ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
26 กันยายน 2555
 
All Blogs
 

พะนอขวัญ บทที่ ๑๐

ขออภัยที่มาช้า(มากกกกกกกกกกกกกก) ค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


พะนอขวัญ บทที่ ๑๐



เขตชลมองตามรถของพี่ชายที่แล่นออกไปจากหน้าร้านอาหาร นัยน์ตาคมเป็นประกายระยับอย่างถูกใจ ไม่รู้ว่าน่านฟ้าแอบเรียกเลขานุการให้ขับรถมารับตั้งแต่ตอนไหน และยังมี ‘ข้ออ้าง’ ว่าต้องไปทำงานข้างนอก ก็เลยจะแวะไปส่งพะนอขวัญที่บริษัทด้วย

ลวดลายเยอะเหมือนกันนะพี่ชายของเขา

แล้วเขาก็เดินกลับตึกอังสนา ถ้าไม่ติดว่ามีเอกสารที่ต้องกลับมาจัดการอีกกองใหญ่ละก็ เขาอาจจะมี ‘ข้ออ้าง’ บ้างเหมือนกัน ตอนนั้นไม่รู้ว่าพี่ชายหรือเขาจะเร็วกว่ากัน

มันก็สนุกดีนะ

เฮ้อ...แต่กองเอกสารที่รออยู่ไม่น่าสนุกเลย เขาชอบทำงานที่ไซต์ก่อสร้างมากกว่า นึกๆ ก็เห็นใจพี่ชายอยู่ที่วันๆ ต้องอยู่กับเอกสารมากมาย เพราะงานหลายส่วนบิดามารดาเริ่มโอนมาที่พี่ชายแล้ว เขาไม่รู้ว่าน่านฟ้าชอบหรือไม่ชอบงานที่ทำอยู่ เพราะเจ้าตัวไม่เคยพูดหรือบ่นอะไร แต่ผลงานที่ออกมานั้นไม่มีใครตำหนิได้

น่านฟ้าเป็นลูกชายคนโตที่น่าภาคภูมิใจของบ้าน เขาเองก็ชื่นชมพี่ชายคนนี้เสมอ น่านฟ้าทำทุกอย่างเดินตามเส้นทางที่บิดามารดาวางไว้ และทำทุกอย่างสำเร็จอย่างงดงาม

เขายังจำได้ว่าตัวเองทั้งดื้อแพ่งจนไปถึงอาละวาดไม่ยอมไปเรียนโรงเรียนประจำที่อังกฤษตามอย่างพี่ชาย จนบิดามารดายอมให้เขาได้เรียนที่เมืองไทย และเขาก็ยังปิดไม่ให้ใครรู้ว่าเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ต่างจังหวัด จนวันประกาศผลสอบ

แดนดินเองก็ไม่ต่างกัน แต่พ่อกับแม่คงเริ่มปลงตกกับเขาแล้วจึงค่อยๆ ทำใจกับศิลปินประจำบ้านได้

ในขณะที่เขากับแดนดินทำตามใจตัวเองโดยที่พ่อกับแม่ขวางหรือไม่ก็ขวางไม่ไหว แล้วพี่ชายของพวกเขาล่ะ เคยได้ทำตามใจตัวเองบ้างหรือเปล่า

ทุกวันนี้น่านฟ้ามีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ไหม



เมื่อก้าวเข้าในล็อบบี้ของตึก เขตชลก็ลอบถนหายใจเพราะรู้ตัวว่าตกอยู่ในสายตาของพนักงาน เขาไม่ค่อยชอบความรู้สึกแบบนี้เท่าไรจึงก้าวเร็วๆ ไปยังลิฟต์จึงไม่ทันสังเกตว่ามีคนรีบเช่นเดียวกัน

ด้วยความรีบร้อนเขาไม่ทันระวังจึงชนเข้ากับหญิงสาวซึ่งเดินอย่างเร่งรีบพร้อมกับถือแฟ้มเอกสารมาที่ลิฟต์เช่นกัน หากเขาคว้าร่างของหญิงสาวไว้ได้ก่อนที่เธอจะล้ม มีเพียงแฟ้มเอกสารที่ร่วงลงสู่พื้น

“ขอโทษครับ เป็นอะไรหรือเปล่า”

“ไม่เป็นไรค่ะคุณเขตชล”

เขตชลเลิกคิ้ว ก่อนจะปล่อยร่างหญิงสาวเมื่อเห็นว่าเธอสามารถยืนได้แล้ว

“คุณ... อ้อ...เพื่อนของคุณแพง”

“ณัฐนนทยาค่ะ เรียกนีน่าก็ได้ค่ะ”

เขตชลพยักหน้า ก่อนจะมองแฟ้มเอกสารที่หล่นลง เขารีบก้มลงเก็บแล้วส่งให้กับหญิงสาว

“ขอบคุณค่ะ คุณเขตชล” ณัฐนนทยาเอ่ยเสียงหวานร่วมกับรอยยิ้มน้อยๆ หางตามองเห็นสายตาหลายคู่มองมาด้วยความสนใจ บางคู่ปนไปด้วยความอิจฉา

ใครก็อยากมีโอกาสคุยกับคุณเขตชลทั้งนั้นล่ะ แม้จะไม่ใช่ลูกชายคนโตอย่างคุณน่านฟ้า แต่เขาก็เป็นผู้ชายที่น่าสนใจมากอีกคนหนึ่ง

“เป็นเพราะผมเอง ไม่เป็นไรนะครับ”

“นีน่าไม่เป็นไรค่ะ”

ก่อนที่ณัฐนนทยาจะต่อบทสนทนา ก็ได้ยินเสียงหวานเนิบชาจากสตรีสูงวัยดังขึ้นมา ทำให้ทั้งสองหันไป

“มีอะไรกันหรือ”

เขตชลค้อมศีรษะให้กับผู้เป็นมารดา และมองเลยไปเห็นหญิงสาวอีกคน ริมฝีปากเหยียดออกนิดๆ เมื่อสบตากับดาริกา โดยที่อีกฝ่ายเชิดหน้าขึ้น

“คุณแม่... คือผมเดินชนคุณนีน่าจนเกือบจะล้มน่ะครับ” เขาตอบผู้เป็นมารดา และทำเฉยกับสายตากรุ่นโกรธของดาริกา

“หืม...เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” คุณวรัญญาหันไปมองหญิงสาวซึ่งห้อยบัตรพนักงานไว้ ณัฐนนทยาพนมมือไหว้อย่างอ่อนช้อย ทำให้คุณวรัญญามองอย่างพอใจ

“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะท่านรอง”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วจ้ะ” คุณวรัญญาพยักหน้า ก่อนจะหันกลับมาทางบุตรชาย “กลับมาแล้ว พี่ชายเราล่ะไปทานข้าวด้วยกันสินะ”

เขตชลยิ้ม ใครรายงานเรื่องนี้กับมารดาเขานี่

“ไปธุระต่อข้างนอกครับ”

“อย่างนั้นเหรอ เอาเถอะ...แล้วค่อยคุยกันก็ได้” เธอเหลือบมายังดาริกาซึ่งตอนนี้เธอให้มาช่วยดูแลด้านงานสังคม เพื่อเป็นการปลอบใจที่ต้องดึงออกมาจากตำแหน่งเลขานุการของบุตรชาย และอีกอย่างก็เพื่อที่จะพิจารณาหญิงสาวให้มากขึ้น

“ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เจอเธออีก” เขตชลกระซิบใส่ดาริกาเมื่อมารดาเริ่มออกเดิน

“แหม...นายคงได้เจอฉันอีกนาน ต่อไปเราอาจจะอยู่บ้านเดียวกัน” ดาริกายิ้มหวาน เชิดคางสูง สบตาคนที่ไม่ชอบหน้าเอามากๆ

มารดาเคยบอกว่าให้ทำดีกับเขตชลไว้ แต่เธอบังคับตัวเองขนาดนั้นไม่ไหวหรอก เธอไม่ชอบเขาเช่นเดียวกับที่เขาไม่ชอบเธอนั่นแหละ ก็ยังดีที่เธอไม่ได้เจอเขตชลบ่อยนัก

หากกำลังจะก้าวตามคุณวรัญญา ดาริการู้สึกว่ามีสายตาพุ่งตรงมายังเธอ สายตาแบบนั้นดาริการู้จักดี หญิงสาวเหลือบมองพนักงานหญิงที่ทำท่าฉอเลาะเขตชลเมื่อครู่แล้วเหยียดยิ้ม แตะมือที่กระเป๋าถือใบใหม่ช้าๆ ก่อนจะเชิดหน้าเดินตามคุณวรัญญาไปที่ลิฟต์

ณัฐมนทยาเบ้ปาก

ยายสาวไฮโซที่โดนดีดกระเด็นออกจากคุณน่านฟ้า ทุกคนในอังสนารู้จักดี ความสามารถไม่มี มาทำงานก็แค่อยากจับผู้ชาย ถ้าบ้านไม่รวยก็คงไม่มีอะไรสักอย่าง

ผู้หญิงแบบนั้น...ไม่อยู่ในสายตาเธอหรอก

หากณัฐมนทยาก็ยังอดมองกระเป๋าใบสวยนั่นไม่ได้ เธอจำได้ว่าอยู่ในคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์นี้ ยังไม่มีจำหน่ายในเมืองไทยด้วยซ้ำ

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มเย้ยเธอ...





พะนอขวัญยืดตัวตรงเมื่อรถคันหรูจอดเทียบหน้าตึกบริษัทของเธอ จากร้านอาหารมาถึงที่นี่ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมง เธอเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เห็นเขามองอยู่ก่อนแล้ว นัยน์ตาคมเจือแววยิ้มทำให้เธออดยิ้มตอบไม่ได้ แม้ตลอดทางจะไม่ได้พูดคุยกัน แต่เธอกลับไม่รู้สึกอึดอัดเลย

แต่ที่แย่ก็คือต้องพยายามฝืนไม่ให้หลับตาลง อาหารเต็มโต๊ะหมดลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นฝีมือของเขตชลกับน่านฟ้าก็ตาม แล้วแอร์เย็นๆ กับเบาะนุ่มๆ ก็ชวนให้ง่วงเสียเหลือเกิน

“ขอบคุณค่ะ แพงขอตัวก่อนนะคะ” พะนอขวัญเอ่ยพร้อมกับพนมมือไหว้

“ไม่เป็นไรครับ” น่านฟ้าค้อมศีรษะรับ พลางยิ้มน้อยๆ

พะนอขวัญหันไปทางคนขับรถซึ่งเป็นชายหนุ่มวัยไม่ต่างจากน่านฟ้านัก เธอยิ้มให้เขาเพราะเห็นว่าเขามองมาจากกระจกมองหลัง

“ขอบคุณนะคะ”

เลขานุการหนุ่มหันมายังที่นั่งด้านหลัง ค้อมศีรษะให้หญิงสาว

พะนอขวัญเปิดประตูออกไป ก่อนจะหันกลับมาขอบคุณเจ้าของรถอีกครั้ง แล้วปิดประตูลง ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าตัวตึก เมื่อหันหลังให้กับรถคันหรู พะนอขวัญยกมือขวากดลงที่เหนืออกด้านซ้าย

ทำไม...หัวใจเต้นแรงขนาดนี้



น่านฟ้ามองตามร่างโปร่งที่ลงจากรถเข้าไปในบริษัทแล้วจึงหันกลับมา ก็พบว่ามีสายตาของเลขานุการมองตามจากกระจกมองหลัง มีรอยยิ้มจางๆ อยู่บนใบหน้าของไตร

“หึ...ออกรถได้แล้วไตร”

ไตรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะทำตามคำสั่ง น่านฟ้าทำให้เขาแปลกใจตั้งแต่ส่งข้อความมาในโทรศัพท์ให้เขาขับรถไปรับที่ร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้ๆ กับบริษัท ที่หน้าร้านอาหารนอกจากเจ้านายกับคุณเขตชลแล้วยังมีหญิงสาวอีกหนึ่งคน

และเขาได้แปลกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อ น่านฟ้าเปิดประตูหลังให้หญิงสาวขึ้นและตามมานั่งด้วย แต่เมื่อบอกจุดหมายให้เขาทราบแล้วทั้งเจ้านายและหญิงสาวก็นั่งเงียบด้วยกันทั้งคู่

ทว่าเป็นความเงียบที่ไม่ได้ชวนอึดอัดเลยสักนิด...กลับมีบรรยากาศอะไรบางอย่างที่เขารู้สึกได้

เขาทำงานกับน่านฟ้ามาหลายปี จนพอจะรู้ใจเจ้านายหนุ่มระดับหนึ่ง แม้จะเนื้อหอมมีผู้หญิงรายล้อมมากมาย แต่น่านฟ้าก็ไม่เคยให้ความสนใจใครเป็นพิเศษ แม้บางคนจะพาตัวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยวิธีการต่างๆ แต่ที่น่านฟ้าแสดงออกก็คือว่าสุภาพและห่างเหิน

หากเมื่อครู่...เขาคงไม่ตาฝาดที่เห็นใบหน้าคมซึ่งมักจะทำหน้านิ่งเฉยพร้อมรอยยิ้มบนฝีปากแต่น้อยครั้งที่จะไปถึงดวงตา กลับอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา

“ไตร...คุณรู้ไหมว่าคำแพงหมายความว่าอะไร”

ไตรเลิกคิ้วสูง แปลกใจในคำถามของเจ้านาย

“คำแพง...ภาษาอีสานน่ะเหรอครับ” เขาถามกลับ เพราะคุ้นเคยกับคำนี้ในภาษาอีสานมากกว่า เพราะเป็นภาษาที่เขาใช้มาตั้งแต่เด็ก

น่านฟ้าขมวดคิ้ว

“ไม่รู้สิ...เป็นชื่อคนน่ะ” เขาค่อนข้างแน่ใจว่าคำนี้มีความหมายอะไรซ่อนอยู่แน่ จากคำพูดของเขตชลเวลาเรียกพะนอขวัญว่า ‘คำแพง’

“ก็น่าจะใช่ละครับ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนชื่อคำแพงแล้วนะครับ” ไตรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะสะดุดใจ ผู้หญิงคนเมื่อกี้แทนตัวเองว่า ‘แพง’ สินะ

เขาเหลือบมองเจ้านายหนุ่มจากกระจกมองหลังแล้วเกือบสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายจ้องมา ท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไรที่เขาเอาแต่หัวเราะ จึงรีบอธิบาย

“ถ้าแปลแบบตรงตัว คำ แปลว่า ทอง ส่วน แพง...แปลว่าหวง รวมกันก็คือหวงเหมือนทอง คือรักมากหวงมากครับ เวลาเรียกใครว่า ‘คำแพง’ ก็ประมาณว่าเขาเป็นสุดที่รักสุดทะนุถนอม รักแบบแก้วตาดวงใจ สมัยก่อนพ่อแม่ก็มักจะให้ลูกสาวชื่อคำแพงล่ะครับ เป็นคำที่ความหมายดีมากๆ เลย”

“อืม...ขอบใจนะ” น่านฟ้าพยักหน้า

“บ่เป็นหยังครับเจ้านาย” ไตรยิ้มกว้าง นานๆ ทีเขาก็ใช้ภาษาบ้านเกิดกับเจ้านายบ้าง ส่วนใหญ่น่านฟ้าก็หัวเราะ หรือไม่ก็ขมวดคิ้วเพราะฟังไม่ออกบ้าง

น่านฟ้าเหลือบมองเบาะหนังข้างๆ ซึ่งว่างลง

‘แล้วถ้าผมจะฝากตัวฝากใจ...คำแพงจะว่ายังไง’

‘คำแพง’ ที่ลากเสียงนิดๆ ชวนให้คิดว่าไม่ใช่แค่เรียกชื่อเฉยๆ

แต่เขาไม่รู้ว่าเขตชลนั้นจริงจังกับสิ่งที่แสดงออกแค่ไหน เพราะท่าทีที่ดูเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ของเขตชลนั้นไม่ใช่ความจริงไปเสียทั้งหมด

‘ไม่รับฝากหรอกค่ะ แพงไม่ใช่ธนาคารสักหน่อย เดี๋ยวมาทวงดอกเบี้ยแพงอีก’ เป็นคำตอบที่ทำให้เจ้าน้องชายหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง นั่นทำให้ตลอดมื้อเที่ยงจึงเต็มไปด้วยบทสนทนาของทั้งคู่ เขาทำเพียงฟังและนานๆ จะออกความเห็นสักครั้ง

หากที่สำคัญก็คือ เขาไม่เคยเห็นเขตชลถูกอกถูกใจใครขนาดนี้มาก่อน

น่านฟ้าเหยียดริมฝีปาก

บางที...โชคชะตาก็เล่นตลกเกินไป





พะนอขวัญเดินออกจากสตูดิโอ แสงจากหลอดไฟเข้ามาแทนที่แสงอาทิตย์แล้ว แหงนหน้ามองท้องฟ้าหากแทบไม่เห็นดวงดาว คงเพราะแสงจากพื้นดินมีมากเกินกว่าจะมองเห็นแสงดาวจากที่อันไกลพ้น ไม่เหมือนที่บ้านเกิด แหงนหน้ามองฟ้าก็เห็นดาวระยับ ยิ่งในหน้าหนาวมองเห็นชัดเหมือนกับดวงดาวอยู่ใกล้แค่เอื้อม

หลังจากกลับมาถึงบริษัท เธอเข้าไปรายงานผลการประชุมกับทางอังสนากรุ๊ปให้กับสิทธา พร้อมทั้งขอคำปรึกษา เพราะเธอยังไม่เคยทำงานในลักษณะนี้มาก่อน การทำงานร่วมกับหลายฝ่ายทำให้เธอค่อนข้างกังวลอยู่บ้าง แต่ความตั้งใจนั้นเต็มเปี่ยม

จากนั้นจึงมาคลุกอยู่ที่สตูดิโอจนถึงค่ำ

กลิ่นดอกโมกตามแนวกำแพงลอยมาแตะจมูก ชวนให้นึกถึงมารดาซึ่งชอบต้นโมกมาก พะนอขวัญหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและต่อสายไปหามารดาทันที ยังหัวค่ำอยู่ ท่านคงยังไม่เข้านอน

ระหว่างรอสาย เธอเดินไปนั่งที่เก้าอี้ใต้ซุ้มเฟื่องฟ้า บริเวณว่างระหว่างตัวตึกสำนักงานกับสตูดิโอนั้นจัดเป็นสวนเล็กๆ มีซุ้มให้พนักงานได้พักผ่อน หรือบางทีพวกเธอก็เปลี่ยนเป็นห้องทำงาน เพราะธรรมชาติสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างมาก

“แม่สบายดีบ่จ้า กินข้าวหรือยัง” พะนอขวัญเอ่ยเมื่อได้ยินเสียงมารดา น้ำเสียงที่ตอบกลับมาของมารดานั้นฟังสดใสทำให้เธอรู้สึกสบายใจ เธอยิ้มน้อยๆ คิดถึงเวลาที่ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า

พะนอขวัญฟังเสียงมารดาซึ่งเล่าถึงเรื่องรอบตัวอย่างสุขใจ

“แม่...มื่อนี่แพงพ้อนวลนำ” พะนอขวัญเอ่ยถึงเรื่องที่พบกับจันทร์นวลให้มารดาฟัง แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่จันทร์นวลเปลี่ยนชื่น มารดาก็บอกว่าเพิ่งพบกับพ่อแม่ของจันทร์นวลเช่นกัน ท่าทางดูเหงาๆ กันมาก เห็นว่าลูกสาวไม่ค่อยกลับบ้าน

พะนอขวัญจึงบอกว่าถ้าพบกับจันทร์นวลอีกจะชวนกลับบ้านด้วยกัน ก่อนจะพูดคุยอีกพักแล้วปิดท้ายด้วยการบอกมารดาว่าวันหยุดยาวที่จะถึงนี้จะกลับบ้าน

“เป็นหยังน้อนวล” พะนอขวัญพึมพำอย่างสงสัย งานยุ่งจนไม่ได้กลับบ้านเลยอย่างนั้นเหรอ จันทร์นวลเป็นลูกสาวคนเดียวเสียด้วย พ่อกับแม่คงเหงาน่าดู

เธอกับพี่ชายที่ผลัดกันกลับบ้านบ่อยๆ ยังรู้สึกว่าพ่อกับแม่ก็ยังเหงาๆ อยู่เลย

วางสายจากมารดาไม่ถึงนาที ก็มีสายเรียกเข้ามา พะนอขวัญมองหน้าจอขึ้นเป็นรูปแดนดินชูสองนิ้วที่เจ้าตัวจัดการถ่ายเอง และตั้งไว้ในโทรศัพท์ของเธอเอง เพราะปกติเธอบันทึกแค่ชื่อกับหมายเลข

ครบสามพี่น้องแล้วสิวันนี้

“พี่นาง...” เสียงหลานรหัสดังมา พร้อมกับเสียงเอะอะโวยวายที่เธอคุ้นเคยดี แดนดินคงจะยังอยู่ที่คณะ คงทำโปรเจคอะไรสักอย่างค้างกันอยู่

“สงสัยโทรผิดนะคะ...” พะนอขวัญทำเสียงแข็ง

“โอ๋ๆ เจ๊อย่าเพ่งวางน้า...ขอฟังเสียงให้ชื่นฉ่ำใจสักนิด”

พะนอขวัญหลุดหัวเราะออกมา เพราะเสียงออดอ้อนของรุ่นน้อง

“ไปกินหมูกระทะกันนะเจ๊”

“ไม่...วันนี้เจ๊เหนื่อย”

“ใครบอกว่าจะชวนเจ๊กินวันนี้...ฮ่าๆ” ไม่ใช่เฉพาะเสียงแดนดิน แต่น่าจะมีหลานสามคนนั่นอยู่ด้วย ถ้าอยู่ใกล้ๆ คงได้ซัดสักเพี๊ยะ

“วันนี้พวกเราก็ไปไม่เหมือนกัน ยังช่วยไอ้เจ้าว่านทำงานอยู่ หลานเจ๊มันบ้า แก้งานมาสิบกว่ารอบแล้วยังไม่พอใจสักที”

พะนอขวัญยิ้มกว้าง เสียงสนับสนุนคำพูดของแดนดินดังเซ็งแซ่ ท่าทางวันนี้คงจะได้นอนกันที่คณะแน่นอน

“วันศุกร์นะพี่นาง ห้ามปฏิเสธ ห้ามเบี้ยว แล้วเจอกันครับ” แดนดินพูดรัวเร็วก่อนจะวางสายไป โดยพะนอขวัญยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ

หญิงสาวส่ายหน้า...แต่ก็ยังคงยิ้ม



แดนดินมองโทรศัพท์ที่เขารีบวางสาย แบบจงใจกวนอีกฝ่าย โดยมีน้องๆ หัวเราะกัน เพราะเดาว่ารุ่นพี่สาวจะต้องสวดเขายับแน่นอน

“เฮ้ย...อารมณ์ดีขนาดนั้นก็มาช่วยทำงานได้แล้ว” วาษิตตะโกนมาจากมุมหนึ่งขณะกำลังง่วนกับชิ้นงาน ไม่เพียงกลุ่มพวกเขาเท่านั้นยังมีรุ่นเดียวกับวาษิตที่ยังอยู่ในห้องสตูดิโอของคณะ แม้จะค่ำมืดแล้วคนก็ยังขวักไขว่ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องมีมาช่วยงานบ้าง มาก่อกวนกันบ้าง

“ไปๆ เดี๋ยวไอ้ว่านมันจะพ่นพิษใส่พวกเรา” แดนดินพยักพเยิดไปทางหลานรหัส แมทธิวเดินนำไปก่อนพร้อมกับขนมถุงใหญ่ในมือที่ยังกินไม่เสร็จ

“อะไร...” แดนดินเลิกคิ้ว ถามคมคิดที่จ้องเขาด้วยแววตานิ่งกว่าปกติ

“ดีแล้วเหรอเฮีย”

“อะไรวะ...ถามให้รู้เรื่องหน่อยสมคิด” แดนดินแกล้งเรียกชื่อเพี้ยน แต่ดูเหมือนคมคิดจะยังนิ่งเหมือนเดิม

“เจ๊แพง...” คมคิดเอ่ยแค่นั้น เขารู้ว่าแดนดินเข้าใจ

แดนดินมองโทรศัพท์ ก่อนจะถอนหายใจ

“ดีสิ...ดีแล้ว” เขาพยักหน้า ก่อนจะตบไหล่น้องรหัสเบาๆ “ไปช่วยไอ้ว่านพิษมันดีกว่า เผื่อจะได้นอนก่อนพระอาทิตย์ขึ้น”

คมคิดมองตามพี่รหัสที่เดินนำแล้วถอนหายใจออกมา





น่านฟ้าจิบกาแฟพลางอ่านหนังสือพิมพ์รอบิดามารดาที่โต๊ะอาหาร ครอบครัวเขาจะแปลกไปสักนิดที่เวลาอาหารเช้าเป็นช่วงที่ได้อยู่พร้อมหน้ากันมากที่สุด เพราะตอนเย็นต่างมีธุระมีงานเลี้ยง เวลาว่างไม่ค่อยตรงกันนัก

แต่วันนี้เขตชลออกไปแต่เช้าตรูเพื่อไปดูปัญหาด่วนที่ไซต์ที่หัวหน้าคนงานโทรศัพท์มาแจ้ง ส่วนแดนดินนั้นค้างที่มหาวิทยาลัย จึงมีเพียงเขาที่มารับประทานอาหารกับบิดามารดา

“ตาใหญ่...แล้วน้องๆ ล่ะจ๊ะ” คุณวรัญญาเอ่ยเมื่อเห็นบุตรชายคนโตนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารคนเดียว และมีน้ำหวานยืนรออยู่ที่เคาน์เตอร์

น่านฟ้าวางหนังสือพิมพ์ลง

“กลางออไปไซต์งานแต่เช้าแล้ว ส่วนนายเล็กค้างที่มหาลัยครับ”

“จ้ะ” คุณวรัญญาพยักหน้า แล้วหันไปทางน้ำหวานเป็นสัญญาณให้เริ่มจัดอาหารขึ้นโต๊ะได้ เธอกับสามีเข้านั่งที่ประจำ สองพ่อลูกก็เริ่มคุยกันเรื่องโครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว น่านฟ้าทำให้ภาระงานของสามีกับเธอลดลงมาก

เรื่องงาน...น่านฟ้าไม่เคยทำให้หนักใจหรือเป็นกังวล

แต่เรื่องคู่ครองนี่สิ...เธอเองก็อยากจะเห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝา อยากอุ้มหลานตัวเล็กๆ เช่นเพื่อนวัยเดียวกันบ้าง

บ้านคงจะสดใสกว่านี้ถ้ามีเด็กตัวเล็กๆ

“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณแม่” น่านฟ้าเอ่ยถามมารดาเพราะเห็นท่านมองมาบ่อยๆ และมีทีท่าอยากพูดอะไรสักย่าง

คุณวรัญญาถอนหายใจช้าๆ ก่อนจะเอ่ยถามเรื่องที่กวนใจเธออยู่

“วันก่อนใหญ่พาใครมาทานข้าวที่บ้านหรือจ๊ะ”

น่านฟ้าเลิกคิ้ว ก่อนจะยกมุมปากขึ้นนิดๆ ทำให้คุณวรัญญานิ่วหน้า เพราะเป็นสัญญาณว่าน่านฟ้าตัวร้ายกำลังจะออกมาก่อกวน

“นายเล็กต่างหากละครับที่พาผู้หญิงเข้าบ้าน...ไม่ใช่ผมสักหน่อย” เขาไม่ได้เป็นคนพาพะนอขวัญมาบ้านเสียหน่อย

“หมายความว่ายังไง....ตาเล็ก เอ๊ะ...ก็คุณมณบอกแม่ว่า...” คุณวรัญญาชะงักเมื่อรู้ว่าเผลอตัว น่านฟ้ายิ้มมากขึ้น

“คุณน้ามณกับคุณดาบอกกับแม่ว่ายังไงล่ะครับ”

คุณวรัญญาอดค้อนไม่ได้ แล้วจึงเอ่ยถึงคำพูดของมณฑิราที่บอกเธอว่ามาพบเธอที่บ้านแต่เธอไม่อยู่ หากได้แต่ประหลาดใจเมื่อเห็นว่าน่านฟ้าเดินลงมาชั้นบนกับผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง

ความจริงวันที่เธอกลับมาจากภูเก็ต นางนภาเองก็เล่าให้ฟังว่าแดนดินจัดปาร์ตี้เลี้ยงรุ่นน้องที่มาช่วยงาน และมีผู้หญิงด้วย วันนั้นแดนดินให้น้ำหวานจัดห้องให้ค้างที่บ้านใหญ่

เธอสะกิดใจเล็กน้อย...แต่ไม่ทันได้ใส่ใจรายละเอียด

หากคำพูดของมณฑิราบอกว่า น่านฟ้าแนะนำผู้หญิงคนนั้นว่า ‘น้องแพง’

หรือว่าจะเป็น...

“น้องแพง...คนนั้นล่ะครับ” น่านฟ้าตอบความสงสัยของมารดา

เขาเองก็สงสัยอยู่ว่าวันไหนคุณแม่จะเอ่ยถึงเรื่องนี้ เพราะเขารู้ว่าสองแม่ลูกจะต้องบอกเรื่องที่เจอพะนอขวัญแน่ แต่บอกทำนองไหนเขาก็ไม่อยากเดาเหมือนกัน

คุณเขตต์มองสองแม่ลูกคุยกันอยากแปลกใจนิดๆ สีหน้าภรรยาดูเคร่งขึ้น ส่วนน่านดูผ่อนคลายติดจะร่าเริงเหมือนกำลังสนุกเสียด้วยซ้ำ

“ตกลง...ยังไงกัน แม่เริ่มงงแล้วนะ เรากับ...หนูแพงคนนั้น”

“วันนั้นเล็กเลี้ยงสายรหัสที่บ้าน หนูแพงคนนั้นเขาก็มา ปาร์ตี้อยู่กันจนดึกเล็กเขาก็เลยขอให้แพงค้าง รู้สึกจะเป็นห้องเก่าเขานั่นแหละ สงสัยกลัวคดีซ้ำซ้อน” น่านฟ้ายิ้มละไมให้กับแววตาจับผิดของมารดา “ที่คุณน้าเธอเห็นก็แค่ ผมบังเอิญเดินลงมาจากชั้นบนพร้อมกับน้องแพง แล้วก็มาทานข้าวเช้าด้วยกันเท่านั้นล่ะครับ” น่านฟ้ายิ้มละไม เหตุการณ์เป็นอย่างนั้น เขาไม่ได้โกหกมารดาเลยสักนิด

น่านฟ้ายกกาแฟดื่มหมดถ้วยแล้ววางลง

“ผมไม่รู้ว่าคุณน้ามณเธอมองแพงแบบไหน แต่เธอไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากมาปาร์ตี้ขอบคุณของนายเล็ก แถมยังต้องมาเหนื่อยทำอาหารเลี้ยงเด็กพวกนั้นด้วย ผมรู้ว่าคุณแม่เชื่อสายตาตัวเองมากกว่าคำพูดคนอื่น”

คุณวรัญญาถอนหายใจ...มองใบหน้ายิ้มๆ ของบุตรชายคนโต

แต่มีบางอย่างจากคำพูดของน่านฟ้าที่ทำให้เธอยิ้มออกมา

“หมายความว่า...ใหญ่จะให้แม่ ‘ดู’ หนูแพงอย่างนั้นเหรอจ๊ะ”

น่านฟ้าหัวเราะ

“อืม คุณแม่อาจจะต้องดูเยอะหน่อยนะครับ เพราะนายกลางชอบหนูแพงคนนั้นของแม่มาก ส่วนนายเล็กนั่นยิ่งแล้วใหญ่สนิทกันมาก”

คุณวรัญญาเลิกคิ้ว น่านฟ้าไม่ปฏิเสธ แต่กลับยกน้องชายทั้งสองขึ้นมาอ้าง หากเธอรู้ว่าน่านฟ้าไม่ได้พูดโกหา

เธอยังจำแววตาเหมือนเด็กดื้อแต่ซื่อตรงนั้นได้

ว่าแต่ลูกชายของเธอ ‘ชอบ’ มากขนาดไหนล่ะ โดยเฉพาะตัวน่านฟ้าเอง

“ถ้าอย่างนั้นแม่ก็จะดูเยอะๆ อย่างที่ใหญ่ว่าก็แล้วกัน”

เธอหวังว่า ‘หนูแพง’ คงจะไม่ทำให้เกิดปัญหาระหว่างบุตรชายทั้งสามของเธอนะ



น้ำหวานลอบถอนหายใจ สายตาจับไปเหยือกน้ำตรงหน้า เธอไม่ได้เล่าเหตุการณ์ในเช้าวันนั้นให้ใครฟัง ทำเพียงแค่บอกผู้เป็นป้าเท่านั้นว่าจัดห้องให้คุณแพงพักพร้อมกับดูแลตามคำสั่งของคุณแดนดิน

ตอนที่เธอกำลังจัดอาหารเช้าอยู่นั้น คุณน่านฟ้าก็เข้ามาพร้อมกับให้เธอจัดการบางอย่าง ก่อนจะขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่ห้องนอนเดิมทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำมานาน เพราะคุณๆ ทั้งสามย้ายไปอยู่ที่เรือนเล็กก็ไม่ค่อยมาใช้ห้องนอนเดิมอีก

ส่วนคำพูดของน่านฟ้าคือให้จัดโต๊ะอาหารสองที่ที่ห้องอาหารเล็กซึ่งใช้ในเฉพาะสมาชิกในบ้าน หากมีแขกมักจะใช้ห้องใหญ่ซึ่งอยู่ติดกัน ความจริงเธอจัดอาหารเผื่อคุณๆ ทุกคนอยู่แล้ว วันนั้นทั้งคุณเขตชลและคุณแดนดินยังไม่ตื่นด้วยกันทั้งคู่ จึงมีเพียงคุณน่านฟ้ากับคุณแพงแค่นั้น

แต่เมื่อสองแม่ลูกมาขอร่วมโต๊ะด้วย เธอก็ได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนมาจัดที่ห้องใหญ่ และยังทำให้สองแม่ลูกนั้นมองแทบตาถลนเมื่อคุณน่านฟ้าเลื่อนเก้าอี้ทางด้านขาวมือให้คุณแพงนั่ง

น้ำเสียงนุ่มๆ เวลาเรียก ‘น้องแพง’ นั้นถ้าเธอเป็นคุณแพงคงเคลิ้มเลยทีเดียว

แต่...คุณน่านฟ้าบอกว่าคุณกลางกับคุณเล็กก็ชอบคุณแพงเหมือนกัน...

ท่าทางจะยุ่งเสียแล้วสิ




 

Create Date : 26 กันยายน 2555
29 comments
Last Update : 26 กันยายน 2555 12:01:47 น.
Counter : 7014 Pageviews.

 

อัพบ่อยๆนะคะ สนุกๆมากๆ

 

โดย: connichiwa IP: 58.137.36.195 26 กันยายน 2555 12:33:35 น.  

 

คิดถึงมากกกกกค่ะ
จนตอนนี้กลับไปวนอ่านผลงานทั้งหมดของคุณฬีครบอีกรอบแล้ว

ชอบคำว่า "คำแพง" จัง เสียเพราะ ความหมายดี

 

โดย: mooda IP: 223.205.246.184 26 กันยายน 2555 13:16:09 น.  

 

ม่วนอีหลีอีหลอ ม่วนคักๆ รอตอนต่อไป

 

โดย: น้อง IP: 223.27.233.126 26 กันยายน 2555 13:26:51 น.  

 

เปิดดูทุกวันว่าอัพหรือยัง
รอร๊อรอ

 

โดย: wow IP: 118.173.200.143 26 กันยายน 2555 15:06:55 น.  

 

ลองเข้ามาดูเล่นๆ เพราะเหนอัพเฟส เลยได้อ่านสมใจเลย อิอิ

 

โดย: sai (YUI-NEMO ) 26 กันยายน 2555 16:26:39 น.  

 

หายไปนานมากกกก

แต่ก็ขอบคุณนะคะ ที่มาส่ง "คำแพง" มาให้

 

โดย: sweet IP: 183.89.69.243 26 กันยายน 2555 17:06:05 น.  

 

อยากเป็นน้องแพงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

 

โดย: หนุ่ย IP: 58.137.11.34 26 กันยายน 2555 17:38:25 น.  

 

น่ารัก

 

โดย: เล็ก IP: 115.67.195.236 26 กันยายน 2555 19:33:49 น.  

 

ขอบคุณหลายๆๆๆจ้า

 

โดย: ณัฏฐ์ IP: 223.204.97.40 26 กันยายน 2555 19:54:41 น.  

 

ขอบคุณค่า ชอบมากเลย

 

โดย: Mew IP: 171.6.169.148 26 กันยายน 2555 20:02:40 น.  

 

อ่านแล้วยิ้ม คำแพงจะเลือกใครน้อ

 

โดย: ลูกหมู IP: 183.89.117.81 26 กันยายน 2555 21:06:37 น.  

 

กลางอาจจะถูกใจนิสัยของแพงไม่ได้คิดในทางชู้สาวแต่แดนเนี่ยแอบรักรุ่นพี่หรือเปล่า

 

โดย: mimny 26 กันยายน 2555 22:30:38 น.  

 

อย่าให้มีศึกสายเลือดเลยนะคะ เพราะว่าชอบลูกชายบ้านนี้ทั้งสามพี่น้องที่รักใคร่กันดี....อยากจะให้น้อง ๆ ลุ้นๆให้คำแพงมาเป็นพี่นางดีกว่าเนอะ....

 

โดย: ต่างแดน IP: 89.2.127.252 26 กันยายน 2555 22:37:13 น.  

 

ชอบมากๆๆๆ พี่ใหญ่เก็บอาการตลอดอะ

 

โดย: orn IP: 110.49.234.157 26 กันยายน 2555 23:41:22 น.  

 

น้องแพง ของพี่ใหญ่
คำแพง ของคุณกลาง
พี่นาง ของนายเล็ก
5555 เลือกใครดีจ๊ะ พะนอขวัญ คริคริ
ชอบมากเลยค่ะ อัพบ่อยๆนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ อย่าลืมรวมเล่มน้าจะอุดหนุนคับผม จุ๊บๆ

 

โดย: ฟ้าใส IP: 113.53.201.162 27 กันยายน 2555 8:23:23 น.  

 

คุณใหญ่น่ารักที่สุดเลยอ่ะ ^^
อยากเป็นหนูแพงที่ซู้ดดดดดด

 

โดย: bijin-k IP: 101.109.213.70 27 กันยายน 2555 8:38:24 น.  

 

น้องๆเค้าจองคำแพงไว้ให้คุณใหญ่หรอกค่า อย่าคิดมากน๊าาา

 

โดย: ปูจ้า IP: 49.144.105.183 27 กันยายน 2555 11:06:58 น.  

 

รอเก็บตกพ่ีน้องบ้านนี้ดีกว่า

 

โดย: MadamMim IP: 58.9.28.138 27 กันยายน 2555 14:41:39 น.  

 

มาอ่านช้าไปนิด ติดประชุมทั้ง สัปดาห์ค่ะ หายเครียดเลยค่ะ

 

โดย: pimpagee 27 กันยายน 2555 14:52:44 น.  

 

หอมหวน อีสานบ้านเฮา....สวยใสน้ำใจงาม

 

โดย: fiction addict IP: 49.0.96.37 27 กันยายน 2555 19:10:41 น.  

 

อัพเดตบ่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะรอจนน้ำลายไหลแล้ว !!!! น้องแพงของพี่ใหญ่

 

โดย: มู๋อ้วน IP: 118.174.138.117 27 กันยายน 2555 22:38:34 น.  

 

มาช้าดีกว่าไม่มาเนอะ แต่ถ้าจะให้ดีขออัพบ่อย ๆ ดีกว่าเนอะ (^__^)

 

โดย: นู๋ติ๋ว...จ้า IP: 223.27.233.126 28 กันยายน 2555 7:06:42 น.  

 

เฮ้อ หายไปนานเลย หนูฬี ขอเป็นกำลังใจเหมือนเดิมจ้า

 

โดย: เล็ก siricharee IP: 58.64.50.81 28 กันยายน 2555 20:05:05 น.  

 

น้อยไปป่ะ แป๊บเดียวกะจบซะละ คิดฮอดเด้

 

โดย: yao chan IP: 101.109.104.11 30 กันยายน 2555 2:08:51 น.  

 

เฮ้อ~~♥ พี่ใหญ่น่ารักจริงๆเลย♥♥

 

โดย: ของขวัญ...^=A=^... IP: 171.99.23.253 30 กันยายน 2555 19:32:24 น.  

 

Thank you so much kA

 

โดย: gift IP: 109.155.86.95 1 ตุลาคม 2555 7:01:18 น.  

 

แดนแอบชอบเจ๊แพงเหรอเนี่ย

 

โดย: wa-ne IP: 99.54.47.70 1 ตุลาคม 2555 14:25:33 น.  

 

ปูเสื่อรอด้วยคนค่ะ

 

โดย: Malee IP: 180.180.140.38 3 ตุลาคม 2555 17:17:00 น.  

 

ท่ามากนะผู้ชายบ้านนี้ โดยเฉพาะคนโต ยังงี้ต้องถูกน้องๆ ปั่นหัวให้เข็ด

 

โดย: nasa IP: 202.28.78.180 4 ตุลาคม 2555 0:06:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.