ที่เหตุ รู้อดีต รู้ความหลัง ก็จะได้รู้ว่า ควรแก้ตรงไหน
> 4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ
ไม่เชิงเห็นด้วยนัก คนเราไม่ต้อง 'พอ' ก็ได้ โดยเฉพาะธรรมะ จุฬาภินันท์ไม่เคยคิด 'พอ' เลย
ส่วนการใช้ชีวิต เราเอาความพอไว้สูงๆก็ได้ แต่เงื่อนไขมีว่า ต้องสามารถทำได้โดยไม่เบียดเบียนผู้อื่น สมัยนี้ยิ่งมีมาก คนก็ว่ามีสุข ก็ทำให้เขามีมากๆ เขาจะได้มีสุขมากๆ ไงคะ อย่าไปเบียดเบียนใครเท่านั้นก็พอ