เรื่องอับอายขายขี้หน้าของการเป็นหัวหน้างานกับเรื่องที่ไม่อยากทำ
หลังจากที่เคยบ่นมาแล้วในบล็อกนี้ เกี่ยวกับเรื่องการมาทำงานของลูกน้อง
เคยเอามาบ่นเมื่อหลายเดือนที่แล้ว
พี่ท่านเหมือนจะดีขึ้น มาสายน้อยลงเหลือ 8 ครั้งต่อเดือน (ขอโบวกว่านี่น้อยแล้ว) - -*
ดีขึ้นอยู่ 2 เดือน หลังจากนั้นก็เอาอีกแล้ว เรียกหลายรอบแล้วก็แก้ไม่ได้ ไม่รู้ทำไม ข้าน้อยล่ะอยากจะลงไปแดดิ้นกับพื้น
เลยลองปล่อยไป พูดไม่ไหวแล้ว เบื่อ พอปล่อยไปได้ 2 เดือน ไม่จ้ำจี้จ้ำไช พี่ท่านก็ยิ่งได้ใจ
ทำงานเดือนนึง 25-26 วัน พี่ท่านเล่นมาสายซะ 20 วัน
เห็นม๊าบอกแล้วว่าเดือนละ 8 ครั้งนี่ถือว่าน้อยแล้ว
ทุกเดือนที่ฝ่ายบุคคลโทรมาถามวันขาด ลา มาสาย (ฝ่ายบุคคลอยู่อีกที่นึง) ไอ้เราก็อับอายเหลือเกินจะทน ไม่กล้าบอกเขาไป แต่ก็ต้องทำหน้าด้านๆบอกไปอยู่ดี
จนมาเมื่อวานก็ถึงวันที่ฝ่ายบุคคลจะโทรมาถาม ต้องบอกเลยว่า เดี๋ยวโทรกลับนะคะ จริงๆคือขอไปพอกหน้าทำหน้าให้หนาๆเข้าไว้ก่อน
จริงๆเมื่อวันอังคารก็เรียกมาคุยเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของปีนี้ว่า
"ทำไมเป็นแบบนี้ พอไม่จ้ำจี้จ้ำไชก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม แล้วก็เคยบอกว่าให้หาเหตุผลมาให้ได้ว่าทำไมมาสาย ซึ่งถ้าเหตุผลที่มีมาให้ มันยอมรับได้ ก็จะไม่พูดเรื่องนี้อีก แต่นี่รอมาตั้งแต่ครึ่งปีก็ยังไม่มีคำตอบให้"
พี่ท่านก็เงียบลูกเดียว ตามสไตล์ เฮ้อๆๆๆ
จริงๆก่อนหน้านี้ก็เคยคุย เคยปรึกษากับรุ่นพี่อยู่ 2-3 คนนะ คิดหาวิธีแก้ต่างๆนานาไปล้านแปดวิธี เพราะไม่อยากที่จะให้หนังสือเตือน แต่เจ้าตัวก็ไม่ยักกะให้ความร่วมมือ คงคิดล่ะมั้งว่าเราคงทำอะไรไม่ได้
แต่มาคราวนี้มันไม่ไหวแล้ว เลยต้องปรึกษากับนายและฝ่ายบุคคล ว่าถ้าออกหนังสือเตือนจะรุนแรงไปไหม แต่มันก็ไม่ไหวแล้ว ถึงแม้ว่าการเข้างานสายจะไม่กระทบกับการทำงานของเขาก็ตาม แต่นี่เป็นกฎระเบียบของบริษัท ไม่งั้นหากคนอื่นๆในออฟฟิศเกิดทำตามขึ้นมาจะเป็นยังงัย
สุดท้ายเมื่อวานก็ตกลงปลงใจที่จะให้หนังสือเตือนจนได้ คงเรียกมาคุยกันพรุ่งนี้ล่ะมั้ง เฮ้อๆ ไม่อยากทำแบบนี้เล้ยยย
Create Date : 19 กันยายน 2550 |
|
2 comments |
Last Update : 20 กันยายน 2550 12:49:27 น. |
Counter : 523 Pageviews. |
|
|
|
ถ้าตั้งใจผิดแบบนี้ ตักเตือนกันแล้วแบบนี้ ยังไม่สนใจก็ต้องหนังสือเตือน ... ฟันธงค่ะ