เรื่องกิน เรื่องเที่ยว คือเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องราวของเราสองคน :)

ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]




ปลาหมึกน้อย กับ นายโอเลี้ยง รายงานตัวครับ
เนื่องด้วยเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน ดังนั้นก็เลยจัดการหาที่เก็บสถานที่หรือร้านอาหารที่เคยแวะเยี่ยมมาแล้ว

และเสมือนเป็น ไดอารี่ส่วนตัว ที่ทุกคนเข้าดูได้ อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาแล้วต้องการหาข้อมูลสำหรับสถานที่นั้นๆ

ขอให้สนุกกับ Blog นี้นะ

ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^

Click ข้างล่างได้เลยจ้า

click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary
New Comments
Group Blog
 
<<
เมษายน 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
9 เมษายน 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง's blog to your web]
Links
 

 
Half Day Trip สบายๆ สไตล์ Eat and Travel Diary ไปกับ Nissan Livina





ช่วงนี้พวกเรามีเวลาว่างกันไม่เยอะมากนัก ดังนั้นมีเวลาว่างแค่ครึ่งวัน ก็ต้องหาเรื่องเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพฯ นี่แหละครับ ซึ่งต้องหาที่เที่ยว และที่กินแบบไปทีเดียวคุ้มกับเวลาที่มีครับ ดังนั้นจึงลงเอยว่าจะไปหม่ำกุ้งตัวโตๆ ที่อยุธยา แล้วก็แวะไปไหว้พระ นี่แหละลงตัวสุดๆ ครับ

และที่พิเศษสำหรับทริปนี้ คือ เราจะไปกับ New Nissan Livina รถ Compact SUV โฉมใหม่ ของทาง Nissan ซึ่งเค้าส่งมาให้เราได้สัมผัส ขับขี่ก่อนใคร ที่สำคัญ รถอเนกประสงค์คันนี้ก็ขับทางไกลได้สบายๆด้วยเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ประหยัดน้ำมันได้ดีทีเดียว และขอบอกว่า Livina ใหม่นี้ ภายในกว้างขวางมากๆ โดยเฉพาะพื้นที่เก็บของด้านหลัง ที่กว้างสุดๆ สามารถแบกของไปเที่ยวได้เต็มที่ และใครที่ชอบขี่จักรยาน ก็สามารถนำเจ้าจักรยานพับคันโปรดติดรถไปได้ด้วยนะ ทริปนี้เราก็พาไปเหมือนกันจ้า





จุดเริ่มต้นของเราอยู่ที่ รังสิตคลอง 2 กว่าจะออกเดินทางก็ 11 โมงแล้ว ดังนั้นจุดมุ่งหมายแรกคือ มื้อกลางวัน หลังจากค้นหาข้อมูลร้านกุ้งตัวโตๆ ก็ไปเจอกับร้าน “รวยกุ้งเผา” ดังนั้นค้นหาเส้นทางเรียบร้อยก็มุ่งหน้าไปขึ้นทางด่วนอุดรรัถยา ตรงปทุมธานี เพื่อไปลงยังบางไทร อยุธยาครับ ขับรถช่วงกลางวันทำให้ตาเริ่มจะปิดเหมือนกัน เลยแวะเติมความสดชื่นด้วยกาแฟเย็นซักแก้ว ซึ่งมีขายอยู่ตรงทางด่วนด้วยนะครับ ได้กาแฟเย็นมาแบบนี้ขับรถได้สบายเลยละ









จากนั้นก็มุ่งตรงไปทางบางไทร โดยเราลงทางด่วนตรงถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกตะวันตก หรือ ทางหลวงหมายเลข 9) ตรงอำเภอบางไทรนะครับ จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ ผ่านทางเข้าศูนย์ศิลปาชีพบางไทรไปนิดนึง จากนั้นก็ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา โดยให้มุ่งตรงไปทางไป อำเภอเสนา (เส้นทาง 3111) นะครับ ขับตรงไปเรื่อยๆ แต่ระวังหน่อยนะครับ เพราะระหว่างทางนั้นมีการก่อสร้างทางอยู่ ตรงไปเรื่อยๆ ให้สังเกตสะพานพระยาบันลือ เมื่อลงสะพานปุ๊บให้ชิดขวาแล้วเลี้ยวขวาแรกเลยนะ เลี้ยวมาปุ๊บ ก็เบี่ยงไปทางขวาสุดนะครับ ซึ่งเป็นทางไปแยกบ้านญวน ไม่ใช่ทางไปบางไทรนะ จากนั้นก็ตรงไปยังวัดท่าซุงฯ และ ให้มองหาโรงเรียนไตรราชวิทยา เมื่อถึงโรงเรียนแล้ว ก็จะเจอกับป้ายชื่อร้านครับ จากนั้นก็ไปตามป้ายร้านได้เลย เพราะมีบอกทุกแยก ทางเข้าอาจจะซับซ้อนเล็กน้อย แต่เมื่อถึงร้านแล้วรับรองถูกใจแน่ๆ ครับ





พอถึงร้านแล้วก็หาที่จอดรถได้เลย สำหรับ Livina คันนี้มาพร้อมกุญแจอัจฉริยะ ด้วยนะ แบบว่าไม่ต้องใช้กุญแจก็สามารถสตาร์ตและดับรถได้เลย แถมถ้าเราปิดประตูไม่สนิท หรือเปิดไฟไว้ ก็ไม่สามารถล็อกรถได้ ซึ่งช่วยป้องกันการลืมนู่นลืมนี่ของเราได้ดีทีเดียว เมื่อจอดเรียบร้อยแล้ว ก็ตรงเข้าไปที่ร้าน “รวยกุ้งเผา” กันเลยครับ บรรยากาศร้านนั้นเป็นบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีโต๊ะให้นั่งริมน้ำ และมีโซนคือที่นั่งตรงแพกลางน้ำ เราเลือกตรงนั้นครับ เพราะว่าบรรยากาศเย็นสบายชิลมากๆ เลย















เมื่อได้ที่นั่งแล้วก็ขอเมนูด่วนเลยครับ โดยเมนูแรกที่สั่งก็คือ “กุ้งแม่น้ำเผา” ซึ่งเค้ามีให้เลือกหลายขนาด ผมเลือกสั่งไซต์จัมโบ้ ขนาด 3 ตัว กิโล (1,500.-) พอมาเสิร์ฟกลิ่นกุ้งหอมๆ ก็ลอยมาเลยครับ ที่สำคัญขนาดนั้นตัวใหญ่มากๆ มองหน้ากันสองคนเลยครับ แต่สุดท้ายก็เกลี้ยง เนื้อกุ้งนั้นหวานตัดกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้านได้ดี มันกุ้งก็คลุกข้าวหม่ำได้อย่างเอร็ดอร่อยเชียว ถ้ามาอยุธยาแล้วไม่ได้มาหม่ำกุ้งเผานี่คงเหมือนมาไม่ถึงเลยเนอะ







จากนั้นก็ต่อด้วย “ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมพริกไท (150.-)” อีกหนึ่งเมนูโปรดที่หาทานได้ยาก สำหรับปลาเนื้ออ่อนร้านนี้ทอดได้กรอบ สามารถทานได้ทั้งตัว โดยเฉพาะตัวเล็กนั้นเคี้ยวเพลินเลยล่ะ



แล้วก็ต่อด้วย “ทอดมันปลากราย (120.-)” เสิร์ฟมาแบบ 6 ชิ้นใหญ่ เนื้อปลาแน่นเต็มคำมากๆ อร่อยถูกปากอีกเมนู



จากนั้นก็ปิดท้ายด้วย “ต้มยำปลาคัง (130.-)” มาแบบหม้อไฟร้อนๆ น้ำต้มยำนั้นรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ ดี แถมเนื้อปลายังเยอะด้วยนะ แค่นี้ก็มีน้ำซุปรสชาติดีๆ ไว้ซดระหว่างมื้อเที่ยงนี้แล้วครับ





สำหรับมื้อนี้นั้นขอบอกเลยว่ารสชาติอร่อย ปริมาณเหมาะสม ที่สำคัญอาหารออกเร็วด้วยนะ เรียกได้ว่าคุ้มค่าจริงๆ ครับ





หลังจากอิ่มอร่อยกับกุ้งตัวโตๆ แล้ว เราก็ออกเดินทางกันต่อครับ ตั้งใจว่าจะแวะไหว้พระในอยุธยา เลยขับรถเล่นๆ ไปจนถึงอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเราก็ไปจอดรถตรงวิหารพระมงคลบพิตร จากนั้นก็เข้าไปสักการะพระมงคลบพิตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย ขนาดใหญ่ ซึ่งตลอดทางเข้าก็มีร้านขายของที่ระลึก ขนม ของฝากต่างๆ มากมายเชียว โดยเฉพาะโรตีสายไหมของขึ้นของที่นี่เค้า ซึ่งก็อดที่จะซื้อไปฝากคนที่บ้านไม่ได้ครับ















จากนั้นก็ไปยังวัดพระศรีสรรเพชญ์ อยู่ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตร เป็นวัดที่สำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวงเทียบได้กับวัดพระแก้วในกรุงเทพฯ เลยล่ะ ภายในเป็นโบราณสถานที่ถือว่ายิ่งใหญ่อลังการมากๆ จนทำให้อยากเห็นว่าตอนที่เป็นยุครุ่งเรืองนั้นจะสวยงามเพียงใด หลังจากเดินชมความสวยงามที่ยังคงเหลือไว้ให้เราได้เข้ามาศึกษาประวัติศาสตร์ภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์แล้ว ก็กลับมาที่ Nissan Livina เพื่อนำจักรยานที่เราเตรียมมาปั่นเล่นรอบๆ อุทยานประวัติศาสตร์ ซึ่งตลอดข้างทางมีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาตินั้นปั่นจักรยานชมความสวยงามกันหลากหลายทีเดียว















หลังจากนั้นก็ได้เวลาเดินทางกลับบ้านแล้วครับ เสียดายที่วันนี้มีเวลาน้อยไปนิด เลยไปชมความสวยงามของวัดต่างๆ ในอยุธยา ได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งยังมีวัดสำคัญๆ อีกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น วัดใหญ่ชัยมงคล, วัดพนัญเชิงวรวิหาร, วัดมหาธาตุ หรือตลาดน้ำต่างๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของที่นี่ แต่ถึงแม้จะมีเวลาแค่ครึ่งวัน ก็ทำให้เรามีความสุขกับการเดินทางได้ แถมยังได้หม่ำกุ้งตัวโตๆ พร้อมทั้งได้ทำบุญไหว้พระอีกด้วย เรียกได้ว่าอิ่มทั้งบุญ อิ่มทั้งท้องด้วยนะ จากนั้นก็เดินทางกลับถึงคอนโดที่พระราม 9 โดยสะดวก





สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ Nissan Livina ที่พาเรามาถึงจุดหมายได้อย่างสะดวก ขับไปตะลอนมาหลายที่ แต่น้ำมันยังลดไปแค่ไม่เท่าไหร่เอง ที่สำคัญยังสามารถขนของติดตัวไปด้วย รวมทั้งขนมและของฝากมากมายเลย เพราะพื้นที่เก็บของด้านหลังกว้างจริงอะไรจริง ที่สามารถพับเบาะหลัง จุได้แบบไม่เกรงใจใคร ถ้าอยากลองสัมผัสความกว้างด้วยตัวเองก็ลองไปทดลองได้ที่โชว์รูม Nissan ใกล้บ้านได้เลยนะ





ฝากติดตาม Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง ใน Facebook fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^
Click ข้างล่างได้เลยจ้า

ส่วนใครที่เล่น Instagram ก็ เข้าไป Follow ได้ที่ @eatandtraveldiary จ้า


click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary


Create Date : 09 เมษายน 2557
Last Update : 9 เมษายน 2557 16:47:11 น. 0 comments
Counter : 3246 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.