ตะลุยเที่ยว, กิน VS ช๊อปปิ้ง --> มาเก๊ากะฮ่องกงจนขาลาก (Day 1)
แต่น แตน แต๊น ในที่สุด ก็ได้ฤกษ์ลงบล๊อกซักกะที หลังจากได้อ่านประสบการณ์จากเพื่อน ๆ ทั้งใน pantip, hongkongfanclub.com มาก็มาก ก็เลยวางแผนทริปเองอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ต้องขอบอกว่า เน้นเรื่องกินกะช๊อปนะจ๊ะ ส่วนชมวิวก็ดูอยู่แล้ว ทริปนี้ไปกัน 4 วัน 3 คืน มีทั้งหมด 12 ชีวิต (ตั้งแต่สูงอายุ ถึง เด็ก ๆ ) ก็เลยค่อนข้างทุลักทุเลนิดหน่อย แบบไม่ค่อยเป็นไปตามแผน เพราะเดินกันไม่ไหวหรือเดินช้าบ้าง ต้องรอกันบ้างอ่ะ แต่เอาเหอะ ไม่เป็นไร งานนี้เจอประสบการณ์มากมาย โดนล้วงกระเป๋าหมดเลยด้วย เซ็งเป็ดจริง ๆ เล้ย เดี๋ยวเล่าให้ฟังตอนหลังนะ จะได้ระวังตัวกันไว้นะจ๊ะ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า ครั้งนี้เราพักที่มาเก๊าอย่างเดียว ที่โรงแรมเวเนเชี่ยน ไปฮ่องกงโดยไปเช้า-ดึกกลับ (เหนื่อยแฮะ) ณ ตอนเช้า (ขาไป) เวลา 5.25 น.ต้องถึงสุวรรณภูมิ ขึ้นเครื่อง 7.25 น. นั่งสายการบินมาเก๊าแอร์ไลน์ (เพราะเป็นสายตรง) อาหารมื้อเช้าในเครื่องแบบง่าย ๆ ชิลล์ ๆ พอมาถึงมาเก๊า ผ่านตม. แล้วก็ออกมาเลี้ยวขวานะคะ จะมีรถ Shuttle Bus ของเวเนเชี่ยนมารับ ดีมากเลย รถเย็นและสะอาดค่ะ ที่สำคัญฟรี...ค่า นั่งแป๊บเดียวก็ถึงโรงแรม น่าจะประมาณ 15 นาทีนะ พอไปถึงก็มี Bell Boy มาช่วยยก แต่ปัญหาคือ ตอนไปถึงมันแค่ 11.00 น. ยังเช็คอินไม่ได้ เช็คได้ตอนบ่าย 3 ก็เลยต้องฝากกระเป๋าแล้วไปเที่ยวก่อนค่ะ แต่ก่อนไปเราก็ถ่ายรูปพอเป็นน้ำจิ้ม ณ ล๊อบบี้ ขอบอก "คนเยอะมากกกกก" อันนี้จะเห็นเด่นเป็นสง่าตรงกลางเลยค่ะ เพดานค่ะ สวย ๆ หลังจากถ่ายรูปพอเป็นน้ำจิ้มตรงฝั่งล๊อบบี้แล้ว ก็จัดการไปถามเจ้าหน้าที่ซักกะหน่อยว่าต้องเดินทางไปเที่ยวอย่างไร เค้าก็ช่วยเหลือดีนะคะ (คนนี้พูดจีนไม่ได้ อังกฤษโลด) เจ้าหน้าที่บอกว่า สามารถนั่ง shuttle bus ไปลงที่ Sand hotel (金沙) แล้วนั่งแท็กซี่ไปต่อได้ จะประหยัดกว่า เพราะวันนี้เรากะว่าจะไป Senado Sqaure กันค่ะ เนื่องจากทีมเรามีทั้งผู้สูงอายุและเด็ก เราก็เลยเลือกที่จะไปแค่จุดเดียวเลยดีกว่า เพราะถ้าไปตามแผนที่ที่แนะนำมรดกโลก (เล่มมาเก๊า) เดี๋่ยวขาลากแหง ๆ แต่ขอบอก กว่าจะเดินออกไปนั่งรถบัสได้นั้น ใช้เวลา ครึ่งชม. (เชื่อหรือไม่เอ่ย) เพราะเราต้องเดินจาก ปีกนึง ไปยังอีกปีกนึงของโรงแรม (ไปทาง West Wing) ระหว่างทางก็ถ่ายรูปกันอีกนิดหน่อยเด้อ (รูปเยอะหน่อยน้า) เดินไปมาก็มาเจอคนยืนเป็นรูปปั้นขยับได้ เก่ง ๆจริง ๆ ที่ยืนได้นิ่งมาก ๆ แถมอีกรูป แล้วเราก็เดินมาถึงป้ายรถบัสซักกะที มันมีสามป้าย มี Taipa ferry, Macau ferry, Sand hotel วันนี้เราไปป้ายสุดท้ายกัน ไป Senado Square ต้องนั่งข้ามเกาะไปเกาะมาเก๊า (ตอนนี้เราอยู่บนเกาะไทปานะ) สะพานข้ามเกาะ ย๊าว ยาว วิวข้างทางจ้า Fisherman Wharf เป็นสวนสนุก มีคาสิโนด้วย โฉมหน้าแท็กซี่เมืองเค้า มีแต่สีนี้เท่านั้น ไม่หลากสีเหมือนบ้านเรา ด้านช้างรถ จะมีตัวเลขระบุไว้ด้วยว่า 4 หรือ 5 หมายถึง จำนวนผู้โดยสารที่นั่งได้ แต่ส่วนมากเป็น 4 ที่นะ และแล้ว ในที่สุดเราก็มาถึง ประตูโบสถ์เซนต์ปอล (เหนือสุดของ senado square) วิวหน้าประตูโบสถ์ ตอนนี้มีงานอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ เห็นมีเจ้าป้ายนี้อยู่ทั่วไปหมด เดินมาเรื่อย ๆ มาด้านหลั่งประตูโบสถ์ เป็นสภาพเยี่ยงนี้ มีทางขึ้นไปด้านบนด้วยค่ะ ต้องขอบอกว่า ช่วงที่ไปเที่ยวเนี่ย อากาศไม่ดีนะ ฝนตกปรอย ๆ ตลอด ก่อนไปก็เช็คแล้วนะว่าอากาศประมาณ 22-24 องศา แต่ทำไม๊ ร้อนตับแลบอย่างนี้น้อออออ เดินไปเดินมาเหงื่อซกเลย อากาศมันจะอบ ๆ แบบชื้น ๆ น่ะ (นึกออกไหม) เอ้า มาดูวิวด้านบนมั่ง มาดูบรรยากาศ อากาศวันนี้กันก่อน ขมุกขมัว เมื่อชมวิวด้านบนเสร็จ เราก็เดินไปด้านหลังต่อนะคะ เท่าที่อ่านมา ไม่ค่อยมีใครเอารูปห้องด้านล่างมาดูเลย เพราะฉะนั้น เราก็เลยเอามาให้ชมซะเลย ถ้าเราเดินไปด้านหลัง จะมีบันไดลงไปใต้ดินนะคะ มีแผนผังให้ดูระหว่างเดิน จะโชว์ว่า สมัยก่อนใต้โบสถ์นี้มีห้องอะไรบ้าง เป็นสุสานด้วยนะ มาดูกันว่าเป็นไงบ้างดีกว่า ห้องนี้ ด้านข้างจะมีกระจกเป็นชั้น ๆ แต่ละชั้นจะมีกระดูกจริงอยู่ แต่ถ่ายไม่ได้ คนบังมิดเลยค่ะ เดินเข้าไปอีกหน่อย จะแสดงของใช้สมัยก่อน มีการแสดงภาพวาดติดตามผนังด้วยค่ะ เมื่อดูเสร็จแล้ว เราก็เดินออกจากห้องนี้กัน กะว่าจะเดินไป Senado Square กันค่ะ ลักษณะเป็นการเดินลงเนินนะคะ (สบายดี แหะ ๆ) อีกสักรูป คนเยอะมากกกกกก ระหว่างทางเดินลง ก็จะมีร้านขายของกินเยอะแยะ เราซื้อขนมร้านนี้ อร่อย ๆ จริง ๆ น้า แวะซื้อน้ำด้วย ที่นี่น้ำมะม่วงอร่อย (เหมือนฮ่องกง อะไร ๆ ก็มะม่วงแฮะ) น้ำเค้าเท่ห์ดี มีบอกวันที่ด้วยแฮะ ซื้อหมูแผ่นร้านนี้ มีที่ทำการไปรษณีย์เล็ก ๆ (อ้า มีนางแบบยืนข้าง ๆ ซะด้วย) ในที่สุด เราก็เดินมาถึงด้านล่าง แถว Senado square เย้เย้ บริเวณนี้ มีร้านเพียบ ๆๆๆๆ ตาลายเลย ดูบรรยากาศรอบ ๆ (รู้จักร้านไหนบ้างเอ่ย ฮิฮิ) ร้าน SaSa มีอยู่ทั่วไป อย่างกะ เซเว่นเลย อ๊ะ เห็นไกล ๆ มีร้าน Mcdonald ที่ทุกคนชอบถ่ายด้วย แต่ก่อนที่เราจะทำการช๊อปปิ้งนั้น เราก็เหลือบไปเห็นโบสถ์เซนต์ดอมินิค อยู่ด้านหลัง ก็เลยแวะเข้าไปกันซักกะหน่อยดีกว่า เดี๋ยวจะว่ามาไม่ชมมรดกโลกเล้ย ภายในจ้า เงียบมากๆๆๆ ใกล้เข้าไปอีกนิด ด้านข้าง เป็นเสาสูงงงง โคมไฟเหมือนในหนังฝรั่งเก่า ๆ เลยอ่ะ บรรยากาศภายในโดยรอบ เชิญทัศนาเองค่า มีการจุดเทียนและเขียนชื่อไว้ด้วย ภาพรวมแบบหญ่าย ๆๆๆ เอาล่ะพอละ ออกมาด้านนอกกันดีกว่า วันนี้มื้อเที่ยงเราจะไปกินร้านอาหาร แม็คคานีส (มีคนแนะนำในเว็บ บอกว่าราคาไม่แพง) หน้าร้านค่า ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า ร้านเล็กมากกกก เข้าไปต้องนั่งแยกสามโต๊ะ นั่งไม่ลง คนในร้านพูดอังกฤษไม่ได้ พูดจีนกลางไม่ค่อยคล่อง สั่งอาหารกันอย่างทุลักทุเล ไม่รู้ว่าอะไรอร่อยง่ะ เลยสั่งกันมั่ว ๆ ผลออกมาเป็นเยี่ยงนี้ บะหมี่เนื้อ ก็รสชาติโอเคนะ เบอร์เกอร์หมูหยอง กับ อืมม กะหรี่มั้ง เผ็ดนิด ๆ ข้าวผัดสารพัดนึก ฮ่า ๆๆๆ (เรียกเอง) เพราะว่ามันมีทั้งมะกอกเทศ, ไข่กุ้ง, เม็ดอะไรไม่รู้อีกมากมาย จืด ๆ หน่อยนะเนี่ย เบอร์เกอร์หมู ถนนเส้นนี้มีขายเบอร์เกอร์แบบนี้เยอะมากกกก อืมมม รสชาติโอเคนะ ส่วนอันนี้เป็นแกงกะหรี่เนื้อ อืมมม รสชาติมัน...บาง ๆ นะ ไม่ข้นเท่าไร เหมือนขาดรสอะไรไปเลย แล้วมื้อนี้ก็จบไป ค่าเสียหายประมาณ 300 เหรียญ เฮ้อออ... แต่คนในร้านสูบบุหรี่กันเยอะ เหม็นไปหน่อย หลังจากกินกันเสร็จ เราก็ไปเดินเล่นกัน แถวนี้มีตึกนี้น่ะ เรียกไม่ถูก ตึกไปรษณีย์ แล้วเราก็เดินช๊อปปิ้งกันท่ามกลางสายฝนโปรยปราย (กลัวเป็นหวัดจริง ๆ เลยเชียว) เมื่อช๊อปเสร็จ ก็เดินออกไปตรงถนนใหญ่ ตามหาขุมทรัพย์ เอ๊ย!!! ไม่ใช่ ตามหา ทาร์ตไข่โปรตุเกส อันมีชื่อมานาน หน้าร้านค่า ทาร์ตสไตล์โปรตุเกสนั้น เท่าที่อ่านมาเค้าบอกว่าวิธีการทำจะต้องดึงเอาน้ำตาลมาอยู่ตรงหน้าน่ะ แล้วก็มีรอยไหม้ มันหอมดีนะ อันละประมาณ 7 เหรียญ ซื้อมาชิมกันคนละอัน อยากกินอีก แต่ไม่มีโอกาสซื้อแล้ว แงแง เหลือบไปเห็นมอเตอร์ไซค์คันนึงน่ารักดี ถ่ายมาฝากค่า กินเสร็จละ เราก็เดินกลับไปที่ Senado Square เดินเข้าไปในซอยข้าง แม็คฯ ค่ะ มีร้านน่ารัก ๆ ตลอดทาง ถ้าเดินถึงสุดซอย จะเจอ อืมมม ไม่รู้อีกละว่าคืออะไร เฮ้อ...เรานี่แย่จริง จะเห็นว่าบางรูปมืด ๆ นะคะ แบบว่าอย่างที่บอก ฟ้าสลัวเหลือเกิน ว่าไปนั่น ไม่ใช่เราถ่ายไม่ดี เหอเหอ เดินไปอีกหน่อยจะเจอลานจ้า บอกตามตรง ไปครั้งนี้ไม่ค่อยมีอารมณ์หามุมถ่ายรูปเล้ยยย เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าอากาศร้อนเหลือเกิ๊นนนนนน หงุดหงิดใจจริงจริงเลยแฮะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ เอ้า ๆ มาต่อกันอีก เอ.... รูปเยอะไปหรือป่าวเนี่ย อย่าเพิ่งเบื่อน้า กะเล่าวันต่อวันน่ะ ให้จบไปเลย จะได้ไม่งง ตอนนี้เราเดินมาถึงประมาณเย็น ๆ สมควรแก่เวลากลับไปเช็คอินที่โรงแรมละ ที่นี่เราก็เช็คอินเองนะคะ พอดีไปเช็คที่ห้องพักฝั่ง North wing ไม่ต้องเช็คที่ lobby ก็ได้ค่ะ ไปถึงเค้าก็เช็คอิน แล้วก็ถามเราว่า "เนื่องจากคุณจ่ายค่าห้องมาหมดแล้ว (3 ห้อง) คุณคิดว่าคุณจะใช้โทรศัพท์ในห้อง หรือทาน snack ในห้องไหม" เราตอบว่า "ไม่ค่ะ" เค้าเลยบอกว่า "งั้นไม่ต้องมัดจำ (รูดบัตร) " แล้วก็ปล่อยเราเข้าห้องเองเลย โหหหห เยี่ยมจริง ๆ ไว้ใจกันมากแฮะ ส่วนกระเป๋า เค้าก็เอาไปวางไว้ในห้องแล้วตอนเราเดินขึ้นไปถึงห้อง เร็วดีเนอะ เอ้า มาดูภายในห้องกันดีกว่า แบบเต็มสตรีม เป็นเตียง 4 ฟุตสองเตียง ห้องนึงนอน 4 คนนะคะ มุมโซฟาแสนสบาย โซนโซฟา ก็มีทีวี กะ ตู้เย็น น้ำให้วันละ 2 ขวดเอง อีกมุมกลับกัน หน้าเตียงก็มี LCD อีกเครื่องนะ ห้องน้ำหรู ๆ ประตูในรูปเป็นประตูห้องส้วมค่า เอาล่ะ ถึงมื้อเย็นซักกะที หิวอ่ะยังจ๊ะ วันนี้เรากินที่เวเนเชี่ยนนี่แหละ ขี้เกียจออกไปละ หม่าม้าเดินไม่ไหวแล้ว ฮ่า ๆ นี่รูป food hall ของเค้า ใหญ่เหมือนกันแฮะ อาหารมื้อนี้ ข้าวหน้าเนื้อตุ๋น จานใหญ่มาก แต่ก็ต้องใหญ่แหละ แพงออก แต่รสชาติดี ชอบ แต่ขาดน้ำจิ้มขาหมู ไม่งั้นเด็ดกว่านี้ ฮ่า ๆ จานต่อไป คากิ เด้อ สปาเก็ตตี้ รสชาติกลมกล่อมดี หลานกินจนเลียจานซะแห้งเลย ซุปเห็ดในขนมปัง และตบท้ายด้วย พุดดิ้งไข่แดง กลิ่นแรงไปนิ๊ดดซซซ เมื่อกินอิ่มละ ก็เดินกลับห้อง ระหว่างทางเดิน เก็บภาพอีกหน่อย ตอนนี้ท้องฟ้าด้านบนจะเริ่มมืด ๆ หน่อยละ เข้ากับบรรยากาศยามดึกข้างนอก เหมือนเดินอยู่ท่ามกลางเมืองนอกเลยเนอะ เรือกอนโดล่าจ้า แล้วเราก็เดินไปถึงโซนตรงกลาง ที่สามารถมองลงไปเห็นคนเค้ากำลังเล่นกันอยู่ในคาสิโน (คาสิโนอยู่ชั้นหนึ่งค่ะ แต่ร้านค้าต่าง ๆ และ food court อยู่ชั้นสาม) โซนนี้สวยจริง ๆ รูปเพดานค่ะ ดูความอลังการ บันไดเลื่อนแบบโค้ง เอาล่ะหมดซักกะที เบื่อกันหรือยังคะ รูปวันแรกเยอะมากกกกก ลากันด้วยรูปนี้นะคะ อิ่มหนำกันถ้วนหน้า พบกันใหม่ตอน 2 ไปฮ่องกงวันแรกค่ะ บายค่า
Free TextEditor
Create Date : 22 เมษายน 2552 |
Last Update : 22 เมษายน 2552 2:27:53 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2004 Pageviews. |
|
|
ไปกันหลายๆ คน สนุกดีนะคะ