"ถ้าผมเป็นผู้หญิงล่ะก็นะ...ผมคงอดหลงรักพี่ไม่ได้" มุมปากทั้งสองข้างห้อยลงไปรวมกับแก้มอูมจนป่องย้อยกว่าปกติทันทีที่พูดจบ อีกทั้งดวงตากลมดำขลับนั้นก็ยิ่งส่องประกายของรอยยิ้มระยิบระยับไปหมดจนชวนให้สงสัยในทีแรกว่าผู้พูดจะูพูดออกมาให้เพียงขำๆ หากทว่าน้ำเสียงทอดยาวกลับพุ่งส่งตรงมาอย่างไม่ประนีประนอมจนชวนน่าตกใจ แล้วไม่นานสายลมของถ้อยคำสองประโยคนั้นก็ค่อยๆพาพัดตามมาโอบกอดลงตรงหัวใจผมจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นของคำทีละคำ...ทีละคำ ในเมื่ออีกฝ่ายยังคงจ้องมาอย่างไม่ลดละราวกับกำลังเฝ้ารอคำตอบแกมบังคับอยู่ในที สิ่งที่ผมทำได้ก็แค่ทำเป็นกระพริบตาถี่ๆเพื่อบังคับตัวเองอย่างเหลือแสนให้กดความรู้สึกบางอย่างให้ยังคงหยุดลงตรงแค่ที่หัวใจทั้งๆที่มันพยายามเหลือเกินจะพุ่งทยานมายังดวงตาแสดงออกให้อีกฝ่ายเห็นถึงพลังอำนาจของคำพูดนั้นยามผมจำต้องจ้องมองตอบกลับไป คิ้วของเขาเลิกขึ้นน้อยๆ ริมฝีปากบางสีชมพูสดชักเริ่มเหยียดเป็นเส้นตรง ประกายความระยิบระยับของดวงตาคู่นั้นแปรเปลี่ยนเป็นความแน่วแน่ชวนเอาเรื่อง ...นี่เขาจะไม่เหลือทางเดินให้ผมเลือกงั้นสิ ผมคิดอย่างนั้น เขาต้องการอะไรจากผมกันแน่นะ และอยากให้ผมตอบเขาอย่างไร เมื่อริมฝีปากบางคู่นั้นเริ่มขยับมุบมิบไม่เป็นคำราวกับกำลังร่ายมนตร์ต่อว่าอะไรสักอย่างเฉกเช่นยามที่เขาเกิดขัดใจจนฮึดฮัดไม่รู้ว่าจะวางไม้วางมือไว้ตรงไหนแบบนั้น ผมก็อดไม่ได้จริงๆที่จะรู้สึกขำขึ้นมา แล้ววินาทีนั้นเองหัวใจผมมันก็หมดแรงจะกดเจ้าความรู้สึกนั่นให้หมดฤทธิ์ไม่แสดงความลิงโลดออกมาได้อีกแล้ว จนได้..! หัวใจของผมเปลี่ยนจังหวะการเต้นจนได้ ผู้ชายคนนี้อยากได้ยินคำตอบแบบไหนกันนะ เขาอยากได้ยินผมบอกออกมาว่าผมไม่แคร์เลยสักนิดว่าเขาจะเป็นหญิงหรือชาย ผมก็... หรือจะให้บอกออกไปว่าถึงเขาจะเป็นผู้ชาย เขาก็... ผู้ชายคนนี้อยากได้ยินคำตอบแบบไหนจากผมกันนะ ...หรือตัวผมเองอยากพูดคำตอบไหนออกมากันแน่ ผมคงทิ้งเวลานานไปแล้ว ก็หน้าอีกฝ่ายเริ่มมุ่ยลงมุ่ยลง ปากบางหยดไม่ร่ายมนตร์ให้แค่ตัวเองฟังแต่กลับเริ่มส่งเสียงชิชะดังรอดออกมาแสดงความไม่สบอารมณ์ให้รับรู้ ดวงตาคู่นั้นทั้งดึงดันและล่อลวงให้หลงหาทางออกไม่เจออยู่ภายใต้ท้องฟ้าดำมืดไร้แม้ดวงดาวสักดวงอย่างชวนน่าตระหนก ผมไม่มีทางติดกับดักง่ายๆแบบนี้หรอก ผมรีบเตือนตัวเอง ยังไม่ทันคิดให้ถี่ถ้วนด้วยซ้ำ คิ้วข้างหนึ่งของผมก็เลิกขึ้นทำเป็นไม่รู้ความนัยนั้น รอยยิ้มที่ไม่ตั้งใจก็ออกมายั่วเย้าอีกฝ่าย อ่า...นี่ผมไม่ทันคิด ไม่ทันตั้งใจจริงๆหรือกับการแกล้งขัดใจเขาแบบนั้นเมื่อได้ยินเสียง ฮึ!ขึ้นจมูกโต้ตอบกลับมาผมก็อดคิดขึ้นมาไม่ได้ แล้วรอยยิ้มกว้่างยิ่งกว่ากว้างก็ตามมาซึ่งแน่นอนยิ้มนี้ตั้งใจกวนประสาทอีกฝ่ายชัดๆ...ก็นะ ผมอดใจตัวเองไว้ไม่ไหวจริงๆสินะ ยิ่งฮึ!ดังเท่าไรก็ยิ่งน่าเอ็นดูขึ้นเท่านั้น..จริงๆ "พี่น่ะทั้งๆที่ปกติเป็นคนใจดีแท้ๆ" เสียงบางๆนั้นกลับเข้มไปด้วยการต่อว่าต่อขาน แถมเสียงฮึ!ครั้งที่เท่าไรไม่รู้ตามมาอย่างจงใจให้รับรู้ความขัดอกขัดใจของเจ้าตัว และคำกล่าวหาก็ตามมาอีกชุด "แต่อีกทางหนึ่งกลับเป็นคนเย็นชากว่าที่คิด" พูดแล้วก็เมินไปอีกทางแถมจ้ำพรวดขึ้นนำหน้าไป "โดยเฉพาะกับผม" เสียงงึมงำทิ้งข้อกล่าวหาสุดท้ายเอาไว้นั้นเบาแสนเบาจนแทบไม่ได้ยินแต่ไม่รู้ทำไมเสียงค่อยบางเบานั้นกลับส่งเสียงดังก้องไปมาไม่หยุดจนท่วมทั้งหัวใจผม ผมนี่นะเย็นชากับเขา คนสดใสที่เต็มไปด้วยสีสันของความสนุกสนานจนไม่เคยน่าเบื่อเลยสักนิดเวลาอยู่ด้วยอย่างเขา...จะเข้าใจบ้างไหมนะถึงความอิจฉาของคนไม่ช่างพูดอย่างผมที่มีให้กับเขา นี่เขาไม่รู้ตัวจริงๆหรือว่าแค่มีเขาอยู่ใกล้ๆ โลกของผมอบอุ่นขึ้นมากแค่ไหน ผมไม่จำเป็นต้องฝืนยิ้มถ้าไม่อยากยิ้มเวลาอยู่กับเขา แต่เขากลับทำให้ผมยิ้มออกมาได้อย่างง่ายดายเสมอ ท่าทีของผม เขาไม่เข้าใจความหมายเลยหรือไงกัน กับเขา...มันไม่ใช่ความเย็นชา ไม่แม้แต่จะเรียกว่าเป็นความเย็นชา ผมยาวยุ่งคลุมศีรษะสะบัดปลิวตามจังหวะการก้าวเดินดุ่มๆไม่หยุดบ่งบอกอารมณ์ไม่ปกติของเจ้าตัว สองมือสอดเข้าไว้ในกระเป๋าแจ๊คเก็ตก้มตาก้มตาไม่ยอมหันกลับมาแม้ผมจะส่งเสียงเรียกก็ตาม นี่เขาเมินผมหรือเนี่ย ผมรีบก้าวยาวๆตามไปเป็นการบ่งบอกถึงการงอนง้อไปในตัว จะงอนไปอีกนานแค่ไหนกัน เหมือนเขาได้ยินเสียงความในใจของผม จังหวะการก้าวคนตรงหน้าเริ่มช้าลง เขาค่อยผ่อนฝีเท้าจนเราสองคนก้าวเดินไปในจังหวะเดียวกัน ด้วยกัน ริมฝีปากสีชมพูนั่นยังยื่นยาวออกมาเพียงเพื่อแสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวยังไม่ยินยอมพร้อมใจอภัยให้เต็มร้อยหรอกนะ ทำเอาผมต้องรีบกดเสียงหัวเราะตัวเองเอาไว้ ขืนส่งเสียงออกมาคงได้เห็นคนงอนตุ๊บป่องไม่เลิกแน่ เวลามีเขาอยู่ใกล้ๆ มันทำให้ผมเป็นสุขและสบายใจขนาดนี้ได้อย่างไรกัน ผมประหลาดใจกับความคิดนี้ของตัวเองจนหยุดเดินโดยไม่รู้ตัว เขาชะงักหันมามองก่อนเดินกลับมาหา หยุดอยู่ตรงหน้าผมเงียบๆไม่พูดจา ผมไม่ใช่คนเตี้ย แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองสูงอะไรมากมาย กับเขา ตัวเลขของเราสองคนก็ไม่ต่างกันเท่าไร แต่ไม่ีรู้ทำไม เวลาอยู่ด้วยกัน เขาทำให้ผมรับรู้ถึงความสูงใหญ่ของตัวเอง ผมหยักยาวตกคลุมหน้าคลุมตาชวนให้ยีหัวเล่นชะมัด ผมแทบอดใจไว้ไม่ได้...และก็อดใจไว้ไม่อยู่จริงๆจนต้องยื่นไปปัดผมที่ตกรุงรังมาคลุมตรงบริเวณรอบดวงตาเขาออกอย่่างเบามือ แล้วการทำแบบนั้นมันก็ทำให้ผมได้เห็นความรู้สึกหนึ่งที่ไม่คิดเก็บซ่อนจากดวงตาคู่นี้มองตอบกลับมา หัวใจผมกระตุกก้าวข้ามหนึ่งจังหวะ...อีกครั้ง ดวงตาคู่นั้นเปิดเผยจริงจัง จนผมไม่ต้องการเล่นแง่อีกต่อไปแล้ว เสียงเป่าปากฟู่ว์ดันให้แก้มห้อยย้อยลงพาซึ่งความล่อลวงอันแสนหวานที่ซ่อนตัวอยู่ออกมายั่วเย้าโดยเปิดเผย ยิ่งบวกกับการที่เขาเหลือบมองผมอย่างดื้อดึงไม่วางตา ความร้อนจากแววตากลมสีนิลคู่นี้ส่งมาแรงเสียจนทำเอาผมรับรู้ถึงความระเรื่อจากสองข้างแก้มตัวเองอย่างห้ามไม่อยู่ จนได้...ผมแพ้แล้วสินะ รอยยิ้มและแววตารู้ทันที่วาบรับขึ้นมาของผู้ชายตรงหน้าบอกมาแบบนั้น นี่ถ้า...ผมดึงเขามาซุกกับอก จะสามารถหยุดอาการลิงโลดของเจ้าเด็กคนนี้ลงได้ไหมนะ หรือเขาจะขยุกขยิกไม่ยอมอ่อนข้อง่ายๆอยู่ในอ้อมกอดผมกันแน่ .......ผมอยากรู้คำตอบ |