True Swag by Jun. K
THANK YOU EVERYONE.....and THIS WAS JUN. K ๐ ๐ ๐ ๐ จะว่าไป True Swag ถือว่าเป็นงานโซโล่ของจุนเคที่เราชอบน้อยที่สุดเลย อืมคือ~มันคือชอบล่ะนะแต่มันจะมีความไม่ชอบปนอยู่ด้วย...พูดแบบนี้น่าจะตรงกว่า ครั้งแรกที่ได้ฟังเพลงนี้ น่าจะจากแฟนแคมคอนยุ่นล่ะมั๊ง ซึ่งคุณภาพเสียงมัน...นะ ทำให้ความรู้สึกต่อเพลงนี้เริ่มด้วยความไม่ีประทับใจอย่างที่ควรจะเป็น กับงานเพลงฝีมือจุนเคแต่ละเพลงที่ทะยอยออกมา ขอยกเว้นงานเพลงบัลลาด เราถือว่าเป็นงานเพลงแนวทดลองของผู้ชายหัวใจดนตรีคนนี้ หรือจะพูดก็คือความที่เขามีของในตัวอยู่เยอะ แถมกระหายจะแสดงออกให้โลกได้รับรู้ งานเพลงแต่ละชิ้นที่ออกมาจึงเหมือนงานทดลองแนวเพลงที่เขาสะสมความชื่นชอบมาโดยตลอด แต่...แต่เพราะความที่เป็นคนมีของเยอะ บวกกับความเป็นคนเยอะ ที่เยอะจริงๆ ความร้อนวิชาที่มีจึงแสดงออกมาจนดูล้นในงานเพลงโซโล่ล่าสุดนี้ ภาคงานดนตรีของTrue Swag บอกได้เลยว่าได้รับอิทธิพลจากศิลปินในดวงใจของเจ้าตัวอย่าง DAngelo จนเห็นได้ชัด มีความเป็นฮิพฮอพของฝั่งตะวันออกแบบเท่ๆกวนๆบวกมากับดนตรีแนวนีโอโซล กับการใช้วิธีการร้องแบบlayback ดึงบีทให้ช้าลงเกิดเป็นเอฟเฟคแบบนี้มันคือสไตล์งานเพลงแบบที่ D'Angelo ชอบใช้เลย แต่จุนเคเลือกนำมาใช้ในแบบที่โฉ่งฉ่างกว่า หรือจะบอกว่าเปิดเผยในแบบฉบับความเป็นหนุ่มแดกูของเจ้าตัวนั่นเอง ถ้าจะถามว่าtrue swagช่วงไหนที่เขาใช้วิธีการlayback ก็ลองสังเกตง่ายๆในช่วงที่เรากำลังโยกตามบีทเพลินๆ แล้วจู่ๆดันโยกไม่เข้ากับจังหวะให้ต้องชะงักซะงั้น นั่นล่ะ นั่นคือช่วงที่พ่อหนุ่มคนนี้แกล้งคนฟังไงล่ะ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราประทับใจงานดนตรีของจุนเคก็คือการไม่หยิบทุกอย่าง[ของคนอื่น]ที่ตัวเองชอบมาใช้ แต่เจ้าตัวเลือกและปรับส่วนที่ชอบให้กลายมาเป็นลายเซ็นต์ของตัวเอง ส่วนที่บ่งบอกว่าเป็นลายเซ็นต์ในงานโซโล่ของผู้ชายคนนี้ที่เห็นได้ชัดในทุกงานเพลงก็คือ การทำงานดนตรีละเอียดให้มีความอลังการ ...ใช่... ความอลังการของเสียงดนตรี ที่เขาได้ใส่ไว้เป็นลายเซ็นต์ในงานเพลงแนวทดลองของตัวเองเสมอ ชนิดที่เราฟังแล้วเจอท่อนดนตรีที่มีเมโลดี้สวยๆค่อยๆกระหึ่มขึ้นมา จะบอกกับตัวเองได้เลยว่า นี่สินะ!นี่ล่ะคือจุนเคที่เราชื่นชอบ แม้กระทั่งในเพลงที่แสนจะโฉ่งฉ่างแบบTrue Swagนี้ก็ตาม ก็ยังมีส่วนของดนตรีที่สวยละเอียดชนิดยังแฝงความรู้สึกของบลูโน๊ตเอาไว้มาให้สะเืืทือนเวลารับฟัง สมแล้วกับความเป็นคนR&Bของเจ้าตัว ตอนที่เราฟังเพลงนี้ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ส่วนที่เราไม่ชอบที่สุดก็คือช่วงแรพปิดท้ายที่ทำให้รู้สึกถึงความรกไป รกเกิน และดูจะไม่เข้าปากคนร้องเอาเสียเลย ถ้าตัดส่วนแรพนี้ทิ้งไป คงชอบเพลงนี้ขึ้นอักโข...เราคิดแบบนี้ สำหรับเราแล้ว เวลาฟังเพลงฮิพฮอพจากศิลปินที่ไม่ใช่แอฟริกัน-อเมริกัน เรามักไม่ค่อยอิน ด้วยคิดว่าไม่มีทางที่คนที่ไม่เคยผ่านความเศร้าของการถูกเหยียดศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ จะสามารถสื่ออารมณ์ของความเจ็บแค้น ชิงชัง ต่อความอยุติธรรมที่ต้องรับมือทุกเมื่อเชื่อวัน ความต้องการอิสระ เรียกร้องซึ่งสิทธิความเป็นคน อยากตะโกนก้องต่อความอยุติธรรมของสังคมแวดล้อม การร้องขออย่ามองเขาแค่ฉายฉวยผ่านสีผิวภายนอกแต่จงมองให้ลึกถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา ฉะนั้นคนที่ไม่ได้เติบโตมาในสังคมแบบนั้น อย่างมากก็ได้แต่สวมผืนหนังของหมาป่าผู้โดดเดี่ยว แต่ไม่อาจมีซึ่งจิตวิญญาณของมัน พอเราได้อัลบั้มGROWN-GRAND [คาดไปเองว่าลุงผักกะตีตลาดใหม่ไปไกลถึงขั้วโลกเหนือ ลุงแกถึงได้ขูดเลือดขูดเนื้อหนูผอมบักโกรกฉะนั้นนี้ T.T] เมื่อได้ฟังเพลงนี้ในเวอร์ชั่นเกาหลี ตอนได้ยินเสียงร้อง ~อันยอง~ เราก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ คุณคิมมินจุนช่างเป็นผู้ชายที่พูดอันยองได้น่ารักที่สุดในสามโลก (ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขอโทษครับ นี่คือโหมดตาบอดหลงเมนตัวเอง) เวอร์ชั่นยุ่นกับเนื้อร้องที่เราไม่ชอบเอาเสียเลย ฟังแล้วขัดหูไปหมด ไม่ใช่แค่ท่อนแรพแต่รวมทุกท่อนร้องภาษาญี่ปุ่นมันทั้งหมด เปรียบก็เหมือนกับการไล้มือตามผ้าไหมเนื้อดีไปเรื่อยๆแต่กลับเจอปุ่มปมระคายมือเป็นระยะแบบนั้นเลย เพราะงั้นก่อนฟังเวอร์ชั่นเกา เราเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่พอเจออันยองตีหัวเข้าบ้าน มันก็ลดอคติที่มีลงไปนิด(แค่นิด) แต่แล้วจากนั้นพอฟังไปเรื่อยๆมันกลับผิดคาดซะงั้น ตัวเราเองไม่มีความรู้ภาษาเกาหลีสักคำ และแทบจำคำแปลเพลงนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่นั่นเป็นครั้งแรกเลยที่เราฟังเพลงนี้แบบลื่นไม่มีสะดุดและเพลินไปตั้งแต่ต้นจบจบเพลง นั่นก็เพราะ การใช้คำที่พ้องรูปพ้องเสียงในเนื้อร้องฉบับเกาหลี ที่แม้จะแปลไม่ออกแต่กลับสัมผัสได้ถึงความน่ารักของถ้อยคำที่จุนเคเลือกมาใส่ในเนื้อเพลง แถมกับวิธีการใช้เสียงในแต่ละคำพวกนั้นมันทั้งน่ารัก ทั้งซนและยั่วยวนกวนประสาทในสไตล์หนุ่มแดกูของเจ้าตัวชัดๆ มีอยู่ท่อนที่มันทำให้เราฟังแล้วถึงกับยิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัวไปกับวิธีการออกเสียงเล็กเสียงน้อยแบบมีความนัยของเขา ทำเอาต้องไปคุ้ยหาคำแปลมาไล่ฟังดูสิว่าพ่อหนุ่มนี่ร้องอะไรออกมา แล้วก็อย่างที่คาดไว้จริงๆ มันเป็นท่อนที่ล่อแหลมนิดๆ เย้าหน่อยๆ กับผู้ชายห่ามๆที่ไปป๊ะเอากับสาวนอกกฎหมายพันธุ์Xจนถึงกับเข่าอ่อนเลือดกำเดาพุ่งกระฉูด จุนเคใช้เสียงได้น่ารักจริงๆ ชวนน่ารักน่าหยิกกับความซุกซนแบบนั้น แถมทำเป็นบ่นต่อว่าแม้แต่ออเดรย์ของผมยังไม่ทำอะไรแบบนั้นเลยนะครับ ให้ตายเหอะ ทำเป็นไร้เดียงสานะพ่อหนุ่มกลางคืน แล้วกับท่อนแรพปิดท้ายที่เราหาความชอบไม่เจอในเวอร์ชั่นยุ่น แต่พอมาเจอการใช้คำเกาหลีในแค่ท่อนสั้นๆแค่เพียงท่อนเดียวแต่มันกลับทำให้เรารู้สึกลื่นหูมากกว่า แต่เราก็ยังยืนยันนะ..ว่าถ้าตัดท่อนนี้ออกไป เพลงเพลงนี้น่าจะฟังลงตัวกว่า มันจะไม่รกเกินแล้วกลมกล่อมมากกว่านี้ แต่เรายอมรับในตัวตนของจุนเคนะ การที่เขาใส่แรพปิดท้ายในแบบที่เกินความจำเป็น เราเชื่อว่าเขาคิดมาแล้วเป็นอย่างดี เขาดูจะไม่อยากได้ความกลมกลืน แต่อยากได้ความขรุขระไม่ราบรื่นชนิดชวนให้หันกลับมามองซ้ำด้วยความขัดใจ มันก็คือตัวตนของเขาตอนนี้ในสไตล์เแบบที่เจ้าตัวอยากตะโกนให้โลกรับรู้(ความเยอะ ) ช่วงที่ผ่านมาเราหัวซุนออกไซด์งานไม่หยุดหย่อน กับการเดินทางที่บางช่วงช่างน่าเบื่อและยาวนาน มันน่าแปลกที่เรากลับเปิดฟังเพลงTrue swagบ่อยครั้งกว่าเพลงเพลงอื่นของจุนเคที่เราชอบมากกว่า มันเป็นเพลงที่ทำให้สดชื่นขึ้นในเวลาที่เราเซ็งสุดขีด มันเป็นเพลงที่ทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่รู้ตัวทั้งๆที่ไม่รู้ความหมาย มันเป็นเพลงที่ทลายกำแพงของช่วงเวลาน่าเบื่อให้พังครืน ...นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ความรู้สึกที่เรามีต่อเพลงเพลงนี้เปลี่ยนไป... เด็กหนุ่มยุคGen Y ที่โตมาพร้อมกับวัตถุนิยม ความฟุ้งเฟ้อของสังคมรอบตัวในยุคปัจจุบัน งานดนตรีที่แสดงถึงความฉาบฉวยของยุคสมัยที่ต่างไปจากตอนที่เราโตขึ้นมา เราเห็นความเป็นกบฏในตัวของคิมมินจุนที่อยากต่อต้านกับขนบธรรมเนียมแบบเดิมที่ยังครอบเขาอยู่ ความต้องการอิสระที่เขาเรียกร้องผ่านบทเพลง มันทำให้เราฉุกคิด ว่า ไม่จำเป็นที่คนเราต้องผ่านเรื่องระทมทุกข์ถึงจะมีความแรงกล้าของจิตใจผ่านเสียงร้องและบทเพลงของตนได้ ความสันสนในตัวเองกับสังคมใดใดของเด็กวัยรุ่น คือเมล็ดพันธุ์ชั้นดีที่รอเวลาของมันเพื่อจะแตกยอดผ่านเนื้อดินสู่โลกกว้าง เราเชื่อว่า สักวัน สักวันเขาจะเจอความพอดีของตัวเอง สักวันที่ความคิด และของในตัวที่เจ้าตัวมีมากมายจะถูกเขานำมาจัดวางได้อย่างพอดิบพอดี โดยไม่รกหูรกตา ทั้งยังคงตัวตนของตัวเองไว้ได้อย่างชัดเจนไม่เปลี่ยนแปลง 1 4 3 V I LOVE YOU V
Create Date : 16 กรกฎาคม 2556 |
|
5 comments |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2556 21:56:51 น. |
Counter : 4038 Pageviews. |
|
|
|
ง้านเริ่มใหม่ แล้วมันจะเหมือนเดิมมั้ย??
เป็นคนชอบฟังเพลงมาก แต่ไม่ได้มีความรู้เรื่องดนตรี แค่รู้สึกว่าเพลงไหนมันสมูทรูหู ดนดรี/ทำนองเพราะ เนื้อเพลงรื่นไหล แค่นี้ก็ไม่ต้องไปดูหรอกว่าเนื้อเพลงมันแปลว่าอะไร (ค่อยไปเสริชหาคำแปลเอาทีหลัง) แบบใช้ใจล้วนๆ แต่เท่าที่ได้อ่านคุณคิวเขียนบทความเกี่ยวกับงานเพลงมาก็หลายครั้ง (ถ้าความจำยังดีอยู่ น่าจะมากกว่าครั้งนึง) รู้สึกได้เลยว่าคุณน่าจะมีความรู้เรื่องดนตรีอยู่มากพอดู คือมันละเอียดลึกซึ้งถึงขนาดสามารถเอาไปใช้อ้างอิงในงานวิชาการได้ทีเดียวเชียวนะเนี๊ยะ ประหนึ่งตัวเองกำลังนั่งงานงานวิจารณ์ดนตรีของนักวิจารณ์ชื่อดังซักคน บวกกับภาษาที่ละเมียดละมัยคล้ายวรรณกรรมเข้าไปด้วย เพลินไปเลยงานนี้.. อันนี้ไม่ได้ยกยอแต่อย่างใด มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นะ
มาเข้าเรื่องพี่คิม
อัลบั้มนี้ ฟังผ่านๆ ครั้งแรก รู้สึกชอบสองสามเพลง ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงที่เคยได้ฟังตอนโซโล่ในคอนแล้ว อย่างเพลง It's time ของคุณอ๊ค เพลงนี้ของปู่แล้วก็เพลงที่น้องชานแต่ง ออ! เพลงของด้งก็น่ารักดี ส่วนเพลงอื่นเราเฉยๆ หรืออาจเป็นเพราะว่า Grown บั้มเก่า ที่ฟังแล้วฟังเล่าอยู่ทุกวันก็ยังไม่รู้ซึ้งถึงคำว่าเบื่อก็ไม่รุ เพลงนี้ของพี่คิมไม่เคยฟังเป็นเวอร์ ญป.แหะ นั่นสิ ทำไมไม่เคยฟังหว่า แต่นะ ก็เราไม่ใช่เมนปู่ อาจมีเล็ดลอดสายตาเล็ดลอดรูหูไปบ้าง แต่เวอร์เกา เราชอบดนตรีและเสียงของปู่แหะ ปูร้องแนวๆ นี้แล้วเสียงมีเสน่ห์ขึ้นอีกเลเวล ไม่น่าแปลกที่พี่แกชอบฮิปฮ็อพแทนที่จะเป็นบัลลาด ฝีไม้ลายมือปู่นี่มันโดนตั้งแต่ Hot (ก่อนหน้านั้นปล่อยผ่าน บอกแล้วว่าไม่ใช่เมน) มาอ่านบทความนี้แล้วนั่งนึกๆ เออแหะ ! ผลงานปู่แต่ละชิ้นนี่ไม่ธรรมดาทั้งนั้น เหมือนจะดูไม่ซ้ำแนวกันเลยล่ะมั้ง แถมแต่ละเพลงก็ทำออกมาได้ดีซะด้วย เหมือนพี่แกใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อยๆ แทบทุกอย่าง ดูอย่าง Game over ดิ ถึงจะแต่งกับคนอื่นแต่แนวดนตรีที่ค่อดจะแปลก แต่ไม่รุทำไมมันติดหูชะมัด กลายเป็นเพลงอันดับหนึ่งของเราในอัลบั้มนั้นไปซะได้ เราว่าฝีมือปู่นี่วาดหวังไปถึงอนาคตได้เลย สดใสจนแสบตาแน่นอน บอกแล้วว่าผุ้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา
ชอบประโยคก่อนย่อหน้าสุดท้ายจังค่ะ
"ไม่จำเป็นที่คนเราต้องผ่านเรื่องระทมทุกข์ถึงจะมีความแรงกล้าของจิตใจผ่านเสียงร้องและบทเพลงของตนได้
ความสันสนในตัวเองกับสังคมใดใดของเด็กวัยรุ่น
คือเมล็ดพันธุ์ชั้นดีที่รอเวลาของมันเพื่อจะแตกยอดผ่านเนื้อดินสู่โลกกว้าง"
ตั้งแต่รู้จักกับบล็อคนี้ อ่านจบแล้วต้องสะบัดหัวแรงๆ เรียกสติ
เหมือนจิตวิญญาณกำลังถูกสูบให้หลุดจากร่างเข้าไปสู่มิติอีกมิติ แทบจะกู่ไม่กลับกันเลยทีเดียว
แล้วสุดท้ายก็ได้แต่คิด
เฮ้ย! ตรูไม่ใช่เมนพี่คิมน้า...