Bloggang.com : weblog for you and your gang
โลกนี้กว้างใหญ่ แต่ไม่เกินใจเรา.
Group Blog
ดูหนังแล้วมาคุย
เสือน้อยลอยลม
ล่องแดนลาว
ถึงเนื้อถึงหนัง
การบ้านการเมือง
ขึ้นรถลงเรือไปเหนือล่องใต้
portrait
<<
พฤษภาคม 2550
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
19 พฤษภาคม 2550
ย้อนรอยทีวีไทย
All Blogs
ย้อนรอยทีวีไทย
ซินเดอเรลล่า เย่เชี่ยน ปลาบู่ทอง โลกาภิวัฒน์เมื่อพันปีที่แล้ว
ห้วยขวาง บางกะปิ
Why Intelligence Fail
โพสะโมเดิ้น
Marat ต้นแบบของเจ้าของสื่อ ผู้แสวงหาอำนาจทางการเมือง
Steve Jobs ตอนที่สี่
Steve Jobs ตอนที่สาม
Steve Jobs ตอนที่สอง
Steve Jobs ตอนที่หนึ่ง
ฟุตบอลประเพณี 62
บทนำ..
ย้อนรอยทีวีไทย
รัฐบาลมีมติให้ TITV เป็นทีวีสาธารณะ เป็นบริษัทที่ลงทุนโดยรัฐบาลแต่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ โดยมีกรมประชาสัมพันธ์เป็นถือหุ้นใหญ่.
ข่าวนี้ไม่กี่วันเอง แต่มันคุ้น ๆ เหมือนเดจาวูยังไงไม่รู้.
เมื่อเกือบห้าสิบปีที่แล้ว รัฐบาลไทยภายใต้การนำของจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม ได้จัดตั้งสถานีโทรทัศน์ขึ้นมาครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกบนพื้นแผ่นดินใหญ่เอเชีย ใช้ชื่อว่า บริษัทไทยโทรทัศน์ โดยให้กรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ดำเนินกิจการแบบเอกชน ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ แต่ก็มีกรมประชาสัมพันธ์เข้าไปดูแลจัดการ บอกแล้วไงว่าคุ้น ๆ :).
ปีต่อมา กองทัพบกภายใต้การนำของจอมพลสฤษฏ์ ธนรัตน์ ก็ตั้งสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่องเจ็ด ขึ้นมาเป็นกระบอกเสียงของทหารแข่งกับรัฐบาลที่มีช่องสี่ โดยมีข้ออ้างเรื่องความมั่นคงของชาติ แต่ไม่นานจอมพลสฤษฏ์ก็ทำการรัฐประหาร และทีวีทั้งสองช่องก็ตกในกำมือของผู้นำเผด็จการโดยสิ้นเชิง.
แม้ทีวีตอนแรกมีจุดประสงค์ด้านการเมืองเป็นหลัก แต่ไป ๆ มา ๆ ทีวีก็กลายเป็นความบันเทิงราคาถูกภายในบ้าน มีการแข่งขันควิซโชว์ เกมส์โชว์ และมีละครโทรทัศน์ในรูปแบบเดียวกับละครเวที คือเล่นกันสด ๆ หน้าฉากในห้องส่ง ไม่มีการอ่านบทก่อน ใช้วิธีให้คนบอกบทแอบอยู่ข้าง ๆ.
ในยุค 2500 - 2509 (ซึ่งต่อไปบทความนี้จะเรียกว่ายุค 00) เป็นการแข่งขันกันแค่สองช่อง ซึ่งมีหน่วยราชการเป็นผู้ควบคุม ดังนั้นรูปแบบของรายการต่าง ๆ ก็จะเป็นแบบหน่วยราชการไม่มีอะไรตื่นเต้นหวือหวาเท่าไร.
แต่พอเริ่มทศวรรษใหม่ (2510 - 2519) หรือขอเรียกว่าทศวรรษ 10 โทรทัศน์เริ่มมีเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า ทีวีสี ซึ่งต้องมีการลงทุนกันใหม่ จึงได้มีเอกชนภายใต้การนำของ เรวดี เทียนประภาส จัดตั้งสถานีโทรทัศน์สีขึ้นมาครั้งแรกในทวีปเอเชีย โดยขอสัมปทานมาจากกองทัพบก และใช้ชื่อทีวีว่า สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่องเจ็ด.
นอกจากการออกอากาศด้วยระบบสีแล้ว การผลิตรายการก็ได้นำรูปแบบของต่างประเทศมาใช้ มีการจ้างโปรดักชั่นเฮาส์ผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์ขึ้นมาแทนละครทีวีที่ต้องเล่นกันสด ๆ แต่ภาพยนตร์ทีวีใช้ฟิล์มถ่ายทำ สามารถตัดต่อเรื่องราวให้กระชับขึ้นได้ นั่นคือจุดเริ่มต้นของ ดาราฟิล์ม (ดาราวิดีโอในยุคปัจจุบัน) รายการเกมส์โชว์ก็ลอกแบบจากต่างประเทศ ใช้เทคโนโลยีการบันทึกเทปโทรทัศน์มาช่วย สามารถควบคุมเวลาได้ดีกว่าการออกอากาศสด มีภาพยนตร์ต่างชาติมาฉายทุกวัน มีการถ่ายทอดสดมวยรุ่นเฮฟวี่เวทจากต่างประเทศมาให้ชมเรื่อย ๆ ทำให้สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่องเจ็ดได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและขึ้นเป็นสถานีโทรทัศน์อันดับหนึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา.
เมื่อช่องเจ็ดสีได้รับความนิยมสูง เอเจนซี่โฆษณาก็เริ่มสนใจสื่อโทรทัศน์มากขึ้น วงการโฆษณาเติบโต เม็ดเงินเข้าทีวีมากมาย ทำให้เกิดสถานีโทรทัศน์ช่องเอกชนช่องใหม่ขึ้นมา โดยไปขอสัมปทานจาก บ.ไทยโทรทัศน์ เป็นจุดกำเนิดของ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่องสาม ที่ดำเนินการโดย บริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเมนท์ (BEC) ขึ้นมา ในระยะแรกใช้นโยบายเดียวกับช่องเจ็ดสี มีภาพยนตร์โทรทัศน์ เกมส์โชว์บันทึกเทป และรายการภาพยนตร์ต่างประเทศ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไร เพราะดำเนินการผิดพลาดที่เลือกคลื่นวิทยุความถี่ต่ำ (ช่องสาม) เพราะคิดว่าจะแพร่ภาพได้ไกลกว่า เลือกตั้งเสาส่งที่หนองแขม ซึ่งไกลจากตัวเมืองและเมื่อกรุงเทพเปลี่ยนสภาพเป็นตึกสูงมากมายก็ยิ่งทำให้สัญญานไม่ชัด ถ้าจะให้ชัดก็ต้องลงทุนทำเสาทีวีแบบใหม่ ทำให้ช่องสามไม่เป็นที่นิยมมากนัก.
ดังนั้นช่องสามจึงต้องเปลี่ยนนโยบายใหม่ ไม่ดำเนินการตลาดไปในแนวกว้าง หันไปเน้นรายการทีวีจากต่างประเทศโดยเฉพาะอเมริกา เพื่อจับตลาดบนซึ่งกลุ่มเป้าหมายนี้สามารถลงทุนทำเสาโทรทัศน์เพื่อรับช่องสามโดยเฉพาะได้ ทำหนังสือแนะนำรายการโทรทัศน์แจกตามปั๊มน้ำมัน ช่องสามก็เลยมีภาพพจน์เป็นช่องโทรทัศน์ของคนมีเงินและคนมีการศึกษา.
ยุคทศวรรษที่ 10 จากการยึดครองตลาดทั้งบนทั้งล่างของ ช่องสามและช่องเจ็ด ทำให้เกิดผลกระทบกับทีวีช่องเดิมของรัฐบาล ช่องห้าปรับตัวได้ด้วยการให้บริษัทเอกชนมาเช่าออกรายการเช่น บ.รัชฟิล์มทีวี ที่ยึดกุมช่วงไพร์มไทม์ของช่องห้าไว้ได้ทั้งหมด รายการยอดนิยมของช่องห้าก็คือ ไอ้มดแดง ที่ครองใจเด็ก ๆ ทั้งประเทศ ในขณะที่ช่องสี่แม้มีรูปแบบเป็นเอกชน แต่ก็ถูกควบคุมจากกรมประชาสัมพันธ์ที่มีขั้นตอนระบบราชการยุ่งยากต่อการปรับปรุงรายการเพื่อแข่งขันกับช่องเอกชน ทำให้ช่องสี่เกิดปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง.
ช่องเจ็ดสีผู้นำตลาดแบ่งรายการเป็นช่วงก่อนข่าว และ หลังข่าว ก่อนข่าวสองทุ่มครึ่งชั่วโมงเป็นไพร์มไทม์ มีภาพยนตร์โทรทัศน์ฉายทุกวัน วันจันทร์เป็นแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ วันอังคารหนังผีแบบชาวบ้าน ๆ (กระสือได้รับความนิยมสูง) วันพุธ เป็นขุนแผนผจญภัย ซึ่งนำตัวละครขุนแผนมาสร้างเป็นซีรีส์ วันพฤหัส เป็นเรื่องหมอผีซีรีส์ ซึ่งภายหลังเปลี่ยนเป็น ซีรีส์ชุด กฏแห่งกรรม วันศุกร์ออกแนวนิยายน้ำเน่าต่าง ๆ วันเสาร์วันอาทิตย์ เป็นภาพยนตร์ชุดที่หลากหลายเนื้อหา.
ปลายทศวรรษ 10 ทีวีทุกช่องเปลี่ยนเป็นระบบสี สถานีโทรทัศน์ช่องเจ็ดขาวดำเปลี่ยนเป็นช่องห้า ช่องสี่เปลี่ยนเป็นช่องเก้า ช่องสี่มีปัญหาใหญ่ขาดทุนต่อเนื่องและยังต้องย้ายที่ทำการจากวังบางขุนพรหม ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ทำการของธนาคารแห่งประเทศไทย มาเช่าตึกแถวอยู่แถว ๆ บางลำภู และยุบกิจการบริษัทไทยโทรทัศน์เปลี่ยนมาเป็น องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย และช่วงนี้เองเริ่มเกิดการเข้ามาของภาพยนตร์จีนจากไต้หวัน เรื่องที่ได้รับความนิยมสูงคือ เปาบุ้นจิ้น ของช่องสาม.
ยุคทศวรรษที่ 20 เป็นยุคที่ดุเดือดและเปลี่ยนแปลงมากที่สุดของรายการโทรทัศน์ เริ่มมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ทำให้กำเนิดโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจขึ้นมา ช่องที่มีการเปลียนแปลงมากที่สุดคือช่องสาม ที่ริเริ่มละครโทรทัศน์ยุคใหม่ที่ใช้การบันทึกเทป และให้นักแสดงอ่านบท ทำการศึกษาบท และซ้อมการแสดงเพื่อให้ได้อารมณ์ก่อนบันทึกเทป นำโดยภัทราวดี ศรีไตรรัตน์ ทำให้ละครโทรทัศน์สนุกสนานขึ้น ช่องเจ็ดเมื่อเห็นว่าภาพยนตร์จีนจากไต้หวันได้รับความนิยม ก็ไปซื้อละครทีวีจากฮ่องกงเรื่องมังกรหยกมาฉาย ซึ่งได้รับสูงมาก ๆ ชนิดที่เรียกได้ว่าทีวีเมืองไทยเก้าสิบเปอร์เซนต์ต้องเปิดดูมังกรหยก ต้องขยายเวลาจากฉายวันเสาร์วันเดียวเป็น เสาร์ อาทิตย์ และ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตามลำดับ.
แต่หมากเกมส์นี้ของช่องเจ็ด กลับกลายเป็นดาบสองคมที่หันมาบาดตัวเอง เมื่อช่องสามใช้ความสามารถในการติดต่อกับต่างประเทศที่เหนือกว่า เข้าซื้อภาพยนตร์ดัง ๆ ของฮ่องกงมาครอบครองได้ทั้งหมด และในที่สุดเมื่อหนังฮ่องกงเรื่องกระบี่ไร้เทียมทาน ได้ความนิยมอย่างสูงถึงขนาดขยายเวลาไปฉายช่วงไพร์มไทม์ได้ทุกวัน ทำให้ตำแหน่งเบอร์หนึ่งของช่องเจ็ดที่ครอบครองมานานกว่าสิบปี ถึงกับต้องสูญเสียตำแหน่งไปอย่างรวดเร็วจนใคร ๆ ก็คาดไม่ถึง.
ช่องสามรุกหนักด้วยหนังจีน และ ละครโทรทัศน์ รูปแบบใหม่จนช่องเจ็ดตั้งตัวไม่ติด หนังจีนก็หาหนังดี ๆ มาสู้ได้น้อยกว่า หนังไทยรูปแบบเดิมก็ถูกละครช่องสามตี อีกทั้งช่องเจ็ดเองก็เสียสมาธิกับการขยายการออกอากาศไปทั่วประเทศทำให้ไม่มีเวลามาพัฒนารายการตัวเอง.
ช่องห้า เริ่มเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ๆ เข้ามาซื้อเวลามากขึ้น ทำให้เกิดบริษัทเจเอสแอล เข้ามาทำเกมส์โชว์รุ่นใหม่ที่กระชับสนุกสนาน ประกบกับเกมส์โชว์ที่มีอายุกว่าสิบปีอย่างนาทีทอง และ ประตูดวง ของช่องเจ็ด อีกขนานหนึ่ง.
ส่วนช่องเก้า หลังจากเปลี่ยนเป็น อสมท. ก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นมากมาย นอกจากการปรับเป็นรัฐวิสาหกิจเต็มตัวและเริ่มสร้างวัฒนธรรมองค์กรขึ้นมาใหม่อย่างช้า ๆ.
แต่อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังของทศวรรษที่ 20 ก็ได้เกิดการเปลียนแปลงใหม่ ๆ ขึ้นมา.
Create Date : 19 พฤษภาคม 2550
Last Update : 19 พฤษภาคม 2550 13:31:16 น.
8 comments
Counter : 1153 Pageviews.
Share
Tweet
มาตามรอยด้วยค่ะ
ได้ความรู้ดี
โดย:
โสดในซอย
วันที่: 19 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:19:54 น.
มีประโยชน์มากๆเลย ได้ความรู้มากขึ้นด้วยค่ะ
โดย:
birdchicago
วันที่: 19 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:59:28 น.
มาอัพต่อด่วนๆ (เขียนไดบ่งบอกอายุมากอ่าพี่เสือ)
โดย: มิงกุ IP: 58.8.94.135 วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:22:29:36 น.
ร้กค่ะ
โดย: เล็ก IP: 203.172.201.1 วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:18:36 น.
พี่ที่เคยไปโพสต์ตอบในพันทิพย์ว่าทำแว่นตาแบบ polarized ใช่ไหมค่ะ
พอดีจะทำเลยอยากขอข้อมูลหน่อยค่ะ
ไม่ทราบว่าจะแอดเมลล์คุยใน msn ได้ไหมค่ะ
โดย: pook IP: 58.11.119.5 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:32:04 น.
วู้ว..อ่านๆไปแล้วเจอคนมาบอกรักพี่เสือน้อยด้วย เขิลลแทน
โดย: Sukh IP: 124.120.148.195 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:54:07 น.
สวัสดีครับพี่เสือ
สบายดีไหมครับ
ไม่อัพบล็อกบ้างเลยเหรอพี่
อิอิ
โดย:
อะไรดี
วันที่: 7 เมษายน 2552 เวลา:14:40:53 น.
พี่เหนื่อยมาเยอะ
พี่สู้มาเยอะ
พี่เจ็บมาเยอะ(แต่พี่ทน)
พี่เขียนมาเยอะ
พี่เที่ยวมาเยอะ
พี่โม้มาเยอะ
พี่หมดแรงมาเยอะ
แต่พี่สู้ สู้ในสิ่งที่พี่รัก.....
พี่ไม่มีเวลามา Up date บล๊อก เพราะภาระกิจพี่เยอะ (ตอบแทนพี่เสือจ้า)
แม้โลกนี้จะกว้างใหญ่ แต่ใจพี่ยังใหญ่กว่าโลก
โดย: หนอนไต่เชือก IP: 124.120.245.231 วันที่: 9 เมษายน 2552 เวลา:1:18:07 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
LittleTiger
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Seven Of Nine
ดุสิตา
อะไรดี
T_Ang
น้องพรผู้น่ารัก
NoK_Zilla
Players
มรกตนาคสวาท
กึ่งยิงกึ่งผ่าน
หมาร่าหมาหรอด
นู๋เองง่ะ
dont wanna no
scubalove
ว่านน้ำ
JEDIYUTH
aston27
Oakyman
kukoy
Dr.Manta
สายน้ำกับสายเมฆ
Webmaster - BlogGang
[Add LittleTiger's blog to your web]
Links
zilent
Mink's Diary
Macroart
Jeyz's Diary
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ได้ความรู้ดี